ตอนที่ 116 ฉันชื่อตี้อู๋โยว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 116 ฉันชื่อตี้อู๋โยว

วันอาทิตย์ แปดโมงเช้า

มู่เถาเยา มู่หว่าน และเจียงเฟิงเหมียนทานอาหารเช้าร่วมกัน

ขณะที่กำลังเตรียมจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาทั้งสองคนออกไปข้างนอก เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

“เสี่ยวเยาเยา เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปหยิบกล่องยาเถอะ ฉันจะไปเปิดประตูให้เอง” มู่หว่านเอ่ยพลางเดินไปที่ประตู

เด็กสาวทั้งสองรู้ว่ามู่เถาเยาต้องไปตรวจคนไข้ทุกเช้าวันอาทิตย์

“อืม”

มู่เถาเยารู้ดีว่าใครเป็นคนกดกริ่งที่หน้าประตู

เธอเคยแจ้งรปภ.ไว้แล้วว่ารถป้ายทะเบียนนั้นสามารถขับเข้ามาได้เลย

เมื่อทั้งสองคนออกไปจากห้องนั่งเล่น เจียงเฟิงเหมียนจึงเก็บโทรศัพท์มือถือและสิ่งของอื่นๆ ของพวกเธอทั้งสามคนใส่ลงในกระเป๋าเป้ของตนเอง จากนั้นก็เดินไปที่ประตูด้วย

อ่า หนูน้อยน่ารัก!

เจียงเฟิงเหมียนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทันที! เธอแสดงสีหน้าเหมือนกับมู่หว่านในตอนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน!

ถุงลมน้อยตี้อันเหยี่ยขมวดคิ้วมุ่น พลางหันกลับไปถามอาคุนอย่างสงสัย “ลุงอาคุนครับ ลุงพามาผิดบ้านหรือเปล่า”

ทำไมมีแต่พี่สาวแปลกหน้าสองคนนี้ล่ะ พี่สาวของเขาล่ะ

“คุณชายเล็ก ไม่ผิดหรอกครับ หมอเทวดาน้อยมู่พักอยู่ที่นี่แหละครับ”

ถุงลมน้อยหันศีรษะกลับมาอีกครั้ง แล้วเอ่ยถามมู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนอย่างสุภาพว่า “พี่สาวทั้งสองคนครับ พี่สาวของผมพักอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

มู่หว่าน “พี่สาวของหนู?” คนไข้ของเสี่ยวเยาเยาคือหนูน้อยน่ารักคนนี้น่ะเหรอ

เจียงเฟิงเหมียน “หมอเทวดาน้อยมู่?” หนูน้อยคนนี้ดูไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด!

แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หมอ แต่ก็มีพ่อเป็นหมอที่มีชื่อเสียงโด่งดังจึงพอมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง

แต่เด็กน้อยคนนี้ดูผิวขาวละเอียด ดูก็รู้แล้วว่าสุขภาพแข็งแรงดี!

ถุงลมน้อยยืดหน้าอกเล็กๆ ของเขา เอ่ยกับสองสาวว่า “พี่สาวของผม พี่มู่เถาเยาครับ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจอย่างมาก!

“อยู่ๆๆ!”

“ใช่ๆๆ!”

สองสาวพูดพร้อมกัน

“แล้วพี่สาวผมล่ะครับ”

มู่หว่านย่อตัวลงด้านหน้าถุงลมน้อย บอกเขาไปว่า “เสี่ยวเยาเยาไปหยิบกล่องยาที่ชั้นบนน่ะ! หนูน้อย ฉันเป็นพี่สาวของเสี่ยวเยาเยา เธอชื่ออะไรเหรอ”

“พี่สาวของพี่สาวเหรอครับ” ถุงลมน้อยสับสนเล็กน้อย

“ใช่! ฉันนี่แหละพี่สาวของเสี่ยวเยาเยา!”

“ฉันเป็นน้องสาวของพี่เยาเยา!” เจียงเฟิงเมียนก็แนะนำตัวเองเช่นกัน

ถุงลมน้อย “…”

เขาไม่มีพี่สาวแท้ๆ แล้วก็ไม่มีน้องสาว จึงไม่เข้าใจว่าพี่สาวของพี่สาว และน้องสาวของพี่สาวมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

เจียงเฟิงเหมียน “หนูน้อย หนูชื่ออะไรเหรอคะ มาหาพี่เยาเยาทำไมกัน”

“พี่สาว ผมชื่อตี้อันเหยี่ยครับ มารับพี่สาวไปดูอาการให้อาเล็กครับ”

