ตอนที่ 129 บทที่7ตอนที่13

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

สิ่งแรกที่โนโซมุและผองเพื่อนได้รับการแนะนำก็คือการเข้าไปในบ้านของตระกูลฟรานซิสเพื่ออาบน้ำ

 

นี่ถือเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับพวกโนโซมุ เนื่องจากเขาฝึกฝนอยู่ในป่ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นร่างกายของเขาจึงเต็มไปด้วยเหงื่อและสิ่งสกปรก

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาเองก็ทำใจให้สงบไม่ได้เพราะโรงอาบน้ำอันใหญ่โตของตระกูลฟรานซิส ซึ่ง สามารถเข้าไปแช่ได้ทั้ง ทอม โนโซมุ และมาร์ พวกเขาต่างอยู่ไม่สุขตลอดเวลา

 

คนเดียวที่กำลังสนุกสนานอยู่ก็คือฟีโอที่ไม่อ่านบรรยากาศรอบข้าง

 

ยังมีหลายสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจอีกมากมาย

 

เมื่อผมลงแช่ที่อ่างอาบน้ำ มีสาวใช้จำนวนมากมาช่วยแต่งตัวให้ผมไปรับประทานอาหารเย็น

 

โนโซมุและเพื่อนๆในตอนนี้ต่างอยู่ในชุดทักซิโด้ซึ่งเป็นชุดสำหรับชนชั้นสูง

 

พูดตรงๆเลย มันเป็นของราคาแพงสำหรับโนโซมุและผองเพื่อน ไม่มีเงินจะจ่ายซื้อชุดแพงๆแบบนี้หรอก ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมไซส์ของเสื้อผ้ามันถึงได้พอดีกับทุกคนขนาดนี้

 

แล้วไปทำชุดมาตั้งแต่ตอนไหน?

 

แม้ว่าโนโซมุจะสับสนเล็กน้อยกับการที่สวมชุดทางการเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ต้องประหลาดใจกับการที่ตระกูลฟรานซิสกล้ามอบชุดแพงๆให้กับพลเรือนทั่วไป

 

แต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลมากที่สุดก็คือตอนออกมาจากโรงอาบน้ำก็ถูกรายล้อมด้วยเมดเกือบ 10 คน

 

ทุกคนต่างกล่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยทุกท่านในการแต่งตัวและมารับใช้พวกคุณค่ะ”

 

มาร์และคนอื่นๆเองก็ต่างเขินอายกับการที่มีเมดมาหาพวกเขา

 

โนโซมุและผองเพื่อนต่างพยายามเต็มที่ที่จะซ่อนความเขินอาย แต่สุดท้ายก็โดนเหล่าเมดจับแต่งตัวกันไปทีละคน บอกตามตรงมันเหนื่อยยิ่งกว่าให้ไปซ้อมกับจิฮัดเสียอีก

 

หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว โนโซมุและเพื่อนๆก็ไปที่ห้องรับประทานอาหาร

 

สถานที่ที่เคยจัดงานเลี้ยงในวัดเกิดของโซเมียมาก่อน ในห้องรับประทานอาหารที่มีขนาดใหญ่จนน่าขันนั้น วิคเตอร์กำลังนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะยาวที่มีไว้สำหรับปาร์ตี้ กำลังนั่งรอเหล่าโนโซมุและคนอื่นๆอยู่

 

 

 

「มากันแล้วงั้นเหรอ? อืม ช่างเหมาะจริงๆเลยนะ」

 

 

 

「เอ่อมันดีเหรอครับ ที่ให้เสื้อผ้าแบบนี้กับพวกเรา……」

 

 

 

「ไม่ต้องกังวลนี่เป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ต้องสร้างความบันเทิงให้กับแขก」

 

 

 

โนโซมุถ่อมตัวกับเสื้อผ้าที่ได้รับมา แต่วิคเตอร์ดูไม่ได้กังวลเป็นพิเศษ

 

 

 

「นอกจากนี้ อย่าลืมเสียล่ะ ว่าแต่ละชิ้นไม่ใช่ถูกๆ เพราะงั้นก็จงแต่งตัวให้สมเกียรติในฐานะที่เป็นแขกเถอะ」

 

 

 

「เอ่อ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเช่นนี้……」

 

 

 

ในสังคมชั้นสูง คุณภาพของเสื้อผ้าและเครื่องประดับสะท้อนถึงฐานะทางสังคม

 

เป็นเครื่องมือที่เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อสู้กับสังคมชั้นสูง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งพวกนี้เป็นไปไม่ได้ที่โนโซมุจะเข้าถึงมันได้

 

 

 

「ไม่ต้องเข้าใจในทันทีก็ได้ ถ้าได้เรียนจบจาดสถาบันแล้วและต้องสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะเข้าใจเองแม้ว่าจะไม่ชอบก็เถอะนะ」

 

 

 

「ครับ……」

 

 

 

เป็นเรื่องจริงที่คนมีชื่อเสียงส่วนมากใส่ของแพงๆ เพื่อบ่งบอกสถานะของพวกเขา อย่างไรก็ตาม โนโซมุที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อหลังจากเรียนจบก็ได้แต่ตอบส่งเดช

 

ถึงแบบนั้น โนโซมุก็รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของวิคเตอร์

 

 

 

「ไอริสดิน่า กับคนอื่นๆยังไม่มาเหรอครับ……」

 

 

 

「ก็นะ สาวๆน่ะต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวสักหน่อย」

 

 

 

ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆ จะต้องใช้เวลาแต่งตัวพอสมควร วิคเตอร์นั้นไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนั้นและมองไปที่เตาผิง

 

 

 

