ตอนที่ 175

ภพเซียน

นิกายเมฆคราม

มีประตูห้องหนึ่งค่อยๆเปิดออกพร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบา ๆ ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปตรงกลางห้องโถงใหญ่ อย่างเร่งรีบ

นั่นคือท่านปู่ของ ‘ฉางชิง

ศิษย์ที่ประตูถามว่า“ผู้พิทักษ์คู่หยวนมีอะไรเกิดขึ้นหรือ? ทําไมท่านต้องต้องการไปหาเจ้านิกาย?”

คู่หยวนตอบอย่างสุภาพว่า “โปรดช่วยข้ารายงานให้เจ้านิกายทราบ มันเป็นเรื่องฉุกเฉินมาก!”

ศิษย์ยิ้มอย่างเชื่องช้าและกล่าวว่า “ช่างโชคร้าย ท่านเจ้านิกายเพิ่งจากไปเมื่อครู่”

คู่หยวนขมวดคิ้วและพูดว่า”? ท่านรู้ไหมว่าเขาไปไหน? เขาจะกลับมาเมื่อไหร่”

ศิษย์มองไปรอบ ๆ และพูดอย่างเงียบ ๆ “ข้าได้ยินมาว่าเป็นเพราะการตายของเซียนร่างกายยังคงอยู่ในโลกผู้ฝึกตน! เหตุการณ์นี้ช่างไม่น่าเชื่อ มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ ดังงนั้นขากลัวว่าเขาคงไปนาน”

คู่หยวนมองออกไปและยิ้ม”ขอบคุณสําหรับข้อมูล

ศิษย์ยิ้ม“ยินดี ผู้พิทักษ์คู่หยวนบางทีข้าสามารถถ่ายทอดข้อความของท่านไปยังเจ้านิกายได้เมื่อเขากลับมา”

คู่หยวนปฏิเสธข้อเสนอของเขา “นี่สําคัญเกินไป ข้ากลัวว่าจะบอกอะไรท่านไม่ได้ ขอโทษลาก่อน”

เขาหันกลับมาและจากไป การแสดงออกทางสีหน้าของเขาบิดเบี้ยวมาก!

เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการที่เซียนตนนั้นตายที่โลก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกกังวล

เขาตกใจมากกับภาพวาดก่อน จนเขาลืมเรื่องที่ปรมาจารย์ฆ่าเซียนไปเลย!

แม้จะเป็นเซียนขั้นต้น แต่ก็ยังเป็นเซียนอยู่ดี

เขาตายในโลกผู้ฝึกตนและร่างกายของเขายังอยู่ในโลกผู้ฝึกตน ยิ่งไปกว่านั้นสะพานสู่เซียนก็เริ่มเชื่อมต่ออีกครั้ง พายุกําลังจะก่อตัวขึ้น

เขาเดินอย่างกระวนกระวายมากขึ้น แต่แทนที่จะมุ่งหน้าไปที่ห้องโถงเขาเดินตรงผ่านห้องโถงและมาที่ด้านหลังของนิกาย

มันมีดอกไม้และต้นไม้ มันคือสวน

“โอกาสอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว ถ้าข้าพลาดข้าจะเป็นเซียนไปเพื่ออะไร? ข้าควรจะเดิมพันกับปรมาจารย์! เสี่ยงไปพร้อมกับหลานชายและเหลนของข้า!”

