เอลล่ากัดฟันด้วยความโกรธหลังจากได้ยินคำพูดของผม ความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอเคยมีให้ผมหายไปหมดแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำและพูดขึ้นมาด้วยท่าทางหยิ่งยโส
“ฉันสงสัยว่านายจะเป็น ‘ผู้เล่น’ ได้ยังไงในเมื่อนายไม่มีโอกาสได้รับแหวนด้วยซ้ำ?”
ในสถาบันการศึกษานี้เว้นแต่ว่าคุณจะมีแหวน คุณจะไม่สามารถสร้างกลุ่มขึ้นมาเองได้ แหวนไม่เพียงแต่จะทำให้คุณเป็นผู้สมัครเท่านั้น แต่ยังให้อำนาจคุณในสถาบันนี้ด้วย มันจะเป็นตัวแสดงว่าคุณเป็นชนชั้นสูงท่ามกลางชนชั้นสูง
ในเวลานั้นเองที่มี 2 สาวเดินมาหาผม
“ท่านออสติน!!”
ทั้งคู่ตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่น
พอผมหันหัวกลับไปมองก็พบเข้ากับเด็กสาวเผ่าจิ้งจอกสองคนที่กำลังเดินมา ทั้งริกะและมิกะเติบโตมาดีทีเดียว ริกะมีผมสีขาวมัดเป็นหางม้า มีส่วนสูงปานกลาง ใบหน้าสวยงาม ทรัพย์สินระดับปานกลางของเธอถูกปกปิดไว้ด้วยชุดของเธอ ในขณะที่หางสีขาวของเธอแกว่งไปมาด้วยความตื่นเต้น
ส่วนมิกะก็สูงพอๆ กับริกะ มีใบหน้าที่สวยเหมือนกัน แต่ต่างจากมิกะตรงที่เธอไว้ผมทรงบ็อบทำให้ดูเท่ หางสีดำของเธอเองก็แหว่งไปมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้เจอผมเช่นกัน
พอเห็นพวกเธอเดินเข้ามาผมก็ยิ้ม
“ไง! มิกะ ริกะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คิดถึงฉันไหม?”
“ค่า! นายท่าน ฉันคิดถึงท่าน!”
“ฉันก็คิดถึงนายท่านเหมือนกัน∼∼”
มิกะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งซึ่งแฝงไว้ด้วยความสุข ในขณะที่ริกะพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน รูม่านตาสีขาวของริกะและรูม่านตาสีดำของมิกะต่างมองผมขึ้นลงด้วยความสุขที่ได้พบเจ้านายหรือคนรักของพวกเธอหลังจากที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน พวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองเขามากขึ้น
เมื่อได้ยินคำตอบของพวกเธอ ผมก็ส่ายหัว ริกะขี้อายคนก่อนหน้านี้ไม่มีอยู่แล้ว แถมผมก็สามารถบอกได้เลยว่าพวกเธอแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
‘ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเติบโตมาได้ดี’
“ไม่เอาหน่าทั้ง 2 คน นี่มันโรงเรียนนะ เรียกฉันด้วยชื่อเฉยๆ ก็ได้”
เมื่อได้ยินเสียงอันขมขื่นของผม ทั้ง 2 สาวก็มองหน้ากันก่อนที่จะตอบกลับด้วยพลังที่มากขึ้นเล็กน้อย
“ค่ะออสติน”
“ได้เลยออสติน∼∼”
ผมส่ายหัวอีกครั้งก่อนที่จะหัวเราะ
หลังจากทักทายผมเสร็จแล้ว พวกริกะก็มองไปยังคลาร่าก่อนจะเข้าไปทักทายเธอและเริ่มพูดคุยกับเธอ คอนนี้แขนของผมส่วนใหญ่หายดีแล้วพร้อมกับที่ความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลง
“งี้นี่เอง? ความมั่นใจของนายเป็นเพราะพวกเธอสินะ? ฉันยอมรับว่า 2 คนนี้แข็งแกร่งและอยู่อันดับสูงในกระดานด้านการต่อสู้ แต่แค่ 2 คนนั้นไม่พอสำหรับความอวดดีของนายหรอกนะ”
