บทที่ 94 ขงซวน

เว่ยเสี่ยวเถาคือบุตรสาวของเหล่าเว่ย บิดาที่ช่วยชีวิตเว่ยฉิงไว้และเขาก็รักบิดาคนนี้มาก

“พี่สาว ท่านพาพี่เขยมาหาข้า แล้วข้าจะดูว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้างแล้วกัน” ถังหลี่กล่าว เว่ยเสี่ยวเถารู้สึกยินดีมากแม้นางจะละอายเล็กน้อย

“น้องสะใภ้ มันจะเป็นการรบกวนเจ้าหรือไม่?”

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ใช่ปัญหาหรอก” ถังหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ ครอบครัว” เว่ยเสี่ยวเถารู้สึกอบอุ่นในใจ คิดว่าน้องสะใภ้คนนี้เป็นคนดีจริง ๆ

หากสามีของนางตั้งใจทำงานในร้านของน้องสะใภ้ ครอบครัวขงคงจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และความสัมพันธ์ของครอบครัวทั้งสองอาจจะดีกว่าเดิม ทำให้นางสามารถติดต่อกับสกุลเดิมได้ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

เว่ยเสี่ยวเถายิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข

นางอยู่ได้ไม่นานมากนักเพราะไม่ได้พาบุตรสาวมาด้วย นางต้องกลับบ้านก่อนฟ้ามืด ดังนั้นนางจึงกล่าวคำลา ทันทีที่เสี่ยวเถาออกไป ถังหลี่รู้สึกว่านางยังต้องปรึกษาเรื่องนี้กับเว่ยฉิงอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงเดินออกไปยังจวนสกุลเซี่ย

ที่หน้าประตูจวนสกุลเซี่ย ถังหลี่ยืนรอไม่นานก็พบชายหนุ่มเดินออกมา เว่ยฉิงสวมเสื้อผ้าที่นางสั่งทำให้เป็นพิเศษ โดยที่แขนเสื้อของเขาถูกมัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ใบหน้าที่หยาบกระด้างของเว่ยฉิงนั้นมีแต่รอยยิ้ม ชายหนุ่มเดินไปหาถังหลี่และพานางเข้าไปคุยในที่ลับตาผู้คน

“ฮูหยินคิดถึงข้าหรือไม่?” เขาถามพลางโน้มตัวเข้าไปขโมยจุมพิตบนใบหน้าของนาง

“ข้ามีอะไรจะบอกเจ้า” ถังหลี่นั่งบนตักของชายหนุ่ม

“ภรรยา เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ใบหน้าของเว่ยฉิงเปลี่ยนเป็นจริงจัง

ถังหลี่บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของเว่ยเสี่ยวเถา คิ้วของเว่ยฉิงกระตุกใบหน้าเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความขุ่นเคือง

“ครอบครัวนั้นคงบังคับเว่ยเสี่ยวเถามา! ไอ้ลูกหมาขงซวนมันทั้งขี้เกียจทั้งขี้โกง ออกปานนั้น มันจะตั้งใจทำงานได้อย่างไร?!”

“สกุลขงเป็นแค่ปลิงดูดเลือด อย่าไปสนใจพวกมันเลย หากเขาก่อปัญหาข้าจะต่อยพวกเขาเอง

ตอนนี้คงเห็นว่าเขาร่ำรวยและตั้งตัวได้ จึงตั้งใจจะมาเกาะภรรยาเขา!

“หากเจ้าต่อยเขา แล้วพี่สาวของเจ้าเล่า” ถังหลี่กล่าว

เว่ยฉิงขมวดคิ้วยุ่ง เขารู้สึกหงุดหงิดมาก เว่ยเสี่ยวเถาเป็นคนดีแต่นางอ่อนแอเกิน จิตใจของนางมีเพียงหนึ่งในสิบของถังหลี่เท่านั้น! ครอบครัวสามีสั่งไม่ให้นางติดต่อกับครอบครัวเดิม นางก็ไม่ติดต่อจริง ๆ ทำเพียงแค่แอบส่งของกลับมาบ้าน เมื่อเหล่าเว่ยเสียชีวิตนางก็ยังไม่มางานศพ ได้แต่เพียงแอบไหว้ขอขมาเท่านั้น

