ตอนที่ 130 ความเกลียดชังของเฉินผิงอัน

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 130 ความเกลียดชังของเฉินผิงอัน

หลินชวนฮวาไตร่ตรองและรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกชายพูดนั้นถูกต้อง แววตาที่ตื่นเต้นก่อนหน้าจึงค่อย ๆ มีดลง

เมื่อฝ่ายโจทก์ตัดสินใจแล้ว ผู้พิพากษาจึงไม่มีสิทธิ์คัดค้านอะไร ทั้งสองแม่ลูกถูกปล่อยตัวออกไป หลินชวนฮวารีบวิ่งไปยังสํานักงานปกครองเขตหลัง ก่อนจะพบว่าเย่วชิวไฉถูกล่ามด้วยเครื่องตรวนห้าชนิดอย่างแน่นหนา!

แต่ทันทีที่หลินชวนฮวาได้รับการปล่อยตัวก็มีเรื่องราวเข้าแทรกอย่างไม่ทันตั้งตัว

ไม่มีใครรู้ว่าเฉินผิงอันรู้เรื่องการปล่อยตัวได้อย่างไร เขาโกรธมากและรีบเดินทางมายังห้องโถงบรรพบุรุษทันที เมื่อมาถึงจึงได้พบกับหลินชวนฮวาที่กําลังพยายามช่วยเหลือเย่วชิวไฉที่ถูกพันธนาการไว้

เฉินผิงอันพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับเหวี่ยงขาเตะนางอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น

เย่วชิวไฉโกรธที่ถูกเหยียดหยาม เขาจึงมองหลินชวนฮวาที่กําลังกลิ้งไปบนพื้นด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

“หญิงสารเลว! ข้าไม่ดีพอสําหรับเจ้าหรืออย่างไร? เหตุใดจึงใฝ่ต่ำไปคบชู้กับฆาตกร?!”

หลินชวนฮวาจ้องมองเย่วชิวไฉด้วยแววตาอาวรณ์ เมื่อเห็นเช่นนั้นเฉินผิงอันยิ่งรู้สึกคับข้องใจจนอกแทบระเบิด!

หยุนจิงเอ๋อทอดทิ้งเขาไป! และวันนี้หลินชวนฮวากลับทรยศเขาด้วยการคบชู้กับชายฆาตกรอีก…

นางสมควรได้รับบทลงโทษ แม้จะมีผู้คนมากมายอยู่ในเห็นเหตุการณ์ แต่ก็ไม่มีใครออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้นางเลย!

“ดูสิว่ามีหญิงใดในหมู่บ้านได้อยู่อย่างสุขสบายเช่นเจ้าหรือไม่? กล้าทําเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร?! แม้แต่ลูกชายของเจ้า ข้าก็ยอมทําทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้เขาได้เรียนหนังสือ! แต่ นี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนข้าหรือ?!”

เฉินผิงอันตบหน้าหลินชวนฮวาอย่างแรง!

เฉินผิงอันทุบตีหลินชวนฮวาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนั้นเองเป็นเฉินเฉิงเยี่ยพุ่งตัวเข้ามาฉุดรั้งอีกฝ่ายไว้ แต่เฉินผิงอันกลับผลักเขาออกอย่างรุนแรงจนใบหน้ากระแทกกับหิน เลือดไหลย้อยออกมาจากมุมปากของชายหนุ่ม

เมื่อเห็นว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บ หลินชวนฮวาจึงลุกขึ้นต่อสู้กับเฉินผิงอันด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่!

“สําเนียกตนเองเสียบ้าง! การได้แต่งงานกับหยุนจิงเอ๋อก็นับว่าเป็นโชคดีของคนเช่นเจ้าแล้ว! ไม่น่าแปลกใจหากผู้คนจะดูหมิ่นเจ้า เพราะเจ้าเป็นเพียงชายโง่เขลาและไร้ปัญญาเทั้งเกียจคร้านและน่าขยะแขยง! นอกจากใช้เวลาทั้งวันในบ่อนพนัน เจ้าทําอะไรอีกบ้าง?! ไม่ต้องบอกว่ารักข้าหรอก! หยุนเถียนเถียนพูดถูก เจ้าไม่เคยลืมหยุนจิงเอ๋อและข้าเป็นเพียงตัวแทนของนาง และนางก็พูดถูกที่บอกว่าเจ้าไม่เคยสนใจว่าสิ่งใดถูกหรือผิด! เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่สามารถลืมนางได้ แม้เจ้าจะบอกว่าเกลียดนางแทบตาย แต่เจ้ากลับไม่เคยลืมนางได้สักวินาที! เฉินผิงอัน… ช่างน่าขันเสียจริง!”

เฉินผิงอันตกตะลึง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหลินชวนฮวาเห็นเขาเป็นเพียงแค่ตัวตลก คําพูดเหล่านี้ทําให้เขารู้สึกขมขื่นยิ่งกว่ากินบอระเพ็ด!

หยุนเถียนเถียนยืนดูเหตุการณ์ด้วยความสะใจก่อนจะก้าวออกไปและพูดว่า “หากเฉินผิงอันใช้ชีวิตอย่างน่าขัน เจ้าไม่น่าขันกว่าหรือ?”

“ฟังข้านะ เย่วชิวไฉที่เจ้าห่วงใยนักหนากลับเพิกเฉยเมื่อเห็นว่าเจ้าถูกเฉินผิงอันทุบตี! หากเจ้าทนอยู่กับเฉินผิงอันก็คงไม่เป็นปัญหา แต่เจ้ากลับเลือกอยู่กับชายไร้ยางอายเช่นเขา! ฮ่าฮ่า! หลินชวนฮวา แม้เฉินผิงอันจะเป็นเพียงชายโง่เขลา แต่เขาซื่อตรงต่อเจ้า อันที่จริงเจ้าไม่มีสิทธิ์จะหัวเราะเยาะเขาด้วยซ้ำ!”

