บทที่ 99 ทำไมไม่ฆ่าพวกนาง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่99 ทำไมไม่ฆ่าพวกนาง

ชิวซวนทาริมฝีปากสีแดงแล้วทำปากหมู ใช้สายตาหว่านเสน่ห์ไม่หยุด แต่ชิงปี้ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะใช้มือดึง

เสื้อลง คงอยากให้ตัวเองเปลือยไปเลย

“คำนับท่านอ๋อง!” สองคนได้พูดพร้อมกัน

“พระชายาหล่ะ? เสียงที่ไพเราะแต่เยือกเย็นได้ดังขึ้น

เพราะเขาได้ยินเสียงพูด เย่แจ๋หยิ่งเลยกวาดสายตามองพวกนาง

พอเห็นการแต่งตัวของพวกนาง เย่แจ๋หยิ่งก็ขมวดคิ้ว ใบหน้าขรึมขึ้นมาทันที ความรังเกียจปรากฏในสายตาเขา

“กราบทูลท่านอ๋อง ตั้งแต่ท่านอ๋องไม่มาตรงนี้ ออกไปเที่ยวข้างนอกทุกคน ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ทำให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่น

คาวเหม็น จนไม่สามารถเข้าไปได้”

ชิวซวนพูดก่อน

นางเกลียดหลานเยาเยา วันที่หลานเยาเยาแต่งงานยังแทงขานางจนบาดเจ็บ ทำให้นางเหลือรอยแผลเป็น

ความแค้นนี้นางต้องค่อยๆเอาคืน

นางจะทำให้หลานเยาเยาไม่ได้รับความรักจากอ๋อง!

นางจะทำให้ชื่อเสียงหลานเยาเยาย่อยยับ!

นางจะต้องเป็นที่รักใคร่ของท่านอ๋อง จากนั้นล้ำหน้าหลานเยาเยา ทรมานหลานเยาเยาจนตาย ทำให้นางเสียใจที่เกิดมา

บนโลกนี้……

ชิงปี้ทีอยู่ข้างๆก็ไม่ยอมน้อยหน้า

รีบก้าวมาข้างหน้า เสียงที่อ่อนหวานแว่วมาจากริมฝีปากที่ชุ่มชื้น

“ใช่แล้ว ท่านอ๋อง ตอนพระชายาอยู่ในจวนแม่ทัพ พฤติกรรมก็ไม่เหมาะสม วันที่ราชทายาทไปถอนหมั้นที่จวนแม่ทัพ พระ

ชายาก็……หนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้ว

ตอนหลังก็ไม่รู้เป็นไง สงสัยคงถูกผู้ชายทิ้ง แล้วกลับมาที่จวน ตอนนี้พระชายาเริ่มสวยแล้ว ไปเที่ยวข้างนอกทุกวัน คิดว่าคง

จะไปหว่านเสน่ห์คนอื่นแน่นอน”

สิ่งที่ผู้ชายถือที่สุด น่าจะเป็นความบริสุทธิ์ของผู้หญิง

หลานเยาเยาถูกราชทายาทถอนหมั้น และหนีตามผู้ชาย ตอนอยู่ในจวนแม่ทัพข่าวก็แพร่สะพัด นางแค่เอาเรื่องเก่ามาเล่า

ใหม่

สำหรับช่วงเวลาที่อยู่จวนอ๋อง หลานเยาเยาก็ออกไปตอนเช้ากลับค่ำ นอกจากไปหว่านเสน่ห์แล้วทำอะไรได้?

“พวกเจ้าไสหัวไปได้แล้ว!”

เสียงที่เย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งดังมา แววตาความรังเกียจยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ตอนแรกคิดว่าเป็นสาวใช้ที่ต้องการอยากเป็นเมีย นึกไม่ถึงจะเป็นผู้หญิงประเภทสมองเรียบง่ายแต่จิตใจชั่วร้าย

ความเย็นชาในสายตาเขาชั่วขณะเหมือนอยากฆ่าให้ตาย!

ตอนแรกคิดอยากให้คนลากไปจัดการให้เรียบร้อย

แต่ย้อนกลับมาคิด สองคนนี้สมควรให้หลานเยาเยาจัดการ

จากนั้น!