「ก็นะคงใช้เวลาอีกสักพักเลย ถ้างั้นพวกเราก็มาคุยกันจนกว่าสาวๆจะพร้อมดีกว่านะ? ข้าเองก็มีเรื่องอยากจะถาม」

 

 

 

「อยากจะถามอะไรงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「ก็แบบว่า ข้าเองก็อยากได้ยินเรื่องลูกสาวของข้าว่าถูกล่ำลือยังไงในเมืองนี้ แม้ข้าจะดูเป็นแบบนี้แต่ข้ากเป็นพ่อแม่ของพวกเธอนะ」

 

 

 

「เข้าใจแล้วครับ」

 

 

 

วิคเตอร์กำลังรอคำตอบจากโนโซมุด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันเข้มงวด

 

 

 

「นั่นสินะครับ ไอริสดิน่า ผลการเรียนของเธออยู่ในระดับสูงสุดทั้งด้านวิชาดาบและด้านวิชาการ แถมในด้านเวทมนตร์ยังมีพรสวรรค์มากๆด้วย แต่เธอก็ไม่เคยหยิ่งผยองกับพลังที่เธอมี อันที่จริงเวทมนตร์ของเธอเป็นเวทย์ที่พิเศษกว่านักเรียนคนอื่นๆจนไม่ต้องร่ายออกมาเลย

 

เธอยังมีคนมาชอบอีกตั้งมากมาย หลายๆคนก็ต่างมาสารภาพรักกับเธอ

 

 เธอเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก และแม้ว่าบางครั้งจะดูหยาบกระด้างไปบ้าง แต่เธอก็ได้รับความเคารพจากบรรดารุ่นน้องที่ติดตามเธออยู่เสมอ มีหลายครั้งที่รู้สึกสับสนยามที่เธอพูดถึงโซเมีย……」

 

 

 

วิคเตอร์พยักหน้าขณะฟังเรื่องราวจากโนโซมุ

 

 

 

「โซเมียจัง….อืมสำหรับโซมิเลียน่ากำลังทำอะไรในชั้นเรียนผมเองก็ไม่อาจทราบได้เพราะพวกเราเรียนกันคนละอาคารเรียน แต่เธอเป็นคนที่ขยันขันแข็งและอัธยาศัยดี เธอมีเพื่อนสนิทมากมาย และเมื่อเร็วๆนี้ดูเหมือนเธอจะพยายายามอย่างหนักกระทั่งเลิกเรียนแล้ว เธอยังไปค้นคว้าที่ห้องสมุด ดูเหมือนเธอจะมีความสุขกับชีวิตในสถานบันนะครับ」

 

 

 

เมื่อวิคเตอร์ได้ยินเช่นกันก็พูดว่า “เข้าใจแล้ว” และเริ่มเอามือเท้าคาง

 

บางทีอาจจะเพราะได้รับผลกระทบจากความสง่างามนั่น ทำให้โนโซมุรู้สึกสั่นเล็กน้อย

 

ในขณะนั้น ฟีโอก็เข้ามาและตัวของเขาก็สั่น

 

เขาจ้องมองที่ประตูห้องรับประทานอาหาร ดวงตาเป็นประกาย ราวกับสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ก่อนงานเลี้ยง

 

 

 

「เฮ้ย ไอ้จิ้งจอกนี่ ทำไมส่งเสียงกรนดังแบบนั้น」

 

 

 

มาร์ที่อยู่ใกล้ๆก็เตือนฟีโอ

 

ตอนนี้ทั้งมาร์และฟีโอต่างสวมชุดทางการเช่นเดียวกับโนโซมุ

 

มาร์สวมชุดทักซิโด้ที่มีสีขาวเป็นหลัก ผมสีบลอนด์ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกเหมือนขุนนางจริงๆ

 

อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูด น้ำเสียงหยาบคายตามธรรมชาติของเขาก็หลุดออกมา ทำให้กลายเป็นเหมือนพวกขุนนางกร่าง

 

ฟีโอเองก็สวมชุดทักซิโด้สีขาวแบบเดียวกับมาร์ อย่างไรก็ตาม เขาสวมสร้อยคอเงินรอบๆคอด้วย

 

ร่างกายของเขาเพรียวบางเมื่อเทียบกับมาร์ แต่ไม่ได้ดูอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองจากด้านข้าง ก็เหมือนกับพวกพ่อค้าผู้มากพรสวรรค์

 

 

 

「แน่นอน สาวๆน่ะจะต้องแต่งตัวแจ่มๆออกมาแน่ ข้าน้อยกำลังรอส่องอยู่เด้อ!」

 

 

 

「ไอ้หมอนี่มันไร้ซึ่งความอดกลั้นซะไม่มี……」

 

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะสวมชุดราคาแพง ฟีโอก็ยังเป็นฟีโอ แม้ว่าจะดูเด่น แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับความบันเทิงของตัวเองเป็นอันดับแรก

 

เครื่องแต่งกายของทอมเป็นทักซิโด้สีดำแบบเดียวกับโนโซมุ

 

เมื่อทอมที่มีรูปร่างเล็กตามธรรมชาติสวมใส่มัน ก็ทำให้เขาดูเป็นหนุ่มหล่อขึ้นมาในทันที

 

 

ทอมสวมชุดราคาแพงในท่าทีคุ้นเคย และอาจเป็นเพราะได้อยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิสด้วยแล้ว เขาจึงดูกระสับกระส่ายเป็นกังวลและมองไปรอบๆ

 

 

 

「นี่ โนโซมุรู้ไหมว่าเจ้าหญิงผมดำ ซีน่า และคนอื่นๆจะแต่งตัวแบบไหนงั้นเหรอ?」

 