ขงซวนสามีของนางทุบตีนาง เมื่อเว่ยฉิงได้ยินเข้า เขารีบไปที่หมู่บ้านขงเจีย แทบจะอยากฆ่าพี่เขยตัวเองให้ตายเสีย! ด้วยเหตุนี้เสี่ยวเถาจึงคุกเขาต่อหน้าเว่ยฉิง ขอร้องให้เขาปล่อยสามีของนางไป โดยพูดว่าเขาเพียงแค่ทุบตีสั่งสอนนาง นี่เป็นเรื่องของสามีภรรยา

เว่ยฉิงโกรธมาก หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่สนใจนางอีกต่อไป

“สกุลขงไม่ชอบนางที่นางไม่สามารถมีบุตรชายให้ได้ พวกเขาปฏิบัติกับเสี่ยวเถาอย่างเลวร้าย เลี้ยงนางไว้เพียงใช้งาน ให้นางนอนที่พื้น เลี้ยงไก่ ทำอาหาร และงานบ้านทุกอย่าง สกุลขงไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเสื้อผ้าและอาหารให้กับเสี่ยวเถาเลยด้วยซ้ำ ทำนางราวกับนางเป็นวัวเป็นม้า! ”

เว่ยฉิงโกรธเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“นางเป็นบุตรสาวของเหล่าเว่ย เราจะละเลยนางไม่ได้” ถังหลี่กล่าว

เว่ยฉิงเต็มตื้น เหล่าเว่ยคือคนที่เลี้ยงดูเขามา เป็นผู้มีพระคุณที่สุดของเขา ท่านพ่อมักจะพูดว่าตนเองไม่มีลูกสาว แต่ท้ายสุดแล้วก็ยังเป็นท่านพ่อที่ยังใส่ใจนาง เมื่อคราวที่เว่ยเสี่ยวเถาแอบติดต่อมา ท่านพ่อก็จะเชือดไก่สองตัว ตัวหนึ่งสำหรับเสี่ยวเถา ส่วนอีกตัวเป็นของเว่ยฉิง

“ข้าจะช่วยเสี่ยวเถา หากขงซวนทำงานหนักข้าก็จะยื่นมือช่วยเหลือเขา แต่หากเขาตุกติกข้าก็จะไล่เขาออกไป” ถังหลี่กล่าว

เว่ยฉิงโอบแขนข้างหนึ่งรอบถังหลี่และฝังใบหน้าตัวเองไปที่ซอกคอของนาง

“ภรรยา…เจ้าใจดีกับข้ามาก”

ภรรยาทำสิ่งนี้เพื่อตอบแทนเขา เว่ยฉิงรู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล

“ตอนนี้พวกเราตกเป็นเป้าหมายของตระกูลขง หากครั้งนี้เราปฏิเสธไป ครั้งหน้าพวกเขาก็ย่อมหาเรื่องมาอีกจนได้ ”

“ให้ตายเถอะ! เจ้าคนชั่วพวกนี้ ข้าอยากทุบตีมันให้ตายนัก! ”

“การทุบตีคนตายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย สามีของข้ากำลังมีอนาคตที่ดี อย่าเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงคุกเลย!”

หัวใจของเว่ยฉิงอบอุ่นขึ้น และความโกรธที่มีก็แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน

เหตุใดภรรยาของเขาช่างดีเช่นนี้?

เขาสะสมบุญบารมีมามากเพียงใดถึงได้นางมาเป็นศรีภรรยาของเขา

เว่ยฉิงจับมือของหญิงสาวแน่นราวกับอยากให้นางละลายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขาแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอารมณ์เสีย

เขาควรจะปกป้องนาง เหตุใดเขาจึงปล่อยให้นางแก้ปัญหาเพียงลำพัง!?

ถังหลี่ลูบไล้ผมของสามีอย่างอ่อนโยน

“สามีภรรยานับเป็นหนึ่งเดียว กิจการนี้เป็นของข้า ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ทนให้ใครมาเอาเปรียบหรอก! ” เว่ยฉิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ถูกภรรยาจูบก่อน

“ตกลงนะ! ไปทำงานเถอะ”

เว่ยฉิงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจที่จะปล่อยนางไป จากนั้นเขาจึงได้เดินกลับจวนตระกูลเซี่ย

…..

