ตอนที่ 83 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 10

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 83 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 10 

“วู้ววว ฉันได้กินของหวานล่ะ!” นี่เป็นของโปรดของเบนเน็ต ไม่อย่างนั้นเขาจะอ้วนท้วมหรือ? ด้วยทรัพย์สินเล็กน้อยของครอบครัวทำให้เขาสามารถท่องเที่ยวไปทั่วทั้งเมืองใหญ่และเมืองเล็กได้ รวมถึงได้กินอาหารหลากหลายที่แสนอร่อย

ทว่าความปรารถนาชั่วชีวิตของเขาคือการได้กินของหวานที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง

ร้านค้าหลายร้านในจักรวรรดิชิงเหย้าต่างอ้างว่าตนเป็นร้านของหวาน แต่ความหวานกลับมีเพียงน้อยนิดเท่านั้น ดังนั้นจะมาเปรียบเทียบกับพายมันเทศหวานนี้ได้อย่างไร?

ของหวานเป็นสิทธิของชนชั้นสูง คนธรรมดาอย่างเขาไม่สามารถกินมันได้

คณบดีแกลลาเกอร์ก็ไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป ก่อนที่เหล่านักเรียนจะได้ส่วนแบ่ง เขากลับรีบพุ่งเข้าไปหาถาดและหยิบพายมันเทศหวานสองสามชิ้นใส่กล่องอาหารของตนเอง

“ว้าว มันหวานจัง” คณบดีแกลลาเกอร์กินของหวานนี้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไปกินของหวานแบบนี้ได้ที่ไหนอีก?

แน่นอนว่าการติดตามองค์หญิงสามไปด้วยจะได้กินแต่ของอร่อย การตัดสินใจของตัวเขาไม่มีผิดพลาดสักนิด

ต่อมาเขาจึงตัดสินใจห่อพายมันเทศหวานสองสามชิ้น เพื่อที่จะเอามันไปอวดต่อหน้าไอ้แก่นั่น โดยปล่อยให้มันซ่อนตัวอยู่มุมห้องและมองดูด้วยความอิจฉาริษยา ฮ่า ๆๆ! เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

กลิ่นของพายมันเทศหวานฟุ้งกระจายอีกครั้ง กลิ่นหอมหวานนี้อบอวลไปทั่วทั้งสถาบัน จนไปถึงผู้คนตะกละตะกลามจำนวนไม่น้อยที่มองออกมาด้านนอก และมองดูแผนกเกษตรกรรมอย่างกระวนกระวายใจ

ไม่รู้ว่าองค์หญิงสามทำอาหารอันแสนอร่อยแบบไหนอีก?

ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอิจฉามากเท่านั้น ชาตินี้เหล่านักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมทำความดีความชอบอะไรไว้ ถึงได้มีผู้สมัครตำแหน่งหัวหน้าทำอาหารได้เช่นนี้?

ฉินหยวนเริ่มไม่สบายใจเมื่อมองดูผู้ติดตามของเขาแอบกลืนน้ำลาย องค์หญิงสามกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มากไปกว่านั้นเหล่าบุคลากรจากแผนกหน่วยรบพิเศษยังเริ่มเข้าหาองค์หญิงสามมากยิ่งขึ้น!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอทำให้ผู้ติดตามของเธอเองเลื่อนขั้นไปด้วยกัน นั่นทำให้นักเรียนหลายคนเริ่มเปลี่ยนระดับ ก่อนจะขึ้นเป็นหัวหน้าอย่างเป็นทางการ ทุกคนก็สามารถเปลี่ยนผู้ที่ติดตามได้ตลอดเวลา

องค์หญิงสาม…ฉินหยวนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ลืมเรื่องผู้ติดตามเหล่านี้ไปเสียเถอะ เขารู้ตนเองดีว่าเขาไม่เคยยอมรับฝ่าบาทองค์นี้จากใจเลยไม่ใช่หรือ?

ทว่าทุกสิ่งอย่างกลับไม่แน่นอน การฝึกภาคสนามจะเริ่มต้นขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ฉินหยวนจะเปลี่ยนสถานการณ์ปัจจุบัน

แม้ว่าองค์หญิงสามจะเก่งกาจสักเพียงไหน แต่เธอจะพากลุ่มคนขี้แพ้พวกนั้นมาปราบคนจากหน่วยรบพิเศษได้อย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทาง!

