ตอนที่ 120 แม้แต่หมียังสั่งหยุด

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

120 ถูกหยุดโดยพนักงานโรงแรม

 

เมื่อมาถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุชก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว

ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการเดิม

 

เรือความเร็วสูงที่พ่อค้าทอร์คจัดหาให้นั้นเร็วกว่าที่คาดไว้  ดังนั้นควรจะมาถึงก่อนกำหนดการ

แต่เนื่องจากการเผชิญหน้ากับสกายสควิดจึงเป็นผลทำให้มายืนอยู่ตรงนี้ตามแผนกำหนดการเดิม

 

ฉันคิดว่าน่าจะได้เวลาว่างสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้

ดังนั้น ทุกอย่างจึงเป็นไปตามแผนเดิม สำหรับวันนี้จะไม่มีการเดินชมเมือง หรือสำรวจเกาะลอยฟ้า ฉันจึงตัดสินใจใช้เวลาอย่างเงียบ ๆ ที่โรงแรม

 

ครั้งนี้ ฉันได้รับเชิญอย่างเป็นทางการจาก ฮิเอโร่・อาร์ตัวร์ เจ้าชายลำดับที่สองแห่งอาณาจักรอาร์ตัวร์ ดังนั้นจึงได้พักในโรงแรมหรู

ตอนแรกฉันตั้งใจที่จะจ่ายค่าที่พักที่นี่เอง แต่ด้วยความห่วงใยจากฝ่ายเจ้าชายที่บอกว่า「เราเป็นผู้ที่อยากจะพบกับเนีย・ลิสตันมาตลอด เช่นนั้นจงอย่าได้กังวลไปเลย」พร้อมแนบบิลโรงแรมมาที่อีกด้าน เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นเพคะ

 

มีเหตุการณ์เบื้องหลังแบบนั้นอยู่ และต่อให้ไม่มีมุมมองจากฝั่งเจ้าชายก็ไม่มีเหตุผลที่จะพักโรงแรมราคาถูก ฉันควรจะพักอยู่ในโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงและหรูหรามีเกียรติ แม้แต่ในจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุช

 

“อาโน๊ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ……?”

 

ยังไงก็ตาม ฉันถูกหยุดไว้ เพราะสง่างามเกินไป

พูดให้ถูกต้องคือ กลิ่นคาวที่ยังฝังแน่น

 

――ในตอนนี้ ควรมีการสื่อสารไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด แต่เนื่องจากเป็นการเยือนแบบไม่เปิดเผยตัวตน จึงตัดสินใจไม่เอ่ยชื่อของเนีย・ลิสตันแม้แต่ที่โรงแรม

 

ท้ายที่สุดแล้ว ฉันได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ติดตาม ข้ารับใช้ และลูกศิษย์ของนักผจญภัยริโนะ

 

ทั้งฉันและริโนกิสดูไม่เหมาะกับโรงแรมหรู ๆ เพราะรูปร่างหน้าตาของพวกเรา

แต่ เนื่องจากเป็นการจองโดยใช้ชื่อของเจ้าชาย ผู้จัดการโรงแรมรุ่นเก๋าที่แผนกต้อนรับจึงทำหน้าที่ต้อนรับโดยไม่แสดงสีหน้ารังเกียจ――ถึงดูเหมือนกลิ่นจะไม่ดีสุด ๆ

 

“ระหว่างทางพวกเราเจอเข้ากับสกายฟิชและเข้าต่อสู้ด้วย เด็กคนนี้ติดกลิ่นมาต่อที่โดนสัมผัส”

 

ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะเชื่อคำพูดของริโนกิส นักผจญภัยริโนะหรือไม่ แต่

 

“ทางเราต้องขออภัยจริง ๆ แต่หากเธอไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทางเราก็ไม่สามารถให้บริการภายในโรงแรมของเราได้……”

 

