บทที่ 93 เห็นใจ
“โอ๊ย!” เจียงเย่เฉิงไม่ได้ปกกันตัวเลยแม้แต่น้อย เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บในทันที
เจียงหยุนเอ๋อเห็นเขาท่าทางแบบนี้ ในตอนที่เจียงเย่เฉิงกำลังสนใจแต่ความเจ็บบนเท้าของตัวเองนั้น ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ดึงข้อมือตัวเองจนหลุดออกมาจากการจับกุมของเจียงเย่เฉิงได้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มวิ่งออกไปทันที
“เจียงหยุนเอ๋อ แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อวิ่งหนีไปแล้ว เจียงเย่เฉิงก็ยืนตะโกนด้วยความโมโหอยู่ที่เดิม
แต่แล้วยังไง เจียงหยุนเอ๋อก็หนีออกมาได้แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้หันหน้าไปมอง และต่อให้เจียงเย่เฉิงจะยืนตะโกนอยู่ด้านหลัง ก็ทำเป็นว่าไม่ได้ยินไป
เจียงเย่เฉิงคิดอยากจะก้าวขาวิ่งตามไป แต่ว่าความเจ็บที่เท้าก็ทำให้เขาก้าวขาไปไหนไม่ได้ ทำได้แค่จ้องไปที่เจียงหยุนเอ๋อที่กำลังวิ่งหนีไปไกลขึ้นเรื่อยๆด้วยความโกรธแค้น
ในใจของเขายังไม่ยอมแพ้ ครั้งนี้กว่าจะหลอกเจียงหยุนเอ๋อออกมาได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ต่อไปถ้าคิดอยากจะเรียกตัวเธอออกมาอีก เธอก็ต้องระวังตัวมากขึ้นแน่ๆ กลัวว่าจะไม่ได้ง่ายอย่างในวันนี้แล้ว
เจียงเย่เฉิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ในที่สุดเขาก็ตะโกนด่าออกมาเพราะทนไม่ไหว “เวรเอ้ย! กี่ปีก่อนแกทำเรื่องเลวๆพวกนั้นเอาไว้ ก็ทำให้ฉันอายจนแทบจะมุดแผ่นดิน นี่ก็ถือว่าฉันปราณีแกมากแล้ว ตอนนี้แกยังจะมาก่อเรื่องอีก แกนี่มันสมควรตายจริงๆ!”
ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเจียงหนิงเอ๋อกับฝู้ชูเหมยออกมาจากตรงไหน แต่พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจียงเย่เฉิง
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ พวกเธอเห็นได้ชัดเจนจากที่ซ่อน
ฝู้ชูเหมยยืนกอดอก จิ๊ปากแล้วพูดขึ้น “จิ๊ จนแล้วจนรอดก็จับแม่เจียงหยุนเอ๋อนี่ไม่ได้ ฉันก็อุตส่าห์หวังดี หล่อนเองก็ไม่รู้จักรับน้ำใจจากคนอื่นเลย จากสภาพที่หล่อนเป็นอยู่ในตอนนี้ ได้แต่งกับตระกูลเซียวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เกียรติมากๆ ยังจะมีหน้ามาเรื่องมากอีก?”
เจียงหนิงเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก “แม่ แต่แผนนี้ของแม่ก็ออกจะไม่ได้เรื่องไปหน่อยไหม ไหนจะให้พ่อทำท่าทางน่าสงสารอีก แต่งเรื่องว่าแพ้พนัน คนธรรมดาจะหลอกได้หรือไง?”
ฝู้ชูเหมยได้ฟังแล้วก็ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ “แผนนี่ก็ดีออกไม่ใช่หรือไง? ก็ไม่มีข้อบกพร่องตรงไหนนี่?”
“แม่ แม่คิดดีๆนะ ก่อนหน้านี้พวกเรายังบังคับให้หล่อนรับมรดกต่ออยู่เลย นี่มันเพิ่งจะผ่านมาเท่าไหร่เอง อยู่ๆบ้านพวกเราก็ถังแตกแล้ว นี่ถ้าหนูเป็นเจียงหยุนเอ๋อ หนูเองก็ไม่มีทางเชื่อ” เจียงหนิงเอ๋อพูดแล้วก็ส่ายหน้า
ฝู้ชูเหมยมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ คิดๆดูแล้วก็สมเหตุสมผล ก็เลยถามขึ้น “แล้วทำไมลูกไม่รีบพูดมาตั้งแต่แรกเล่า?”