 

 

「ถามบ้าอะไรน่ะ……!」

 

 

 

ดูเหมือนฟีโอจะเอาแขนมาโอบไหล่ของโนโซมุโดยไม่สนใจมาร์และเอาหน้าเข้ามาใกล้ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ฟีโอกำลังชักจูงโนโซมุเข้ามาเส้นทางสายหื่นกามโดยไม่สนใจวิคเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเลย

 

ดูเหมือนว่าฟีโอจะให้ความสนใจกับเรื่องของตัวเองมากที่สุดโดยไม่สนใจรอบข้าง

 

โนโซมุคิดว่าเขาทำตัวหยาบคายต่อวิคเตอร์ที่เป็นเจ้าบ้าน และพยายามตำหนิฟีโอ แต่ก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น วิคเตอร์ก็ยิ้มและโบกมือให้กำลังใจโนโซมุ

 

 

 

「ข้าไม่คิดมากหรอก เพราะงั้นพูดคุยกับเพื่อนๆของเจ้าจนกว่าสาวๆจะมาเถอะ」

 

 

 

「ขอโทษด้วยนะครับ งั้นขอคุยเล่นสักพัก」

 

 

 

เมื่อโดนพูดเช่นนั้นฟีโอก็คว้าไหล่โนโซมุไว้แน่น ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหัวลงเล็กน้อย

 

ฟีโอไม่สนใจปัญหาของโนโซมุ และดึงให้โนโซมุก้มต่ำลงในระดับความสูงของเขาพร้อมหอบหายใจแรง

 

 

 

「โนโซมุ ช่วยเหลาให้ฟังทีสิ!」

 

 

 

「เฮ้ย ทำไมถึงไม่คิดเรื่องสถานที่และบุคคลให้มันดีกว่านี้ล่ะ……」

 

 

 

โนโซมุอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับฟีโอที่กำลังตื่นเต้น

 

อย่างไรก็ตาม ผมคงจะโกหกไม่ได้ที่รูปลักษณ์อันแสนเย้ายวนของไอริสดิน่า ซีน่า และคนอื่นๆ มันช่างกวนใจผม โดยรวมแล้วโนโซมุเองก็เป็นวัยรุ่นสุขภาพดี

 

 

 

「เอ้า ถ้างั้นโนโซมุคอยผู้ใดมากที่สุดงั้นเหรอ?」

 

 

 

「เอ่อ ไม่บอก……」

 

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุพูดจากใจจริงไม่ได้หรอก

 

เดิมทีเขาเองก็เป็นชายหนุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ยกเว้นบางคนที่จะตอบคำถามของฟีโออย่างตรงไปตรงมา

 

ความจริงๆแล้ว สาวๆทุกคนที่เข้ามาในใจของโนโซมุล้วนแต่ชวนให้หนักใจในการตัดสิน

 

ขณะที่โนโซมุกังวลว่าจะตอบยังไง ฟีโอก็ยังคงพูดต่อ

 

 

 

「“ไม่ ไม่บอก……”อย่าพูดแบบนั้นเลยน่า โนโซมุ ชั้นรู้นะว่าในใจก็แอบเล็งไว้อยู่ใช่ม้า」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

โนโซมุไม่เข้าใจคำพูดของฟีโอ และความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันฟีโอก็จ้องมาทางนี้ด้วยท่าทีสงสัย

 

 

 

「หรือว่าจะชอบไม้ป่าเดียวกัน?……」

 

 

 

「……นี่อยากจะโดนโกนขนหมดตัวเลยใช่ไหม?」

 

 

 

สิ่งที่ออกมาจากปากของฟีโอทำให้โนโซมุไม่อาจเมินเฉยได้

 

เขาคว้าคอของฟีโอที่อยู่ข้างๆทันทีและบีบมันแน่น

 

บางทีอาจจะเป็นเพราะปัญหามากมาย โนโซมุจึงไม่ยั้งแรงเลย

 

 

 

「นะนะโนโซมุ….ข้าน้อยหายใจบ่ออก」

 

 

 

มาร์และทอมต่างถอนหายใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยด้วย

 

 

 

「โนโซมุ หยุดเถอะ เอามันไปขายดีกว่านะ」

 

 

 

「หวาาา นั่นแย่กว่าเดิมอีก……」

 

 

 

แทนที่มาร์จะหยุดแต่กลับใส่ไฟเข้ามาอีก

 

 

 

「แล้วถ้าเอาไปสตัฟฟ์ล่ะ?」

 

 

 

「สุนัขจิ้งจอกที่หน้าตาบูดบึ้ง จินตนาการได้แค่ว่าคงเอาไว้แขวนข้างทาง ไม่ก็พวกพ่อค้ารสนิยมแปลกๆ ไม่ก็ปล่อยให้หนูข้างทางแทะมันก็ได้」

 

 

 

ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน มันก็รุนแรงสำหรับฟีโอทั้งนั้น

 

 

 

「อืม ถ้าแค่นั้นสำหรับเราสองคนไม่ใช่เรื่องใหญ่……」

 

 

 

คำพูดของโนโซมุและมาร์ก็ยังคงไร้ความปราณีเสียจนแม้แต่ทอมที่ยืนอยู่ยังยิ้มอย่างขมขื่นและพูดเตือนออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ทอมเองก็ไม่ได้คิดจะหยุดด้วยเช่นกัน

 

 

 

「……ถ้าจับไปทำเป็นตุ๊กตาพวกเราควรจะตั้งชื่อมันว่าไงดีครับ?」

 

 

 

「「“ชะตากรรมของคนโง่” ไงล่ะ」」

 

 

 

「……อุหวา~~」

 

 

 

