ตอนที่ 69

Silver Overlord

69 – ความช่วยเหลือของตระกูลลู่

โจวหงต๋าและภรรยาของเขาเป็นคนแรกที่กลับมาที่บ้านตระกูลเอี้ยนพร้อมกับผักและเนื้อเป็นจำนวนมาก ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงพวกเขาเริ่มทำอาหารก่อนที่เอี้ยนลี่เฉียงจะต้องพูดอะไร

ไม่นานหลังจากนั้นโจวหย่งและจ้าวฉีเฟิงก็กลับมาพร้อมผ้าสะอาดและสุราร้อนแรง เอี้ยนลี่เฉียงวางผ้าสะอาดที่ซื้อมาลงในหม้อใบใหญ่ที่โรงฝึกช่างตีเหล็กและต้มเพื่อฆ่าเชื้อ

หลังจากนั้นเขาก็แขวนไว้ที่ลานบ้านตากให้แห้งเพื่อจัดเก็บในเวลาต่อมาจากนั้นไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนของเอี้ยนเต๋าชางด้วยผ้าที่สะอาด

ในตอนเที่ยงจ้าวฉีเฟิงก็กลับมาพร้อมกับหมอฮงจากสำนักแพทย์จีเหรินถังซึ่งตั้งอยู่บนถนนทางทิศตะวันออกของเมืองชิงไห่ห่างออกไปไม่กี่ลี้

ดังคำกล่าวที่ว่า ‘เมื่อมีรางวัลมากพอ ย่อมมีคนที่กล้าอาสา’ เอี้ยนลี่เฉียงใช้ทองคำไปไม่น้อย แพทย์ฮงมาที่บ้านของเอี้ยนลี่เฉียงและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาเอี้ยนเต๋อชาง

เมื่อพูดถึงการรักษาบาดแผลที่เกิดจากกระบี่และดาบไม้เด็ดของหมอฮงเป็นยาสองประเภทที่เขาปรุงขึ้นเอง หนึ่งในนั้นคือยาทาแผลโปร่งแสงสำหรับไว้ใช้ภายนอก

ว่ากันว่ายาชนิดนี้สามารถเร่งอัตราการหายของแผลและทำให้ความเจ็บปวดลดลง ส่วนอีกประเภทคือยาเม็ดสีแดงเข้ม

หมอฮงกล่าวว่าหลังจากละลายน้ำและดื่มลงไปมันจะเติมพลังชี่และการสูญเสียเลือดของบุคคลนั้น

เขาใช้สองวิธีที่แตกต่าในเวลาเดียวกัน เอี้ยนลี่เฉียงเปลี่ยนยาสมานแผลของเอี้ยนเต๋อชางและป้อนยาเม็ดให้เขา

ในไม่ช้าเขาก็พบว่าในที่สุดริมฝีปากที่ซีดเผือดของเอี้ยนเต๋อชางก็กลับมามีสีอีกครั้งและการหายใจของเขาก็คงที่เล็กน้อย เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกเบาใจลงมาก

เช่นเดียวกับในชีวิตที่ผ่านมาของเขาโรงพยาบาลเกรด A อาจไม่สามารถรักษาโรคที่โรงพยาบาลเกรด B ในหมู่บ้านไม่สามารถรักษาได้

อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลเกรด 3A [1] นั้นสามารถรักษาโรคที่โรงพยาบาลในเขตเกรด A ไม่สามารถรักษาได้อย่างแน่นอน ทุกคนมีระดับความสามารถที่แตกต่างกัน

ดังนั้นหมอที่แตกต่างกันจะมีการกระทำที่แตกต่างกัน เพียงเพราะหมอในเมืองที่มาถึงก่อนหน้านี้ขาดความสามารถในการช่วยเหลือนั่นไม่ได้หมายความว่าหมอคนอื่นจะเหมือนกัน

ในตอนเที่ยงและหลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันแล้วเสียงของรถม้าก็ดังขึ้นอีกครั้งจากลานด้านนอกของบ้านตระกูลเอี้ยน

เอี้ยนลี่เฉียง โจวหย่งและคนอื่นๆออกมาจากลานและเห็นเฉียนซู ลู่เปียน โจวเถี่ยจูและ ลู่เหวินปิงรวมทั้งผู้คุ้มกันจากตระกูลลู่เจ็ดหรือแปดคน
“ ลุงเฉียนนายท่านหก…” เอี้ยนลี่เฉียงรีบต้อนรับพวกเขา

เอี้ยนลี่เฉียงไม่แปลกใจเลยที่เฉียนซูมา ความไม่พอใจใดๆ ระหว่างเขากับเอี้ยนเต๋อชางถูกลบเลือนไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้คาดหวังว่าตระกูลลู่จะส่งใครมาด้วย นอกจากนี้ผู้ที่มาคือนายท่านหกของตระกูลลู่พร้อมด้วยพ่อบ้านและองครักษ์ของเขา

เขาเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในตระกูลลู่ เอี้ยนลี่เฉียงมองไปที่คนจำนวนมากของตระกูลลู่ และพบว่าอย่างน้อยสองคนทั้งที่มีท่าทางสงบและมีสายตาที่แหลมคมดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฆ่าคน

