ลีอากำลังเดินไปตามถนนและมองหาสถานที่เติมเสบียงอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมจะไม่ถูกเกลียดขี้หน้าจนถึงขนาดโดนไล่ตะเพิด แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ยิ่งไปกว่านั้นลีอายังเป็นถึงอดีตเจ้าหญิง เธอเป็นอาชญากรที่ทางการต้องการตัว หากเธอเดินเข้าโรงแรมหรือบาร์เพื่อซื้ออาหาร เธอจะกลายเป็นจุดสนใจอย่างแน่นอน

มันสะดวกกว่าที่เธอจะหาเสบียงจากร้านค้าของศาสนจักรที่เป็นกลาง

“ฝ่าบาทเรากำลังถูกสะกดรอย” องครักษ์คนหนึ่งกระซิบบอกเธอ

ลีอาไม่ได้หันไปมอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกสะกดรอยตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอมีมาตรการตอบโต้กับพวกที่สะกดรอยตามเธอแล้ว

เธอแสร้งทำเป็นสนใจของเก่าที่วางอยู่บนแผงขายของริมถนน สีหน้าเธอดูสนใจสินค้าขณะพูดคุยอย่างร่าเริงกับองครักษ์ที่เตือนเธอ

“พวกเราถูกพบโดยพวกนักบวชรึเปล่า? เจ้าเห็นไหมว่าเป็นใคร”

“ขออภัยฝ่าบาท” องครักษ์ส่ายหัว “พวกมันซ่อนตัวเก่งมาก โชคดีที่เรายังสามารถพบร่องรอยของพวกมันได้”

ใครก็ตามที่มองจากภายนอกอาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน น้องสาวต้องการของบางอย่างจากแผงขายของริมถนน ในขณะที่พี่ชายคัดค้าน

“ถ้าไม่รู้ งั้นเราก็ถอนตัวกันก่อน”

ลีอาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตัดสินใจ “แยกกันหนี หลังจากสลัดพวกมันได้แล้วให้มารวมตัวกันที่ป่าทิศตะวันออก”

เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้เคลื่อนไหวทันทีหลังจากที่องครักษ์ตรวจพบการสะกดรอย นั่นหมายความว่าพวกเขากลัวที่จะเปิดเผยตัวเองในที่สาธารณะเช่นกัน

นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้ติดตามไม่ได้มาจากศาสนจักรหลักเช่นศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสว ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระต่อหน้าผู้คนภายใต้ร่มเงาของแสงสว่างและความยุติธรรม

หลังจากกำจัดความเป็นไปได้อื่นเช่นพ่อค้าทาสแล้ว ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือพวกเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกลัทธิอีกครั้ง

องครักษ์คนอื่น ๆ ส่งสัญญาณว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะทำตามคำสั่งของลีอา เมื่อได้สัญญาณ พวกเขาก็รีบกระจายตัวแอบหลบเข้าไปในตรอกซอกซอยข้างถนนอย่างรวดเร็ว

การกระทำของพวกเขากะทันหันเกินไป และองครักษ์ก็จงใจปกปิดทิศทางการหลบหนีของลีอา พวกเขาทำให้พวกลัทธิสับสน พวกลัทธิไม่คิดเลยว่ากลุ่มของลีอาจะแยกกันหนี แม้ว่าพวกเขาจะเหลือกันอยู่เพียงน้อยนิด

ให้ตายเถอะ พวกมันหายไปไหนวะ!

หลังจากยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอได้สลัดพวกสะกดรอยได้แล้ว ลีอาและองครักษ์ก็มุ่งหน้าไปที่เขตป่านอกเมือง

ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ตระหนักว่ามีใครบางคนรอพวกเขาอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว

“ท่านลุง…คาร์โล” ความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงเกิดขึ้นในใจของลีอา ขณะที่ชายคนนั้นยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในป่า “ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่?”

“ท่านเติบโตขึ้นนะ ฝ่าบาท”

คาร์โลค่อย ๆ หันหน้ามามองลีอา “ไม่ใช่แค่เพียงทักษะดาบเท่านั้นที่ข้าสอนให้ท่าน ข้าสอนแม้แต่เคล็ดลับและกลยุทธ์ให้กับท่านหลังจากที่เทียร์ร่าล่มสลายลง ข้ารู้ว่าท่านจะตัดสินใจเช่นไรหลังจากที่ท่านทราบว่าท่านกำลังถูกสะกดรอย ท่านจะต้องแยกทางกันเพื่อหลบหนี และข้ายังเดาออกอีกด้วยว่าสถานที่นัดพบของท่านคือป่าฝั่งตะวันออกของเมือง โดยคำนวณจากเส้นทางที่ท่านเคลื่อนไหว บวกกับนิสัยของท่านและการสังเกตเพียงเล็กน้อย เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็คิดออก”

“ฝ่าบาทโปรดระวัง เขาไม่ใช่หัวหน้าองครักษ์ของเราอีกแล้ว!” องครักษ์คนเดียวที่อยู่ข้าง ๆ ลีอาเตือนอย่างประหม่า

“ข้ารู้” ลีอาพยักหน้า ระบบระบุว่าคาร์โลเป็นศัตรูโดยมีแถบ HP ลอยอยู่บนหัวเขา นอกจากนี้ยังมีไอคอนระบุสถานะบัฟ ‘สึกกร่อน‘ อยู่ใต้แถบ HP ด้วย