“อ๋อๆ” ที่แท้ก็เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยนี่เอง

สองสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“เสี่ยวอันเหยี่ย ฉันชื่อมู่หว่าน หนูเรียกฉันว่าพี่หว่านก็ได้นะ”

“ฉันชื่อเจียงเฟิงเหมียน เสี่ยวอันเหยี่ย แล้วก็พวกคุณด้วย เข้ามานั่งข้างในกันก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวพี่เยาเยาก็จะลงมาแล้ว”

เจ้าหนูน้อยถูกมู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนจูงมือกันคนละข้าง เขาตามพวกเธอเข้าไปในบ้านอย่างสับสนงุนงง

บอดี้การ์ดอาคุนและบอดี้การ์ดอีกสองคนก็เข้ามาด้านในเช่นกัน

นั่งลงได้ไม่ทันไร มู่เถาเยาก็ปรากฏตัวที่บันไดพร้อมกล่องยาขนาดเล็ก

ถุงลมน้อยสะบัดมือออกจากมู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนทันที จากนั้นจึงถลาลงจากโซฟา แล้ววิ่งไปหามู่เถาเยา

“พี่สาว พี่สาว พี่สาวครับ…”

เขาวิ่งพลางขานเรียก ตื่นเต้นจนเสียงเปลี่ยน

มู่เถาเยากระโดดลงจากบันไดอย่างแผ่วเบา แล้วหยุดตรงหน้าของถุงลมน้อย

เด็กน้อยกระโดดเกาะหมับเข้าที่ขาเรียวยาวของเธอ

“พี่สาว อันเหยี่ยคิดถึงพี่มากๆ เลย!”

“พี่ก็คิดถึงอันเหยี่ยเหมือนกันค่ะ”

ถุงลมน้อยรู้สึกได้ถึงการปลอบโยน

“พี่สาวคนสวย!” พออารมณ์ดีก็เปิดโหมดปากหวานเหมือนเดิม

มู่เถาเยาสวมชุดกระโปรงผ้าสีฟ้า สวมรองเท้าปักลายดอกไม้สีเดียวกัน ผมยาวสีดำขลับทิ้งตัวยาว บนหัวคาดด้วยที่คาดผมสีขาว

ริบบิ้นยาวห้อยตกลงมา ทำให้รู้สึกเหมือนเอลฟ์บริสุทธิ์ในหุบเขาที่ละทางโลกอย่างไรอย่างนั้น

มู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนนับถือและชื่นชมเวทมนตร์ของน้องสาว/พี่สาวของตนเองเป็นอย่างมาก

แน่นอน ไม่ว่าน้องสาว/พี่สาวจะอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาหรือในเมืองใหญ่ ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนแก่ วัยกลางคน คนหนุ่มสาว เด็ก และทารกเหมือนเดิม!

มู่เถาเยายิ้มน้อยๆ พลางบีบใบหน้าอ้วนกลมของเจ้าตัวเล็กแล้วพูดว่า “เสี่ยวอันเหยี่ยก็หล่อมากเหมือนกันจ้ะ!”

“อื้มๆๆ” ถุงลมน้อยพยักหน้ารัวๆ

พี่สาวพูดถูก!

มู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนหัวเราะคิกคัก

ถุงลมน้อยจึงหันกลับไปมอง

พี่สาวสองคนนี้หัวเราะอะไรกัน

แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็หันกลับมาพลางแหงนหน้าเอ่ยถามมู่เถาเยาว่า “พี่สาวครับ พี่สาวของพี่สาวคืออะไรเหรอ”

“…ก็คือพี่สาวนั่นแหละ”

มู่เถาเยาจูงมือถุงลมน้อยไปหามู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียน และแนะนำให้เขารู้จัก “นี่คือครอบครัวของพี่ อันเหยี่ยเรียกพวกเธอว่าพี่หว่านแล้วก็พี่เหมียนก็ได้”

ไม่ได้อธิบายว่าคนไหนคือหว่าน คนไหนคือเหมียน

ตามที่เธอเข้าใจ ทั้งสองคนต้องแนะนำตัวเองไปแล้วแน่นอน

“พี่หว่าน พี่เหมียน”

ถุงลมน้อยจำชื่อที่พวกเธอเอ่ยแนะนำตัวเมื่อครู่ได้ จึงไม่ได้เรียกผิด

มู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนยิ้มสดใสให้กับเจ้าตัวเล็ก

“พวกเราออกไปกันเถอะ” มู่เถาเยาจูงมือถุงลมน้อยพลางเอ่ยกับทุกคน

ทุกคนพยักหน้า

บอดี้การ์ดอาคุนรับกล่องยาจากมู่เถาเยาไปถือไว้ในมือโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็เดินตามหลังออกไป พร้อมกับปิดประตู

รถสำหรับเจ็ดที่นั่ง จึงมีที่นั่งพอสำหรับทุกคน

ถุงลมน้อย มู่หว่าน และเจียงเฟิงเหมียนหัวเราะคิกคักกันไปตลอดทาง

เมื่อถึงเขตเซิ่งซื่อฉางอัน เจียงเฟิงเหมียนก็เริ่มตาลุกวาว !

