ตอนที่ 113 การเตรียมโชว์โลลิกลางแจ้งพร้อมแล้ว

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

113 การเตรียมการเบื้องต้นพร้อมแล้ว

 

วันหยุดฤดูหนาวนั้นสั้นไม่เหมือนวันหยุดฤดูร้อน

เพื่อบริหารเวลาในไม่กี่วันในช่วงสั้น ๆ นั้น ตารางการถ่ายทำจึงแน่นเกิดไปโดยไม่ต้องสงสัย

 

เป็นนรกอีกครั้งอย่างแท้จริง

ไม่สิ เพราะช่วงเวลานั้นสั้นกว่า จึงแน่นขนัดยิ่งกว่าฤดูร้อน ตารางงานแน่นเอี๊ยดขึ้นเรื่อย ๆ

 

การกลับบ้านคือเพื่อนอนเพียงอย่างเดียว

วันหยุดฤดูหนาวนี้ ฉันได้เจอพ่อแม่และพี่ชายเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่มีเวลาให้พูดคุยกันสบาย ๆ เลย

 

ทีมถ่ายทำที่รอดชีวิตจากฤดูร้อนก่อนด้วยกันนั้นก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มากเช่นกัน

 

ความเหนื่อยล้าสะสมจากการถ่ายทำไม่รู้จบ และวันที่ยากลำบากที่ไม่อาจได้พบหน้าคนรักใหม่ เมคอัพพยายามวิ่งหนีพร้อมกับร้องไห้หลายครั้ง

ด้วยตารางงานที่แน่นขนัด ตากล้องจึงทำหน้าที่ของตัวเองด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

และหัวหน้ากองถ่ายที่มักจะมองดูเครื่องรางทำมือของลูกสาวอย่างว่างเปล่า

 

ทีมงานคนอื่นๆ ก็พูดว่า 「ฉันจะลาออกจากงานนี้」หรือ 「เบนเดริโอ……! 」หรือ 「แค่แกล้งทำเป็นว่าเนียจังเป็นหวัด แล้วพวกเราไปเที่ยวกันดีไหม?」

 

ด้วยคำสบถ ความเกลียดชังที่ไม่สามารถบรรยายได้ และเสียงกระซิบของปีศาจที่ยากจะต้านทาน และการตกสู่สภาวะสุดขั้วที่ทำให้สามารถมองเห็นธรรมชาติของมนุษย์ได้

ถึงอย่างงั้น ฉันก็ยังรอดมาได้ในครั้งนี้

 

――อืม สักวันพวกเราไปเที่ยวด้วยกันเถอะ มาจัดกำหนดการไปโซนรีสอร์ทน้ำพุร้อนเพื่อถ่ายทำ แล้วพักที่นั่นไปทั้งแบบนั้นเลยกันเถอะ ฉันจะบอกเอง

 

ยี่สิบงานในสิบวัน จบสิ้น

ด้วยเหตุนี้ ฉันสามารถไปเที่ยวพักผ่อนได้หลายวันโดยไม่มีอะไรต้องกังวล――อันที่จริง คือออกไปทำงานต่างประเทศ

 

 

 

“――เนีย พ่อฝากแสดงความเคารพถึงฮิเอโรซามะด้วยนะ ดูแลลูกสาวข้าด้วยนะ ริโนกิส”

 

การเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน จักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุช ครั้งนี้ไกลเกินกว่าจะไปโดยไม่บอกพ่อแม่ได้ และด้วยสถานะขุนนางก็ไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้ด้วย

ม๊า ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นเป็นเรื่องยุ่งยาก แม้ว่าจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้วก็ตาม ก็ยังควรจะต้องไปแบบไม่เปิดเผยตัวตน

 

ฉันได้เตรียมเหตุผลที่เหมาะสมในการเกลี้ยกล่อมพ่อแม่เอาไว้แล้ว แน่นอนว่าไม่ได้พูดถึงสถานการณ์เบื้องหลังอย่างการหารายได้หนึ่งพันล้านครัม หรือการล่าสัตว์อสูร

 

