ตอนที่ 147 การโจมตีเดียว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่ ข้าสัญญาว่าจะไม่พลั้งมือฆ่ามัน!”
หลังจากหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาทั้งสามก็โจมตีเยู่เฉินทันที
“พรึบ”
พลังปราณต้นกําเนิดของทั้งสาม ปรากฏขึ้นก่อตัวเป็นปราณดาบจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่เย่เฉิน
เยเฉินหรี่ตาและโบกหอกสังหารในมือขวาของเขา
“ฟุบ ฟุบ ฟุบ” เสียงดังขึ้นสามครั้ง
ปราณดาบที่พุ่งเข้าหาเย่เฉินสลายหายหายไปในพริบตา
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน!”หนึ่งในสามคนตะโกนด้วยความตกใจ
“ใช่ ข้าได้ปลดปล่อยปราณต้นกําเนิดออกไป นี่มันปราณดาบเลยนะ มารดามันเถอะ ทําไมจู่ๆ มันถึงสลายไป” อีกคนก็ตะโกนออกมาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ หรือความแข็งแกร่งของเยเฉินไม่ได้ลดลง!” ผู้นําของทั้งสามใบหน้าเปลี่ยนไปทันที่ใบหน้าของเขาแข็งที่อแล้วกล่าวออกมาอย่างตื่นตระหนก
ทันใดนั้นก็มีเสียง “ปัง” ดังขึ้น
เท้าขวาของเยู่เฉินกระแทกกับพื้น ร่างของเขาพุ่งเข้าหาพี่น้องทั้งสามในทันที
“ตาย!”
เย่เฉินตะโกนพร้อมกับแทงหอกสังหารออกไป
การโจมตีที่เรียบง่ายและรุนแรงพุ่งเข้าหาหัวของพี่น้องทั้งสาม
“ไม่ดีแล้ว รีบหลบเร็วเข้า!” ใบหน้าของผู้นําของคนทั้งสามเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แล้วตะโกนด้วยความประหลาดใจ
ในวินาทีถัดมา พี่น้องทั้งสามก็กระโดดถอยออกไปในระยะไกล
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้น
“ฟบ ฟบ ฟบ”
พี่น้องทั้งสามคนที่กําลังหลบถอยออกมาต่างก็หยุดพร้อมกัน
พวกเขาค่อยๆก้มศีรษะลงมองไปหน้าอกซึ่งมีรูขนาดใหญ่เท่ากําปั้นและเลือดก็ไหลรินออกมา
“ทําไม… ทําไมกัน” ผู้นําของทั้งสามพูดด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ และทรุดตัวล้มลงกับพื้น
“ข้า…ข้าไม่อยากตาย…ข้าเพิ่งทะลวงสู่ขอบเขตต้นกําเนิด และ…ข้า ข้ายังมีชีวิตที่ดี..” อีกคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าไม่เต็มใจและล้มลง
“ข้า..ข้าเกลียดมัน…” คนที่สามพูดแล้วล้มลงกับพื้นเช่นกัน
เมื่อมองไปที่ร่างไร้วิญญาณของคนทั้งสาม เย่เฉินก็ขดริมฝีปากด้วยความรังเกียจ
ไอ้โง่สามคนที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเหนือใคร หลงระเริงไปกับอํานาจของทักษะบ่มเพาะระดับราชาที่ได้ฝึกฝน…
หากไม่มีเทคนิคคําว่า “จริง” แม้จะใช้พลังปราณในโลกแห่งความจริงได้แต่มันก็จะไร้ประโยชน์ในที่สุด…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินสะบัดมือขวาของเขา จากนั้นก็จับหอกสังหารในแนวทแยงชี้ไปทางกัปตันหูที่กําลังตกใจแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเย็นชา :
“เอาคําพูดของข้ากลับไป ถ้าเจ้าต้องการจะรบกวนข้า เจ้าก็ทําได้ แต่เจ้าต้องตระหนักถึงความตายให้ดีไม่ว่าพวกมันจะใช้ข้ออ้างหรือเหตุผลอะไรก็ตาม”