「เอ่อ จะตายแล่ว」

 

 

 

ราวกับว่าในที่สุดก็ถึงขีดจำกัด ฟีโอก็ทรุดตัวลงไปกับพื้น

 

บางทีอาจจะเพราะบีบคอแรงไปหน่อย ใบหน้านั้นซีดเผือก

 

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังไปทั่วทั้งห้องรับประทานอาหาร

 

 

 

「สาวๆมาแล้วค่าาาา」

 

 

 

ประตูถูกเปิดออกและก็มีเหล่าหญิงสาวเดินเข้ามาทีละคน

 

ฟีโอที่หมดสติปล่อยไว้คงไม่ดีเลยจับไปนั่งพิงเสา

 

 

 

「เฮ้ย ฟีโอ ตื่นได้แล้ว」

 

 

 

「อะ ฮืมมมมมม ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ถ้าจำไม่ผิดข้าน้อยกำลังจะข้ามแม่น้ำ……」

 

 

 

「เหอะ เหอะ ดูท่าจะแข็งแรงดีนะถ้างั้นก็เดี๋ยวกลับไปทำงานใช้หนี้ที่ร้านข้าต่อได้เลย……」

 

 

 

ดูเหมือนว่าวิญญาณของฟีโอจะลอยไปยังสถานที่ที่ไม่ควรไป

 

โนโซมุคิดว่าจะไปไกลเกินไปไหม โดยพยายามจับแก้มที่กระตุกของฟีโอ และพยุงตัวฟีโอขึ้นมา

 

 

 

「โอ้วววว ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆจะพร้อมแล้ว ดังนั้นน่าจะได้เวลาอาหารเย็นแล้วล่ะมั้ง?」

 

 

 

「หะ! ไหนน! ช่วงนี้ได้กินแต่ขอบขนมปัง!วันนี้จะกินให้ท้องแตกเลย~~!」

 

 

 

「ปกติกินอะไรนะ?……」

 

 

 

「ก็วัชพืชไม่ก็แมลงแถวๆนั้น」

 

 

 

「…………」

 

 

 

ดูเหมือนว่าชีวิตอันแสนยากจนข้นแค้นของฟีโอจะไกลเกินกว่าที่โนโซมุคิด

 

โนโซมุพูดไม่ออกกับชีวิตของฟีโอที่แม้จะกินขนมปังดำยังทำไม่ได้

 

 

 

「โนโซมุ รู้หรือเปล่า? ถ้าเลียก้อนหิน ก็จะทำให้รู้สึกหิวน้อยลง และถ้ากลืนเข้าไปจะทำให้อิ่มเลยนะ……」

 

 

 

น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาของฟีโอ ขณะที่พูดถึงความยาจกของตัวเอง หางสีทองห้อยลงมาและราบไปบนพื้น

 

แม้ว่าตัวเขาเองจะมีประสบการณ์เลวร้ายในป่า แต่เขาก็ไม่ได้ขับแค้นถึงขนาดกินก้อนหิน

 

น่าเสียดายแต่ดูหมอนี่จะกินของแย่ๆมาเยอะ

 

โนโซมุตบไหล่ฟีโอที่กำลังลุกขึ้น ขณะที่กลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความสงสาร

 

 

 

「……พรุ่งนี้จะเลี้ยงข้าวกลางวันให้นะ」

 

 

 

「……เอ๊ะ」

 

 

 

ต่อไปจะทำตัวอ่อนโยนกับแกกว่านี้อีกหน่อยก็ได้ ในขณะที่คิดเช่นนั้นโนโซมุก็ลูบหัวฟีโอ

 

เมื่อเห็นเพื่อนๆพยักหน้าโนโซมุก็สงบสติอารมณ์ได้

 

ในขณะนั้นประตูห้องรับประทานอาหารก็เปิดออกมา

 

ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆจะมาถึงแล้ว

 

โนโซมุเงยหน้าขึ้นมองขณะลูบหัวฟีโอที่กำลังหลบอยู่ข้างๆเขา ดอกไม้หลากสีสันก็เบ่งบานตรงหน้าโนโซมุ

 

 

 

「โอ้วววววววว……」

 

 

 

「สวยมาก……」

 

 

 

เสียงชื่นชมต่างดังออกมาจากบรรดาฝ่ายชาย

 

ดอกไม้ดอกแรกที่สะดุดตาของโนโซมุและเพื่อนๆก็คือโซเมียที่สวมชุดเดรสที่ชมพู

 

ทันทีที่ประตูเปิดออก เธอก็กระโดดเข้ามาในห้องรับประทานอาหารอย่างกระฉับกระเฉง

 

โซเมียสวมชุดเดรสที่ผ้าดูนุ่มๆพร้อมจีบน่ารักมากมาย ชุดสีชมพูสดใสคลุมไหล่และมือของเธอจนไม่เผยผิวหนังเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

「อิอิ สายันห์สวัสดิ์นะคะคุณโนโซมุ ! มองดิฉันแล้วคิดว่ายังไงบ้างคะ!?」

 

 

 

โซเมียวิ่งเข้าไปหาโนโซมุพร้อมกับหมุนตัวรอบๆด้วยรอยยิ้มกว้าง ชุดเดรสที่พริ้วไหวลอยอยู่ในอากาศขณะที่เธอหมุนไปรอบๆ

 

บนศีรษะของเธอมีมงกุฏดอกไม้สีสันสดใสทำจากดอกไม้ประดิษฐ์ที่มีสีชมพูเช่นเดียวกับชุดของเธอ และรอยยิ้มที่เจิดจ้าดั่งดวงตะวันยิ่งตอกย้ำเสน่ห์ของโซเมียมากยิ่งขึ้น

