ตอนที่ 133: แผนการที่กล้าหาญ

แร็คทาร์ขมวดคิ้วและพูดว่า “พวกเขาเป็นอะไรไปล่ะ?”

ยูมิส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูเหมือนพวกนั้นจะมีวิธีพิเศษในการหลบหนี ไม่อย่างนั้นพวกนั้นคงจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้”

แร็คทาร์พยักหน้าและพูดด้วยความโล่งใจ “ดีที่เรายังคงอยู่ในขอบของชั้นนี้ แต่เผ่าพันธุ์คลีแซ็คที่จะพาเราไปนั้น ” เขาส่ายหัว หน้าผากสีชมพูของเขาขมวดคิ้วย่น ในขณะที่เขาพูด ” มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนครึ่งในการรักษาตัวเองก่อนที่เราจะเคลื่อนไหว อนุภาคพลังงานสีเทาเหล่านั้นยากที่จะกําจัด “

ยูมิพยักหน้าอย่างกังวลและพูด “หากการเดาของฉันถูกต้อง อนุภาคสีเทาก็เกี่ยวข้องกับพรสวรรค์โดยกําเนิดของเธอ สิ่งมีชีวิตใน 5 เผ่าพันธุ์นั้นมีพรสวรรค์โดยกําเนิดที่อาจตื่นขึ้นได้ทุกเมื่อ และนี่คือเหตุผลหลักที่พวกเขานั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด “จากนั้นดขาก็หลับตาลงก่อนจะพูด” หลังจากฟื้นพลังบางส่วนแล้ว ฉันจะสร้างเกราะพรางตัว หวังว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเรานะ”

แร็คทาร์พยักหน้าขณะที่เขาหลับตา

….

ภายในพื้นที่ว่าง

เอธานนอนหลับตาลง ช่องท้องของเขามีรูเล็กๆ และพลังงานสีชมพูไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเขา ในขณะที่พวกมันได้สร้างความเสียหายให้กับภายในของเขา

แต่พลังงานคริสตัลขาวก็กําลังทํางานอย่างรวดเร็วเพื่อกําจัดพลังงานสีชมพูและรักษาเอธาน

หลังจากที่พลังงานคริสตัลสีขาวชระพลังงานสีชมพูทั้งหมด ช่องท้องของเอธาน ก็เริ่มหายเป็นปกติพร้อมกับรูและอาการบาดเจ็บอื่นๆ ในท้องของเขา

เทียน่าและคนอื่นๆ แสดงสีหน้ากังวล แต่หลังจากเห็นรูเล็กๆ ที่หน้าท้องของเขาหายดีแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอก

ไมค์ปาดเหงื่อบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาพูดด้วยสีหน้าผิดหวัง “พวกเขาน่ากลัวจริงๆ โอเค แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้ แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถทําอะไรกับพวกเขาได้”

อเวเลียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า “พวกเขาใช้พลังที่อยู่นําเราอยู่หลายขั้น ระดับพลังงานของเราไม่สามารถทําอะไรกับพวกเขาได้”

*แค่ก…แค่ก*

จู่ๆ เอธานก็ไอและกระอักเลือดที่อุดตันออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืน”ตอนนี้ฉันสบายดี”

จากนั้นเขาก็มองดูคนอื่นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า”พวกคุณได้ยินชัดเจนแล้วนะ พวกเขาต้องใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการรักษาตัวเอง แต่เราไม่ต้องการเวลามากขนาดนั้นเพื่อเติมกิ่งก้านของต้นจีโนมของเรา หยุดเสียเวลา และเติมมันให้มากขึ้น หลังจากนั้นเราจะซุ่มโจมตีพวกเขานั่นขึ้นอยู่กับทักษะที่พวกคุณทั้งหมดจะได้รับ “

ไมค์และคนอื่นๆ อ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น “พี่แน่ใจนะ?”

” ไม่ต้องกังวล เราจะดําเนินการอย่างรวดเร็ว ” เอธานหยุดพูดก่อนที่เขาจะแสดงท่าทาง “ออกไป ปล่อยทักษะของเราทันที และกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราจะไม่มีโอกาสโดนพวกมันโจมตีแน่นอน”

จากนั้นทุกคนก็เริ่มฝึกกันอย่างขยันขันแข็ง ในขณะที่ดื่มน้ําจากทะเลสาบสีขาวเพื่อเพิ่มความเร็ว ราวกับว่ามันผ่านไป 1 เดือนแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาดื่มน้ํา

เอธาน และ เทียน่า ก็ทําเช่นเดียวกันเมื่อพวกเขาเริ่มฝึก

ภายในอาณาจักรวิญญาณของเอธาน

มงกุฎและต้นไม้จีโนมดูเหมือนจะเชื่อมโยงกัน และต้นไม้จีโนมก็ดูเหมือนไม่ใช่วัตถุที่ไม่มีชีวิตแต่เป็นสิ่งลึกลับ

เมื่อเอธานเปิดอ่างน้ําวนสีม่วง ต้นไม้ก็จะดูดซับพลังงานเช่นกัน โดยเฉพาะกิ่งแรกของเขา เมื่อมันดูดซับพลังงานสีม่วง พลังงานวิญญาณ และพลังงานต้นกําเนิด หยดของเหลวสีม่วงจะตกลงมา

แต่กระบวนการนี้ และ เอธาน ประมาณการว่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการสร้างแอ่งน้ําขนาดเดียวกับที่ต้นไม้สร้างไว้ก่อนหน้านี้

เมื่อเอธานจุดไฟให้กับกิ่งแรก ต้นไม้ดูดซับพลังงานต้นกําเนิดและพลังงานวิญญาณของเขา ก่อนที่จะผสมกับก๊าซสีม่วงที่มันปล่อยออกมาและก่อตัวเป็นเมฆสีม่วง จากนั้นเมฆก็เริ่มมีฝนตก ในขณะที่ก่อตัวเป็นแอ่งสีม่วงรอบต้นจีโนม

