ตอนที่ 179 ลาที่หัวเราะได้ ตอนที่ 180 มีภูมิหลังไม่ธ

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 179 ลาที่หัวเราะได้

ลาตัวนั้นเตะกีบหนึ่งที ก็ถีบหัวขโมยที่จูงมันกระเด็นไปไกลถึงสามเมตร

เสียงดัง ‘ตุบ’ ลงกระแทกพื้นไม่เท่าไร ยังไม่ทันได้หายใจหายคอ ก็รู้สึกว่าท้องที่ถูกถีบเจ็บจนหายใจไม่ออก และปวดบิดอย่างยิ่ง!

เชือกที่ล่ามต้าไป๋ถูกปลดออกหมดแล้ว เวลานี้ต้าไป๋จึงเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระโดยสิ้นเชิง

ต้าไป๋เดินออกมาจากคอก

“เจ้าจะมัวยืนโง่อยู่ตรงนั้นทำไม รีบมาดึงข้าลุกหน่อยสิ!” หัวขโมยที่ล้มอยู่รีบส่งเสียงตะโกนใส่อีกคน คนผู้นั้นเพิ่งเปิดประตู หันกลับมามองเห็นภาพฉากนี้ก็เป็นอันตกตะลึง แต่ก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็วเช่นกัน รีบปรี่เข้ามาทันที เตรียมฉุดดึงสหายลุกขึ้นมาจากพื้น

อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งโค้งลำตัวลง ก็รู้สึกเพียงความหนังอึ้งจากแผ่นหลัง เพียงชั่วขณะเดียวก็ลามไปถึงอวัยวะทั่วทั้งร่างของเขา คนทั้งคนอดทรุดลงไม่ได้

เสียง ‘ปึก!’ ดังขึ้นมาอีกครั้ง

ซ่งอิงเลิกคิ้ว

ตกตะลึงเช่นกัน

จากนั้น ก็มองเห็นกีบลาของลาต้าไป๋กดทับอยู่บนเรือนร่างคนทั้งสอง ปากลาที่ใหญ่โตนั้นคลี่ออกกว้างมากอีกทั้งยังประหลาดน่าดู “ฮ่าๆๆ…ฮ่าๆๆ…”

“…” ซ่งอิงปิดบานหน้าต่าง ไม่อยากมองดู

แปลกพิลึกพิลั่นเกินไปแล้ว!

ต้าหวงส่งเสียงขันแต่เช้าตรู่เป็นเวลาสองวันติด เห็นได้ชัดว่าเชื่อฟังคำพูดนาง ถึงขั้นเรียกได้ว่ากระทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย

แม้จะค่อนข้างพิสดาร แต่อย่างไรเสียต้าหวงก็เป็นนางเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ จากลูกเจี๊ยบตัวกระจ้อยร่อย ขนสีเหลืองเป็นหย่อมๆ ถึงตอนนี้ปรากฏหงอนไก่สีแดงสดและขนแข็งทื่อ แม้ว่าปีกยังไม่แข็งแรง แต่ก็โบยบินได้บ้างแล้วเช่นกัน ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของนางที่ค่อยๆ พัฒนาไปทีละนิด ต่อให้มันฉลาดกว่าตัวอื่นหน่อย ก็ไม่โดดเด่นจนรู้สึกว่าเกินไป

แต่ตอนนี้ ลาต้าไป๋ที่เพิ่งเลี้ยงไม่กี่วันกลับหัวเราะได้!

มันหัวเราะได้!

ยามเที่ยงคืนเช่นนี้ ช่างชวนให้ขนลุกขนชันยิ่งกว่าหนังสยดสยองเสียอีก

แน่นอนว่า ลาที่หัวเราะได้ ภพชาติก่อนนางก็เคยเห็นคลิปวิดีโอตลกๆ มากมายเช่นกัน ลาเหล่านั้นหัวเราะเกินจริงเสียยิ่งกว่าต้าไป๋ของบ้านนางในตอนนี้อีก แต่จากวิดีโอไม่ได้บอกนางว่าลาเล่นงานคนได้อีกด้วย!

ภาพฉากในเวลานี้ ก็เหมือนจอมยุทธ์คนหนึ่งที่วางมาดบาตรใหญ่ สู้เอาชนะในสนามรบได้ จากนั้นก็หัวเราะอย่างผู้มีอำนาจค้ำฟ้า

ซ่งอิงสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ สองครั้ง

จึงเป็นอันสงบนิ่งลง

ทุกวันนี้นางจะให้ไก่เป็ดที่มีในบ้านทั้งหมดได้กินหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ผ่านการลดน้ำผ่านจิต แต่หลักๆ แล้วไม่ใช่เพราะอยากให้พวกมันกลายเป็นภูต หากแต่เป็นเพราะกินหญ้าประเภทนั้น จะทำให้ไก่และเป็ดรูปร่างกำยำยิ่งขึ้น