“หนูพูดแล้วแม่จะฟังเหรอ? เมื่อก่อนหนูก็เคยบอกแม่ไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าแม่ก็เมินมันทั้งหมดหรือไง?”เจียงหนิงเอ๋อเบ้ปาก
ก่อนหน้านี้ไม่นานตอนที่ฝู้ชูเหมยกับเจียงเย่เฉิงปรึกษากันเรื่องนี้อยู่ในบ้าน เธอเองก็เคยบอกไปแล้วว่ามันคงไม่เวอร์หรอก แล้วไงล่ะ ทั้งสองคนก็ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เธอบอก สุดท้ายผลก็ออกมาแบบนี้ไง
“อย่างนั้นแกก็พูดมาว่าแกมีวิธีดีๆอะไร?” เพราะว่าเมื่อกี้จับตัวเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ไม่ได้ ฝู้ชูเหมยก็เลยอารมณ์เสีย ตอนนี้เจียงหนิงเอ๋อมาพูดแบบนี้ก็คือการเอาน้ำมันไปราดลงบนกองไฟโดยไม่ต้องสงสัย ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีมากขึ้นไปอีก
เจียงหนิงเอ๋อยักไหล่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ที่จริงแล้วความคิดที่จะขายเจียงหยุนเอ๋อให้กับตระกูลเซียวก็เป็นความคิดของเธอ ถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลเจียยังดีอยู่ แต่ว่าถ้าจะได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่าเดิม แล้วทำไมจะต้องไม่ทำด้วย?
อีกอย่าง…..คนคน นั้นยังเป็นเจียงหยุนเอ๋อ
น่าเสียดายนัก จนแล้วจนรอดก็จัดการเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้สักที แถมยังไม่รู้อีกว่าอนาคตจะคิดแผนแบบไหนเพื่อจะล่อให้เธอมาติดกับได้ง่ายๆอีก
จริงๆฐานะของเจียงหยุนเอ๋อตอนนี้ก็ถือว่าดีพอสมควร ถึงจะมีลูกแล้วคนหนึ่ง แต่ว่าหน้าตาก็ใช้ได้ แถมตอนนี้ยังเป็นผู้จัดการของบริษัทใหญ่อีก แต่ว่ายิ่งเธอเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เจียงหนิงเอ๋อริษยา
เธอไม่มีทางนั่งมองเจียงหยุนเอ๋อมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้ ยังไงก็ต้องคิดวิธีที่จะฉุดหล่อนลงมาให้ได้
ฝู้ชูเหมยทำหน้าตึงแล้วเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น อยู่ๆก็หันมาพูดกับเจียงเย่เฉิง “คุณดูสิ ลูกสาวคนนี้ของคุณไม่สนใจเลยสักนิดว่าคุณจะอยู่หรือจะตาย ฮ่าๆๆ เสียแรงที่ก่อนหน้านี้คุณเคยส่งซุปเป๋าฮื้อไปให้ มีใครสนใจน้ำใจเล็กๆน้อยๆแบบนี้ของคุณบ้างไหม?”
คิดถึงท่าทีที่เจียงหยุนเอ๋อมีต่อตัวเอง สีหน้าของเจียงเย่เฉิงก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัวขึ้นมาในทันที
ฝู้ชูเหมยลอบมองสีหน้าของเขา ในใจก็ยังรู้สึกโทษการกระทำของเจียงเย่เฉิง ดังนั้นตอนนี้เธอก็เลยตั้งใจที่จะยั่วให้เขาโมโหมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่ใหญ่ ฝู้ชูเหมยถึงได้เริ่มพูดขึ้นอีก “ถึงคุณลุงของตระกูลเซียวคนนั้นจะพิการ แต่ว่ายังไงเสียนั่นก็ยังคงเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลโตอยู่ดี ถ้าเกิดไม่พึ่งพวกเรา เจียงหยุนเอ๋อจะมีปัญญาปีนขึ้นไปได้เองเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงที่มีลูกติดแล้ว มีอะไรให้เลือกมากกัน?”
