แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ จู่ ๆ ก็ได้มีเสียงรบกวนแปลก ๆ ดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง

แองโกร่าหันไปมองตามเสียงโดยสัญชาตญาณ และพบว่าไม่ไกลจากเมืองไร้ชื่อได้เกิดสถานการณ์ประหลาดขึ้น

แม้ว่าพวกเขาจะดูเหมือนกองคาราวานพ่อค้าธรรมดา แต่รถม้าของพวกเขาก็พุ่งเข้าชนโครงกระดูกไปทั่ว และวิ่งเข้ามาในเมืองอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น แองโกร่าก็ได้เห็นชื่อสีขาวลอยอยู่เหนือหัวของกลุ่มคนในคาราวานพ่อค้า

ไม่ผิดแน่ พวกเขาคือผู้เล่นที่ระบบพูดถึง!

ในที่สุด หัวใจของแองโกร่าที่แทบจะกระโจนออกจากปากก็กลับลงไปที่เดิม ระบบไม่ได้โกหกเขา เขาตะโกนอย่างมีความสุขว่า “กำลังเสริมมาแล้ว! ทุกคนมาอดทนสู้ต่อจนถึงที่สุดกันเถอะ!”

แต่แล้วเขาก็พบว่าชาวเมืองไม่เพียงแต่จะไม่ผ่อนคลาย ความสิ้นหวังบนใบหน้าของพวกเขากลับเพิ่มมากขึ้นไปอีก

“ท่านลอร์ด นั่นคือ…กำลังเสริมที่ท่านพูดถึงเหรอ?” วีลาอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

แองโกร่าช็อกกับคำถามของเธอ

อันที่จริงมีผู้เล่นอยู่ประมาณ 20 คน พวกเขาจะมีโอกาสชนะโครงกระดูก 800 ตัว รวมถึงอัศวินโครงกระดูกชั้นยอดได้รึเปล่า?

เขาไม่ทันคิดเรื่องนั้นเลย เขาแค่หวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้เล่น แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นความผิดปกติของผู้เล่น เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นกำลังรบจริงรึเปล่า…ท้ายที่สุดแม้ว่าตัวเขาจะเป็นผู้เล่นเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่มีทักษะการต่อสู้อะไรเลย

สิ่งที่ทำให้เขาแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือปฏิกิริยาของผู้เล่นที่มีต่อกองทัพโครงกระดูก

มันไม่ใช่ความกลัวหรือความประมาทที่เห็นศัตรูอ่อนแอเกินไป แองโกร่าไม่สามารถเข้าใจได้เลย มันดูราวกับว่าพวกเขาเห็นโครงกระดูกเหล่านั้นเป็นเหรียญทองเดินได้

“ที่นี่มีสัตว์ประหลาดอยู่เต็มไปหมด! สุดยอดดด!”

“พวกสัตว์ในป่าต่างก็หนีเราไปหมด! ในที่สุดข้าก็จะได้ลองทักษะใหม่ของข้าซะที”

“เร็วเข้า ๆ!”

“EXP EXP มากมาย!”

“เจ้าตัวใหญ่บนหลังม้าต้องเป็นบอสแน่ ข้าไม่รู้ว่ามันจะระเบิดอะไรดี ๆ ออกมาบ้าง”

“ม้าตัวนั้นเท่มาก…ข้าจับมันมาขี่ได้รึเปล่า!”

“การกำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้คือเป้าหมายของเควส ‘ปกป้องเมือง‘ ใช่ไหม?”

“ฮ่า ๆ มีสัตว์ประหลาดมากมาย ข้ามาร์นี่ ในที่สุดก็มีหวังจะไปถึงเลเวล 3 แล้ว!”

“ฟรอสบอม!”

“เฮ้! เจ้าอย่าขโมยเป้าหมายข้านะ!”

ต้องบอกว่าเมื่อกลุ่มผู้เล่นปะทะกับกองทัพโครงกระดูก สถานการณ์นั้นเหนือจินตนาการของแองโกร่าอย่างสิ้นเชิง

โครงกระดูกแทบจะถูกกวาดล้างโดยผู้เล่นที่เป็นกำลังเสริมอยู่ฝ่ายเดียว

มันไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นแข็งแกร่งมากจนพวกเขาไม่กลัวโครงกระดูก เนื่องจากโครงกระดูกบางตัวยังสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับพวกเขาได้