เมื่อคนเหล่านี้มาถึงเมืองหลิวเหอด้วยฝูงม้าแรดพวกเขาได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนจำนวนมากในเมือง

แม้ในขณะนี้ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากโผล่หัวไปรอบๆเพื่อดูภายในลานบ้านของตระกูลเอี้ยนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“ เต๋อชางเป็นยังไงบ้าง?” เฉียนซูซึ่งดูเหมือนเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการเดินทางของเขาคว้าแขนของเอี้ยนลี่เฉียงและถามเขาทันทีที่เขากระโดดลงจากหลังม้า

“หมอจากเมืองมณฑลเพิ่งเปลี่ยนยาตัวใหม่ให้ ดูเหมือนอาการของพ่อจะดีขึ้นเล็กน้อย … “

“เข้าไปในห้องกันเถอะข้าหวังว่าเราจะไม่สายเกินไป … ” ลู่เปียนพึมพำ

เอี้ยนลี่เฉียงมองไปที่เฉียนซูและเห็นสัญญาณในดวงตาของเขา เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าและพาทั้งสองคนเข้าไปในห้องของเอี้ยนเต๋อชาง

คนอื่นๆรออยู่ข้างนอกอย่างมีไหวพริบและไม่ได้ติดตามพวกเขาเข้าไปข้างใน

ดวงตาของเฉียนซูเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเขาเห็นเอี้ยนลี่เฉียงนอนอยู่บนเตียง ลู่เปียนตรวจดูลมหายใจและชีพจรของเอี้ยนเต๋อชางจากนั้นประเมินบาดแผลที่เขาได้รับ

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและในที่สุดใบหน้าที่ตึงเครียดและเคร่งขรึมก็ผ่อนคลายลง เขาพยักหน้าไปที่เอี้ยนลี่เฉียง

“ดี ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่สายเกินไปเราสามารถกลับมาได้ทันเวลา ต้องขอบคุณพี่เฉียนที่แจ้งให้ตระกูลลู่ทราบทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของนายน้อยเอี้ยน !”

“ ท่านหมายความว่าอย่างไรนายท่านหก”

ลู่เปียนยิ้มแล้วดึงบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ เขาแกะผ้าออกเผยให้เห็นสิ่งของขนาดครึ่งกำปั้นที่ถูกผนึกด้วยขี้ผึ้งอย่างมิดชิด

ภายใต้ชั้นของขี้ผึ้งที่เขาขูดออกคือกล่องที่ทำจากหยกขาว เขาเปิดกล่องหยกซึ่งมีเม็ดยาสีแดงเพลิงขนาดใหญ่เท่าตามังกร ในขณะเดียวกันคลื่นกลิ่นแปลกๆก็แทรกซึมออกมาในอากาศ

กลิ่นนั้นเบาบางแต่เต็มไปด้วยพลัง การหายใจเพียงครั้งเดียวทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก

ดวงตาของเอี้ยนลี่เฉียงเบิกกว้างขึ้นในทันที ในช่วงเวลานั้นแม้แต่คนปัญญาอ่อนก็รู้ว่ายาเม็ดนั้นผิดปกติอย่างแน่นอน

“ นายท่านหกนี่…นี่มันยาเม็ดอะไรกัน?”

“นี่คือยาคืนชีวิตที่ถูกเก็บไว้ในตระกูลลู่ของเรา เป็นยาครอบจักรวาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตำนานเล่าว่าตราบใดที่คนๆนั้นยังหายใจและหัวใจของเขายังเต้นอยู่หากได้รับประทานยานี้ลงไปสุขภาพของเขาจะดีขึ้นราวกับเกิดใหม่

ยาเม็ดนี้เป็นของขวัญจากสหายเก่าของท่านพ่อที่มอบให้ในวันเกิดครบรอบหกสิบปีของท่าน สหายเก่าคนนั้นเป็นศิษย์ชั้นในของหนึ่งในสี่นิกายใหญ่คือนิกายภูเขาวิญญาณ

เขาได้รับยาครอบจักรวาลนี้จากการที่เขาสร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่ให้กับนิกาย! “

ลู่เปียนมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงอย่างมีความหมาย “ ทันทีที่ท่านพ่อได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของนายน้อยเอี้ยน ท่านก็ส่งยาฟื้นฟูนี้มาให้ข้าทันที…”

“ขอให้สวรรค์และปฐพีเป็นพยาน ในวันนี้เอี้ยนลี่เฉียงขอสาบานว่าจะจดจำความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของตระกูลลู่และนายผู้เฒ่าลู่ไว้ตลอดกาล

ตราบเท่าที่ข้ามีชีวิตอยู่ข้าจะตอบแทนความเมตตานี้ในวันหนึ่งอย่างแน่นอน!” เอี้ยนลี่เฉียงสาบานอย่างเคร่งขรึมในขณะที่เขาป้องหมัดแสดงความขอบคุณต่อลู่เปียน