 

 

 

「อืม น่ารักมากๆเลยล่ะ เหมาะกับวัยของโซเมียจังมากๆเลย」

 

 

 

「……เอะเฮะเฮะ ขอบคุณนะคะคุณโนโซมุ คุณโนโซมุเองก็ดูดีมากเลยนะคะ」

 

 

 

แก้มของโซเมียดูผ่อนคลายลง ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก

 

โนโซมุและโซเมียต่างยิ้มให้กัน ทันใดนั้น เงาของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นที่ทางเดิน

 

 

 

「เอ่อ คุณซีน่า」

 

 

 

「ซีน่า….ฮะ?」

 

 

 

เมื่อจู่ๆโนโซมุเงยหน้ามองตามที่โซเมียพูด เขาก็หันกลับไปพร้อมกับพบซีน่าอยู่ในชุดเดรสสีน้ำเงิน

 

ซีน่าสวมชุดเดรสสีน้ำเงิน กระโปรงสั้น ยาวเหนือเข่าและ ขาเรียวยาวสีขาวของเธอก็เยียดออกอย่างงดงามจากภายใน

 

ผมสีฟ้ายาวสลวยถูกมัดด้วยกิ๊บติดผมที่ประดับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์สีขาว เผยต้นคอขาวบริสุทธิ์

 

ชุดนี้ทำขึ้นโดยเน้นปริมาณหน้าอกพอประมาณ โดยไม่กระทบกับรูปร่างของเธอ และดึงเสน่ห์ที่สุดแสนจะหยั่งถึงของเธอออกมาได้เต็มที่

 

ผ้าคลุมไหล่ยาวโปร่งแสงและกระโปรงซีทรูที่คลุมกระโปรงสั้นตั้งแต่ไหล่จนถึงเอว ตอกย้ำบรรยากาศเหมือนเจ้าหญิงในนิยาย

 

ไม่ใช่ชุดที่เน้นความน่ารักแบบโซเมีย แต่เป็นชุดที่เน้นความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา

 

เมื่อโนโซมุเห็นซีน่าในสภาพน่าอัศจรรย์เช่นนี้ เขาก็พูดไม่ออกจนหัวใจเต้นแรง

 

 

 

「อะไรเล่า…ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็พูดมาสิ」

 

 

 

「เอ่อ….คือว่า……」

 

 

 

ในที่สุดโนโซมุก็รู้สึกตัวหลังถูกซีน่าเรียก ซึ่งหน้าของเธอเต็มไปด้วยสีหน้าเขินอาย แต่ไม่มีคำพูดที่ดูเหมาะสมกับชุดเลย

 

 

 

「เหมือนกับนางฟ้าเลยล่ะ」

 

 

 

「อะไรล่ะนั่น เดิมทีฉันก็สวยระดับนั้นอยู่แล้ว……」

 

 

 

「ไม่เลย ผมคิดว่ามันเหมาะกับซีน่ามากๆเลยล่ะ สวยมากเลย……」

 

 

 

「เอะ……」

 

 

 

เมื่อได้ยินคำชมจากโนโซมุอย่างบริสุทธิ์ใจ ซีน่าก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมากเข้าไปอีก

 

สักพักหนึ่ง ความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและซีน่า ซีน่าที่ดูเขินอายและอยู่ไม่สุขด้วยมือของเธอ และโนโซมุเองก็ละสายตาจากเธอไม่ได้ ซึ่งปกติเขาจะไม่ทำแบบนี้เลย

 

 

 

「อาาาาาาาาาาาาาาาาา……」

 

 

 

「เอาน่าทิม่า อย่าเอาแต่ซ่อนอยู่ตรงนั้นสิ」

 

 

 

โนโซมุและซีน่าที่หน้าแดงยังคงเงียบ แต่จู่ๆก็มองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากโถงทางเดิน

 

มีเสียงดังอยู่ทางด้านหลังประตู ดูจากเสียงก็เหมือนจะเป็นเสียงของไอริสดิน่ากับทิม่า

 

โนโซมุได้แต่เอียงคอว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

「นี่ ทิม่ามัวทำอะไรอยู่กันคะเนี่ย……」

 

 

 

ซีน่าที่ไม่สบายใจจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งและเอามือก่ายหน้าผาก ถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า

 

พวกผู้ชายกระพริบตาโดยไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในระหว่างนั้นไอริสดิน่ากับทิม่ายังคงคุยกันต่อ

 

 

 

「การแต่งตัวแบบนี้มัน……」

 

 

 

「มันไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ มันเหมาะกับเธอมากๆเลยเพราะงั้นทุกคนรออยู่รีบไปได้แล้วค่ะ」

 

 

 

「นี่ ทิม่า ไม่ได้เขินอายเพราะจะถูกผู้ชายทุกคนเห็นแต่จะอายเพราะถ้า “คนๆนั้น” เห็นเข้าสินะคะเนี่ย~」

 

 

 

「ไม่น้าาาาาาาาาาาาา~~!」

 

 

 

「มิมุรุ……」

 

 

 

「อุ๊ยขอโทษทีนะ~~」

 

 

 

ดูเหมือนว่าไม่เพียงแค่ทิม่าและไอริสดิน่า ยังรวมถึงมิมูรุด้วย

 

 

 

「มะมะมมะมะมะมะมมะมะมะมม่ายยยยยย~~!」

 

 

 

「เฮ้อทำอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอเนี่ย……」

 

 

 

「หยุดน้า อย่าน้า ปล่อยฉันนนนนนนนนน~~!」

 

 

 

นอกจากคำพูดที่ไอริสเริ่มเบื่อหน่าย แล้วเสียงกรีดร้องของทิม่าก็ยังคงดังก้องกังวาลไปทั่ว

