บทที่ 86 คุณหลินเอ่ยได้ดีจริง ๆ

เจ้าของร้านพิศวง

หากเจตนาการเอ่ย ‘ยินดีที่ได้ช่วย’ ของเอลฟ์นั้นไม่มีอะไรแอบแฝง หรือหากสมาคมแห่งสัจธรรมตัดสินใจไม่ยิงปืนใหญ่ทลายอีเธอร์ละก็ เรื่องคงจบแค่ ‘ราชาแคนเดลาในตำนานปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อสังหารเทพเจ้า’ ไปแล้ว

หากเป็นเช่นนั้น คำพูดของเขาคงมีใจความว่า ‘ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกที่ช่วยกำจัดสัตว์มายาระดับเหนือนภาให้’

แต่ในความเป็นจริงแล้วยังเหลือร่องรอยการปะทะกันของพลังงานอีเธอร์ และสภาพดูไม่ได้ของสนามรบยังคงร้อนระอุจากแรงระเบิดของปืนใหญ่อยู่เลย

สถานการณ์เช่นนี้ แคนเดลาจึงยิ้มแย้มพลางเอ่ยว่า ‘ยินดีที่ได้ช่วย’ พร้อมโบกมือหย็อย ๆ ให้แก่สมาคมแห่งสัจธรรมนั้น…

ไม่อาจหาคำอธิบายอื่นได้เลยนอกเสียจากเขากำลังเยาะเย้ยสมาคมแห่งสัจธรรมอยู่…

ที่สำคัญ ความรู้สึกที่คนส่วนใหญ่มีต่อแคนเดลาในตำนานไม่ได้ ‘เรื่อยเปื่อย’ ขนาดนี้ ดังนั้นในใจของผู้คนจึงเริ่มคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา

ท่าทางเช่นนี้อาจเป็นคำชี้แนะจากนักอัญเชิญซึ่งอยู่เบื้องหลัง และนั่นทำให้พวกเขาต่างหวาดผวาหนักกว่าเดิมเสียอีก…

คนเบื้องหลังยังไม่โผล่มาแม้แต่เงา ทว่าวิญญาณผู้ตายที่เขาอัญเชิญมากลับสร้างรอยแผลยับเยินแก่สมาคมแห่งสัจธรรมได้ขนาดนี้

แม้ดูเผิน ๆ จะเหมือนเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าผู้อยู่เบื้องหลังใช้พลังงานไปเท่าไรในการอัญเชิญครั้งนี้ เพราะอย่างไรเสียจนถึงปัจจุบัน มีเพียงความผันผวนขั้นสูงในพลังงานอีเธอร์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

นั่นแปลว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ค่าในสายตาของผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง

แอนดรูว์กำหมัดแน่นหลังทุบโต๊ะ กล้ามเนื้อเกร็งแน่นของเขาสั่นเทาอย่างมิอาจห้าม…

ความสั่นระริกนี้ย้ำเตือนว่า ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ ส่วนหนึ่งของความโกรธานี้มาจากความหวาดกลัวในใจเขา

และเมื่อความกลัวพุ่งไปถึงจุดสูงสุด มันก็กลายเป็นความเดือดดาล

สีหน้าของแอนดรูว์ย่ำแย่กว่าเดิมนัก เมื่อเขาตระหนักได้ถึงจุดนี้ เขายังอยู่ท่าเดิมจนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนจากเครื่องกลอันแสนเย็นยะเยือกดังขึ้น จึงทำให้เขาหลุดจากภวังค์

“เนื่องจากมีการละเมิดระเบียบข้อบังคับ อำนาจของคุณจะถูกเพิกถอนชั่วคราว และจะมีการดำเนินการทบทวน โปรดอย่าขยับและยืนอยู่กับที่…”

แอนดรูว์เบิกตากว้างและหันขวับไปมอง

ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก กลุ่มนักวิชาการระดับภัยพิบัติในชุดเกราะสีดำบุกเข้ามาพร้อมชี้ปลายกระบอกปืนไปทางแอนดรูว์ ตัวแทนจากแผนกอื่นต่างเดินเข้ามาอยู่ข้างหน้า และรองหัวหน้าอีกคนของสมาคมฯ ก็ก้าวออกมาหน้าสุด

“แอนดรูว์ครับ”

เดียมันเต้ดันแว่นขึ้นอย่างอ้อยอิ่งพร้อมเอ่ย “ผมว่าคุณคงเข้าใจแล้วว่าตัวคุณได้ทำผิดพลาดมหันต์จนทำให้สมาคมแห่งสัจธรรมเราเสียหายใหญ่หลวง”

