บทที่ 83 ฉันชื่อมู่เซิ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 83 ฉันชื่อมู่เซิ่ง

ตอนเช้าตรู่ มู่เซิ่งเพิ่งตื่นนอน ผลักประตูออกก็เห็นถังเสี่ยวเยว่นั่งอยู่หน้าประตูบ้าน เธอหรี่ตาลงทั้งสองข้าง ท่าทางเหมือนงีบหลับไป ไม่รู้รอนานเท่าไรแล้ว

“เธอมาได้ยังไง” มู่เซิ่งพูดอย่างแปลกใจ

ในเวลาเดียวกันก็หันกลับไปมองอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าเจียงหว่านยังไม่ตื่น จึงปิดประตูเหล็กเบาๆ จากนั้นลากถังเสี่ยวเยว่เดินลงไปข้างล่างตึก

ถังเสี่ยวเยว่ขยี้ตาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าไม่ได้นอนทั้งคืน หลังจากเธอเห็นท่าทางลับๆ ล่อๆ ของมู่เซิ่ง ก็อดพูดประชดไม่ได้ “คุณกลัวภรรยารู้ขนาดนั้นเลยเหรอ”

มู่เซิ่งไม่ได้พูดอะไร ลากถังเสี่ยวเยว่ออกมาจากเขตหมู่บ้าน แล้วถามว่า “เธอมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“มี”

จู่ๆ ถังเสี่ยวเยว่ก็ขว้างขวดยาสีดำที่มียาอยู่เต็มให้มู่เซิ่ง

มู่เซิ่งยื่นมือมารับ เขาอดสงสัยไม่ได้ “นี่อะไร”

“นี่คือสูตรยาที่คุณให้ฉันก่อนหน้านี้ ตอนนี้เราผลิตออกมาได้แล้ว ท่านเย่ายังเพิ่มวัตถุดิบล้ำค่าลงไปด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณ จึงตั้งใจเอาครีมยาล็อตแรกมาให้คุณก่อน” ถังเสี่ยวเยว่อธิบาย

มู่เซิ่งไม่มองสักนิด เขารับมันมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วพูดต่อ “ใช่สิ ฉันให้เธอเอาครีมกันแดดมาด้วย เอามาหรือยัง”

“เอามาแล้ว” ถังเสี่ยวเยว่พยักหน้าเหมือนลูกไก่จิกข้าวเปลือก จากนั้นเอาครีมออกมาจากกระเป๋าอีกหนึ่งขวด

“นี่เป็นครีมกันแดดตัวใหม่ล่าสุดของสปาหรงเหม่ย เมื่อทามัน ถึงคุณตากแดดนาน 8 ชั่วโมง ผิวก็จะไม่ดำเลยสักนิด”

“โอเค”

มู่เซิ่งเอาครีมมาอย่างดีใจ จากนั้นหันหลังเดินไป

ตอนนี้เจียงหว่านงานยุ่งมาก นอกจากห้องทำงาน ยังต้องไปไซต์งานก่อสร้างบ่อยๆ เจียงหว่านต้องชอบครีมกันแดดนี้แน่ๆ

มองด้านหลังมู่เซิ่งที่เดินออกไป ถังเสี่ยวเยว่ถอนหายใจเงียบๆ

ผู้ชายตรงหน้าคือประธานของสปาหรงเหม่ย สินทรัพย์หลายพันหลาย สูตรยาที่เอาออกมาง่ายๆ สามารถตัดสินทิศทางของตลาดด้านความงามได้ เธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมอีกตัวตนของเขา ถึงโดนคนเมืองเจียงหนานด่าทอว่าเป็นไอ้ขยะ

สองสามปีมานี้ น้อยคนที่จะทำให้ถังเสี่ยวเยว่หวั่นไหวได้ แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับดีเลิศจนน่าทึ่ง บุกเข้ามาในดวงใจของเธอซะอย่างนั้น

แต่น่าเสียดาย คนที่เขาชอบคือเจียงหว่าน

หลังจากนั้นเธอละสายตาออกมา ขับรถกลับมายังสปาหรงเหม่ย

อีกด้านหนึ่ง หลังจากมู่เซิ่งกลับมานอนต่ออีกพักหนึ่ง เขาตื่นขึ้นมาเอาครีมกันแดด จากนั้นรีบมุ่งหน้าไปยังเขตซีไห่