 

ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายค่อนข้างจะไฟแรงน่าดู ไม่สิดูเหมือนไอริสจะผิดหวังนิดหน่อย

 

 

 

「เร็วเข้า เตรียมตัวให้พร้อม」

 

 

 

「อ๊าาาาาาาาา……」

 

 

 

หลังจากพูดคุยกันนาน ทิม่าก็ดูเหมือนจะยอมแพ้และเข้ามาในห้องพร้อมกับไอริสดิน่าที่ควงแขนเธอเข้ามา ข้างหลังมีมิมูรุอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม

 

 

 

「ว้าวววววววว……」

 

 

 

「ไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองเลยนะเนี่ย……」

 

 

 

ชายที่เห็นทั้งสองก็ส่งเสียงขึ้น

 

ไอริสดิน่าสวมชุดเดรสสีดำราวกับคืนเดือนหงาย และทิม่าสวมชุดสีเขียวที่มีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้าที่เปรียบไปด้วยชีวิตชีวา มิมูรุที่อยู่ด้านหลังก็สวมชุดสีแดงที่มีรอยกรีดเล็กน้อยเดินเข้ามาอย่างห้าวหาญ

 

เครื่องแต่งการทั้งสามคนแตกต่างจากโซเมียและซีน่าเป็นชุดที่เรียกได้ว่างดงาม

 

ด้านหลังเปิดให้เห็น หน้าอกที่เปิดกว้างจนแทบล้น ทุกอย่างนั้นให้ความประทับใจที่แตกต่างสองคนจากปกติโดยสิ้นเชิง

 

 

 

「เอ่อ……อายนะคะ อย่างน้อยก็ให้ฉันสวมอะไรบังหน่อยเถอะ~~!」

 

 

 

ชุดของทิม่ามีรอยย่นบนกระโปรงและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลเช่นเดียวกับโซเมีย

 

อย่างไรก็ตาม ร่างกายส่วนบนนั้นถูกเปิดให้เห็นตั้งแต่ไหล่จนถึงส่วนอก และดูเน้นส่วนที่เป็นภูเขาสองลูกนั่นเป็นพิเศษ

 

สวมชุดเดรสและถุงมือสีฟ้าในมือ เป็นชุดที่มีสีสันจนไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเธอมีความเป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่ได้ถึงเพียงนี้

 

อย่างไรก็ตามชุดที่ออกแบบด้วยสีเขียวทำให้เป็นภาพที่คั่นกลางระหว่างสาวน้อยกับผู้ใหญ่

 

 

 

「ฟังนะ มาร์ ทำไมถึงไม่พูดอะไรสักคำเลยล่ะ?」

 

 

 

ทิม่าที่ถูกไอริสดิน่าจูงมือมาพูดออกไปข้างหน้า

 

ที่อยู่ข้างหน้าคือมาร์ที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวกำลังยืนจ้องมองทิม่าตาไม่กระพริบ

 

แต่ในที่สุดเขาก็เริ่มทำหน้าเคร่งขรึมหลังจากอ้าปากค้างไปหลายวิ

 

 

 

「เอ่อ….อืม…..ดูดีมาก……」

 

 

 

「หะ!?」

 

 

 

「ดะเดี๋ยวก่อนสิ!」

 

 

 

ทิม่าที่ถูกมาร์เรียกก็วิ่งไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและหลบอยู่หลังม่าน

 

มาร์ที่เร่งรีบเพื่อจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ม่านที่พองเป็นรูปมนุษย์นั้นสั่นเทา

 

ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะอายมากที่ได้ยินมาร์ชมแบบนั้น

 

 

 

「โอ้มายก็อด สงสัยคงต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าเธอจะสงบสติได้」

 

 

 

「อา ฮะฮะฮะ ไอริส ทำได้ดีมาก」

 

 

 

「หุหุหุ ขอบคุณค่ะ โนโซมุ」

 

 

 

โนโซมุชื่นชมไอริสดิน่าที่เอามือก่ายหน้าผากราวกับทำอะไรไม่ได้แล้ว

 

จากมุมมองของทิม่า คงจะต้องลำบากมากตั้งแต่สวมเดรสเลย

 

 

 

「แล้ว….ชุดของฉันคิดว่ายังไงคะ?」

 

 

 

เช่นเดียวกันนั้น ไอริสก็ถามโนโซมุเกี่ยวกับความเห็นเรื่องชุดของตัวเอง

 

ชุดเดรสสีดำที่จับคู่กับสีผมของเธอ ด้านหลังเปิดให้เห็นแผ่นหลังอันงดงามแม้จะไม่เท่าทิม่า แต่หน้าอกก็ยังคงใหญ่ หน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ถูกปิดด้วยผ้าบางๆ

 

แผ่นหลังที่เปิดให้เห็นและเมื่อเธอหันไปด้านข้างก็จะเห็นแผ่นหลังสีขาวสนิท

 

กระโปรงยาวไร้ซึ่งรอยเย็บ

 

ผมสีดำที่พริ้วไสวมีเครื่องประดับผมเลียนแบบดอกกุหลายสีดำและเน้นความงามของเธอยิ่งขึ้นไป

 

ไม่มีอะไรที่เน้นความน่ารักฟรุ้งฟริ้งแบบโซเมีย แต่เสื้อผ้าของเธอนั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่

 

เมื่อเทียบกับรูปร่างของไอริสแล้ว ชุดนั้นดึงเสน่ห์ของเธอออกมาราวกับเทพธิดามาโปรด

 

 

 

「อืม……」

 

 

 

「……ไม่เหมาะงั้นเหรอคะ?」

 