แอนดรูว์มองไปยังชายผู้เด็กกว่าและเพิ่งจะมาเทียบเคียงอำนาจเขาเมื่อไม่นานมานี้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แย้มยิ้มเป็นปกติก่อนตอบกลับไป “เป็นตัวของผมเองแหละที่วางแผนล่าช้าเอง แต่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดไปสักหน่อย การตัดสินใจของผมก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบัน ความล้มเหลวอย่างเดียวที่ผมก่อคือการคาดคะเนความแข็งแกร่งคู่ต่อสู้ผิดต่างหาก และสิ่งที่ผมควรจะโทษก็คือ…”

เขาไม่มีทางยอมรับหรอกว่าตนมองการณ์ไม่ไกลพอ อีกทั้งการคว้าน้ำเหลวอย่างต่อเนื่องของการสืบสวนร้านหนังสือนั้นทำให้สภาพจิตใจเขาเหนื่อยอ่อนจนแผนล่าช้าไปหมด

ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคงจะรอบคอบและพิถีพิถันเหมือนที่เคยทำ

เดียมันเต้ยักไหล่ “ไม่ต้องมาพล่ามให้ผมฟังหรอกครับ ตอนนี้คุณควรจะคิดว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์นี้ยังไงดีต่างหาก เช่น ให้ผมยกตัวอย่างนะ แบตเตอรี่ปืนใหญ่สามก้อน? นี่ยังไม่นับเรื่องอื่นที่คุณต้องมาอธิบายตัวเองด้วยนะครับ… จากที่ผมรู้มา คุณดูจะสืบสวนร้านหนังสือระดับ S ซะขยันขันแข็ง แถมยังจะทำตัวเป็นปรปักษ์กับเขาอีกนี่สิ”

“แล้วมันยังไง?” แอนดรูว์สวนหน้าบึ้งตึง เขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร “พวกหมาป่าขาวมันอัญเชิญสัตว์มายามานี่ มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าของร้านหนังสืออีกล่ะ”

เดียมันเต้สบตากับอีกฝ่ายและเอ่ยเสียงเรียบ “คุณดูจะยังไม่รู้นะครับ หอพิธีกรรมต้องห้ามติดต่อพวกเรามาแล้ว ยืนยันเสร็จสรรพเลยด้วยว่าคนอัญเชิญแคนเดลาเป็นเจ้าของร้านหนังสือแน่นอน”

สีหน้ายากจะเชื่อถือปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแอนดรูว์ ข้อมูลนี้เป็นดั่งฟ้าผ่าใส่เขากลางวันแสก ๆ

เดียมันเต้เอ่ยต่อ “ดังนั้น พวกเราย่อมมีเหตุผลจะข้องใจว่าคุณทำตัวเช่นนี้เป็นเพราะจุดประสงค์อันเห็นแก่ตัวของคุณเอง และเป็นเพราะคุณ เจ้าของร้านหนังสือก็เลยโจมตีพวกเรากลับเพื่อป้องกันตัว จึงเป็นเหตุให้สมาคมแห่งสัจธรรมอยู่ในสภาวะเสียหายจนยากจะรักษาได้ครับ”

แอนดรูว์ค้านเสียงแข็ง “พูดอะไรไร้สาระ! ฉันน่ะนะ…”

ยังไม่ทันจะเอ่ยอธิบาย เดียมันเต้ก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน “ก็บอกไปแล้วไงครับ มาบอกผมไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”

แอนดรูว์จ้องอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และเมื่อได้เห็นสายตาดูแคลนจากเดียมันเต้ เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที

เขากำลังอิจฉารองหัวหน้ารุ่นเด็กกว่าคนนี้อยู่ และดูท่าทางอีกฝ่ายเองก็จะมีความรู้สึกแบบเดียวกันกับแอนดรูว์เสียด้วย

เจ้านี่มันกำลังใช้ข้ออ้างมาป้ายสีฉันงั้นสิ?

อีกทั้งการล้มเหลวของแอนดรูว์ในครั้งนี้ เขาก็ทำตัวเองโดยแท้

แอนดรูว์เผยสีหน้าแพ้พ่ายพร้อมรู้สึกอับจนหนทางขึ้นมา แต่ในตอนนั้นเองที่ทุกคนได้รับข้อความใหม่จากเครื่องมือสื่อสาร

“เครื่องลูปถูกโจมตี…”

นัยน์ตาของแอนดรูว์เริ่มเปล่งประกายขึ้นมาพร้อมหยุดฝีเท้า ในไม่กี่วินาทีเขาก็ประมวลผลข้อความนี้และเอ่ยขึ้นมาอย่างใจเย็น “ในสถานการณ์แจ้งเตือนขั้นที่หนึ่ง พนักงานผู้ประเมินระดับขาวต้องอยู่ประจำที่เพื่อจับตาดู และให้มั่นใจว่าระบบต่าง ๆ จะขับเคลื่อนไปได้ตามปกติ… ผมพูดถูกไหม รองหัวหน้าเดียมันเต้?”