แม่ไก่แก่ของบ้านนาง เป็นไก่ของที่ตระกูลหลี่เอามาชดใช้ให้ เดิมทีเป็นไก่แก่หงอยๆ แต่ตอนนี้อย่างน้อยๆ ก็จะออกไข่ให้วันละหนึ่งฟอง สีสันขนของมันมองดูแล้วค่อนข้างเงางามขึ้นมากด้วย ไก่และเป็ดเหล่านั้นของบ้านนางก็เช่นกัน ดูกระปรี้กระเปร่ามากกว่าของบ้านอื่นๆ ตามบ้านครอบครัวชาวไร่ชาวสวน ไก่เป็ดบางส่วนติดโรคกันบ่อยครั้ง โดยทั่วไปจึงเลี้ยงกันไม่โตไปได้มากสักเท่าใด แต่เป็ดไก่เหล่านี้ของบ้านนางแข็งแรงมาโดยตลอด

ดังนั้นเพื่อยกระดับคุณภาพของสัตว์บ้านนาง นางจึงเปลืองแรงกายใจมากหน่อย

หลังซื้อต้าไป๋มา จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่สะดวกดูแลเป็นพิเศษ

ในทุกๆ วันนอกจากหญ้าแห้งทั่วไปรวมไปถึงฟางและกากถั่วเหลืองแล้ว ก็จะเป็นหัวไชเท้าที่รดน้ำผ่านจิตวันละหัว…

ตอนที่ต้าไป๋เพิ่งมา ถือได้ว่าปกติทั่วไป ดังนั้น…น่าจะเป็นผลจากหัวไชเท้า

แต่ก็คงได้แต่บอกว่า เดิมทีลาตัวนี้ก็ฉลาดอยู่แล้ว ส่วนหัวไชเท้าก็ทำให้มันยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก?

ซ่งอิงประหลาดใจมาก ลาที่ชาญฉลาดเอาไปทำลาหม้อไฟจะยิ่งอร่อยขึ้นหรือไม่ น่าเสียดายที่ประเด็นนี้นางพิสูจน์ไม่ได้ ในเมื่อลาตัวนี้หัวเราะได้ นางกินไม่ลงจริงๆ…

โชคดีที่ลาของบ้านนางวิ่งเร็ว แล้วยังจับขโมยได้อีกด้วย มิเช่นนั้นคงได้เสียแรงที่ซื้อมาจริงๆ…

ซ่งอิงไม่อาจเอาแต่อยู่ในห้องไม่ออกไป ถึงอย่างไรก็จำเป็นต้องจับหัวขโมยทั้งสองคนไปจัดการให้เรียบร้อยจึงจะถูก

ตอนที่ 180 มีภูมิหลังไม่ธรรมดา

ซ่งอิงค่อนข้างกลัดกลุ้มเช่นกัน เตรียมเปิดประตูไปหาหัวหน้าหมู่บ้านรวมไปถึงชาวบ้านที่ลาดตะเวนในหมู่บ้าน แต่เมื่อเท้าเพิ่งก้าวพ้นออกจากห้องไป…

มีศีรษะหนึ่งยื่นเข้ามาจากนอกประตู

ไม่ทันไร บานประตูถูกผลักออก หกคนเดินเข้ามา คนเหล่านี้แต่ละคนสวมใส่ชุดครบองค์ พกดาบยาวติดตัว มองแวบเดียวก็มองออกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการหลวง

“พวกท่าน…มาจับขโมยกันหรือเจ้าคะ” ซ่งอิงขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกประหลาดมาก

คนพวกนี้ มาไวไปหน่อยหรือไม่

หรือว่าสองคนนี้ไม่ได้เป็นเพียงหัวขโมยกระจอก หากแต่เรียกได้ว่าเป็นโจรปล้นตามแม่น้ำและมหาสมุทร? ดังนั้นจึงถูกทหารขุนนางซุ่มจับกุม รอคอยพวกเขาเผยหน้า?!

สมองซ่งอิงปรากฏการก่ออาชญากรรมครั้งประวัติศาสตร์ผุดขึ้นมา

“รบกวนด้วยขอรับ ข้ารออยู่ที่นี่มาเป็นเวลาสามวันแล้ว รู้ว่าคืนนี้พวกเขาจะลงมือ จึงซุ่มโจมตีอยู่นอกเรือน บัดนี้สองคนนี้ลักลอบเข้าเรือนชาวบ้านเพื่อลักขโมย หลักฐานมัดตัว ข้าจะพาตัวคนกลับไปเดี๋ยวนี้ขอรับ” ผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยพูดอย่างสั้นง่ายได้ใจความ จากนั้นก็เตรียมพาตัวคนบนพื้นทั้งสองคนไป

แต่ก็ลำบากใจเล็กน้อยอีก

เพราะสองคนนี้ถูกกีบลากดเอาไว้อยู่

มองแวบเดียวก็รู้ว่าขโมยสองคนนี้ถูกลาเล่นงานจนล้มหมอบ ดังนั้นจะไปยุ่งกับลาตัวนี้คงไม่ง่าย สัตว์ไม่รู้ความ เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา พวกเขาจะฟาดดาบก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวจะกลายเป็นทำลายทรัพย์สินของคนอื่นเขา

แน่นอนละว่า หากชาวบ้านธรรมดาทั่วไปก็ไม่เท่าไร ประเด็นสำคัญคือ…

ท่านผู้นี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเป็นมาอย่างไร นายอำเภอของพวกเขาเอ่ยไว้ว่า เบื้องบนมีคนสั่งการมาโดยเฉพาะ ต้องจับโจรที่ซุ่มซ่อนอยู่รอบๆ แม่นางซ่งให้จงได้!

