ตอนที่ 81 คุณชายพ้นอันตราย หนิงอ๋องถูกฆ่า (4)

หวนคืนชะตาแค้น

ต้องขอบคุณเครื่องแต่งกายที่ช่วยปกปิดตัวตนเอาไว้ มู่หรงอานจึงจำมู่ชิงอีไม่ได้ อย่างมากที่สุดก็แค่รู้สึกว่าเด็กชายที่อยู่ตรงหน้านั้นให้ความรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคย มู่ชิงอีเองก็ไม่ได้ปิดบัง นางเม้มริมฝีปากก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา กู้หลิวอวิ๋น

กู้หลิวอวิ๋น? มู่หรงอานขมวดคิ้ว รู้สึกไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้เท่าไรนัก ตระกูลกู้? ส่งตัวกู้ซิ่วถิงมา แล้วข้าจะเหลือร่างศพของเจ้าไว้ให้

มู่ชิงอียิ้มเยาะกลับไปอย่างใจเย็น เช่นนั้นกระหม่อมก็ต้องขอบพระทัยหนิงอ๋องเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า…หนิงอ๋องทรงเป็นห่วงพระองค์เองเถิดพ่ะย่ะค่ะ

มู่หรงอานกล่าวอย่างเย้ยหยัน เจ้าคิดว่าเจ้ายังสามารถโบยบินด้วยปีกของเจ้าได้อีกหรือ กู้ซิ่วถิง ข้าจะให้โอกาสเจ้ากลับมาอีกครั้ง มู่หรงอานพูดด้วยความอดทน จ้องมองไปยังบุคคลที่มีแผลเป็นซึ่งอยู่ข้างใน

กู้ซิ่วถิงเคลื่อนไหว ลุกยืนขึ้นอย่างใจเย็นจากด้านในรถม้า

พี่ใหญ่

กู้ซิ่วถิงยิ้มบางๆ พลางกระซิบกับมู่ชิงอี ไม่ต้องกังวลไป เมื่อเขาออกจากรถม้า บาดแผลบนร่างกายพลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง แต่กู้ซิ่วถิงไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าเลยว่าเจ็บปวดแม้แต่น้อย ทันทีที่เขาออกจากรถม้า แส้ในมือของมู่หรงอานก็พุ่งเข้าหากู้ซิ่วถิงทันใด

พี่ใหญ่ ระวัง! มู่ชิงอีอุทานขึ้น อู๋ซินซึ่งยืนอยู่บนรถม้าขมวดคิ้วขึ้นทันที เขายกมือขึ้นและคว้าแส้ของมู่หรงอานเอาไว้ จากนั้นมู่หรงอานก็กระโดดลงจากหลังม้าดึงแส้กลับแล้วเหวี่ยงออกไปอีกครั้งไปทางอู๋ซิน

อู๋ซินคว้ากู้ซิ่วถิงด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งดึงมู่ชิงอีออกมาจากรถม้า ม้าตัวนั้นตกใจกับแส้ของมู่หรงอาน มันจึงยกขาขึ้นแล้วออกวิ่งไปข้างหน้า

พี่ใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง มู่ชิงอีถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นกู้ซิ่วถิงที่หน้าซีดขึ้นอีกหลังจากล้มลงไปบนพื้น กู้ซิ่วถิงยิ้มบาง ไม่เป็นไร

มู่ชิงอีหันศีรษะของนางจ้องไปยังมู่หรงอาน แสดงร่องรอยของเจตนาสังหารแวบผ่านดวงตา ในยามนี้มู่หรงอานมองไม่เห็นใครเลยนอกจากกู้ซิ่วถิง ใบหน้าที่เคร่งขรึมดุดันทำให้ใบหน้าของเขาโหดร้ายราวกับกับภูตผี จับจ้องไปที่กู้ซิ่วถิงอย่างดุร้ายพร้อมเอ่ยขึ้นว่า กู้ซิ่วถิง เจ้าเก่งมาก! อยู่ในมือของพี่หกแต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังคงมีความสามารถในการคิดร้ายกับข้าและพี่หก!

หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถเข้าใจได้ในกระดานหมากนี้ แต่เมื่อออกจากวงกลมนั้นหลายสิ่งหลายอย่างก็ชัดเจนในพริบตา ถ้ามู่หรงอานยังไม่เข้าใจว่ามีคนกำลังคิดร้ายกับเขาอยู่ก็คงแสดงว่าเขาเป็นคนโง่เง่าจริงๆ

กู้ซิ่วถิงหลุบตาลงและพูดเสียงเรียบ หนิงอ๋องกล่าวชมเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ

มู่หรงอานยกแส้ในมือขึ้นชี้ไปที่กู้ซิ่วถิงและกล่าวอย่างเคร่งขรึม ตอนนี้ข้ากำลังจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับไปพร้อมกับข้า แล้วข้าจะยกโทษตายให้ กู้ซิ่วถิงยิ้มอย่างเย็นชา เลิกคิ้วพลางกล่าวอย่างเฉยเมยว่า หนิงอ๋องทรงเป็นห่วงพระองค์เองว่าจะกลับไปได้หรือไม่ดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ

มู่หรงอานตกตะลึงไป อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ มองไปยังคนสามคนที่อยู่ด้านหน้าราวกับกำลังมองดูมดที่ไม่ประมาณกำลังของตน ฮ่าๆ กู้ซิ่วถิง เจ้าคิดว่าลำพังพวกเจ้าไม่กี่คนจะมีความสามารถทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ หากเจ้ามีความสามารถจริงๆ จะมีกลยุทธ์มากมายเช่นนี้ไปทำไมเล่า ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมามีคนจำนวนมากพยายามช่วยเจ้าจากจวนหนิงอ๋องไม่น้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าจัดการกับพวกมันอย่างไร สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังมู่ชิงอี ดูโหดร้ายและกระหายเลือดมากยิ่งขึ้น

กู้ซิ่วถิงก้าวไปบังมู่ชิงอีไว้ด้านหลังและพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า อย่างนั้นหรือ

มู่หรงอานไม่ใช่คนที่จิตใจดีและมีความชอบธรรม คราวนี้เพื่อกู้ซิ่วถิงถึงกับยอมเป็นศัตรูกับมู่หรงอวี้ นี่คือความจริงใจที่หาได้ยากในชีวิตของเขาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ความจริงใจนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากกู้ซิ่วถิง ดังนั้นมู่หรงอานจึงไม่มีอารมณ์จะใช้ไม้อ่อนเข้าหา เนื่องจากกู้ซิ่วถิงกำลังจะจากไป ถ้าเช่นนั้นไม่สู้ตายไปเสียเลยล่ะ!

ลงมือ! จับเป็นกู้ซิ่วถิง คนอื่นๆ จะอยู่หรือตายก็แล้วแต่! มู่หรงอานออกคำสั่งด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

วรยุทธของมู่หรงอานย่อมไม่อ่อนแอ อีกทั้งยังมีองครักษ์หกคนอยู่ข้างหลังเขา แต่พวกมู่ชิงอีมีเพียงอู๋ซินที่สามารถต่อสู้ได้ส่วนอีกสองคนที่เหลือเป็นเพียงตัวถ่วง มู่ชิงอีแอบสาปแช่งหรงจิ่นอยู่ในใจ อู๋ซินก้าวไปข้างหน้าดึงมู่ชิงอีแล้วคว้าตัวกู้ซิ่วถิงดันไปข้างหลัง

อ๊ะ ข้ายังมาไม่ถึง เหตุใดหนิงอ๋องจึงได้รีบร้อนลงมือเล่า เสียงที่ราวกับกำลังสุนทรีย์ดังมาจากด้านบนภูเขา มู่หรงอานขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าเสียงนั้นช่างคุ้นหู

เมื่อมองไปตามเสียงก็เห็นชายรูปงามที่สวมอาภรณ์สีดำเดินเตร่ไปมาด้วยท่าทีสบายๆ ยังคงเล่นกับหยกดำในมือตนไปด้วย อากัปกิริยาสบายอกสบายใจทั้งยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับคุณชายที่กำลังเดินเล่นชมฤดูใบไม้ผลิ

หรงจิ่น! ดวงตาของมู่หรงอานเป็นประกาย เอ่ยเรียกอย่างเคร่งขรึม เหตุใดองค์ชายเก้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้