 

 

โนโซมุที่เงียบอยู่นานก็จ้องมองไอริสขณะที่กำลังประเมินตัวเธอ

 

 

 

「เอ่อ ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่เลยสักนิดครับ เหมาะมากสุดๆ งามจับใจเลยครับ……」

 

 

 

「เอ๊ะ! หุหุ งั้นเหรอคะได้ยินแบบนั้นฉันก็โล่งใจ แม้ว่าจะอายนิดหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ใช้เวลานานค่ะ……」

 

 

 

เมื่อโนโซมุบอกปัดว่าเธอสวยอย่างมาก ใบหน้าของไอริสก็ดูดีใจสุดๆ

 

รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขจากส่วนลึกของหัวใจสะท้อนให้เห็นในชุดสีดำราวกับดวงจันทร์บนท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม ฝ่ายผู้หญิงก็ใช้เวลาเตรียมตัวนานไปหน่อย ถ้างั้นจะเริ่มกันเลยรึยัง」

 

 

 

วิคเตอร์พูดแบบนั้นจนพวกโนโซมุนั่งลง

 

ทิม่าที่ซ่อนอยู่หลังม่านยังถูกมาร์กระตุ้นและแสดงท่าทางกลัว

 

อย่างไรก็ตาม ทิม่ายังไม่เลิกอาย และยังคงปกปิดร่างกายด้วยม่านอย่างแน่นหนา พร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ

 

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้นอกจากให้เธอไปทานอาหารแยกคนเดียว

 

เพื่อยืนยันว่ามาร์และทิม่าเริ่มนั่งลงแล้ว วิคเตอร์ก็ตบมือดังปัง

 

จากนั้นพวกเมดก็ค่อยๆเอารถที่ใส่อาหารมา เริ่มจัดจานวางไว้บนโต๊ะ

 

มีไอน้ำออกมาจากซุปที่วางอยู่บนจานสีขาวและขนมปังอบใหม่

 

ตรงกลามโต๊ะมีนกที่ถูกอบเป็นสีทองเรียงกันเป็นแถว และมีน้ำจากเนื้อไหลออกมาจากเนื้อที่ถูกตัด

 

คอของโนโซมุที่รู้สึกโล่งมากหลังจากฝึกหนักกับจิฮัดเริ่มหิวขึ้นมา

 

 

 

「ดีล่ะ ไม่มีอะไรต้องกังวลเชิญทานได้ตามใจชอบ」

 

 

 

「โอ้ววววว ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!」

 

 

 

จากนั้นฟีโอที่หิวโหยหลังจากยาจกมานาน

 

เริ่มจากผักเรียกน้ำย่อยไปยังซุป ขนมปังและเนื้อตามลำดับ

 

 

 

「อุหวาาาาาาาาาาาา ประทับใจสุดๆไปเลย……」

 

 

 

ฟีโอเริ่มร้องไห้เพราะรู้สึกประทับใจมาก

 

แม้ว่าท่าทางการกินจะไร้มารยาทสุดๆ แต่วิคเตอร์ก็แค่ยิ้มและไม่ใส่ใจ

 

ในทางกลับกัน ดูเหมือนจะพอใจในรูปร่างของฟีโอที่กินอย่างเอร็ดอร่อย

 

 

 

「เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับคำชมเช่นี้ พวกเธอไม่ต้องกังวลเรื่องมารยาทเชิญทานให้เต็มที่」

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม มันเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพที่สร้างความบันเทิงให้กับแขกทั้งโนโซมุแล้วก็มาร์ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ」

 

 

 

「ถ้าอย่างงั้นพวกเราเองก็……」

 

 

 

วิคเตอร์และไอริสดิน่ากระตุ้นเหล่าโนโซมุที่สับสน

 

โนโซมุรู้สึกงงงวยชั่วขณะ แต่หลังจากติดตามทั้งสองคนก็เริ่มแตะอาหารตรงหน้าอย่างช้าๆ

 

 

 

「อืมมมมมมม!」

 

 

 

「ว้าววว อร่อยมาก……」

 

 

 

จากนั้นทั่วทั้งห้องก็เงียบไปพร้อมกับสีหน้าตกใจและมีแต่เสียงเครื่องดื่มที่ขยับไปมาเท่านั้น

 

ไม่น่าแปลกใจ อาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะมักจะไม่ค่อยถูกปาก

 

ณ ตอนนั้นเองระหว่างที่โนโซมุต่างหมกมุ่นอยู่กับการทานอาหารอยู่นั้น

 

 

 

「หุหุ กินได้น่ากินไม่น้อยน่ากันเลยสินะ」

 

 

 

「อ่า ขอโทษครับกินอย่างเดียวเลย……」

 

 

 

「ไม่ ดีแล้วที่เจ้ากินได้กินดีขนาดนั้น」

 

 

 

วิคเตอร์โบกมือบอกราวอย่าใส่ใจ

 

ความตึงเครียดเกิดขึ้นอยู่ชั่วขณะเพราะโนโซมุเอาแต่กิน แต่บรรยากาศก็กลายเป็นภาพที่ชวนอมยิ้ม

 

อย่างไรก็ตามวิคเตอร์เริ่มครางเสียงต่ำในขณะที่เอามือแตะเคราของเขา

 

 

 

「นี่ ถ้าดูจากท่าทีแล้วกำลังประหม่าเพราะข้าอยู่งั้นเหรอ?」

 

 

 

「ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ ก็ท่านพ่อเล่นทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่เสมอ」

 

 

 

「โอ้ แม่คุณ ไม่เจอกันนานหน่อยลูกสาวคนโตปากคอเราะร้ายจริงเลยนะ……」

 