“เจ้า…” กัปต้นหูเปิดปากของเขา แต่เมื่อเห็นสายตาอันเย็นชาของเยเฉินเขาก็ไม่กล้าจะพูดต่อ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งกัปตันหู ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า:
“ข้าจะนําคําพูดของเจ้าไปบอกพวกเขา แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทําอะไรต่อ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะสามารถออกความเห็นได้อย่างไรก็ตามเย่เฉิน ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้าอย่างหนึ่ง”
“พูดมา!” เยเฉินขมวดคิวก่อนจะพูด
“เสี่ยวเย่ว(หูเสี่ยวเย่ว) กําลังจะแต่งงาน” กัปตันหูเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด
“หูเสี่ยวเย่วจะแต่งงานแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?” เย่เฉินผงะไปครู่หนึ่งจากนั้นมองไปที่กับตันหูแล้วถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“เจ้ากับเสี่ยวเย่วไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ?” กัปตันหูขมวดคิ้วแล้วถาม
“ไอ้งัง ข้าขี้เกียจจะเสียเวลากับเจ้าแล้ว” เย่เฉินกลอกตาไปที่กัปตันหู แล้วโบกมือหันหลังและเดินกับไปยังกระท่อม
เมื่อพยัคฆ์ขนสีแดงเห็นดังนั้น มันก็เหลือบมองไปยังผู้คนที่มาพร้อมกับกัปตันหูด้วยสายตาดูถูกจากนั้นก็กระโดดมาที่ด้านข้างของเยเฉิน และเดินตามเยู่เฉินไป
“นั่นมันไม่ใช่สัตว์อสูรหรอกเหรอ?” คนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นมา
“มันควรจะเป็นมอนสเตอร์ แต่ทําไมมันถึงเดินตามเขาล่ะ”
“ไม่ใช่ว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาหรอกเหรอ?”
“เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะมีวิธีลับในการควบคุมมอนสเตอร์…”
เมื่อกับต้นหูได้ยินดังนั้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีจากนั้นเขาก็ตะโกนใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนที่พูด:
“หุบปากของเจ้าซะ!”
เย่เฉินนั้นโหดเหี้ยมเกินไป เขาฆ่าคนจํานวนมากโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เขาสังหารคนสามคนที่อยู่ในระดับ ขอบเขตต้นกําเนิดได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่ต้องการทําให้เย่เฉินเข้าใจผิด
เยู่เฉินย่อมได้ยินคําพูดของทหาร แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
จะมีความลับเพิ่มอีกหนึ่งอย่างหรือยังไงก็ตาม สําหรับเย่เฉิน มันไม่สําคัญอีกต่อไป
แม้ว่าจะมีหรือไม่มีอะไร พวกเขาก็ยังจะติดต่อเย่เฉิน
ดังนั้น ไม่จําเป็นต้องสนใจ แค่คิดว่าหากพวกมันต้องการจะวุ่นวายกับเขา เขาก็จะจัดการพวกมันอย่างไม่ลังเล
เย่เฉินเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆเขาก็จําอะไรบางอย่างได้ จากนั้นก็หยุดแล้วหันไปมองกับตันหูแล้วพูดว่า:
“จู่ๆข้าก็จําบางอย่างได้ ในเมืองนี้ ผู้นําคือใครใช่ตระกูลหนิวหรือไม่?
ถ้าข้าเดาไม่ผิด หูเสียวเย่วจะแต่งงานกับลูกชายของเขาใช่ไหม?
ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะไปยังดินแดนลับแห่งหนึ่งและได้ตําราดูดซับหยิน หากเจ้าต้องการให้หูเสี่ยวเย่วมชีวิตที่ดีทางที่ดีควรพาหูเสี่ยวเย่ว ออกจากที่นั้นซะ “
ในตอนแรก เย่เฉินกําลังคิดถึงตัวตนของผู้ที่อยู่เบื้องหลังกัปตันหู
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในความทรงจําของเขาภาพของผู้นําตระกูลหนิวและลูกชายของมันก็ปรากฏขึ้นทีละภาพ
ในเมืองนั้น ชีวิตที่แล้วของเยเฉินผู้นําของลีกเหยียนหวงเป็นผู้นําตระกูลหนิว เขาได้รับโอกาศดีๆมากมาย
สําหรับสาเหตุที่เย่เฉินได้ล่วงรู้ความลับของลูกชายของเขานั้นเป็นเพราะในชีวิตก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งพยายามลอบสังหารลูกชายของผู้นําตระกลหนิวสามถึงห้าครั้ง
ท้ายที่สุดชายที่ลอบสังหารนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาหนีมาเจอกับเย่เฉิน เมื่อเขากําลังจะตายเขาได้บอกเย่เฉินถึงความลับที่ตระกูลหนิว ได้ซ่อนไว้เป็นเวลานาน
ตระกูลหนิวลักพาตัวสาวงามมากมาย และสาวงามเหล่านั้นที่เขาได้มาจะกลายเป็นศพภายในสามวัน” หมายความว่ายังไง? “เมื่อกัปตันหูได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ผงะและถามด้วยสีหน้าทิ้งงงวย
“ข้าเตือนเจ้าด้วยความหวังดี ถึงยังไง เธอก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของข้า” เย่เฉิน ยักไหล่และหลังจากพูดเขาพูดจบเขาก็ไม่สนใจกัปตันหูอีก”หัวหน้า เทคนิคดูซับหยิน เป็นทักษะที่ดูดหยินหล่อเลี้ยงหยางใช่หรือไม่จู่ๆ ก็มีคนถามขึ้นด้วยความสงสัย”ไม่ ทักษะเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมามันจะมีทักษะที่ทําขนาดนั้นได้ยังไง“อีกคนหนึ่งพูดออกมาด้วยสีหน้าอยากจะเชื่อ”เจ้ามันโง่เทคนิคทั้งหมดในเกมนี้สามารถใช้ได้จริง ไม่ใช่ระบบเสมือนจริง ทุกอย่างล้วนเป็นความจริงเจ้าไม่เคยเห็นหรอทําไมเย่เฉินถึงได้สุดยอดขนาดนั้นเขาต้องเทคนิคการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ “อีกคนหนึ่งกล่าว.”มันเป็นไปได้จริง ๆ แต่เย่เฉินรู้ได้อย่างไรว่านายน้อยหนิวสามารถทําแบบนั้นได้จริงๆ… ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวเย่ว.. “เมื่อคนหนึ่งพูดไม่ทันจบเขาก็รีบปิดปากเงียบไปทันที
กัปตันหูที่อยู่อีกด้านหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่เคยคิดว่าเย่เฉินจะพูดแบบนั้น
คําพูดที่ดูเหมือนไร้สาระ แต่กัปตันหูนั้นคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง!”ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! “กัปตันหูคํารามออกมาด้วยความโกรธแต่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหมองคล้ําในวินาทีถัดมา” หัวหน้า พูดมาเลยว่าเราต้องทําอะไร! “คนผู้หนึ่งกล่าวเสียงดัง”ใช่แล้วหัวหน้าไม่ว่าหัวหน้าจะทําอะไร ข้าก็จะติดตามไปทุกที่! “อีกคนหนึ่งกล่าว”ข้าเกลียด ขี้หน้าไอขยะนั้นมานานแล้วข้าอยากจัดการมันแต่ตอนนี้พวกมันครอบครองคลังเกมถึงสามเครื่อง ใช่ หัวหน้าพูดมาได้เลยว่าจะทําอย่างไรพี่น้องทั้งหมดพร้อมจะติดตาม!”
ทุกคนต่างคนเลือกที่จะยืนอยู่ข้างๆกัปตันหู แล้วรอคําตอบจากกัปตันหูอย่างเงียบ ๆ
กัปตันหมองผู้คนรอบตัวด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็มองไปยังเยเฉินแล้วตะโกน: “เย่เฉินมาทําข้อตกลงกันเถอะ!”