“ท่าทางเถ้าแก่หลินดูฟิวส์ขาดค่อนข้างง่ายนะเนี่ย…” วินสตันพึมพำผ่านเครื่องมือสื่อสารหลังมอบคำสั่งให้กับลูกน้องเพื่อเก็บกวาดสนามรบเสร็จ

“นายก็คงมีกรุ่น ๆ บ้างแหละถ้าหมาบ้าวิ่งเข้ามาในบ้านนาย เห่าหอนเสียงดังก่อเรื่องไปทั่วแถมทำสนามหญ้าหน้าบ้านพังอีก”

เสียงของโจเซฟลอยมาจากด้านหลัง วินสตันรีบหันขวับไปมองและพบเข้ากับใบหน้าอันแสนคุ้นเคย

“นี่จะบอกว่าสัตว์มายาระดับเหนือนภานั่นเป็นหมาบ้า ส่วนพวกเราเป็นหมาเชื่องงั้นสิ?” วินสตันตอบพลางยกยิ้มขึ้นมา

โจเซฟสาวเท้าไปหาพลางตบบ่าวินสตันแปะ ๆ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง “เฮ้พวก คิดเยอะไปละ พวกนายเป็นได้แค่เห็บหมัดเท่านั้นแหละว่ะ”

วินสตันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อกลั้นใจไม่ให้พลั้งมือไปต่อยเพื่อนร่วมรบเก่าแก่เสียก่อน ก่อนจะถอนหายใจ “จะยังไงก็ช่างเหอะ ดูท่าทางบทนี้จะถึงตอนจบแล้วละมั้ง”

โจเซฟเงยหน้ามองเมฆเริ่มกระจายตัวทั่วท้องฟ้าแล้วตอบ “แต่เรื่องราวยังอีกไกลน่ะ”

แผนกหน่วยข่าวกรองดำเนินการสืบสวนแหล่งที่มาของกระจกมนตรามานานแล้ว แต่กลับไม่ได้ร่องรอยอะไรเลยแม้แต่น้อย

คนหรือองค์กรที่หย่อนวัตถุเวทมนตร์นี้เข้ามาในนอร์ซินนั้นถือว่าเป็นศัตรูล่องหนอันยุ่งยากที่แท้จริง

วินสตันจ้องมองใบหน้าของอดีตอัศวินแห่งแสงข้างกาย นัยน์ตาบนใบหน้าอันมุ่งมั่นมากประสบการณ์นั่นดูจะเปล่งประกายไปด้วยดวงไฟอันเฉียบคม

วินสตันพลันรู้สึกว่าตนกำลังจ้องไปยังเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานอีกครั้งหนึ่ง

เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากซึ่งเป็นเหตุมาจากการสิ้นชีพของเทพพิรุณ พื้นที่รอบด้านจึงเต็มไปด้วยน้ำท่วมขัง

เศษซากและสิ่งปฏิกูลต่างถูกกระแสน้ำพัดพามาและมุ่งตรงไปยังทางเข้าท่อระบายน้ำ และบางครั้งก็จะถูกซากอาคารขวางเอาไว้

จ๋อม… จ๋อม…

ศพที่มีสภาพบิดเบี้ยวและบวมปูดจนน่าหวาดผวาถูกดึงออกมา สีหน้าเทิดทูนบูชายังคงประดับไว้อยู่เช่นเดิม

ชายแก่ในชุดสูทสีดำเก็บร่มไปและย่อตัวนั่งยอง ๆ ดวงตาคล้ายอสรพิษเปล่งประกายเย็นเยียบอยู่เบื้องหลังหน้ากากเหล็กสีดำสนิท เขาเอื้อมมือไปดึงศพของเฮริสขึ้นมา

“ชักนำเจ้านี่มานานก็ไม่ได้เสียเปล่าแฮะ เป็นวัตถุดิบชั้นดีจริง ๆ”

ลัทธิสีชาดกับหมาป่าขาว?

เมื่อคนกลุ่มนี้ได้ฟื้นชีวิตลูกศิษย์ของเขาเพื่อฆ่าเขาทิ้ง ไวลด์ก็ตัดสินใจไว้แล้วว่าพวกมันจะดับดิ้นลงอย่างไร

คุณหลินเอ่ยไว้ได้ดีจริง ๆ ไม่ว่ายังไงก็ต้องตั้งมั่นและใจหินเข้าไว้เสมอ และไม่ควรปล่อยโอกาสให้อะไรเข้ามาหลอกหลอนฉันอีก

หลังจากมอบแผนที่ท่อน้ำทิ้งของนอร์ซินและเสี้ยมเฮริสให้ใช้ชีวิตเป็นเชื้อเพลิง และมอบวัตถุดิบจำนวนมากให้แก่พวกเขา ไวลด์ก็นั่งมองพวกเขาล้างบางและเข่นฆ่าพวกเดียวกันพวกเดียวกันจากข้างใน

ไวลด์รู้ดีว่าตนได้ทำตามความคาดหวังที่เจ้าของร้านหนังสือประเมินไว้แน่นอน!