พูดมาถึงตรงนี้ ฝู้ชูเหมยก็หรี่ตาลง นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยแววตาดูถูกที่มีต่อเจียงหยุนเอ๋อ “นี่ตัวหล่อนคิดว่าตัวเองมีค่ามากนักหรือไง? เหอะ ถือตนมากไปหน่อยแล้ว”
“อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ค่ะ” อยู่ๆเจียงหนิงเอ๋อก็พูดแทรกขึ้นมา “ช่วงนี้ไม่ใช่ว่าเธอก็สนิทอยู่กับตระกูลลี่เหรอคะ? ไม่แน่ว่า หล่อนอาจจะได้เกาะแข้งคนใหญ่คนโตมาตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยไม่สนใจคนอื่นอีก”
“ไม่มีทาง!” ถึงจะเห็นว่าลี่จุนถิงเคยปกป้องเจียงหยุนเอ๋อ แต่เจียงเย่เฉิงเชื่อว่ายังไงลี่จุนถิงก็ไม่มีทางจริงใจต่อเจียงหยุนเอ๋อแน่ๆ “คนครัวนั้น ผู้ชายคนนั้น จะเลือกผู้หญิงที่มีลูกติดไปทำไม? ยังไงก็ไม่มีทาง!”
เจียงหนิงเอ๋อหันมามองเจียงเย่เฉิง แล้วก็พึมพำขึ้น “อย่างนั้นก็ภาวนาให้ลี่จุนถิงแค่เล่นๆก็แล้วกัน”
“แล้วตอนนี้จะทำยังไง? พวกเราก็บอกกับตระกูลเซียวไปแล้วด้วย ถ้าเกิดว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่ทำตาม อย่างนั้นพวกเราก็ไม่ใช่ว่าเจอเข้ากับปัญหาใหญ่แล้วหรือยังไง?” ฝู้ชูเหมยกำมือเอาไว้แน่น แล้วพูดด้วยสีหน้ากราดเกรี้ยว
เจียงเย่เฉิงเงียบไปแป๊บหนึ่ง ถึงพูดขึ้น “สถานการณ์ในตอนนี้ ทำได้แค่ดูๆไปก่อนเท่านั้น ถ้าเกิดว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ เราก็ค่อยวางยาแล้วส่งเธอไปให้ตระกูลเซียว”
……
ถึงแม่ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะหลุดรอดออกมาจากการจับตัวของเจียงเย่เฉิงได้ยากไม่ยากเย็น แต่ว่าคิดถึงสิ่งที่เจียงเย่เฉิงพูดเอาไว้เมื่อกี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาไม่มีทางปล่อยแม่ไป เธอเองก็รู้สึกหวั่นใจ
เธอรู้ ไม่ว่าเรื่องอะไรเจียงเย่เฉิงก็ทำได้ทั้งนั้น ดังนั้นเธอก็เลยกลัวว่าซูม่านลีจะได้รับบาดเจ็บก็เพราะเธอ
แค่คิดว่าซูม่านลีอาจจะต้องตายอยู่บนเตียงผู้ป่วย หลังของเธอก็มีเหงื่อเย็นๆผุดพรายขึ้นมา
เจียงหยุนเอ๋อรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เห็นว่าซูม่านลียังอยู่บนเตียงในอาการปกติดี แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังไม่สบายใจ
ถ้าหาก….ถ้าเกิดว่าเจียงเย่เฉิงทำเรื่องแบบนั้นกับแม่จริงๆ อย่างนั้นเธอเองก็จะไม่ปล่อยเขาไปเหมือนกัน!
เพื่อความปลอดภัย เจียงหยุนเอ๋อก็เลยวิ่งไปถามหมอ “ขอถามหน่อยค่ะ อาการของแม่ฉันในตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ?”
“คุณนายเจียงฟื้นตัวได้ดีพอควรเลยครับ” คุณหมอมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยสายตาชื่นชม “ลำบากคุณหนูเจียงที่มาดูแลเธอในช่วงนี้แล้ว”
“อย่างนั้น….. ฉันขอให้เธอออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดจะได้ไหมคะ? ถ้าจำเป็นต้องได้รับการรักษา คุณค่อยโทรหาฉันก็ได้ค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อถามขึ้นด้วยความสงสัย
หมอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำเจียงหยุนเอ๋อจะต้องทำแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็เลยอธิบายเพิ่มเติม “คุณก็รู้….คนอื่นในครอบครัวฉันไม่ได้ทำดีกับแม่ฉันมากนัก…..ฉันกลัวว่าพวกเขา……”
“อ้อ……อย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ” คุณหมอเข้าใจได้ในทันที เลยรีบตอบตกลง