เขาพูดด้วยสีหน้าขอโทษจริงจิง พูดง่าย ๆ คือ เขาไม่สนว่าเหตุผลจะคืออะไร แค่หาทางทำอะไรสักอย่างกับกลิ่นซะ

 

ม๊า ฉันคิดว่าเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ

คิดว่าพวกเขาใจดีแค่ไหนที่ไม่เตะฉันออกไปตั้งแต่แรก

 

……ว่าไปแล้ว ตอนนี้ฉันชินกับกลิ่นไปแล้ แต่ก็น่าสงสัยว่าคนรอบตัวจะได้กลิ่นแรงแค่ไหนกัน

 

“ทางเรามีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนอยู่ ทว่าช่วยกรุณาเตรียมอ่างอาบน้ำให้พวกเราได้ไหมคะ?”

 

“แน่นอน”

 

ผู้จัดการโรงแรมกดกริ่งเรียกพนักงานหญิง

 

“――กรุณาพอเธอคนนี้ไปอาบน้ำที”

 

“――เข้าใจแล้วค่ะ”

 

จากนี่ดูเหมือนว่าฉันจะต้องตามเธอไป

 

“อะ ถ้าอาบน้ำ ฉันจะไปด้วย”

 

ฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ดังนั้นฉันดีใจที่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน ฉันกระแทกต้นขาของริโนกิสที่กำลังพูดเรื่องไร้สาระเหมือนพึ่งตื่นนอนอย่างแรงเพื่อปิดปาก

 

“รอรอบต่อไป เข้าใจไหม?”

 

“……ค่ะ?”

 

จริง ๆ เลย อย่าทำตัวน่าอายทันทีที่มาถึงต่างแดนสิ

 

 

 

ฉันถูกพาไปยังห้องอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่สำหรับพนักงาน

 

“――คุณหนูน้อยมาจากที่ไหนเหรอจ๊ะ?”

 

“――มาจากอาณาจักรอาร์ตัวร์ค่ะ พึ่งมาถึงเลย”

 

ขณะที่พูดคุยกับพนักงานหญิงที่ดูเหมือนจะตัดสินใจแล้วว่าเธอไม่สามารถปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวได้เนื่องจากอายุของฉัน เธอช่วยล้างร่างกายของฉันสองครั้ง ก่อนค่อย ๆ แช่ตัวในน้ำร้อนจนรู้สึกสดชื่นในที่สุด

 

ฉันเช็ดเมือกส่วนใหญ่ออกบนเรือความเร็วสูง แต่ก็ยังเช็ดออกได้ไม่หมด และผมของฉันก็เหนียวเหนอะหนะ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะถูกชะล้างออกไปพร้อมกับกลิ่นจนหมดแล้ว

 

ฉันเปลี่ยนเป็นชุดฝึกตัวใหม่ แล้วขอให้คนที่พามาช่วยส่งไปซักรีดให้หน่อย

 

หลังจากกลับมาที่ล็อบบี้และได้รับการตรวจโดยผู้จัดการโรงแรมที่รับรองฉันที่เคาน์เตอร์ก่อนหน้านี้ ในที่สุดฉันก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องได้

 

ขุนนาง……สำหรับประเทศนี้จะถูกเรียกว่าผู้ดี แต่ในห้องสำหรับขุนนาง ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถอยู่กับคนรับใช้ของคุณเองได้

นอกจากความหรูหราของห้องพักแล้ว ที่เหลือก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับหอพักของโรงเรียน

 

“ว่าแล้วแบบนี้เหมาะกับดิฉันมากกว่า”

 

ริโนกิสที่รอยู่ในห้องกลับมาสวมชุดสาวใช้ที่คุ้นเคย และชงชาไว้ให้พร้อมในทันที

 

“เปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่จากนี้จะไปทานอาหารค่ำงั้นเหรอ?”