เช่นในกรณีของผู้เล่นที่มีชื่อว่า ‘มาร์นี่‘ ที่แต่งตัวเหมือนพ่อค้า ขณะที่เขาควงดาบร่ายรำไปรอบ ๆ สนามรบด้วยทักษะดาบอันเชี่ยวชาญ เพียงไม่นาน เขาก็ถูกนักรบโครงกระดูก 3 ตัวเข้ารุม และถูกแทงข้างหลังจนตาย

เขาร้องว่า “อ๊า! ข้าตายแล้ว!” และร่วงลงไปนอนวัดพื้น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้เล่นคนสักคนเดียวที่ตกใจหรือหวาดกลัว พวกเขากลับต่อสู้อย่างรุนแรงยิ่งขึ้น

มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด ทั้งที่เลือดเนื้อและกระดูกกระเซ็นไปทั่วสนามรบ และการต่อสู้ก็รุนแรงมากขึ้นทุกขณะ

เมื่อเห็นฉากนองเลือดอันน่าเกรงขามนี้ แองโกร่าที่ซ่อนตัวอยู่หลังบ้านไม้ก็รู้สึกฮึกเหิมตามไปด้วยเช่นกัน เขาชูดาบยาวซึ่งเต็มไปด้วยรอยบิ่นขึ้นมาแล้วตะโกนว่า “พันธมิตรของเรากำลังต่อสู้อาบเลือดเพื่อเราในตอนนี้ หยุดทะเลาะกันและจับอาวุธขึ้นสู้!”

ชาวเมืองคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวของผู้เล่น และสนามรบที่มีเลือดเนื้อและกระดูกกระเซ็นออกมา นี่ไม่สามารถเป็นของปลอมได้ พวกเขาเสียสละชีวิตช่วยเหลือเราโดยไม่คำนึงถึงตัวเอง พวกเขาเข้าปะทะกับโครงกระดูกอย่างกล้าหาญ (เนื่องจากฉากนั้นวุ่นวายเกินไป พวกเขาจึงไม่เห็นว่าโครงกระดูกที่ร่วงลงพื้นหายไปอย่างลึกลับ) หัวใจของพวกเขาเต้นแรง เมื่อแองโกร่าตะโกนขึ้น พวกเขาทั้งหมดก็จับอาวุธและรีบออกจากที่กำบังเพื่อสู้กับโครงกระดูกที่อยู่ใกล้ตัว

โครงกระดูกซึ่งเดิมถูกดึงดูดโดยการเคลื่อนไหวของผู้เล่นจากระยะไกล ถูกพวกชาวเมืองโค่นทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว!

เมื่อเหล่าผู้เล่นเห็นชาวเมืองออกมาให้กำลังใจ และเริ่มโจมตีกองทัพโครงกระดูกอย่างมุ่งมั่น ผู้เล่นต่างพากันส่งเสียงตะโกนออกมาว่า

“เจ้าพวกบ้า หยุดนะ! นั่น EXP ของข้า!”

“มันไม่มีประโยชน์ที่พวกเจ้าจะฆ่ามัน! หยุดตี ปล่อยมันไป ในอนาคตมันอาจกลายเป็น EXP ของข้า!”

“ให้ตายเถอะ! เรามาเพื่อช่วยเจ้า แต่เจ้าปล้น EXP ของข้า! เจ้าทำอย่างนั้นได้ยังไง!”

“มาร์นี่ตายอีกแล้ว! เชี่ย!”

แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาตะโกนจะไม่สามารถเข้าใจได้ แต่พวกเขาก็ดูตื่นเต้นดี ดังนั้นแองโกร่าจึงคิดว่าพวกเขากำลังสรรเสริญและพยายามให้กำลังใจพวกชาวเมืองอยู่เป็นแน่

จำนวนโครงกระดูกที่ล้มตายได้เพิ่มขึ้น ถึงกระนั้นก็น่าเสียดายที่ฝ่ายมนุษย์ทั้งสองขาดกำลังคน ทำให้ฝ่ายที่เสียเปรียบยังคงเป็นพวกเขา

วีลาหลบการฟันของนักรบโครงกระดูกได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนที่จะใช้ด้ามมีดฟาดเข้าไปที่กระดูกสันหลังของมันที่โผล่ออกมานอกเกราะ ทำให้กระดูกข้อต่อกลางลำตัวหลุดออกทันที จนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่กระดูกแต่ละท่อนหลุดออกจากกัน

เธอต่อสู้อย่างรื่นไหลราวกับสายน้ำ เธอฆ่านักรบโครงกระดูกได้ในพริบตา

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 3 วินาที

การเคลื่อนไหวที่ราวกับร่ายรำของเธอทำให้แองโกร่าตกตะลึง

“เจ้าแข็งแกร่งมาก วีลา…”