ในทางกลับกันตระกูลขงต่างรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินข่าว

“น้องสะใภ้ของเสี่ยวเถาเป็นสะใภ้ที่ดี นางยังมีสำนึกอยู่บ้าง” ผู้เฒ่าขงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อย่างไรเสียก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันสิ คนนอกจะมาเทียบกับคนในได้อย่างไร? มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นแหละที่จะพึ่งพาได้ ซวนเอ๋อร์ของเราฉลาดเฉลียวขนาดนี้ น้องสะใภ้เสี่ยวเถาก็ต้องรีบตกลงนะสิ “นางหยางพูดอย่างมีความสุข

“ท่านพ่อ ท่านแม่ คิดว่าน้องของเสี่ยวเถาจะให้ข้าทำงานอะไรหรือ?”

นางหยางคิดชั่วครู่ก่อนจะพูดออกมาว่า “เจ้าเป็นพี่เขยของนาง อย่างน้อยก็ต้องได้เป็นหลงจู๊ของร้าน”

หลงจู๊!

ดวงตาของขงซวนเป็นประกายแวววาว

ผู้จัดการร้านในเมืองที่แสนโอ่อ่า มีลูกน้องมากมาย ผู้คนล้วนเชื่อฟังและโค้งคำนับเขา เป่าชิงเก๋อเป็นร้านขายชาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองและการเป็นผู้จัดการร้านใหญ่ขนาดนี้ย่อมหมายถึงเม็ดเงินอีกเป็นจำนวนมากด้วย

เขานึกภาพตัวเองซื้อบ้านอยู่ในเมือง มีภรรยากับสาวงามมากมายรายล้อม ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งมีความสุข

“ท่านพ่อ ตำแหน่งของงานขึ้นอยู่กับน้องสะใภ้ อาจจะไม่ใช่คนดูแลร้าน …” เว่ยเสี่ยวเถาอดไม่ได้ที่จะพูดขัดขึ้น

นางรู้จักสามีของนางดี เขาจะเป็นคนดูแลร้านได้อย่างไร? อย่าไปสร้างปัญหาให้น้องของนางเลย

“ซวนเอ๋อร์เป็นพี่เขยของนาง เป็นสามีของเจ้า การเป็นคนดูแลร้านมันจะผิดอะไร นี่เจ้าดูถูกสามีเจ้าหรือ?” นางหยางหงุดหงิด

“แต่การเป็นคนดูแลร้านต้องทำหลาย ๆ อย่าง พี่ซวนไม่เคยทำมาก่อน ทานพ่อไม่คิดเช่นนั้นหรือ?” เว่ยเสี่ยวเถามองไปที่ผู้เฒ่าขงพูดเกลี้ยกล่อมเขา

“เสี่ยวเถา คนเราสามารถเรียนรู้ได้แม้จะไม่เคยทำมาก่อน ซวนเอ๋อร์ฉลาดมาตั้งแต่เด็ก เขาสามารถเรียนรู้ได้” ผู้เฒ่าขงกล่าว

“แต่…”

ใบหน้าของขงซวนเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ เขาผลักเว่ยเสี่ยวเถากระเด็น

“นังเมียตัวเหม็น! เจ้าเลิกพูดซะ! ไปทำอาหารได้แล้ว! น่ารำคาญจริง!”

นังผู้หญิงตัวเหม็น ทั้งขี้เหร่ทั้งน่ารำคาญ! มีลูกชายก็ไม่ได้ นางไม่คู่ควรกับเขาสักนิด หากภายหน้าเขาได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้ว เขาจะหย่ากับนาง!

“ได้ยินหรือไม่? ไปทำอาหารให้สามีของเจ้า หากทำไม่เสร็จละก็โดนดีแน่!” นางหยางพูดเสียงกร้าว

เสี่ยวเถาทำได้เพียงหุบปากลงก่อนจะเข้าครัวเพื่อทำอาหาร

ผู้เฒ่าขงและนางหยางอย่างยกย่องขงซวนจนเขาแทบจะเป็นเทวดาบนสวรรค์!

————