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับเขตวิลล่าที่มีบรรยากาศและความงดงามราวกับเทวสถาน

“พี่เยาเยา…”

เจียงเฟิงเหมียนรักการวาดภาพ จึงไม่สามารถต้านทานสิ่งที่สวยงามนี้ได้ ดังนั้นจึงอยากลงจากรถเพื่อไปดูใกล้ๆ

“อาคุน หยุดรถ”

มู่เถาเยาเข้าใจเธอดี จึงรู้ว่าเธอต้องการทำอะไร

มู่หว่าน “มีอะไรเหรอ”

เจียงเฟิงเหมียน “ฉันอยากลงรถไปเยี่ยมชมเขตวิลล่าสักหน่อยน่ะค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา งั้นฉันจะลงรถไปกับเสี่ยวเหมียนเอง”

“อืม พวกเธออยากไปที่ไหนก็ไปได้หมดเลย ถ้าเดินกันเหนื่อยแล้วก็โทรมา เดี๋ยวฉันจะให้คนไปรับพวกเธอกลับ”

“ได้เลยๆ”

หลังจากที่เจียงเฟิงเหมียนและมู่หว่านลงจากรถ ก็โบกมือให้พวกเขาอย่างอารมณ์ดี

ส่วนมู่เถาเยาก็บอกอาคุนให้ขับรถต่อ

ปู่ตี้ย่าตี้และตี้อู๋เปียน รวมถึงชายหนุ่มที่มีใบหน้าและอุปนิสัยคล้ายกับคนตระกูลตี้ ทุกคนนั่งรออยู่บนม้านั่งตัวยาวหน้าประตูคฤหาสน์ด้วยความกระวนกระวาย

เมื่อเห็นรถ ทั้งสี่คนจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างรีบร้อน

“ปู่ตี้ ย่าตี้ ตี้อู๋เปียน… แล้วนี่คือ… คุณคือตี้อู๋โยวใช่หรือเปล่า” ลูกพี่ลูกน้องของตี้อู๋เปียน

ตี้อู๋โยวยื่นมือขวาไปหามู่เถาเยา “สวัสดี ผมชื่อตี้อู๋โยว ผมชื่นชมหมอเทวดาน้อยมู่มานานแล้ว!”

“สวัสดีค่ะ”

“ซาลาเปาน้อย ไม่เจอกันนานเลยนะ”

ตี้อู๋เปียนรีบคว้าฝ่ามืออันผุดผ่องของมู่เถาเยาที่ยื่นออกมาเพื่อจะจับมืออย่างสุภาพกับตี้อู๋โยวไปในทันที

ปู่ตี้ “…”

ย่าตี้ “…”

ทุกคน “…”

เมื่อวานก็เพิ่งเจอหน้ากัน! นานที่ไหน!

มู่เถาเยาผู้ซื่อสัตย์ “ฉันเพิ่งย้ายออกเมื่อวานนี้เองนะ”

“…งั้นเหรอ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันผ่านมานานแล้วล่ะ” ตี้อู๋เปียนขมวดคิ้วมุ่น

ตี้อู๋โยวมองไปยังมือที่ยื่นไปกลางอากาศของตนเอง กะพริบตาปริบๆ จากนั้นจึงมองไปที่ตี้อู๋เปียนที่จับมือของมู่เถาเยาไว้ไม่ยอมปล่อยด้วยความสับสนงงงวย

อู๋เปียนชอบอยู่ใกล้ผู้คนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ชอบแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่ใช่เหรอ

ไม่เจอกันแค่เดือนกว่า ทำไมอู๋เปียนถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้

งงเลยแฮะ…

ปู่ตี้และย่าตี้สบตากัน เอ่ยทักทายมู่เถาเยาที่เพิ่งเข้าประตูมา

ตี้อู๋เปียนจึงค่อยๆ ยอมปล่อยมือออก

มู่เถาเยาที่ไม่ได้คิดอะไรมากจึงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับผู้เฒ่าทั้งสอง

ตี้อู๋เปียน “…”