ตอนที่ 126 การตัดสินใจ

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 126 การตัดสินใจ

หยุนเถียนเถียนยิ้มแสยะยิ้ม ขณะที่เฉินเฉิงเยี่ยมองไปยังเย่วชิวไฉผู้ซึ่งเป็นบิดาผู้ให้กําเนิดด้วยความเกลียดชัง!

เย่วชิวไฉไม่ยอมแพ้และกล่าวโต้ตอบ “ข้าเป็นพ่อของเจ้า เหตุใดจึงกล้าพูดจากับข้าเช่นนี้”

เฉินเฉิงเยี่ยตอกกลับทันที “ใช่แล้ว หากท่านไม่ใช่พ่อของข้า ข้าคงไม่กล้าพูดจาเช่นนี้ ท่านก็รู้ดีว่าข้าไม่ได้ทําผิดอะไรเลยแต่กลับต้องโดนจับกุมและคุกเข่าอยู่ตรงนี้เพื่อรับผิดจากสิ่งที่ท่านทํา!”

“ในตอนที่ท่านทิ้งพวกเราไป เหตุใดจึงไม่คิดว่าข้าเป็นลูกชายของท่านบ้าง? เดิมที่ข้าสามารถไปโรงเรียน รับทุนการศึกษา หรือแม้แต่สอบขุนนางได้ แต่ทั้งหมดนี้กลับถูกทําลายโดยท่าน! ข้าถูกตราหน้าว่าเป็นลูกชายของฆาตกรเพราะท่าน! แม้แม่จะเต็มใจยกโทษให้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะยกโทษให้ท่านด้วย!”

ดวงตาของเย่วชิวไฉแดงก่ำและพูดไม่ออก ในตอนนั้นเขาเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ตั้งแต่ที่ฆ่าโสเภณีผู้นั้น เขาก็กลายเป็นผู้ร้ายหนีคดี! แต่เขาจะต่อสู้กับผู้อื่นได้อย่างไรหากไม่ใช้เงิน?

แม้จะเป็นความตั้งใจของเขา แต่ตอนนี้กลับไร้ประโยชน์ยิ่ง! เนื่องจากเขาทําการฆาตกรรมหญิงโสเภณีจึงทําให้ตนเองต้องสูญเสียชื่อเสียงและอนาคตที่สดใส และทําได้เพียงแค่หลบซ่อนราวกับหนูข้างถนนเท่านั้น!

“แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเจ้า!”

เฉินเฉิงเยี่ยแสยะยิ้ม เขาไม่ต้องการให้ค่ากับเย่วชิวไฉจึงตอบกลับแม่ไปว่า “แม่… ข้ารู้ว่าการที่ต้องแต่งงานกับเฉินผิงอันนั้นเป็นสิ่งที่ทรมานใจ! แต่ความทุกข์ทรมาณเหล่านี้กําลังจะได้รับการแก้แค้น เหตุใดท่านจึงไม่รอให้ข้าประสบความสําเร็จเสียก่อนแล้วเราค่อยช่วยกันกําจัดเขา? เหตุใดต้องร่วมมือกับฆาตกรผู้นี้?”

หลินชวนฮวาร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาไหลอาบแก้มราวกับเพื่อนทะลัก “แต่เขาเป็นพ่อของเจ้า! เฉิงเยี่ย ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงความจริงเรื่องนี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเจ้าไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้!”

เฉินเฉิงเยี่ยลุกขึ้นตะโกนใส่หลินชวนฮวาทันที “ในเมื่อแม่แต่งงานกับเฉินผิงอันแล้ว เหตุใดจึงยุ่งเกี่ยวกับชายผู้นี้?! หากอดทนต่อเฉินผิงอันไม่ได้ เหตุใดจึงไม่ทิ้งเขาไป?! ข้าเองก็เจ็บปวดที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เฉินผิงอันแต่ก็อดทนมาได้หลายปีเพื่อให้มีชีวิตที่ดี แต่วันนี้แม่กลับทําลายความหวังทั้งหมดของข้า!”

“หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงไม่รีบจัดการเฉินผิงอันเล่า? เหตุใดยังอดทนอยู่?”

หยุนเถียนเถียนตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น! การกระทําของหลินชวนฮวาช่างน่าละอายเสียจริง ยอมทุกอย่างได้เพราะความรัก! แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถลบล้างเรื่องเลวร้ายที่นางทํากับเฉินผิงอัน อีกทั้งยังหลอกใช้เขาอย่างน่ารังเกียจและไร้ยางอาย!

ไม่ว่าเฉินผิงอันจะรู้สึกโกรธหรือไม่ แต่ทุกอย่างกลับไม่ยุติธรรมเลย! เขาลําบากทํางานหนักมาหลายปีเพื่อส่งเสียเฉินเฉิงเยี่ยและเลี้ยงดูทุกคน แต่กลับไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน!

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ

หัวหน้าหมู่บ้านไม่กล้าขัดผู้พิพากษามากนัก จึงทําได้เพียงกล่าวกระซิบแผ่วเบา “ท่านผู้พิพากษา… นี้ก็ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนที่บ้านของข้าก่อนดีหรือไม่? ไว้รอการพิจารณาคดีในวันพรุ่งนี้เถิด!”

ผู้พิพากษายิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี! สาวน้อย เจ้าต้องได้รับความยุติธรรม! เจ้าจงตัดสินใจเถิดว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร พวกข้าสามารถจัดการให้เจ้าได้ตามต้องการ!”

แน่นอนว่าหยุนเถียนเถียนเข้าใจในสิ่งที่ผู้พิพากษาต้องการจะสื่อเป็นอย่างดี แม้เขาจะทําหน้าที่เป็นผู้ตัดสินคดี แต่เขาก็ปล่อยให้นางได้ลงโทษผู้ร้ายตามต้องการ!

หยุนเคอที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนได้ยินคําพูดนี้ของท่านผู้พิพากษาเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเขากําลังเดินจากไป หยุนเคอก็เข้าใจในทันทีว่าความงดงามของหยุนเถียนเถียนต้องได้รับความสนใจจากชายผู้มีอํานาจเป็นแน่ จึงได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้! แต่ดูเหมือนว่าหญิงผู้นั้นจะยังไม่รู้จึงไม่ได้ต่อต้านอะไร

เมื่อเห็นว่าทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว หยุนเคอจึงก้าวไปข้างหน้าพลางถามว่า “ใครเป็นคนจับพวกเขามา? ถ้าไม่คิดว่ารัฐบาลมณฑลจะจับนักโทษได้เร็วขนาดนี้!”

หยุนเถียนเถียนยิ้มด้วยความงุนงงแต่ก็ยังตอบคํา “ท่านหลงเยว่! เจ้าคิดว่าแท้จริงแล้วหลงเยว่เป็นใครกัน? ในตอนที่จัดการกับเฉินผิงอันเขาดูไร้ความปรานีเป็นอย่างมาก แต่วันนี้กลับช่วยเหลือและปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี!”

แม้ตัวตนของหลงเยว่ไม่ธรรมดา แต่ตัวตนของหยุนเคอไม่ธรรมดายิ่งกว่านั้น!

“ข้าว่าเขามาจากเมืองหลวง! เขาไม่ได้สนใจในตัวเจ้าหรอก แต่อาจคุ้นเคยต่อใบหน้าของเจ้า ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเหมือนแม่มาก… แม่นางหยุนจิงเอ๋อ เป็นไปได้สูงว่าหลงเยว่อาจรู้จักแม่ของเจ้า จึงเป็นเหตุผลให้”

หยุนเถียนเถียนตกตะลึง แม้แต่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ก็ยังมีเรื่องซับซ้อนมากมาย! ทันใดนั้นหญิงชาวบ้านผู้หนึ่งขอให้หยุนเถียนเถียนช่วยกลับไปที่เมืองหลวงกับนาง เพราะรู้สึกคุ้นหน้าของนางเหลือเกิน

ความเงียบของหยุนเถียนเถียนทําให้หยุนเคอตื่นตระหนก

หยุนเถียนเถียนไม่เข้าใจว่าหญิงผู้นี้หมายถึงอะไร นางอยากไปเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ? เพราะเหตุใดกัน?!”

“หากเขาคุ้นหน้าข้า แสดงว่าผู้คนในเมืองหลวงก็ต่างรู้จักข้าใช่หรือไม่? นี่มัน…”

หยุนเคอขมวดคิ้วมองหญิงสาวด้วยความอึดอัดใจและถามขึ้นทันที “ข้าเห็นว่าท่านหลงเยว่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเมืองหลวง! และที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แน่นอนว่าต้องไม่มีใครรู้จักเจ้า!”

“สิ่งที่หลงเยว่ทําไม่ใช่เพียงการช่วยเหลือเจ้าแบบไม่หวังผล หากเจ้าไม่ต้องการไปอยู่ในเมืองหลวง ก็จงอย่าเข้าไปพัวพันกับเขาจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิต! เพราะหากเจ้าถลําลึกเจ้าจะต้องได้ย้ายกลับไปที่เมืองหลวงแน่!”

หยุนเถียนเถียนมองหยุนเคอด้วยความสงสัยก่อนจะถามขึ้น “พี่ชายหยุน… ข้าเองก็ไม่คิดว่าท่านเป็นเพียงพรานป่าธรรมดา! แล้วท่านเล่า? เป็นใครกัน?”

หยุนเคอนิ่งเงียบ เพราะเขาไม่ต้องการจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงจึงไม่ตอบคําใดกลับ

หยุนเถียนเถียนรู้สึกสับสนราวกับคนกําลังหลงทาง “หยุนเคอไม่เชื่อมั่นในตัวข้าอย่างนั้นหรือ? เหตุใดจึงลังเลที่จะบอกเรื่องนี้กับข้า?”

“หากไม่อยากพูดก็ไม่จําเป็นต้องบอก! ข้าสัญญาว่าจะไม่พัวพันกับอะไรในตอนนี้ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าก็คงต้องเผชิญหน้า!”

หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันต่างฝ่ายก็ต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อคุยกันไม่ลงตัวทั้งสองจึงเงียบไป

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่คุ้มกันต่างกรูกันเข้ามา!

“แม่นางหยุน เฉินเฉิงเยี่ยขอให้ข้าส่งสารถึงท่าน เขาบอกว่าต้องการพบเจ้า!”

พวกเขาล้วนเป็นขุนนาง แต่เมื่อเห็นว่าท่านผู้พิพากษาให้เกียรติหยุนเถียนเถียน พวกเขาจึงนับถือนางด้วยเช่นเดียวกัน

เฉินเฉิงเยี่ยรู้สึกว่าหากจะหนีไป ต้องจัดการกับหญิงขี้ครอกที่เขาเกลียดชังมากที่สุดเสียก่อน ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินในกระเป๋าที่แม่เก็บไว้ให้ออกมาแล้วยื่นเป็นสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ที่คอยคุ้มกันเขา!

ด้วยความเห็นแก่เงินเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็เต็มใจร่วมมือกับเขาเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งไปหาหยุนเถียนเถียน และสร้างเรื่องว่าเฉินเฉิงเยี่ยต้องการพบ

“เหตุใดเขาจึงอยากพบข้า?”

เมื่อเห็นดังนั้นหยุนเคอคาดเดาได้ทันที “เขาอาจต้องการขอร้องเจ้า หลังจากได้ยินคําพูดของท่านผู้พิพากษา…. อาจกลับใจและคิดได้!”