หลินชวนฮวารู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินสิ่งที่หยุนเถียนเถียนพูด จึงตอบกลับทันที “นังขี้ครอก! เจ้าเคยรู้อะไรบ้าง? เย่วชิวไฉเคยเป็นนักปราชญ์ผู้มีพรสวรรค์! โคลนตมเช่นเฉินผิงอันจะเทียบอะไรเขาได้เ”

“พรสวรรค์ที่ใช้เจ้าเป็นตัวกลางในการหลอกใช้เฉินเฉินผิงอันอย่างนั้นหรือ? ชายที่ทอดทิ้งและไม่เคยสนใจภรรยาและลูกของตน ทั้งยังฆ่าคนตายคือเป็นนักปราชญ์ผู้มีพรสวรรค์งั้นหรือ? หลินชวนฮวา… นอกจากผิวหนังและร่างกาย เขาเทียบอะไรกับเฉินผิงอันได้บ้าง? เอาล่ะ! ข้ายอมรับว่าเฉินผิงอันไม่ใช่คนดี ชายที่ใช้เวลาทั้งหมดไปในกับการเล่นพนันไม่ถือว่าเป็นคนดี แต่เขาก็ดูแลและเลี้ยงดูเจ้าเป็นอย่างดี!”

“เปล่าหรอก เพียงแต่ข้าไม่เข้าใจคนเช่นเจ้า ยังไงซะตอนนี้ข้าได้ในสิ่งที่ต้องการและทําในสิ่งที่ควรทําแล้ว! หลินชวนฮวา… ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าจะอยู่อย่างไรหากไม่มีเฉินผิงอัน?!”

เฉินผิงอันยืนนิ่งราวกับหุ่นที่สูญเสียจิตวิญญาณ ในใจพลันนึกถึงหยุนจิงเอ๋อผู้เป็นที่รัก!

หญิงผู้นั้นสูงส่งเรากับเมฆบนท้องฟ้าซึ่งห่างไกลกับเขามาก ไม่ว่านางจะนอนปวยอยู่บนเตียงหรือตายไปแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทํายังเต็มไปด้วยคุณงามความดีที่ไม่เคยถูกลบล้าง!

แม้นางจะไม่ได้ดูแลเขาอย่างดี แต่นางก็จัดการเรื่องราวในครอบครัวได้อย่างเฉียบขาดและเหมาะสม เขาไม่เคยต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงินหรือทําสิ่งใดเลยด้วยซ้ำ

เมื่อเทียบหลินชวนฮวาที่คอยแสร้งว่าเป็นศรีภรรยาที่ดี น่าสงสารและอ่อนโยน แท้จริงแล้วกลับไม่เคยคิดหยิบจับสิ่งใด แม้แต่งานบ้านก็เป็นหน้าที่ของหยุนเถียนเถียน ทว่านางกลับโกหกว่าเป็นฝีมือของตนทั้งหมด!

ความอ่อนโยนที่เคยเสแสร้งไว้ถูกทําลายลงโดยสมบูรณ์ หากเป็นหญิงที่ดีเช่นหยุนจิงเอ๋อก็ยังจะพอมีคนเห็นอกเห็นใจ แต่หลินชวนฮวาเป็นใครกัน? แค่หญิงที่เคยผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาแล้วหนึ่งครั้ง เหตุใดเขาจึงเชื่อใจนางนัก?

ยิ่งทบทวนมากเท่าไหร่ ยิ่งทําให้เขาแทบทนไม่ไหวต่อหญิงที่อยู่ตรงหน้า แม้วันเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ทุก ๆ การกระทําของหยุนจิงเอ๋อยังตราตรึงในใจเขาเสมอมา!

ในตอนแรก เฉินผิงอันเกลียดชังหยุนเถียนเถียนเพราะนางไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา และรู้สึกว่าหยุนจิงเอ๋อไม่ควรมีลูกเช่นนี้ หญิงที่สูงส่งราวกับก้อนเมฆจะมีลูกสาวที่ต่ำต้อยราวกับโคลนตมเช่นนี้ได้อย่างไร? ซึ่งทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่ฝังลึกในใจเขาตลอดมา!

อีกทั้งความรู้สึกเหล่านี้ค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นจากการยั่วยุของหลินชวนฮวา เขาถูกปลูกฝังให้เกลียดหยุนจิงเอ๋อและลูกสาวของนางอย่างสุดซึ้ง!

ในตอนนี้เมื่อมองดูลูกสาวของนางอีกครั้งจึงเห็นได้ว่าหยุนเถียนเถียนไม่ใช่หญิงสาวอ่อนแอคนเดิมอีกต่อไป เฉินผิงอันเงยหน้ามองอดีตลูกสาวและรู้สึกว่านางช่างงดงามละม้ายคล้ายกับหยุนจิงเอ๋อยิ่งนัก!

ทุกคนเฝ้าดูจุดจบของหญิงชั่วเช่นหลินชวนฮวาอย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่เฉินผิงอันยังคงสับสนและจมอยู่ในห้วงความคิด

เฉินผิงอันนิ่งเงียบพลางมองไปยังหลินชวนฮวาและหยุนเถียนเถียนด้วยความสับสน

“เหมือนว่าจะมีตัวอย่างให้ดูแล้ว เฉินเอ๋อ… เจ้าจงจําไว้ว่าอย่ากลายเป็นคนเช่นนี้ในอนาคต อย่าละโมบจนไม่รู้จักพอ!”