เมื่อเขามาถึงไซต์งานก่อสร้าง เป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี

มู่เซิ่งเห็นเจียงหว่านในไซต์งานก่อสร้างทันที เธอสวมหมวกนิรภัย ดูมีความเท่ที่ต่างออกไป แต่สภาพที่เหงื่อเต็มไปหมด ทำให้เขาปวดใจเป็นอย่างมาก

เขาพูดกับเธอหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องมาไซต์งานก่อสร้าง แต่เจียงหว่านเอาแต่ไม่ฟัง ต้องมาด้วยตัวเองให้ได้

มู่เซิ่งห้ามไม่ได้ ทำได้เพียงสนับสนุนเจียงหว่านอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบๆ

บรื้นนนน

ขณะนั้น จู่ๆ มีรถ MPV สีขาวสองคันจอดเรียงกันหน้าประตูไซต์งานก่อสร้าง

ประตูรถเปิดออก ผู้หญิงกับผู้ชายสวมเสื้อยืดสีดำ 7-8 คน เดินลงมาจากรถ ผู้ชายสวมแว่นดำ ท่าทางโอ้อวด ผู้หญิงดูหน้าตาร้ายกาจ มีรอยสักบนแขนด้วย

ผู้หญิงหน้าตาร้ายกาจเดินมาที่ประตูไซต์งานก่อสร้าง เตะรถขนอิฐจนคว่ำอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นด่าทอว่า “ใครเป็นคนรับผิดชอบไซต์งานก่อสร้าง ออกมาเดี๋ยวนี้!”

“รีบออกมา ผู้รับผิดชอบรีบออกมา!”

“ถ้าไม่ออกมาอีก อย่าหาว่าเราไม่ไว้หน้า!”

เพื่อนของเธอพากันเอาไม้กระบองออกมา จู่ๆ ก็แผดเสียงดุดัน ทำให้คนงานที่เดินอยู่ด้านหน้าถอยไปข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว

เจียงหว่านขมวดคิ้วกำลังจะเดินเข้าไป จู่ๆ มู่เซิ่งก้าวเข้าไป ยืนหน้าผู้หญิงหน้าตาร้ายกาจแล้วพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับผิดชอบ เธอมีเรื่องอะไร”

“มู่เซิ่ง”

เจียงหว่านอึ้งไป ไม่รู้มู่เซิ่งมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร

ผู้หญิงหน้าตาร้ายกาจปรายตามองมู่เซิ่ง เอานามบัตรออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันชื่อหวงจื่อโร่ว เป็นผู้ค้าส่งวัสดุก่อสร้าง ฉันเหมาไซต์งานก่อสร้างของพวกนายแล้ว”

“ตั้งแต่นี้ไป ปูนและอิฐของพวกนาย รวมถึงวัสดุเหล็กเส้น จะได้รับจากบริษัทของเรา”

“ส่วนการจัดหาวัสดุ เรามีอย่างไม่จำกัด นายต้องการมากเท่าไรเราก็หาให้ได้ ถ้านายอยากได้วัสดุอื่น เราก็สามารถหาให้ได้เหมือนกัน”

ผู้หญิงเคาะบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน แล้วพูดว่า “นายเข้าใจหรือยัง”

ผู้ชายข้างๆ เอาใบรายการราคาออกมา ยื่นให้มู่เซิ่ง

มู่เซิ่งกวาดตามองอย่างเรียบเฉย

แม้เขาไม่เข้าใจเรื่องวัสดุก่อสร้าง แต่ราคาที่อยู่ตรงหน้า ค่อนข้างสูงอย่างชัดเจน ตัดการขนส่งสินค้าออกไป บริษัทค้าส่งแห่งนี้ยังต้องการค่าขนส่งวัสดุเดือนละสองแสน นี่มันหลอกเอาเงินชัดๆ

“ไม่ต้องหรอก เรามีช่องทางการจัดหาวัสดุของตัวเอง” มู่เซิ่งพูดอย่างราบเรียบ

หวงจื่อโร่วถ่มน้ำลายออกมา พูดอย่างรุนแรงว่า “ฉันกำลังปรึกษานายเหรอ”

“ฉันบอกแล้วว่าเราจะขนส่งวัสดุมาทุกวัน ส่วนนายจะต้องการหรือไม่ จะใช้ยังไง มันเรื่องของนาย”

“แต่เมื่อฉันส่งวัสดุมา นายต้องจ่ายเงิน!”