 

 

วิคเตอร์ยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่ไอริสยิ้มแย้มอย่างสดชื่น อาจเป็นเพราะเป็นพ่อลูกกันบรรยากาศเลยคล้ายคลึงกัน

 

 

 

「โซเมียก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันสินะ?」

 

 

 

「งั้นเหรอคะ? แต่โซเมียคิดว่าท่านพ่อเป็นคนดีมากเลยนะ」

 

 

 

「หุหุ ขอบใจนะโซเมีย ลูกสาวคนรองนี่ช่างเหมือนเฟอร์น่า จริงๆ อ่อนหวานสุดๆ」

 

 

 

บทสนทนาระหว่างพ่อลูกที่ไม่สนใจผู้อื่น ก็นะนี่ก็คงสำหรับครอบครัวธรรมดาทั่วไป

 

ซีน่ากำลังมองพ่อลูกพูดคุยกันและพูดกับตัวเอง

 

 

 

「ครอบครัวงั้นเหรอ….」

 

 

 

เธอจ้องมองทั้งสามคนเหมือนกับเห็นภาพในอดีต

 

ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะครอบครัวของเธอไม่อยู่แล้วและเธอมาที่สถาบันแห่งนี้ก็เพื่อแก้แค้น

 

 

 

「ซีน่า….เป็นอะไรไป」

 

 

 

โนโซมุที่สังเกตเห็นท่าทีเปลี่ยนไปก็พูดกับซีน่าด้วยความเป็นห่วง

 

อย่างไรก็ตาม เธอก็ตอบกลับมาตามปกติ

 

 

 

「เอ๊ะ? อะไรเหรอ?」

 

 

 

「เปล่า ไม่มีอะไร……」

 

 

 

 โนโซมุคิดว่าเธอคงกำลังเศร้าอยู่ก็เลยพูดทักเธอไป แต่ซีน่าก็ทำได้แต่งงกับคำถามของโนโซมุและพูด「หืมมม……」

 

 

 

「ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ แม้ว่าจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวได้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันมีทุกคนอยู่ดังนั้นก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยวเลยล่ะ」

 

 

 

ขณะเดียวกันซีน่าก็มองเหล่าเพื่อนๆที่เพลิดเพลินกับอาหารรอบตัวเธอ

 

ทอมที่งงเพราะโดนมิมูรุสั่งให้ “อ้าาาาาม” เธอพยายามเอาใจทอมโดยการเอาหน้าอกกดทับทอม

 

ฝั่งตรงข้ามของทั่งคู่ มีมาร์และทิม่าที่พูดคุยกันอย่างสบายๆ

 

ดูเหมือนว่าจะไม่ได้คุยอะไรจริงจังจนถึงเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าทิม่าสงบสติได้แล้วรึยัง ช่วงเวลาที่เงียบสงบของทั้งสองก็ผ่านไป

 

และฟีโอก็ยังคงบันเทิงกับอาหารมากมายบนโต๊ะ

 

ทอมที่ต้องทานอาหารที่มิมูรุป้อนเขาพร้อมกับฟังพวกมาร์คุยกัน

 

มิมูรุเริ่มพูดคุยเรื่องความรักเกี่ยวกับทอมในขณะที่ทั้งสองคนก็แสดงความหวานให้เห็น ทิม่าเองก็เริ่มจะหน้าแดงเพราะเห็นทั้งสองคนจีบกัน ในขณะที่สถานการณ์เริ่มจะดูรุนแรงมากขึ้นก็เป็นมาร์ที่ยกหมัดเหล็กเพราะการหยอกล้อของมิมูรุ

 

และแล้วความวุ่นวายก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วงานเลี้ยง แต่มันก็เป็นภาพที่เห็นได้ปกติทั่วไป

 

ในขณะที่มองแบบนั้นซีน่ายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

 

 

 

「หืมมมมมมมม มิมูรุจะต้องให้สอนมารยาทใหม่สินะคะ รู้ไหมคะว่าที่นี่ที่ไหน?」

 

 

 

「รู้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่สนใจหรอก ถ้าพูดให้ถูก ก็เป็นตัวตนพวกเราตามปกติไงงง?」

 

 

 

วิคเตอร์เองก็ไม่มีท่าทีว่าจะตำหนิอะไรเลยแม้แต่น้อย

 

ทั้งไอริสและโซเมียต่างพูดคุยกับพ่อของเธออย่างสนุกสนาน

 

เมื่อโนโซมุและซีน่าสบตากันและกันก็ยิ้มอย่างขมขื่นราวกับว่าช่วยไม่ได้

 

โนโซมุเองก็รู้ว่าเธอจะพูดอะไร พวกเราต่างเป็นเพื่อนกันดังนั้นเลยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ

 

 

 

「งั้นฉันจะไปจัดการทางขวา ฝากโนโซมุไปจัดการทางซ้ายทีนะคะ」

 

 

 

「รับทราบ เริ่มปฏิบัติการเลยไหม?」

 

 

 

「一เริ่มได้เลยค่ะ รีบจัดการให้พวกนั้นกลับมามีมารยาทกันได้แล้วค่ะ」

 

 

 

สองคนลุกขึ้นจากที่นั่งเงียบๆและพยักหน้าให้กัน

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา โนโซมุกับซีน่าก็เข้าไปด้านหลังโดยไร้ซึ่งเสียงจากนั้นมิมูรุที่กำลังส่งเสียงเชียร์ก็สลบไป และสาเหตุของความวุ่นวายก็จบลงในคราวเดียว

 

การจู่โจมครั้งนั้นทำให้วิคเตอร์ส่งเสียง “โฮ่ววววววววว” ออกมาในคราวเดียว