หลังนายอำเภอรับรู้ ก็เร่งตรวจสอบฐานะตัวตนของคุณหนูซ่งตลอดคืน จึงได้รู้ว่าบิดามารดาผู้ให้กำเนิดคุณหนูซ่งท่านนี้ไม่ธรรมดา และเพิ่งกลับคืนสู่ตระกูลซ่งภูมิลำเนาเดิมแห่งนี้เมื่อหลายเดือนก่อน!

ส่วนที่ว่าก่อนหน้านี้ย้ายไปไหนมา…ในฐานะนายอำเภอ เขายังตรวจสอบไม่ได้ความอะไรเลย!

แต่จะเห็นได้ว่า มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา!

จำเป็นต้องดูแลให้ดี!

“ขอแม่นางช่วยขยับลาตัวนี้ให้หน่อยได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่มือปราบกล่าวอย่างค่อนข้างเกรงใจ

“ต้าไป๋…ยกเท้าออก?” ซ่งอิงอับอายเล็กน้อยเช่นกัน

หากต้าไป๋ไม่เชื่อฟัง เช่นนั้นก็ขายหน้าแย่

ทว่าท่ามกลางแววตาที่แปลกประหลาดของฝูงชน กีบของต้าไป๋ชักหดกลับ จากนั้นเดินกลับคอกไปอย่างเชื่องเป็นพิเศษ! ยังไม่หมดเท่านี้ มันปรี่ไปยังเชือกแล้วพ่นเสียง ‘ฟืดฟาด’ สองสามครั้ง…

ซ่งอิงคล้ายเข้าใจความหมายของมัน เดินเข้าไปนำเชือกผูกไว้ให้ใหม่

ปรากฏว่า ลาต้าไป๋ไม่เคลื่อนไหวแล้ว มองดูไม่ต่างจากลาทั่วไป คล้ายว่าทั้งหมดเมื่อครู่นั้นคือความฝันฉากหนึ่ง

ซ่งอิงงุนงงสับสนเล็กน้อย หัวเราะแห้งเบาๆ ให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ “ลาตัวนี้…ค่อนข้างเชื่องมาก ต้องเป็นเพราะเจ้านายคนก่อนสอนเอาไว้เป็นแน่ ข้านี่โชคดีจริงๆ…”

“ที่แท้ก็เป็น…ลา…ลาชั้นดีนี่เอง!” เจ้าหน้าที่มือปราบประหม่าเล็กน้อย “พวกข้าก็…ขอตัวก่อนละ”

กลางดึกดื่น พวกเขาจะมัวอยู่ที่นี่นานเกินไปไม่ได้

คนกลุ่มเล็กพร้อมม้าพาขโมยทั้งสองจากไป

หัวขโมยกระจอกทั้งสองคนนั้นต่างก็ถูกเตะจนอาเจียน แต่ขณะนี้รู้สึกจิตใจย่ำแย่ยิ่งกว่า

ซวยเกินไปแล้ว!

อุตส่าห์ลำบากเช่าม้า ตอนมาเพื่อไล่ตามลาก็เหนื่อยแทบแย่ สองคืนก่อนเอนกายนอนอยู่บนเขาไม่กล้าลงมา พอคืนนี้ลงมา ใครจะรู้ว่าโผล่หน้าออกมาไม่ทันไร นอกจากขโมยลาไม่สำเร็จ ยังถูกลาเตะอีกด้วย!

หากไม่ใช่เพราะทหารหลวงมาทันเวลา พวกเขาทั้งสองตอนนี้ก็คงยังนอนอยู่ใต้กีบลา!

น่าอับอายขายหน้าจริง!

บรรพบุรุษคงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไหนแล้ว!

หลี่จิ้นเป่าถูกเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันของบิดามารดากลางดึกดื่นปลุกจนนอนไม่หลับ จึงเดินมาสูดอากาศหน้าประตูบ้าน ก็มองเห็นชายหลายคนเดินออกมาจากในบ้านซ่งอิง

เดินลัดเลาะไปทางอ้อมอย่างลับๆ ล่อๆ

เขามองไม่ชัดเจนเช่นกัน เพียงแต่คิดว่าอย่างน้อยๆ ก็มีเจ็ดแปดคน รวมตัวอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ต่อให้มองเพียงแวบเดียว ก็มองออกว่านั่นเป็นกลุ่มบุรุษ

ทันใดนั้น ความโกรธเกรี้ยวก็พลุ่งพล่าน

ซ่งอิงริอ่านแอบสานสัมพันธ์กับผู้ชาย!