แต่เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ในขณะที่เขาจุดไฟให้กับกิ่งไม่ในเวลานั้น แต่เอธานเดาว่าสิ่งที่คล้ายกันจะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเติมพลังให้กิ่งที่ 2 เสร็จแล้ว

ตอนนี้ในขณะที่ต้นไม้กําลังค่อยๆ ผลิตของเหลวสีม่วง เอธานกําลังเติมกิ่งที่ 2 อย่างขยันขันแข็ง

20 วันผ่านไปแบบนี้ แต่เอธานรู้สึกท้อแท้เพราะเขาเพิ่งจะเติม 10% ของกิ่งที่ 2 ได้ไม่นาน

ในทางกลับกัน ไมค์, เคริน และ อเวเลีย ก็เติมเต็มกิ่งแรกของพวกเขาเพิ่งเสร็จ

พวกเขาทั้ง 3 คนต้องเผชิญกับกระบวนการเดียวกันกับ เอธาน และ เทียน่า เว้นแต่ต้นไม้ของพวกเขาจะดูแตกต่าง พลังงานของพวกเขาก็ต่างกันมาก และสิ่งที่พวกเขาได้รับก็ต่างกันด้วย

เทียน่า และ เอธาน รออย่างมีความหวัง

” แต่เอธาน เราไม่สามารถโจมตีพวกนั้นได้โดยตรง เพราะหลังจากที่อเวเลียและคนอื่นๆ เติมกิ่งไม้แรกของพวกเขาและจุดไฟมันเสร็จ ต้นไม้จะดูดพลังงานวิญญาณออกไปจนหมดเพื่อสร้างเมฆ”

จู่ๆ เอธาน ก็นึกขึ้นได้ว่าคนอื่นๆ มีวิญญาณที่ค่อนข้างเล็ก ดังนั้นจึงทําให้พลังวิญญาณของพวกเขานั้นมีน้อยกว่าตัวเอธานเองมาก ซึ่งเขานั้นมีวิญญาณที่ยิ่งใหญ่

เทียน่า หัวเราะคิกคักและพูดว่า “ฉันพนันได้เลยว่านายจะไม่รู้สึกว่าจิตวิญญาณของนายแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ํา คนที่ทะลวงสู่ขั้นของ Soul Altar Plane จะมีวิญญาณสูงเพียง 1 เมตร ในขณะที่นายมีวิญญาณสูงถึง 50 เมตร จึงไม่น่าแปลกใจที่นายไม่ได้สังเกต อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กิ่งแรกของต้นไม้จีโนมสว่างขึ้น จิตวิญญาณของ พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากพลังงานวิญญาณของพวกเขาจะถูกระบายออกไปพร้อมกัน พวกเขาจะไม่สังเกตเห็นมันในทันที “

เอธานพยักหน้าอย่างครุ่นคิดขณะที่เขาถามว่า”พลังวิญญาณของเธอเพิ่มขึ้นเท่าไหร่?

“จากระยะเริ่มต้น 1 เมตร วิญญาณของฉันก็ใหญ่ขึ้น 1.5 เมตร หลังจากที่ฉันจุดไฟกิ่งแรกของต้นไม่จีโนมเสร็จแล้ว “

หลังจากผ่านไป 30 นาที ไมค์ เคริน และอเวเลียก็ลืมตาขึ้นด้วยความเหนื่อยล้า

“เอ่อ…พี่ ดูเหมือนว่าเราต้องใช้เวลาพักซัก 4-5 วันเพื่อเติมพลังวิญญาณของเรา” ไมค์มองที่เอธานและพูดด้วยใบหน้าที่อ่อนล้า

เคริน และ อเวเลีย ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

เอธาน พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ฉันรู้ พักผ่อนสัก 2-3 วันจนกว่าพวกคุณจะฟื้นพลังวิญญาณของพวกคุณ หลังจากนั้น เราจะดําเนินการต่อไป “

ทั้ง 3 คนนอนบนโต๊ะ ขณะนั่งบนเก้าอี้ เนื่องจากรู้สึกเหนื่อยเกินไป ขณะที่ เอธาน และ เทียน่า ไม่เสียเวลาเปล่าๆ และฝึกฝนต่อไป

4 วันต่อมา ไมค์และคนอื่นๆ ฟื้นพลังวิญญาณอย่างสมบูรณ์ เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นและแสดงศิลปะและทักษะของจีโน ของพวกเขาออกมาทันที

ไมค์หัวเราะออกมาดังๆ และเรียกถุงมือ 2 อันมาไว้ในมือ “ฉันได้ถุงมือที่ดูแบ๊วๆ 2 อันนี้ หลังจากที่ฉันฝึกทักษะจีโนม: ความโกรธของบาฮามุทเสร็จ “

ถุงมือนั้นดูดร้ายและร้ายกาจ ทั้งคู่มีกรงเล็บ 5 อัน

ข้างๆเขา มีเครินที่กําลังหัวเราะคิกคักด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ขณะที่เธอพอใจกับศิลปะและทักษะจีโนของเธอเช่นกัน

คอของเธอมีไข่มุกสีขาวเจิดจรัสปรากฏอยู่รอบคอของเธอ

“ฉันมีสิ่งนี้ที่คอของฉัน หลังจากฝึกทักษะจีโน: ขอบฟ้าที่ไร้จุดหมายเสร็จแล้ว”

หลังจากนั้น ทุกคนมองมาที่อเวเลีย เพราะพวกเขาอยากเห็นทักษะจีโนของเธอด้วย แต่เธอมีสีหน้าผิดหวัง และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง