ตอนที่ 128 เป็นคนโหดเหี้ยม

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 128 เป็นคนโหดเหี้ยม

เถาฮองเฮาผิดหวังอย่างมาก จนกระทั่งโกรธเพราะความอับอาย นางโบกมือขับไล่เซียวเฉิงเหวินออกจากตำหนักเว่ยยาง

โอรสคนโตนอกจากร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว ยังไม่สนิทกับนางอีก คำพูดของเขาสามารถทำให้คนโกรธจนตายได้

นางไม่ชอบโอรสคนโตนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

เซียวเฉิงเหวินลุกขึ้น พลันโน้มตัวเล็กน้อย “เสด็จแม่โปรดทรงรักษาพระวรกาย กระหม่อมทูลลา!”

เขาหันหลังจากไป

เถาฮองเฮาพูดตามหลังเขา “เจ้ามันคนไร้หัวใจ!”

เซียวเฉิงเหวินชะงักฝีเท้า น้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุดต่อเสด็จแม่ เสด็จแม่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตอยู่อย่างดีอย่างนั้นหรือ หรือเสด็จแม่ไม่ทรงชอบฟังความจริง”

“พูดอย่างไรเจ้าก็มีเหตุผล เจ้าไปเถิด!”

“กระหม่อมน้อบรับคำสั่ง!”

เซียวเฉิงเหวินไม่อยู่รออีกต่อไป เขาเดินออกจากตำหนักเว่ยยางช้าๆ

เถาฮองเฮานั่งนิ่งด้วยความหดหู่

เหมาเส้าเจี้ยนปลอบนาง “ฮองเฮาโปรดทรงระงับความโกรธ! องค์ชายสองมีนิสัยเช่นนี้แต่เด็ก พระองค์ไม่จำเป็นต้องทรงโกรธกับเขา”

เถาฮองเฮาหัวเราะขึ้นมา “ข้าไม่ได้โกรธเขา ถึงแม้สิ่งที่เขาพูดจะไม่น่าฟัง แต่มันเป็นความจริงทั้งหมด หากวันหนึ่ง ตัวของข้าตายไป เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ย่อมเป็นการตอบแทนข้า เขาสามารถอยู่ดูว่าแผ่นดินนี้จะกลายเป็นอย่างไรแทนข้า ปลอบประโลมวิญญาณของข้าที่อยู่บนฟ้า ข้าย่อมสามารถตายตาหลับ”

เหมาเส้าเจี้ยนตกใจอย่างมาก

“ฮองเฮาโปรดทรงระวังคำพูด! พระองค์หยุดตรัสเรื่องความตายเสียเถิด อัปมงคล”

เถาฮองเฮากลับพูด “ข้าก็ไม่เชื่อ ทั้งชีวิตของข้าล้วนต้องดิ้นรน ความเป็นความตายไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว หากวันหนึ่ง ข้าจำเป็นต้องตาย ข้าก็สามารถยอมรับได้”

เหมาเส้าเจี้ยนร้องไห้ “ฮองเฮา เรื่องยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังมีพื้นที่ในการพลิกผันพ่ะย่ะค่ะ! ฮองเฮาต้องทรงเข้มแข็ง อย่าได้ยอมแพ้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

เถาฮองเฮากัดฟัน ยิ้มอย่างใจเย็น “เจ้าวางใจ ข้าไม่ได้ยอมแพ้ ข้าไม่มีวันยอมแพ้ ข้าจะดิ้นรนต่อไป คิดจะเอาหัวของข้าไม่ใช่เรื่องง่าย”

หลายวันต่อมา

นอกวังหลวง ตระกูลเจี่ยปรากฏมือสังหารกลืนพิษปลิดชีพ

ราชสำนักแตกตื่น

มือสังหารกลืนพิษปลิดชีพในเหตุการณ์ ไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย

แต่ทุกคนต่างรู้ดี มือสังหารย่อมมาจากตระกูลเถา

ตระกูลเถาใช้มือสังหารลอบสังหารอย่างเหี้ยมหาญ ทำให้คนเกลียดชังอย่างมาก อย่าหาว่าผู้คนในแผ่นดินทวงความยุติธรรม

ในเวลาหนึ่ง ฎีการ้องเรียนตระกูลเถาลอยเข้าวังหลวงราวกับเกล็ดหิมะ

ฮ่องเต้หย่งไท่รับฎีการ้องเรียกทุกฉบับเอาไว้แต่ไม่ทำสิ่งใด

ความเงียบเป็นการแสดงจุดยืน

เรื่องนับวันยิ่งรุนแรงขึ้น

เวลานี้ เถาฮองเฮาล้มป่วยเพราะถูกวางพิษ

ขุนนางราชสำนักตกตะลึง

เจี่ยซูเฟยส่งคนวางยาเถาฮองเฮา?

ช่างน่าตกตะลึงเสียจริง

เจี่ยซูเฟยร้องบอกว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง “ไม่ใช่ข้า ข้าไม่ได้ทำอันใดเลย! หลายวันนี้ ข้าล้วนหลบเลี่ยงฮองเฮา ข้ากำชับนางในข้างตัวเอาไว้ก่อนหน้า ไม่ให้พวกเขาเดินทางไปตำหนักเว่ยยาง ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงต้องพิษ ไม่ใช่ฝีมือของหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ!”

เจี่ยซูเฟยทั้งกลัวทั้งตื่นตระหนกทั้งแค้น

นางไม่ได้ส่งคนไปวางยาพิษจริงๆ ผู้ใดจะคิดว่าเถาฮองเฮาจะโหดเหี้ยมจนวางยาให้ตนเอง เพียงเพื่อใส่ร้ายนาง

นางร้องไห้จนเหนื่อยหอบ

รู้สึกว่าคราวนี้นางต้องตายเพราะเถาฮองเฮาเสียแล้ว

ฮ่องเต้หย่งไท้ทรงโกรธจัด รับสั่งให้ซุนปังเหนียนตรวจสอบ

ซุนปังเหนียน ซุนกงกงนำขุนนางฝ่ายในจำนวนหนึ่งพลิกค้นวังหลังทั้งหมด ก่อนจะจับคนนับร้อยมาได้

ตำหนักฉางชุนที่เจี่ยซูเฟยประทับอยู่นั้นเป็นพื้นที่ตรวจสอบเข้มงวด

เป็นไปตามคาด พบผู้ต้องสงสัยหลายรายในตำหนักฉางชุน

ตามคำให้การของนางใน เจี่ยซูเฟยมักก่นด่าเถาฮองเฮาลับหลัง สาปแช่งเถาฮองเฮา หวังให้เถาฮองเฮาตายเร็วหน่อย

โดยเฉพาะหลังจากที่ตระกูลเถาถูกมือสังหารลอบสังหาร เจี่ยซูเฟยก็พูดหลุดปากนับหลายครั้ง จะใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำให้เถาฮองเฮาตาย

คำพูดของนางในไม่เป็นประโยชน์ต่อเจี่ยซูเฟยอย่างมาก

โดยเฉพาะคำพูดที่มีจริงมีเท็จแบบนี้ ทำให้คนยากที่จะแก้ตัว

เจี่ยซูเฟยไม่เคยคิดว่าเถาฮองเฮาจะซื้อตัวคนข้างกายนางเอาไว้ด้วย

นางร้องทุกข์ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเคยว่าร้ายฮองเฮาจริง แต่หม่อมฉันไม่ได้ส่งคนไปวางยาฮองเฮาอย่างแน่นอน นางในพวกนั้นย่อมต้องถูกคนซื้อตัว ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณา หม่อมฉันได้รับความไม่เป็นธรรมจริง!”