จุดนี้ทำให้เขารู้สึกมั่นใจ!

“เอาล่ะ พวกเรามาปรึกษาหารือกันเถอะ อีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงการฝึกภาคสนามแล้ว”

ผู้ติดตามของฉินหยวนมองดูใบหน้าที่ไม่ทุกข์ไม่สุขของฉินหยวน ก่อนจะก้มศีรษะลง

“ตามจริงแล้วฉันสนับสนุนองค์หญิงสาม!” นักเรียนหน่วยรบพิเศษที่นั่งอยู่ในห้องเรียนกล่าวออกมาอย่างเปิดเผย “พวกนายบอกว่าองค์หญิงสามไม่ดีพอเหรอ? พลังของเธออยู่ที่ 7 ดาว ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้ของผู้คนในสนามรบ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหรือพลเอกโอคาซี อย่างน้อยทหารครึ่งหนึ่งก็ต้องล้มลงไปแล้วใช่ไหม?”

“ใช่” นี่คือความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

“ดังนั้นพวกนายคิดว่ายังไงล่ะ? ฉันว่าจะไปสวามิภักดิ์ที่แผนกเกษตรกรรม” รุย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสู้รบติดอันดับหนึ่งในสิบของหน่วยรบพิเศษเปล่งเสียงออกมา

“นายจะไปสวามิภักดิ์ที่แผนกเกษตรกรรมเหรอ? ฉันเกรงว่ามันไม่น่าจะเข้าท่านะ?!” คนอื่นในห้องเรียนต่างเห็นด้วยในใจ เพราะนี่เป็นการสวามิภักดิ์ข้ามแผนก…

“ทำไมล่ะ? ฮึ่ม!” รุยกระโดดลงมาจากโต๊ะ กวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบต่อหน้าคนอื่น “พวกนายจะบอกว่าไม่มีการสวามิภักดิ์ข้ามแผนกอย่างนั้นเหรอ? เฮือก!”

“เฮ้! ที่หัวหน้าทั้งหมดต้องแข่งขันกัน นั่นก็เพื่อโน้มน้าวใจพวกเราทุกคนไม่ใช่หรือไง? ฉันเองก็พึงพอใจในองค์หญิงสาม ส่วนที่พูดว่าเป็นสมาชิกจากแผนกอื่น ฮึ! ฉันไม่สนใจหรอก!”

รุยแสดงออกอย่างเย่อหยิ่งและประกาศก้อง “อย่าลืมละ ว่าองค์หญิงสามสามารถทำให้ผู้ติดตามที่ไร้ประโยชน์อัปเกรดได้ ถ้าพวกเราได้รับความสนใจจากองค์หญิงสาม พวกนายคิดดูนะ ไม่เพียงแต่จะได้รับอาหาร แต่พวกเรายังมีหนทางที่ก้าวหน้าอีกด้วย!”

ประโยคนี้คือฟางเส้นสุดท้าย

รุยพูดถูก นอกจากนี้การแข่งขันของหัวหน้าไม่ได้กล่าวไว้ว่าไม่อนุญาตให้ผู้คนยอมตนอยู่ใต้อำนาจของแผนกตรงข้าม พวกเขาจะกลายเป็นผู้ติดตามของใครก็ได้ที่พวกเขาพึงพอใจ

นอกจากนี้ องค์หญิงสามยังสามารถนำพาอนาคตที่สดใสมาให้แก่พวกเขาได้ พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ

“ใครอยากติดตามฉันไปแผนกเกษตรกรรมก็ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้!”