อย่างแรกคือ เข้าทักทายเจ้าชายลำดับที่สอง ฮิเอโร・อาร์ตัวร์ เขาเป็นพี่ชายของฮิลเดโทร่า และเป็นรักษาการผู้นำอวยการของสถานีออกอากาศเมืองหลวง

 

นี่คือจดหมายเชิญจากทางฮิเอโร「เราอยากจะพบกับเนียลิสตัน หากท่านไม่ว่าอะไร ทำไมไม่มาในช่วงวันหยุดฤดูหนาวล่ะ?」ที่ได้จากการขอฮิลเดโทร่า ถึงพวกเราจะไม่ได้เจอกันมาก่อน

 

ตราบใดที่ยังเป็นขุนนางอยู่ การปฏิเสธคำเชิญจากราชวงศ์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรก็เป็นเรื่องยาก

นอกจากนี้ เพราะฉันกระตือรือร้นที่จะไป พ่อแม่จึงตกลงในท้ายที่สุด

 

ต้องบอกว่าแน่นอน หรือเป็นไปตามคาด พ่อแม่ที่ยุ่งอยู่กับงานตลอดเวลาไม่สามารถไปด้วยได้

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากฉันสามารถอยู่ในแว็ง เดอ ครุชได้เพียงไม่กี่วัน และไปแบบไม่เปิดเผยตัวตน ฉันกับริโนกิสจึงตัดสินใจไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว

 

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้จริง ๆ

 

ฮิเอโรกำลังโปรโมตเมจิกวิชั่นอยู่ในจักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุช

เดิมที่จักรวรรดิก็มีความสนใจเป็นอย่างมากในเมจิกวิชั่น ดังนั้นฮิเอโรจึงนำสินค้าจริงไปแสดงให้เห็นโดยตรงแล้วหลายครั้ง

 

ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีของเมจิกวิชั่นจะขายได้เป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะเข้าใกล้หนึ่งพันล้านครัม กล่าวก็คือไม่สามารถนำสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาใช้ได้อย่างง่าย ๆ แม้จะเป็นกระเป๋าเงินของประเทศก็ตาม

 

เหตุผลที่ฮิเอโรเดินทางไปทำธุรกิจหลายต่อหลายครั้งก็เพื่อโน้มน้าวใจฝ่ายตรงข้ามผ่านการนำเสนอ และมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมนักลงทุน

 

เนื่องจากฉันต้องการไปที่แว็ง เดอ ครุชจริง ๆ ฉันจึงขอความร่วมมือจากเจ้าชายลำดับที่สองฮิเอโรผ่านสายสัมพันธ์ของฮิลเดโทร่า

แน่นอนว่าฉันจะเข้าไปทักทายจริง ๆ แต่เพราะพวกเรายุ่งกันทั้งคู่ ดังนั้นเราวางแผนที่จะจบโดยเร็วแล้วแยกย้าย

 

นอกจากนี้ พ่อแม่ยังเน้นย้ำกับฉันว่านี่เป็นโชคดี

 

โอกาสที่จะได้สำรวจเรือเหาะ

 

แว็ง เดอ ครุชสามารถสร้างเรือเหาะประสิทธิภาพสูงที่ประเทศอื่นไม่มีใครเทียบได้ ด้วยเทคโนโลยีเวทมนตร์ขั้นสูงที่เป็นเอกลักษณ์ประณีตไม่เหมือนใคร ได้สมฐานะที่ถูกเรียกว่าจักรวรรดิการบิน

 

มีการพูดคุยมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แต่ดูเหมือนพ่อแม่จะปล่อยให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเอง

ในที่สุดหลังจากที่ผัดวันประกันพรุ่งไม่จัดการให้เรียบร้อยมานาน ของขวัญแสดงความยินดีเข้าเรียนของฉันจึงออกมาในลักษณะนี้

 

เรือเหาะเรโทรของพี่ชายก็มาจาแว็ง เดอ ครุช

ดูเหมือนว่าจะเป็นของประสิทธิภาพธรรมดาทั่วไปในประเทศนั่น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ดูเหมือนว่าประสิทธิภาพจะดีมากเมื่อเทียบกับของอาร์ตัวร์

 

「ไหน ๆ ก็ได้ไปที่แว็ง เดอ ครุชแล้ว ตอนที่อยู่นั่นก็เลือกเรือเหาะที่ลูกชอบได้เลย เดี๋ยวพ่อจะจ่ายให้ทีหลังเอง」ฉันโดนบอกแบบนั้น

 

เมื่อฉันพยายามปฎิเสธไปโดยบอกว่า「ถึงอยากจะอวดทายาทขนาดไหน แต่ให้ของขวัญที่มากเกินไปสำหรับเด็กก็ไม่ดีนะคะ」แต่ก็ถูกตอบกลับเหมือนเป็นเรื่องปกติว่า「ลูก ๆ ไม่ควรเกรงใจสิ」ฉันจึงตัดสินใจที่จะยอมรับ

 

ใช่ ไม่ใช่เรื่องที่เด็กควรเกรงใจ

เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะเป็นลูกของพ่อแม่ พวกเขาไม่ทำอะไรเพื่อหยุดฉันจากงานถ่ายทำที่ทำให้ยุ่งวุ่นวายจนหัวปั่น

เพราะนี่คือเจตจำนงของฉัน และพวกเขาเคารพเจตจำนงนั้น

 

เพราะแบบนั้น ใช่ เมื่อเป็นเด็กก็ควรยอมรับไว้

นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวเป็น

 

ม๊า แม้จะเป็นหนี้ก้อนโต แต่ฉันก็ตั้งใจจะทำงานอย่างหนักต่อไปในอนาคต และตอบแทนอย่างแน่นอน

 

――อันที่จริง การมีเรือเหาะส่วนตัวก็จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

 

“ไปแล้วนะคะ โอโต้ซามะ โอก้าซามะ โอนี่ซามาะ”

 

ท้องฟ้าด้วยรอบยังคงมืดอยู่ ครอบครัวของฉันมายืนส่งกันอยู่ที่ประตูหน้า ฉันกับริโนกิสมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ

 

 

 

ฉันขึ้นเรือเหาะของพี่ชาย ซึ่งถูกเตรียมไว้ตามแผน และมุ่งหน้าไปยังเกาะหลักของดินแดนลิสตันก่อน

ฉันเคยมาที่นี่หลายครั้งตอนที่ถ่ายทำบนเกาะหลัก ดังนั้นท่าเรือบนเกาะหลักจึงเป็นสถานที่ที่คุ้นเคย

 

“เช่นนั้นดูแลตัวเองด้วยนะครับ คุณหนู”

 

เรือเหาะของพี่ชายมาส่งเราที่ท่าเรือ และบินกลับไปอย่างรวดเร็ว

 

――ดีละถ้าอย่างนั้น

 

ยังเป็นเช้าตรู่ที่ท่าเรือ

รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะ ขณะที่ยังมืดอยู่และมีคนน้อย

 

เพื่อหลบลมหนาวที่พัดมา ฉันเดินไปแถวด้านหลังโกดัง และถอดเสื้อผ้าที่ฉันใส่อยู่

 

ฉันเปลี่ยนเป็นชุดฝึกที่บางและเคลื่อนไหวง่าย ก่อนย้อมผมเป็นสีดำอย่างรวดเร็วด้วยยาเวทมนตร์ย้อมผม

เท่านี้ ก็เสร็จสิ้นกลายเป็นตัวฉันที่ครั้งหนึ่งเคยไปที่สังเวียนใต้ดิน

 

“――ถ้าอย่างงั้นริโนะ จากนี้ฝากตัวด้วยนะ”

 

เมื่อฉันปลอมตัวเสร็จแล้ว

ริโนกิสเองก็ถอดชุดสาวใช้ของเธอออก และเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเหมือนนักผจญภัยมือใหม่

 

“――ค่ะ ฝากตัวเช่นกันนะ ลิลลี่”

 

 

 

จากนี้ไป จะไม่ใช่เนียลิสตันกับสาวใช้ริโนกิส แต่เป็นนักผจญภัยริโนะและลิลลี่ ผู้ติดตามของเธอ

 

ซ้า ไปที่เรือเหาะที่บริษัทซิโดนีเตรียมไว้กันเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

นอนผิดท่า ตื่นมาปวดหัวไม่หายเลย ฮา แถมฝนตกยิ่งทำจิ๊ดไปใหญ่ ฮา