ก็ไม่ได้สนใจพวกนางอีก

ยกขาจะก้าวเข้าไปในห้อง ใครจะไปรู้ ชิวซวนกับชิงปี้ดูไม่ออกว่าท่านอ๋องรังเกียจพวกนาง นึกว่าคำพูดพวกนางได้ผล

ท่านอ๋องคงเกลียดหลานเยาเยาแล้ว

ตอนนี้ท่านกำลังจะเข้าไปลงโทษหลานเยาเยา!

ถึงยังไงพวกนางก็เป็นสาวใช้ ต้องรีบเกลี้ยกล่อมท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องโกรธ

จะเกลี้ยกล่อมยังไงเหรอ……

ก็ต้องเอาร่างกายไปแนบชิดท่านอ๋อง ห้ามไม่ให้ท่านอ๋องเข้าไป

ใช่แล้ว

วิธีอย่างนี้ตลอดเวลาก็ใช้ได้ผล

คิดว่ากับท่านอ๋องก็คงไม่มีข้อยกเว้น!

“ท่านอ๋อง ให้ข้าน้อยเข้าไปก่อน ไปช่วยพระชายาจัดเก็บก่อนท่านอ๋องค่อยเข้ามา!”

“ท่านอ๋องท่านอย่าพึ่งเข้าไปเลย ให้ข้าน้อยรับโทษแทนพระชายา! ถ้าเข้าไปแล้วท่านเหม็นคาวขึ้นมา? หัวใจข้าน้อยคงทน

ไม่ได้ท่านอ๋อง”

สองคนเหมือนเห็นใจหลานเยาเยามาก

ที่จริงทั้งสองคนอยากเข้ามาในอ้อมกอดท่านอ๋อง พวกนางก้าวเร็วมาก เตรียมใช้ร่างกายเข้ามาขวาง

จากนั้น!

คงลืมไปแล้ว

ท่านอ๋องเป็นคนยังไง? มีข้อห้ามอะไร?

เมื่อพวกนางอยู่ห่างจากท่านอ๋องสี่ห้าก้าว ก็โดนแรงลมอย่างแรงปลิวออก คนหนึ่งเหมือนลูกหมาตกโคลน อีกคนหนึ่ง

กระแทกล้มไม่เป็นท่า

ชิวซวนล้มจนเป็นแผล มีเลือดไหลออกมา

รีบยื่นมือออกมา มองไปที่เย่แจ๋หยิ่งซึ่งไม่มองพวกนางเลย สะอื้นร้องไห้ “ฮึฮึฮึ……ท่านอ๋อง ท่านดูซิ ข้าน้อยเลือดไหลแล้ว

โอย……”

นางยังอยากร้องไห้อีก ทันใดนั้นองครักษ์ลับทุบให้หมดสติ

ชิงปี้ที่ล้มไม่เป็นท่า พึ่งนึกขึ้นมาได้ ยังไม่ทันแกล้งทำอะไร เหมือนเจ็บที่ลำคอ ทันใดนั้นก็ตาเหลือกไปเลย

จากนั้นทั้งสองคนก็โดนองครักษ์ลับลากตัวออกไป

ใช่แล้ว!

โดนลากออกไป

ในที่สุดข้างหูก็ไม่มีแมลงวันมาตอม “หึ่งหึ่งหึ่ง”เสียงดังไปทั่ว เย่แจ๋หยิ่งรีบเดินไปที่ข้างประตู ยื่นมือเรียวยาวออกไป แล้วจับ

ที่ประตู ตรงจุดที่หลานเยาเยาแหย่รูดูความสนุกพอดี

ทำให้หลานเยาเยาตกใจถอยหลัง

“จิ้ด……”

นางยังยืนไม่นิ่ง ประตูก็ถูกผลักออก

เย่แจ๋หยิ่งคล้ายเทวดาที่ตกสวรรค์เดินเหมือนคนขี้เกียจ เห็นว่านางตกตะลึง ก็เลยกระแอมทีหนึ่ง

“ดูความสนุกพอหรือยัง?”