ผู้คนในห้องเรียนต่างมองหน้ากันในความสงบ ก่อนจะยกมือขึ้นมากกว่าครึ่งห้อง

“ดีมาก! ตามฉันมา!” รุยก้าวไปเปิดประตู และเดินทางไปยังแผนกเกษตรกรรม

เหล่านักเรียนทั้งหลายจากแผนกอื่น ๆ ต่างรับรู้เมื่อความจริงปรากฏว่าผู้คนจากกองบัญชาการรบจะไปเข้าร่วมกับองค์หญิงสาม

“รุยจะไปเข้าร่วมกับองค์หญิงสาม!” ผู้ติดตามของลุคหัวเราะเยาะ โดยไม่คาดคิดว่าใครบางคนจะรีบเข้ามาบอกพวกเขาในทันที ทว่าผู้คนจำนวนมากในกองบัญชาการก็ต้องการไปที่แผนกเกษตรกรรมเช่นกัน ใบหน้าทั้งหลายเริ่มขมุกขมัว

นี่มันอะไรกัน? ผู้สมัครตัวจริงของพวกเขายังอยู่ที่นี่ พวกนายมันคนทรยศ!

การกระทำของรุยเปรียบดั่งหยดน้ำหยดบนกระทะร้อน เหล่านักเรียนผู้ไม่เห็นด้วยมาเป็นเวลานานกระโดดออกไปทีละคน พวกเขารีบวิ่งแจ้นไปหาองค์หญิงสามผู้ที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้ามากที่สุด

สวี่หลิงอวิ๋นที่กำลังกินพายมันเทศหวานอย่างสบายใจเฉิบ เธอยังหยิบปลาหมึกกระป๋องออกมาจำนวนมาก ความเผ็ดของปลาหมึกกับความหวานของพายมันเทศหวานเป็นสองรสชาติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับทำให้นักเรียนแผนกเกษตรกรรมติดใจ

“ฟินจัง ฉันไม่เคยกินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย!” นักเรียนแผนกเกษตรกรรมปาดเหงื่อออก ขณะกินอาหารรสเผ็ด และเปล่งเสียง ‘ซี้ดซ้าด’ ออกมา โดยไม่สามารถวางอาหารในมือลงได้!

ช่างสุขใจเสียจริงที่ได้เป็นผู้ติดตามขององค์หญิงสาม ได้ลิ้มลองอาหารแสนอร่อย และยังสามารถเลื่อนขั้นได้อีกด้วย พวกเขาจะติดตามองค์หญิงสามอย่างใกล้ชิด ไม่ทิ้งไปไหนทั้งนั้น

“โชคดีที่องค์หญิงสามไม่ไปแผนกอื่น ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้แต่อิจฉาคนอื่น มีความสุขจังที่แผนกเกษตรกรรมของเราได้มาเป็นผู้ติดตามขององค์หญิงสาม!”

นักเรียนแผนกเกษตรกรรมที่กำลังกินอาหารต่างพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง

การสมัครเข้าเรียนในแผนกเกษตรกรรมของสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิเป็นสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่พวกเขาเคยทำมาในชีวิต

ทว่าในไม่ช้า ความสุขสำราญใจของพวกเขากลับปลิวหายไป

“สวัสดีครับองค์หญิงสาม ผมคือรุย เป็นนักเรียนจากแผนกหน่วยรบพิเศษ” ชายร่างสูงที่ดูแข็งแกร่งคนหนึ่งกล่าวแนะนำตัว

นักเรียนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังเขาเข้ามา

“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว มีอะไร? ฉันเองก็คิดว่าการแข่งขันที่เริ่มต้นขึ้นในไม่กี่วันค่อนข้างจะช้าไปหน่อย นายอยากจะท้าให้แข่งขันก่อนเวลาไหมล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถามขึ้นขณะกินปลาหมึก

“ไม่ใช่…ไม่ใช่ครับ องค์หญิงสามท่านกำลังเข้าใจผมผิด!” รุยรีบโบกไม้โบกมือและกล่าวเสริม “หากพูดตามจริง ผมมาสวามิภักดิ์ต่อท่านครับ”

“ยอมจำนน? นายล้อเล่นเหรอ!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเขาอย่างระมัดระวัง เธอสามารถรับรู้ได้ว่าชายที่ตรงหน้าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ดาว

เธอคิดไม่ออกว่าตนเองทำอย่างไรให้ชายผู้นี้ยอมแพ้ต่ออนาคตที่สดใสในกองบัญชาการรบ แล้วมาที่แผนกเกษตรกรรม