“ยิ่งไปกว่านั้น โปรเจคก่อสร้างของพวกนายใหญ่ขนาดนี้ คงจะไม่เบี้ยวเงินใช่ไหม”

สีหน้าเจียงหว่านเปลี่ยนไป นี่มันบังคับซื้อขายตามแบบฉบับชัดๆ

เมื่อได้ยินคำนี้ มู่เซิ่งอดขำออกมาไม่ได้ เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้าฉันไม่ให้เงิน พวกเธอจะทำอะไร”

“ไม่ให้เงินงั้นเหรอ”

หวงจื่อโร่วหัวเราะ ชี้มู่เซิ่งแล้วพูดว่า “นายลองไม่จ่ายดูสิ”

ผู้ชายข้างๆ ลูบไม้ลูบมือไปมา จากนั้นยกชะแลงขึ้น “ถ้านายไม่จ่าย ฉันจะหักขานายตอนนี้เลย!”

“โอ๊ะ”

มู่เซิ่งพูดอย่างยียวน “ที่แท้นายอยู่ในสังคมอิทธิพลมืดด้วยเหรอ”

หลังจากท่านหลงเป็นลูกน้องเขา ก็ไม่ได้ซัดคนมานานแล้ว กล้าเป็นฝ่ายก่อเรื่องที่นี่เหรอ

“เลิกพูดไร้สาระบ้าบอ รีบเซ็นสัญญาตอนนี้ เอาเงินมาหนึ่งล้าน ฉันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

ชายร่างกายกำยำพูดอย่างเย็นชา จากนั้นเอาสัญญาออกมาหนึ่งปึก

แคว้ก!

มู่เซิ่งฉีกสัญญาออกเป็นสองส่วนโดยไม่มองเลย จากนั้นโยนลงพื้นแล้วพูดว่า “รีบเก็บให้สะอาด ตอนที่ฉันยังไม่โมโห แล้วไสหัวไปซะ!”

“ให้ตายเถอะ! นายยั่วโมโหฉันแล้ว ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ!”

ผู้ชายหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ ยกชะแลงขึ้นมากระแทกไปทางหัวมู่เซิ่งทันที

มู่เซิ่งหัวเราะแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบได้อย่างสบายๆ

ความเร็วของผู้ชายคนนี้ช้ามาก ในสายตาของเขาเหมือนทำเล่นๆ รับมือพวกนักเลงที่ยังขาดประสบการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากแม้แต่จะยกหมัดขึ้นมา

พลั่ก พลั่ก!

เตะคนละที สองคนนี้คุกเข่าลงตรงหน้ามู่เซิ่งอย่างพร้อมเพรียง

“ให้ตายเถอะ นายรอฉันก่อนเถอะ ฉันโมโหแล้วจริงๆ!”

ผู้ชายกัดฟัน กดโทรออกแล้วพูดว่า “ฮัลโหล พี่ ฉันโดนคนรังแก รีบพาคนมาแก้แค้นแทนฉันหน่อย!”

พูดจบ เขาก็ชี้มู่เซิ่ง “ถ้านายเอาเงินสองล้านมาตอนนี้ อาจยุติความขัดแย้งได้ ไม่งั้นก็รอคุกเข่าอ้อนวอนได้เลย!”

มู่เซิ่งยักไหล่ ใบหน้าไม่แคร์

หลังผ่านไปสิบนาที มีรถตู้ขับมาอีกหนึ่งคัน

“กล้ารังแกน้องชายฉัน พูดมา นายชื่ออะไร ทำท่าทำทางดีๆ หน่อย ฉันจะหักแขนนายแค่ข้างเดียว”

รถเพิ่งจอด ก็มีเสียงเหิมเกริมดังออกมาจากหน้าต่างรถ วัยรุ่นท่าทางอวดดี 4-5 คนเดินลงมา ปากคาบบุหรี่เอาไว้ ไม่เห็นมู่เซิ่งอยู่ในสายตาสักนิด

“ฉันเหรอ”

มู่เซิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันชื่อมู่เซิ่ง”

ตุ้บ

วัยรุ่นที่เพิ่งก้าวขาข้างหนึ่งออกจากประตูรถ ยังไม่ทันยืนทรงตัวก็คุกเข่าลงบนพื้นทันที