เมื่อเธอจ้องไปที่ไอคอนบัฟ ก็จะมีคำอธิบายผลของบัฟปรากฏขึ้น เอฟเฟกต์ของบัฟสึกกร่อนคือเพิ่มความแข็งแกร่ง ความเร็ว และสมรรถภาพทางกายขึ้น 10% และทุกการโจมตีจะแฝงไปด้วยพิษซากศพ

แม้ว่าชื่อบัฟ ‘สึกกร่อน‘ จะฟังดูเหมือนเป็นดีบัฟ แต่มันก็เป็นพรที่เทพเจ้ากระดูกเน่ามอบให้กับสาวกของเขา

ถึงกระนั้นแม้ว่าบัฟของเขาจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่คาร์โลเริ่มศรัทธาในเทพเจ้ากระดูกเน่า ผิวหนังของเขาก็เริ่มสึกกร่อนแล้ว และถึงเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการทรยศลีอาเพื่อให้ได้รับบัตรผ่านเข้าลัทธิ เขาก็ยังได้รับบัฟเพิ่มคุณลักษณะทั้งหมด 10% จากเทพเจ้าที่ชั่วร้าย เห็นได้ชัดว่าในอนาคตเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากหากเขายังเดินต่อไปในเส้นนี้…

“ลีอา ขอท่านโปรดมั่นใจ…หลังจากที่ข้าเซ่นสังเวยหัวของท่านให้เทพเจ้ากระดูกเน่า เมื่อข้าได้รับพลัง ไม่นาน ข้าจะเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของของท่าน ข้าจะแก้แค้นผู้ที่ทำให้เทียร์ร่าต้องมีมลทิน!” คาร์โลชักดาบออกมาขณะที่เขาค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหาเธอ

“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ข้าไม่มีความปรารถนาอะไรที่น่าเบื่อเช่นนั้น!” ลีอาชักดาบของเธอออกมาเช่นกัน เธอรู้ว่าเธอไม่มีช่องให้หนีได้แล้ว การเปิดเผยแผ่นหลังของเธอต่อหน้าศัตรูนั้นเป็นทางเลือกที่โง่เขลาที่สุด “ข้าไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่จะไว้ใจเจ้าไปทุกเรื่องอีกแล้ว ท่านลุงคาร์โล…หรือจะให้ข้าเรียกว่าคนทรยศคาร์โลดีล่ะ!”

“สีหน้าของท่านดูดีนี่” คาร์โลยิ้ม แต่นั่นกลับทำให้ลีอารู้สึกขนลุก “ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำให้ท่านเติบโตขึ้นมาก ในอนาคตท่านจะกลายเป็นราชินีที่ดีได้แน่…แต่ มันน่าเสียดายที่การเติบโตทางจิตใจไม่ได้ช่วยให้ท่านแข็งแกร่งขึ้น วันนี้ ท่านจะต้องตายอยู่ที่นี่!”

“วิ่ง! ฝ่าบาท ข้าจะรั้งเขาไว้เอง!” องครักษ์ของลีอาที่ยืนอยู่ระหว่างเธอกับคาร์โล ก้าวเข้ามาบังร่างของลีอาเอาไว้ “เทพเจ้าแห่งเกมจะสถิตอยู่กับท่าน!”

องครักษ์รู้ดีว่าระบบอนุญาตให้ปรับระดับความเจ็บปวดได้ เขาคิดว่าการปรับระดับความเจ็บปวดให้น้อยที่สุด จะทำให้เขาทนต่อความเจ็บปวดและสามารถถ่วงเวลาคาร์โล เพื่อให้เจ้าหญิงลีอามีโอกาสหลบหนีไปได้

ลีอาจ้องมองไปที่คาร์โลอย่างประหม่า เธอกำลังใช้ความคิดว่าเธอจะหนีหรือสู้ดี เธอรู้สึกไม่มั่นใจเพราะเธอไม่เคยเอาชนะคาร์โลได้เลยสักครั้ง นั่นทำให้เธอมีความคิดฝั่งลึกเข้ากระดูกดำว่าเธอไม่อาจเอาชนะเขาได้

สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าการหายใจช่างยากลำบากเหลือเกิน

“เทพเจ้าแห่งเกมเป็นเพียงเรื่องโกหก ทำไมท่านยังไม่เข้าใจอีก!” คาร์โลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มันเป็นเพียงคำโกหกของราชาผู้โง่เขลาและตาบอด! เขาโง่และท่านก็โง่! ท่านเต็มใจจะเชื่อคำหลอกลวงนั่น!”

ทันใดนั้น หน้าจอกึ่งโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาลีอา

[ติ้ง! ท่านได้เริ่มเควสเสริม: ฆ่าเขาซะ!]

ชื่อเควสนั้นเรียบง่าย รุนแรง และค่อนข้างหยาบคาย มันแตกต่างจากเควสก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง แต่ลีอากลับสังเกตเห็นว่าความกังวลของเธอได้หายไปแล้ว

ความสับสนของเธอได้เปลี่ยนเป็นความสงบและผ่อนคลาย

“ไม่จำเป็นต้องวิ่ง” หลังจากได้รับเควสจากระบบ สีหน้าของลีอาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เพราะข้าจะเอาชนะเจ้าที่นี่!”

“โอ้?” คาร์โลหรี่ตาลง สีหน้าของเขาดูอันตรายขึ้นทุกขณะ

“มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เจ้าล้มเหลว คาร์โล!” หญิงสาวยกดาบขึ้น “นั่นคือการที่เจ้าทรยศต่อเทพเจ้าแห่งเกม!”

———————————————————————————