“ไม่เป็นธรรมหรือไม่ ข้าย่อมจะสืบให้กระจ่าง”

ฮ่องเต้หย่งไท่ทรงโกรธ รับสั่งให้ปิดตำหนักฉางชุน

ก่อนที่เรื่องจะสืบให้กระจ่าง เจี่ยซูเฟยไม่อาจออกจากตำหนักได้แม้แต่ก้าวเดียว

ห้ามผู้ใดเยี่ยมเยือนเจี่ยซูเฟย

จบแล้ว! จบแล้ว!

เจี่ยซูเฟยอยากจะร้องไห้

นางล้มลงบนพื้น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความแค้น “เถาฮองเฮา ท่านช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน!”

นางแค้นตนเองที่ไม่อาจเทียบความโหดเหี้ยมกับเถาฮองเฮาได้

กล้าวางยาพิษตนเองล้วนเป็นคนโหดเหี้ยม

เถาฮองเฮาโหดต่อศัตรู แต่โหดกับตัวเองยิ่งกว่า

เจี่ยซูเฟยถูกคุมขัง ตระกูลเจี่ยได้รับผลกระทบรุนแรง

ตระกูลเถาใช้โอกาสจู่โจมต่อ

เหมือนดั่งที่ว่าสมควรไล่ล่าศัตรูที่พ่ายแพ้อย่างไม่ละความพยายาม

ตีงูไม่ตาย ย่อมต้องถูกแว้งกัด

อาศัยเวลาที่เกิดโรคเอาชีวิตย่อมเป็นธรรมชาติของบุรุษ

ตำหนักเว่ยยาง

เถาฮองเฮาต้องพิษ ชีวิตอยู่วิกฤต

ฮ่องเต้หย่งไท่ทรงร้องไห้ด้วยความเสียใจ

เขาจับมือของเถาฮองเฮาแน่น “ข้าจะทวงคืนความยุติธรรมแทนฮองเฮา! ไม่ว่าผู้ใดที่บังอาจทำร้ายฮองเฮา ข้าจะให้นางไม่ได้ตายดี”

อีกทั้งยังรับสั่งให้หมอหลวงช่วยชีวิตของเถาฮองเฮาอย่างสุดความสามารถ

หมอหลวงหวาดกลัวอย่างมาก

องค์หญิงติ้งเถาร้องไห้อยู่ข้างเตียง

“เสด็จแม่ พระองค์อย่าทรงทิ้งข้านะเพคะ!”

เสียงร้องของติ้งเถาทำให้ฮ่องเต้หย่งไท่หวั่นไหว

ฮ่องเต้หย่งไท่อ้าปากถอนหายใจ ลุกขึ้นออกจากตำหนักเว่ยยาง

ติ้งเถาร้องไห้จนเหนื่อยหอบ สุดท้ายก็สลบไป

องค์ชายสอง เซียวเฉิงเหวินโบกมือ “พยุงองค์หญิงติ้งเถาลงไปพักที่ตำหนักด้านข้าง”

“เพคะ!” นางในรับคำสั่ง

ต่อมา เซียวเฉิงเหวินเชิญให้บรรดาหมอหลวงออกไปหารือแผนการด้านนอก

ภายในตำหนักเหลือเพียงแม่ลูกสองคน

เซียวเฉิงเหวินหยิบขวดลายครามออกมา ดึงจุกไม้ออก ยื่นขวดเข้าใกล้จมูกของเถาฮองเฮา

“เสด็จแม่ ถึงเวลาตื่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

หลังสิ้นเสียง เถาฮองเฮาตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหันภายในการกระตุ้นของยา

นางเหนื่อยล้าอย่างมาก เกิดความสับสนไปชั่วขณะ

แต่ว่าไม่นาน นางก็ตื่นขึ้นมา

“เรื่องเป็นอย่างไรแล้ว” เถาฮองเฮาเป็นกังวลความคืบหน้าอย่างมาก

นางใช่ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ นางไม่อนุญาตให้ล้มเหลม

เซียวเฉิงเหวินพูดเสียงเบา “เสด็จแม่ทรงวางพระทัย เรื่องอยู่ในการควบคุม เจี่ยซูเฟยและตระกูลเจี่ยใกล้จะล่มแล้ว”

เถาฮองเฮากลับส่ายหน้า “ไม่พอ! ต้องทำให้ตระกูลเจี่ยสิ้นซากให้ได้ ให้พวกเขาไม่มีโอกาสพลิกตัวได้อีก”

เซียวเฉิงเหวินพยักหน้า “ข้าเข้าใจ! พิษของเสด็จแม่ถึงเวลาต้องถอนแล้ว มิฉะนั้นจะเป็นผลร้ายต่อร่างกาย”

เถาฮองเฮารับปาก “ทำตามที่เจ้าบอก จะไม่ทำให้เสด็จพ่อของเจ้าสงสัยใช่หรือไม่!”

“เสด็จพ่อทรงสงสัยหรือไม่นั้นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือพวกเราต้องให้เหตุผลที่เพียงพอแก่เสด็จพ่อในการจัดการกับตระกูลเจี่ย”

เถาฮองเฮาขมวดคิ้ว

นางใช้กลยุทธ์สุ่มเสี่ยง อีกทั้งดึงโอรสคนโตเข้ามาในสงครามวังหลวงคราวนี้เพราะสถานการณ์อันตรายเกินไป นางจำเป็นต้องเริ่มจู่โจมกลับ

นางต้องมอบการจู่โจมที่รุนแรงและถึงแก่ชีวิตให้ศัตรู

เรื่องสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่นางกลับไม่รู้สึกดีใจ

ยี่สิบปีที่ผ่านมาของนาง ร่ำรวยมั่งคั่ง เรียกลมสั่งฝน ทำสิ่งใดตามใจ

แต่เวลานี้กลับจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ชั้นต่ำจึงจะทำให้ศัตรูตายได้

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของนางไม่ดีนัก

นางเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่จิตใจของนางกลับกระปรี้กระเปร่า

เซียวเฉิงเหวินกระแอมไอเสียงเบา “เสด็จแม่ทรงนอนลงเถิด ข้าจะชี้นำหมอหลวงเริ่มถอนพิษให้เสด็จแม่”

เถาฮองเฮานอนลงอย่างเหนื่อยล้า หลับตาลงอย่างช้าๆ “พวกเราแพ้ไม่ได้!”

“ย่อมไม่มีทางแพ้!” เซียวเฉิงเหวินพูดเสริม

เถาฮองเฮาลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน “เจ้าก็ต้องรักษาตัว!”

“ข้าย่อมจะรักษาตัว!”

หลายวันต่อมา อาการของเถาฮองเฮารุนแรงยิ่งขึ้น

แต่แล้วทุกครั้ง เหล่าหมอหลวงล้วนสามารถดึงคนกลับมาจากเขตแดนแห่งความตายได้

อีกทั้งเหล่าหมอหลวงยังหายาถอนพิษได้ ก่อนจะลงมือถอนพิษให้เถาฮองเฮา

ฮ่องเต้หย่งไท่ทรงรู้เรื่องนี้ จึงเสด็จมาเยือนที่ตำหนักเว่ยยางด้วยตนเอง อีกทั้งยังพระราชทานรางวัลให้บรรดาหมอหลวง

ร่างกายของเถาฮองเฮานับวันยิ่งดีขึ้น

แต่การสืบหาความจริง คืนความบริสุทธิ์ที่เจี่ยซูเฟยคาดหวังยังมาไม่ถึง

นางยังคงถูกขังไว้ในตำหนักบรรทม ไม่เห็นฟ้าดิน

คนด้านนอกเข้ามาไม่ได้ คนด้านในออกไปไม่ได้

นางถูกทอดทิ้งแล้ว

นางไม่ได้รับข่าวจากด้านนอก ทำได้เพียงร้องไห้ทุกวัน

นางร้องไห้จนเหนื่อย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว

นางพิงบานประตู ในปากพึมพำ “เถาฮองเฮา ท่านช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก! ท่านต้องการบีบเค้นให้ข้าตายหรือ ได้ ข้าตาย ขอท่านโปรดปล่อยตระกูลของข้า…”

บรรดานางในต่างคิดว่านางเสียสติไปแล้ว!

แน่นอน เมื่ออยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ การถูกบีบเค้นจนเสียสติก็เป็นแค่เรื่องของเวลา

ในที่สุดมีวันหนึ่ง ประตูตำหนักถูกเปิดออกจากด้านนอก

แสงแดดสาดส่องเข้ามา เจี่ยซูเฟยรู้สึกเหมือนดวงตากำลังจะบอด

ผ่านไปสักพัก นางจึงจะปรับสายตาได้

ผู้ที่เดินเข้ามาจากด้านนอกไม่ใช่ผู้อื่น แต่เป็นเถาฮองเฮาที่นางเกลียดชัดจนอยากให้ตาย

“ท่าน!”

“ข้าเอง”

เถาฮองเฮาเพิ่งหายจากอาการป่วย ร่างกายอ่อนแอ สีหน้าซีดเซียว

เหมาเส้าเจี้ยนประคองนางนั่งลงบนเก้าอี้

“ฮองเฮาทรงระวังพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่สกปรก ไม่อาจอยู่นานได้”

เหมาเส้นเจี้ยนจงใจเหยียดหยามเจี่ยซูเฟย เจี่ยซูเฟยโกรธจนพูดไม่ออก

นางจ้องเถาฮองเฮาเขม็ง “ท่านมาเพื่อดูความอัปยศของข้าหรือ”

เถาฮองเฮากระแอมไอเสียงเบา พูดอย่างอ่อนแรง “ข้ามาที่นี่ เพื่อส่งเจ้าครั้งสุดท้าย”

“ท่าน…ไม่ เป็นไปไม่ได้!”

เจี่ยซูเฟยได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนัก นางไม่กล้าเชื่อ “ฝ่าบาทไม่ทรงโหดเหี้ยมเพียงนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของข้า ท่านเป็นคนซื้อตัวคนข้างกายของข้า ใส่ร้ายป้ายสีข้า”

เถาฮองเฮายิ้มดูถูก “ผู้ใดจะพิสูจน์ได้ว่าข้าใส่ร้ายเจ้า หลักฐานแน่นหนา เจ้าปฏิเสธไม่ได้ ชีวิตของข้าเกือบพังทลายในมือเจ้า แต่สวรรค์มีตา ในที่สุดก็ให้ข้ามีชีวิตรอดกลับมา เจ้าผิดหวังมากใช่หรือไม่!”

เจี่ยซูเฟยตะโกนด้วยความโกรธ “ท่านหุบปาก! ท่านอย่าไก้พูดเหลวไหล ไม่ใช่ฝีมือข้า ท่านเป็นคนวางยาพิษตนเอง ท่านใส่ร้ายข้า ท่านไม่ตายดี”

เหมาเส้นเจี้ยนตะวาดเสียงดุ “บังอาจ! บังอาจสาปแช่งฮองเฮา มีโทษเพิ่มอีกหนึ่งสถาน”

เจี่ยซูเฟยหัวเราะร่า พลันชี้ไปที่เถาฮองเฮา “ท่านช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก ไม่เพียงโหดเหี้ยมต่อผู้อื่น แต่ยังโหดเหี้ยมต่อตนเอง ข้าพ่ายแพ้ให้ท่าน ข้าไม่เสียใจ แต่ท่านก็ไม่มีจุดจบที่ดี ทำเรื่องชั่วย่อมต้องได้รับผลกรรม ท่านได้รับผลจากสิ่งที่ท่านทำไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะรอท่านอยู่ด้านล่าง ฮ่าๆ…”