คู่หยวนมีแววตาบ้าคลั่งในดวงตาของเขา “ทั้งหมดนี้จะไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าข้าต้องรอให้เจ้านิกายกลับมามันเป็นเรื่องฉุกเฉินดังนั้นจะล่าช้าไม่ได้”

เขารีบเดินไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่แทนที่จะเดินไปทางนั้น เขามาที่สวนหลังนิกายเมฆคราม

ในสวนมีสัตว์อสูรขั้นมรสุมที่คอยรดน้ําต้นไม้และดูแลสัตว์อสูรบิน

สัตว์อสูรบิน เจ้าสามารถบอกได้เลยว่าพวกมันไม่ธรรมดาจากขนของพวกมัน พวกเขาทั้งหมดผงกศีรษะ ขณะสั่งสัตว์อสูรที่อยู่รอบ ๆ พวกมันดูทรงพลังมาก

สัตว์อสูรมีลําดับชั้นของตัวเอง สัตว์อสูรเลือดบริสุทธิ์ที่จะอยู่กับนิกายที่มีอํานาจสูง สัตว์อสูรธรรมดาเป็นเพียงสัตว์อสูรที่ดุร้ายเว้นแต่พวกมันจะได้รับโชคพัฒนา สัตว์อสูรบางตัวที่ถูกจับจะถูกจับเป็นทาสอาหารหรือใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น

สัตว์อสูรหลายสิบตัวผงะเมื่อเห็นคู่หยวน พวกมันารีบหยุดสิ่งที่กําลังทําและทักทายด้วยความเคารพ“คารวะผู้พิทักษ์คู่หยวน”

สําหรับสัตว์อสรบินพวกมันมองไนและพยักหน้า

คู่หยวนมองไปที่พวกเขาและทักทายพวกเขา เขายิ้มอย่างสุภาพและกล่าวว่า“ทุกตัว ข้ามีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะแบ่งปันกับพวกเจ้าทุกตัว ข้าสงสัยว่ามีใครสนใจจะมากับข้าไหม”

สัตว์อสูรบินมองไปที่คู่หยวนด้วยหัวเอียง ไม่มีตัวไหนพูดอะไรเลย พวกมันทั้งหมดบินขึ้นไปและพักผ่อนอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม่ใกล้ ๆ

คู่หยวนดูอึดอัด เขาขบกรามแน่นและพยายามอีกครั้ง มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะผิดหวัง!”

เขาโกรธเล็กน้อย สัตว์อสูรเหล่านี้ถูกกําราบโดยเจ้านิกาย พวกมันหยิ่งและไร้มารยาม!

เขาจะไม่ทําแบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีเวลา เขาจําเป็นต้องค้นหาสัตว์อสูรหายากโดยเร็ว

สัตว์อสูรเหล่านี้อยู่ในขั้นมหายาน เจ้านิกายดูแลพวกมันเพราะพวกมันมีร่องรอยของสายเลือดวิหคเพลิง เขาต้องการฝึกฝนพวกมันให้เป็นสัตว์อสูรเซียน

คู่หยวนเป็นเซียนขั้นกลาง มันเป็นการให้เกียรติมากๆที่เขาพูดกับพวกมันแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเขาเป็นสัตว์อสูรไม่ใช่มนุษย์เขาจะไม่มีวันให้โอกาสนี้กับพวกมัน

สัตว์อสูรตนหนึ่งกล่าวว่า “โอกาสที่ยิ่งใหญ่? บอกรายละเอียดข้ามา.”

คู่หยวนพูดเบา ๆ “ข้ารู้จักผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลงมากๆที่ ต้องการสัตว์อสูรบินเป็นพาหนะ หากเจ้าโชคดีที่ได้รับเลือกมันจะเป็นโอกาสที่ไม่อาจจินตนาการได้

สัตว์อสูรมองมาที่เขาอย่างแปลกประหลาด พวกเขาพูดด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “ผู้เชี่ยวชาญ? ใช้เราเป็นพาหนะ? ถ้าเราบอก เจ้านิกายถึงสิ่งที่เจ้าเพิ่งพูดกับเรา เจ้าเดาได้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”

คู่หยวนกล่าวว่า “ข้าอยากจะบอกเจ้านิกายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่บังเอิญว่าเขาไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ สิ่งนี้จะล่าช้าไม่ได้ และข้าไม่อยากพลาดโอกาสนี้ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่”

สัตว์อสูรตนหนึ่งถามอย่างสงสัยว่า “ใครคือปรมาจารย์ เขาอยู่ที่ไหน?”

คู่หยวนคร่ําครวญและกล่าวว่า “เขาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนอันห่างไกลในโลกผู้ฝึกตน”

“โลกผู้ฝึกตน? ดินแดนอันไกลโพ้น?”

สัตว์อสูรบินได้ พวกนั้นต่างงุนงง พวกเขามองไปที่คู่หยวนเหมือนกําลังมองคนงี่เง่า เจ้านี่กําลังหลอนใช่มั้ย?

แม้แต่สัตว์อสูรตนอื่น ๆ ที่กําลังรดน้ําต้นไม้ก็มองเขาแปลก ๆ พวกมันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“น่าตลก! แม้แต่เด็กหกขวบก็ไม่เชื่อเจ้า! เจ้าต้องการให้เราไปยังโลกผู้ฝึกตนเพื่อเป็นพาหนะของใครบางคน?”

สัตว์อสูรบินที่หยิ่งผยองที่สุดหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา “มีคนที่ตัวของเจ้าตอนสู่ใช่ไหม? ข้าขอแนะนําให้เจ้าลองไปตรวจดู บางทีถ้ามันสายเกินไปเจ้าจะกลายเป็นคนบ้า!”

คู่หยวนกล่าวว่า“เชื่อข้า ข้าสาบานว่ามันเป็นความจริง!”

“ผู้พิทักษ์คู่หยวนออกไปเถอะ ลาก่อน!”

คู่หยวนยืนอยู่ที่นั่นและจ้องไปที่สัตว์อสูรที่หยิ่งผยองที่สุดและเขาก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์!

สัตว์อสูรตัวนั้นคือสัตว์อสูรนกกระจอกเพลิง มันมีเลือดวิหคเพลิงมากที่สุดในนั้น มันจะพาหนะบินได้ที่ยอดเยี่ยมเมื่อเลือดวิหคเพลิงถูกปลุกขึ้น คงจะดีไม่น้อยถ้าข้าจะมอบให้ปรมาจารย์!

ยิ่งไปกว่านั้นหากกระบวนการเรียบเกินไป ก็จะไม่ดูจริงใจและหากข้ายอมเสี่ยงเพื่อทํางานให้กับปรมาจารย์ เขาต้องเห็นคุณค่าแน่นอน

ได้เวลาลุย !

เขายกมือขึ้นชี้ พลังของเขาแข็งแกร่งมากและสัตว์อสูรขั้นมหายานก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับเขา พวกมันไม่สามารถต้านทานพลังของเขาได้และเป็นลมทันที

ยวนก็คว้าสัตว์อสรนกกระจอกเพลิงและจากไปอย่างเงียบ ๆ ในพริบตา

ที่บ้านหลี่เหนียนฟาน

“ต้าจีข้ากําลังลงไป นิ่ง ๆ ไว้ก่อน”

“ไม่ต้องกังวล ข้าจับให้ท่านอยู่เจ้าคะ”

“โอเค!” หลี่เหนียนฟานพยักหน้าและค่อยๆลงบันไดจากชั้นดาดฟ้า

เขามองขึ้นไปที่สายล่อฟ้าบนบ้านของเขาหลังจากที่เขาลงมาถึงพื้น เขาพยักหน้าอย่างพอใจและพูดว่า “เสร็จแล้ว จากนี้ไปเราจะมีปัยหาที่ต้องคิดน้องลง”

“ท่านเก่งมากเจ้าคะ” ต้าจีกล่าวขณะที่นางช่วยเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างระมัดระวัง

หลี่เหนียนฟ้าน อารมณ์ดี เขาหัวเราะและพูดว่า“ทะเลสาบจิงเยว่มีชื่อเสียงและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เราไปว่ายน้ําที่ทะเลสาบเพื่อเฉลิมฉลองเป็นอย่างไร?”

“ตามแต่นายน้อยเจ้าคะ”