หรงจิ่นยิ้ม จากนั้นก็เดินไปที่ด้านข้างของมู่ชิงอีและส่งยิ้มสุภาพให้กับมู่หรงอาน นี่น่ะหรือ…แน่นอนว่ามาดูความสนุก เอ่อ…พี่ใหญ่กู้ พวกท่านไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่ เดิมทีต้องการที่จะชวนมู่ชิงอีคุยสักประโยคสองประโยค แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของมู่ชิงอี องค์ชายเก้าก็หันไปหากู้ซิ่วถิงอย่างชาญฉลาด

ขอบพระทัยองค์ชายเก้าสำหรับความห่วงใย โชคยังดีที่ไม่เป็นอันใดพ่ะย่ะค่ะ กู้ซิ่วถิงไม่ใช่คนโง่และเดาได้ว่าเหตุใดมู่หรงอานจึงปรากฏตัวที่นี่ องค์ชายเก้าผู้ที่คาดเดาไม่ได้โดนทดสอบด้วยการหยั่งเชิงเล็กน้อย

หรงจิ่นคล้ายกับจะไม่ได้ยินถึงนัยแฝงในคำพูดของกู้ซิ่วถิง เขาเผยยิ้มออกมาอย่างแจ่มใส ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่กู้…ข้าคงจะรู้สึกผิดทีเดียว

เจ้าเป็นพวกเดียวกันหรือ มู่หรงอานพูดอย่างเคร่งขรึม หรงจิ่น เจ้าบังอาจนัก นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของแคว้นหวา ยังมีพวกเจ้าอีก! กล้าที่จะสมรู้ร่วมคิดกับองค์ชายแคว้นเย่ว์

หรงจิ่นเหลือบมองมู่หรงอานอย่างไม่พอใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม หนิงอ๋อง ไม่รู้ว่าเจ้าเคยได้ยินคำพูดนี้หรือไม่

มู่หรงอานทำใจเย็นไม่เอ่ยตอบสิ่งใด หรงจิ่นถามและกล่าวตอบเองอย่างรื่นเริงว่า ตามคำกล่าวที่ว่า หากพูดมากเกินไปก็จะยิ่งตายเร็ว ในเมื่อเจ้าเป็นเช่นนี้…ทำให้ข้ารู้สึกว่าจะปล่อยเจ้าให้มีชีวิตรอดกลับไปได้อย่างไร แต่ว่าข้านั้นมีบุญคุณต่อเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าจงใจปล่อยเจ้าออกมา เจ้าคงถูกยิงเป็นเม่นอยู่ที่เรือนนั้นเป็นแน่

พวกเจ้าจงใจ!

ใช่ หรงจิ่นตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่เช่นนั้น ช่วยคุณชายใหญ่ตระกูลกู้เสร็จพวกเราก็คงจากไปแล้ว จะรั้งอยู่ที่นั่นเพื่อรอรางวัลหรืออย่างไร ฮ่าๆ…หนิงอ๋องท่านไม่ต้องกลัวไป พี่หกของเจ้าจะมาเก็บศพในไม่ช้านี้ แต่…เมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจคิดว่าเจ้าชิงกู้ซิ่วถิงและหลบหนีไปแล้ว…หือ? ชิง…เสี่ยวอวิ๋น ข้าพูดถูกหรือไม่

มู่ชิงอีกลอกตาอย่างอดไม่ได้ ไอ้สารเลวคนนี้ไม่เคยเรียกชื่อนางอย่างถูกต้องเลย

มู่หรงอานจ้องไปยังคนทั้งสี่ที่อยู่ด้านหน้าเขาด้วยท่าทางเย็นชา แม้ว่าดูเหมือนเขาจะยังได้เปรียบทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกใจคอไม่ดีนัก จัดการมันให้ข้า! แต่ไหนแต่ไรมา มู่หรงอานนั้นไม่เคยเป็นนักวางแผนที่ดี ดังนั้นเขาจึงลงมือโดยไม่หยุดพัก!

องครักษ์หลายคนรวมตัวกันรอบๆ ทันที อู๋ซินจับดาบก้าวไปข้างหน้า ต่อสู้กับองครักษ์แทนหรงจิ่นที่ยืนสบายๆ อยู่ข้างๆ มู่ชิงอีและกู้ซิ่วถิง เขายิ้มพลางเหลือบมองไปยังมู่หรงอานซึ่งยืนมองดูอยู่ข้างสนามรบ จากนั้นก็หันมองมู่ชิงอีอย่างเอาใจ ชิงชิง เจ้ากำลังโกรธข้าอยู่หรือ