เชอะ!

ร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอ? รู้ว่านางกำลังแอบมอง

รู้ก็รู้ซิ นางก็แค่ดูความสนุกเอง

จากนั้นก็โบกไม้โบกมือ พูดด้วยความผิดหวัง “ ท่านก็ไม่รู้จักดูแลเอาใจผู้หญิงเลยนะ คนหนึ่งมีใบหน้าสวยงาม คนหนึ่งมี

หุ่นที่สุดยอด ท่านก็ไล่พวกเขาไปหมด ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด”

ก็ต้องอยู่โดดเดี่ยวคนเดียว สมน้ำหน้า!

เฮ้อ!

ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับสิ่งที่นางพูด……

“ดูแลเอาใจสี่คำนี้ ไม่เหมาะใช้กับสิ่งของนั้น”

สิ่ง สิ่งของ?

พูดว่าสองคนนั้นเป็นสิ่งของ ชิวซวนกับชิงปี้ไม่อยู่ในสายตานางขนาดไหน!

แต่ว่า!

นางอยากพูดคำหนึ่ง เท่ห์สุดๆเลย

ไม่ถูกชะตาสาวใช้ทั้งสองคนตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้ยุ่งตลอด ก็เลยไม่อยากสนใจพวกนาง

ใช่!

นางยุ่งมาก ทุกวันต้องไปหาของอร่อยกิน

โอ้ย พวกนางหาเรื่องนางก็พอแล้ว นางใจกว้างไม่ถือสาอะไร

นึกไม่ถึงจะไม่กลัวตายกล้าไปหาเรื่องเย่แจ๋หยิ่ง ไม่ใช่ขุมหลุมฝังศพตัวเองเหรอ?

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าดูแลเอาใจควรใช้กับใคร?”

พูดจบ หลานเยาเยาก็ทำท่าทางยั่วยวนออกมา

ความหมายก็ชัดเจน!

ต้องการให้เย่แจ๋หยิ่งพูด ดูแลเอาใจน่าจะใช้ที่ตัวนาง

ใครจะไปรู้……

เย่แจ๋หยิ่งแค่มองเธอแบบนิ่งๆ กับคำถามนี้ไม่มีการตอบ แล้วย้อนถาม

“รู้ไหมทำไมข้าไม่ฆ่าพวกนาง?”

“เพราะอะไร?”

นางถามจากส่วนลึกหัวใจ

เพราะจุดนี้ นางก็รู้สึกแปลกใจ

เคยได้ยินอ๋องเย่เย็นชาโหดเหี้ยม กดขี่ข่มเหง ถ้าจากลักษณะนิสัยของเขา ชิวซวนกับชิงปี้น่าจะตายไปแล้วหลายรอบ

ทำไมเขาไม่ฆ่า แม้แต่ลงโทษยังไม่มีเลย

นี้ก็แปลกมาก?

ใครจะไปรู้ คำตอบก็คือ……

“ข้าให้เจ้าจัดการเอง!”

คำพูดนี้เหมือนจะเย็นชาหน่อย แต่ก็เหมือนมีเหตุผลเหมือนกัน

ถ้าพวกนางทำให้นางโกรธจริงๆ นางก็จะลงมือเอง

ถุยถุยถุย!

“ข้าไม่เคยลงมือทำเอง และเป็นผู้หญิงอ่อนแอเรี่ยวแรงน้อยนิด เรื่องการฆ่าคน ข้าจะทำได้ยังไง? ผิดกฎหมายนะ!”

ยังดีที่ข้าฉลาด มิเช่นนั้นจะพูดเข้าทางเขาเลย!

เย่แจ๋หยิ่งขี้เกียจฟังนางพูดไร้สาระ แล้วพูดตามตรง

“นำเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ ตอนนี้พวกข้าจะไปน้ำพุดอกเหมย!”

พอพูดจบ

หลานเยาเยาเกือบเป็นลม

“ตอนนี้?”

จำผิดอะไรหรือเปล่า? ตอนนี้ก็กลางคืนแล้วนะ

มืดๆขนาดนี้ ไปน้ำพุดอกเหมยทำอะไร?