 

“ดิฉันทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าในพริบตาค่ะ เพราะไม่ต้องเตรียมพร้อมรบในโรงแรมให้ยุ่งยากแหละค่ะ”

 

อ้า ทว่าการสวมใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ของนักผจญภัยก็ยุ่งยากต่างกันแล้ว

 

ฉันค่อย ๆ ดื่มชาและยืนยันแผนการของตัวเองในอนาคต

 

“พวกเราจะไปที่เกาะลอยฟ้าตอนเช้าวันพรุ่งนี้”

 

อืม

เนื่องจากระยะเวลาการเข้าพักผกผันกับวันหยุดฤดูหนาว จึงไม่มีทางขยายได้ จากนี้ฉันอยากเคลื่อนไหวให้ได้ตามกำหนดการให้ได้มากที่สุด

 

เป้าหมายคือ สามร้อยล้านครัม

หรืออย่างน้อยก็ต้องทำให้ได้สักหนึ่งร้อนล้าน

 

“การเตรียมเรือเหาะ บริษัทเซโดนีจะเป็นผู้ดูแลทุกอย่างให้เองค่ะ พวกเราเพียงแค่ไปที่ท่าเรือเหาะและออกล่าสัตว์อสูร บริษัทเซโดนีจะดูแลการแลกเปลี่ยนซากสัตว์อสูรที่ถูกฆ่าเป็นเงินให้ด้วยเช่นกัน”

 

“ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเลยน๊า”

 

“ม๊า ก็เป็นงานของทางล่ะนะคะ แถมมีค่าธรรมเนียมด้วย ดังนั้นดิฉันคิดว่าไม่ต้องใส่ใจมากก็ได้ค่ะ”

 

ถึงกระนั้น ฉันก็ยังคิดว่ากำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษ พวกเขาทั้งเตรียมเรือความเร็วสูง และดูเหมือนจะดูแลแม้แต่ฉันเป็นอย่างดี

ฉันคิดว่าแค่เพียงให้เงินกู้เล็กน้อยแก่พ่อค้าก็ดีพอแล้ว แต่ ……ม๊า นี่น่าเป็นวิธีคิดแบบเก่า

 

“แล้วจะได้เข้าพบเจ้าชายเมื่อไหร่เหรอ?”

 

“ดิฉันได้แจ้งวันและเวลาที่คุณหนูมาถึงแล้วค่ะ แต่ทางนั้นบอกกลับมาว่ากำหนดการยังไม่ได้รับการตัดสินใจ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีข้อความใด ๆ อีก ดังนั้นดิฉันคิดว่าพวกเราทำได้แต่รอการติดต่อจากอีกฝ่ายเท่านั้น”

 

งั้นเหรอ ยังไม่ได้ตัดสินใจสินะ

คงจะเป็นเรื่องน่ารำคาญหากเขามาขัดจังหวะตารางงานของฉันโดยไม่ตั้งใจ แต่……ม๊า ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ อีกฝ่ายมาที่ประเทศแห่งนี้ เพราะเมจิกวิชั่น ซึ่งไม่ใช่ว่าจะไม่เกี่ยวกับฉัน

 

…………

 

แต่ว่าฉันดันมีลางสังหรณ์

 

“น่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันมากมายเกิดขึ้นกับเจ้าชายล่ะน๊า”

 

“คุณหนู”

 

หืม?

 

“เวลาพูดแบบนั้นทีไร จะกลายเป็นจริงเสมอเลยนะคะ”

 

โห๊ว เป็นทฤษฏีที่เรียกว่าพลังแห่งคำพูดสินะ

 

……นั่นสินะ

พอโดนบอกแบบนั้น อาจจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้

 

ถ้าเป็นไปได้ฉันขอแค่ได้พบเจ้าชายและแยกกันตามที่วางแผนไว้

 

 

 

――ม๊า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันพูดไปหรือเปล่า แต่ลางสังหรณ์ของฉันก็กลายเป็นจริง