เอลล่าพูดในขณะที่ซ่อนความประหลาดใจเล็กน้อยของเธอเอาไว้ เนื่องจากที่สาวๆ 2 คนนี้ค่อนข้างดังในสถาบัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหน้าตาเลย ความแข็งแกร่งของพวกเธอไม่มีอะไรให้ดูถูกเลย ลำพังแค่พวกเธอคนใดคนหนึ่งก็เก่งแล้ว แต่ถ้าต้องสู้กับพวกเธอพร้อมกันหล่ะก็จะน่าปวดหัวยิ่งกว่าเดิม
เป็นที่ทราบกันดีว่าการต่อสู้ของเด็กสาวทั้ง 2 นั้นเหมือนกับการต่อสู้เป็นกลุ่ม การประสานงานของทั้งคู่นั้นไร้ที่ติ มิกะเป็นนักสู้ระยะประชิด ในขณะที่ริกะเป็นจอมเวทย์น้ำระยะไกล ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งคู่ยังมีเพลทร่วมกันซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก
หมายความว่าทั้งคู่มีเพลทเดียวกันหรืออีกนัยหนึ่งคือถ้าคนใดคนหนึ่งแข็งแกร่งขึ้น อีกคนก็จะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน! ทั้ง 2 คนเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเธอได้รับความสนใจเป็นพิเศษในตอนที่พวกเธอขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของกระดานในระดับชั้นของพวกเธอและอยู่ใน 300 อันดับแรกของทั้งสถาบัน
สถาบันบาบิโลนมีกระดานจัดอันดับสำหรับแต่ละสาย มีกระดานจัดอันดับสำหรับผู้ที่มีพลังการต่อสู้มากที่สุด แม้ว่าจะแบ่งออกเป็นหลายสาย แต่ก็มีการแบ่งกระดานตามปีและอีกกระดานหนึ่งตามทั้งสถาบัน เราสามารถปีนขึ้นไปให้สูงขึ้นได้โดยการท้าทายผู้ที่อยู่ด้านบน
ไม่เพียงแต่ด้านการต่อสู้เท่านั้น ที่สถาบันยังมีการจัดอันดับทางด้านวิชาการ, ความเป็นผู้นำทางทหาร, แม่มดที่ดีที่สุดและอื่น ๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าผู้ที่อยู่ในการจัดอันดับนั้นจะได้รับผลประโยชน์เช่นกัน แต่ในปีที่ 5 แทบจะไม่มีใครเลยที่จะติด 300 อันดับแรกได้ แม้แต่ตัวแทนจากเผ่าหมาป่ายังมาขอให้มิกะและริกะเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยเลย
แต่พวกเธอก็ปฏิเสธพวกเขาไปอย่างไม่ใยดีโดยการบอกว่ามีคนที่พวกเธอต้องการรับใช้อยู่แล้ว
‘ฉันคิดว่าพวกเธอทำแบบนั้นเพราะเป็นหนี้บุญคุณ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว…’
จิตใจของเอลล่าเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสายตาชื่นชมและมีความสุขของสาวๆ
เอลล่าเข้าใจได้ว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปแล้ว ขณะที่เอลล่าคิดว่าผมไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ ทำให้เธอรู้สึกเดือดดาลอยู่ข้างใน
ผมมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา
“พวกนั้นมาสายนะ”
‘มาสาย?’
ไม่ใช่แค่เอลล่าเท่านั้น สาวๆ ที่เหลือเองก็ดูสับสนเช่นกัน แต่ในไม่ช้าพวกเธอก็ได้ยินคำตอบของคำถาม ภายในไม่กี่วินาทีก็มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งมาถึงสเตเดี้ยม โดยที่แต่ละคนต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น
“บอส!”