“ข้ายังไม่เคยบอกท่านใช่ไหมท่านลอร์ด” วีลาใช้จังหวะนี้เพื่อหายใจ ก่อนจะขยับรอยยิ้มทะเล้นราวจิ้งจอกน้อยออกมา “ว่าข้าเป็นพรานที่เก่งที่สุดในเมืองนี้”

แองโกร่าแทบจะขอบคุณที่เขาไม่ได้ทำตัวหยาบคายต่อหน้าวีลาหลังจากที่พวกเขาได้พบกัน ซึ่งมันเยี่ยมมาก

“นี่มันไม่ได้ผล อัตตราการบาดเจ็บของชาวเมืองมีแต่จะเพิ่มขึ้น!” วีลาตะโกนหลังจากฆ่าโครงกระดูกไปอีก 2-3 ตัวอย่างช่ำชอง

“ถ้าต้องการเอาชนะพวกมัน ก่อนอื่นเราต้องล้มอัศวินโครงกระดูกที่เป็นผู้นำ” แองโกร่าพยายามคาดเดา “ดูนั่นสิ กำลังเสริมของพวกเรา พวกเขากำลังพยายามฝ่าเข้าไปหาอัศวินโครงกระดูกอย่างสิ้นหวัง!”

วีลาเหลือบมองไปทางกำลังเสริม เธอเห็นว่าพวกเขาทิ้งการป้องกันและเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายบุกแทน พวกเขาต่างล้อมรอบสองสาวนักบวชไว้ตรงกลาง ที่ตรงหนั้นพวกเธอทั้งสองต่างก็ร่ายคาถารักษาอันศักดิ์สิทธิเพื่อยื้อชีวิตทุกคนไม่หยุดมือ และสร้างเส้นทางตรงเข้าสู่อัศวินโครงกระดูก!

“ไปช่วยพวกเขากันเถอะ วีลา!”

“ได้เลยท่านลอร์ด!”

ดังนั้นภายใต้การปกป้องของชาวเมือง วีลาจึงนำแองโกร่าลัดเลาะเข้าหาอัศวินโครงกระดูกจากทิศทางอื่น

มันเป็นเรื่องยากมากที่ทั้งสองกลุ่มจะไปถึงอัศวินโครงกระดูก แม้ว่าแองโกร่าจะสงสัยนิดหน่อย ว่าทำไมผู้เล่นถึงจ้องมาทางเขาด้วยสีหน้ามืดมน ราวกับว่าพวกเขาถูกบังคับให้กินมูลสัตว์ แต่แองโกร่าก็เลือดเข้าตาแล้ว เขาเลิกคิดมาก ขณะนี้วีลาและผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้เริ่มโจมตีอัศวินโครงกระดูก!

“แม้ว่าข้าจะไม่มีมานาเหลือแล้ว แต่ข้าก็จะไม่ปล่อยบอสไป!” อีกด้านหนึ่ง เด็กหนุ่มมีที่ชื่อบนหัวอ่านว่า ‘เอ็ดเวิร์ด‘ ได้เก็บคทาเวทลงไปแล้วชักดาบออกมา

“ข้าจะปกป้องศักดินาของข้า!” แองโกร่านึกถึงนิยายอัศวินที่เขาเคยอ่าน จากนั้นอะดรีนาลีนของเขาสูบฉีด ขณะที่เขาพยายามโจมตีอัศวินโครงกระดูกที่บุกรุกที่ดินศักดินาของเขาพร้อมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ

แต่ในเสี้ยววินาทีที่อาวุธของพวกเขากำลังจะเข้าถึงตัวอัศวินโครงกระดูก ทันใดนั้นวีลาก็สังเกตเห็นเด็กหญิงผมสีเงินมัดทรงทวินเทล ที่ถูกปกป้องอยู่ตรงศูนย์กลางของกำลังเสริม เธอคนที่คอยร่ายคาถารักษาอันศักดิ์สิทธิมาตลอด จู่ ๆ ก็ได้ชูมือขึ้นฟ้าและตะโกนออกมาว่า

“หอกแห่งชัยชนะ”

จากนั้นหอกสีทองสว่างที่ควบแน่นจากแสงและเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับสีทอง ก็ได้ตัดผ่านความว่างเปล่า 500 เมตรในครั้งเดียว ปักตรึงอัศวินโครงกระดูกลงกับพื้น และฆ่ามันตายทันทีก่อนที่เอ็ดเวิร์ดและแองโกร่าจะได้ทำอะไร…

——————————————————————-