เด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่เทอทะวิ่งเข้ามาหาผม เขามีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีเขียว แม้ว่าเขาจะยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่เขาดูเหมือนกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วยร่างกายกล้ามปูและโครงร่างที่ใหญ่โต ใบหน้าของเขาค่อนข้างดูดี เจค็อบ มิลเลอร์ อยู่ในอันดับท็อป 10 ของระดับชั้นของเขาและอยู่ใน 100 อันดับแรกของทั้งสถาบัน
เขามีชื่อเล่นว่า ‘โล่สูงตระหง่าน’ เขาเข้าสถาบันนี้ในนามของนักเรียนทุน หลังจากนั้นเขาก็มีชื่อเสียงขึ้นมาเนื่องจากพลังและลักษณะนิสัยที่แข็งแกร่งของเขา ครั้งหนึ่งเจ้าชายแห่งอาณาจักรโรซาลินต่อสู้กับเขาด้วยพละกำลังอันบริสุทธิ์และพ่ายแพ้ไป เจค็อบถูกถามด้วยซ้ำว่าเขาอยากเป็นพี่น้องของเจ้าชายหรือไม่ หลังจากนั้นก็มีอีกหลายคนต้องการรับเขาไปอยู่ด้วย…แต่เขากลับไม่ยอมรับข้อเสนอของใครเลย (Chapter 51)
“ท่านลอร์ด!”
เด็กหนุ่มอีกคนที่วิ่งมาหาผมตะโกนขึ้นมา เขาคือปีศาจที่มีผมสีดำและตาสีแดงพร้อมกับผิวสีแดง มีเขาที่หน้าผาก หน้าตาหล่อเหลาเล็กน้อยพร้อมกับความเย็นชาบนใบหน้า…อาม่อน อัซเลดเซ่ ปีศาจที่สั่นคลอนสถาบันการด้วยผลงานของเขา
เขาเองก็เข้าร่วมสถาบันโดยใช้โควต้าของนักเรียนทุนเช่นกัน ในตอนที่เขาเข้ามาใหม่ๆ มีหลายคนที่ดูถูกเขาเนื่องจากเขามีปีกเพียงแค่ปีกเดียว อาม่อนถูกจัดอยู่ในกลุ่มปีศาจประเภทเซนเดอเรี่ยนซึ่งนับถือปีกเป็นที่สุด แม้ว่าไม่ใช่ปีศาจทุกคนจะมีปีกก็ตาม
สำหรับเซนเดอเรี่ยนแล้วไม่มีอะไรน่าขายหน้าไปกว่าการเสียปีกข้างหนึ่งไปแล้ว ส่วนใหญ่พวกเขามักจะฆ่าตัวตายกัน โดยพื้นฐานแล้วชาวเซนเดอเรี่ยนที่มีปีกข้างเดียวถือเป็นคนพิการ แต่อาม่อนได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาคิดผิด
ปีศาจหลายคนได้เข้ามาท้าทายเขา แต่อาม่อนก็สู้และเอาชนะพวกเขามาได้ด้วยปีกเพียงข้างเดียวของตัวเอง อาม่อนได้พัฒนารูปแบบการต่อสู้นอกรีตด้วยปีกของเขา ทำให้ทุกคนที่ท้าทายเขาพ่ายแพ้ไป อาม่อน อัซเลดเซ่ ติด 10 อันดับแรกของชั้นปีและอยู่ใน 100 อันดับแรกของสถาบัน ถือเป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์สำหรับเขาที่มีอายุเพียง 19 ปี
มีหลายร้อยคนที่อยากสนับสนุนอาม่อนแต่เขาก็ปฏิเสธทุกคน เขามักพูดเสมอว่า ‘ข้ามีคนที่อยากรับใช้อยู่แล้ว’ ตอนนี้มีนักเรียนเริ่มเข้ามาหาออสตินมากขึ้นเรื่อยๆ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต