บทที่ 103 ถูกโจมตี
บทที่ 103 ถูกโจมตี
แสงบนเวทีค่อย ๆ ดับลง
ไม่นานนัก สปอร์ตไลท์ก็สาดแสงไปที่ร่างของถังหว่าน จนร่างของเธอเผยสู่สายตาผู้ชม
คืนนี้ถังหว่านแต่งกายด้วยชุดสีดำ ปล่อยผมยาวสลวยคลอเคลียเรือนร่าง บดบังไอเย็นชาและเย่อหยิ่งจนหมดสิ้น หญิงสาวแย้มรอยยิ้มออกมาและค่อย ๆ หันมาหาอู๋หมิ่นหรู
เสียงที่พวกเธอขับร้องออกมา ราวกับว่าทั้งสองกำลังโอบกอดคนฟังไว้อย่างอ่อนโยน
ถังหว่าน “คืนนั้นฉันฝันอีกครั้ง พี่สาวกำลังจับมือฉันเข้าสู่ตัวเมือง”
อู๋หมิ่นหรู “วันนั้นฉันนึกถึงเธออีกครั้ง ฉันเห็นนางฟ้าหน้าตายิ้มแย้มคนนั้น”
ถังหว่าน “ไม่ว่าจะบ้านของเราจะอยู่ที่ใดในโลกนี้ แต่หัวใจของเราก็สร้างบ้านที่อบอุ่นไว้แล้ว”
อู๋หมิ่นหรู “ไม่ว่าเราจะมาจากที่ใดในโลกนี้ แต่หัวใจของเราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน เราเป็นดั่งพี่น้องที่รักและห่วงใยกัน”
จากนั้นทั้งสองก็ขับขานร่วมกันว่า “ไม่ว่าจะในความฝันหรือต่อหน้าฉันตรงนี้ ฉันคิดถึงเธอ น้องสาวของฉัน”
การเห็นเทพธิดาแห่งการร้องเพลงทั้งสองร้องเพลง ‘พี่น้องที่รัก‘ บนเวทีเดียวกันนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนเพลงและแฟน ๆ นับไม่ถ้วน พวกเขาตะโกนชื่ออู๋หมิ่นหรูและถังหว่าน บรรยากาศในคอนเสิร์ตเต็มไปด้วยความอบอุ่นทันทีที่เพลงจบ
“ถังหว่าน!”
“ถังหว่าน…”
จ้าวเสี่ยวเสียนโบกแท่งไฟในมือแล้วตะโกนชื่อถังหว่านด้วยสีหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เธอไม่เคยคิดฝันว่าอู๋หมิ่นหรูจะเชิญไอดอลของเธอมาเป็นแขกรับเชิญในคืนนี้
ถังเหมียวเหมี่ยวอยู่ในอ้อมแขนของโจวอี้ พอเห็นแม่ออกมา เธอก็ตะโกนว่า “แม่” เสียงดัง ใบหน้าที่น่ารักน่าชังของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจ
น่าเสียดายที่ทุกคนก็ต่างเปล่งเสียงตะโกนร้อง เสียงของเหมียวเหมี่ยวจึงถูกกลบเสียหมดสิ้น
โจวอี้เองก็กำลังตะโกนชื่อถังหว่าน ทว่าเมื่อสายตาประสานกับถังหว่านบนเวที เขาก็รู้สึกว่าความสง่างามของภรรยาช่างเจิดจ้าเสียเหลือเกิน
เมื่อเพลง ‘พี่น้องที่รัก’ จบลง อู๋หมิ่นหรูก็กอดถังหว่านอีกครั้งและก้าวลงจากเวทีไป
ตอนนี้เวทีนี้เป็นของถังหว่านแล้ว
ถังหว่านหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วมองไปที่แฟน ๆ นับหมื่นที่อยู่ข้างหน้า
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแฟนคลับของอู๋หมิ่นหรู แต่เธอก็ยังรู้สึกมีความสุขที่ได้ยืนตรงนี้ เพราะทุกคนต่างยินดีที่เธอมาร้องเพลง
“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจากพี่หมิ่นหรูให้เป็นแขกรับเชิญในค่ำคืนนี้”
“ตอนแรกฉันนึกว่าจะมีคนไม่รู้จักฉัน แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจว่าทุกคนรู้จักฉัน”
“เพลงใหม่ที่ฉันกำลังจะปล่อยมีชื่อว่า ‘ขอบคุณที่พบกัน’ เพลงนี้มอบให้ทุกคนค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ”
เมื่อดนตรีเริ่ม ถังหว่านก็เริ่มขับขานเสียงร้อง
เพลง ‘ขอบคุณที่พบกัน’ เป็นบทเพลงที่สละสลวย ราวกับเป็นเพลงที่ทำให้ผู้คนกว่าหกหมื่นคนแทบจะกลั้นหายใจยามได้ฟัง
“พ่อกับแม่ร้องเพลงเก่งทั้งคู่ ไว้หลังจากนี้เหมียวเหมี่ยวจะร้องเพลงให้ทุกคนฟังนะคะ” ถังเหมียวเหมี่ยวพูดขึ้น ดวงตากลมโตราวกับฉายแสงระยิบระยับไว้เต็มหน่วย
“พ่อรอให้กำลังใจนะ เหมียวเหมี่ยวร้องเพลงดีมากอยู่แล้ว” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮี่ฮี่”
ถังหว่านร้องเพลงทั้งหมดสามเพลงแล้วจึงคืนเวทีให้อู๋หมิ่นหรู
หลังจากที่เธอออกไปได้ไม่นาน ข่าวว่าเธอได้เข้าร่วมคอนเสิร์ตของอู๋หมิ่นหรูและร่วมแสดงในฐานะแขกรับเชิญก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
ไม่นานเธอก็ติดฮอตเสิร์ทของเว่ยป๋อ
ด้วยเหตุนี้จำนวนแฟนของถังหว่านจึงพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
เมื่อถึงสี่ทุ่ม
หนึ่งชั่วโมงก่อนที่คอนเสิร์ตจะจบลง โจวอี้ก็ออกจากคอนเสิร์ตไปพร้อมกับลูกสาว และเพราะถังเหมียวเหมี่ยวเริ่มง่วงนอน พวกเขาจึงไม่ได้กลับไปพร้อมถังหว่าน
สองชั่วโมงต่อมา ถังหว่านก็กลับไปถึงช็องเซลิเซ่ ลานติง วิลล่า
เธอเปลี่ยนชุดและตรงไปที่ห้องนอน ครั้นเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าโจวอี้นั่งอยู่ที่ขอบเตียง และกำลังมองดูลูกสาวของเขาอย่างเงียบ ๆ รอยยิ้มชายหนุ่มเคลือบไปด้วยความสุขและความพึงใจ
จู่ ๆ หัวใจของถังหว่านก็อุ่นวาบขึ้นมา
โจวอี้เพิ่งจะเห็นว่าถังหว่านกลับมาแล้ว เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเธอ ก่อนจะโอบรอบเอวคอดแล้วพูดเบา ๆ ว่า “วันนี้บนเวทีคุณสวยมาก เหมือนนางฟ้าเลย”
“ฉันสวยจริง ๆ นั่นแหละ ฉันรู้ดี” ถังหว่านดูสับสนเพียงชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ผลักโจวอี้ออก ใบหน้าของเธอแดงเรื่ออีกทั้งม่านตายังขยับสั่นไหว
โจวอี้ยิ้มก่อนจะปล่อยมืออกจากเอวของถังหว่าน
เขาเป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยม มีทักษะการสังเกตที่น่าทึ่ง อาการลังเลของถังหว่านเช่นนี้ มองอย่างไรเขาก็เชื่อว่าเธอกำลังยอมรับเขาอย่างช้า ๆ
หากเขาเร่งรีบคงจะทำให้เสียเรื่องเปล่า ๆ ตะล่อมไปแบบนี้แหละดีแล้ว
“ลำบากคุณแล้ว ลูกสาวชอบเพลงของคุณและภูมิใจในตัวคุณมาก รีบอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้อย่าลืมมารับประทานอาหารเช้า” โจวอี้ยิ้มทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากห้องนอน
ถังหว่านมองตามแผ่นหลังของโจวอี้ รอยยิ้มอันอบอุ่นพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ณ วิลล่าข้าง ๆ
เมื่อโจวอี้กลับมาถึงบ้าน เขาก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนแล้วเข้านอน
เขาไม่ง่วงแต่อย่างใด
ใบหน้าอันงดงามของถังหว่านยังคงตรึงอยู่ในใจของเขา
กระทั่งเวลาตีสอง โจวอี้เพิ่งผล็อยหลับไป ทว่าจู่ ๆ ร่างมายาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ข้างเตียง
ผู้มาเยือนเป็นหญิงสาวสวมอาภรณ์สีแดงสด ผมของเธอยาวสลวย เธอสวมรองเท้าหนังสีแดง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มพึงใจ
ดวงตาของเธอเปล่งประกายอ่อนโยนยามมองไปที่โจวอี้ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
แต่!
เพียงลมหายใจเดียว แววตาของเธอก็แข็งกร้าว
หญิงสาวตวัดนิ้วเรียวซีดขึ้นมา ดวงตายังคงจดจ้องไปที่ลำคอของโจวอี้ ในครู่นั้น ร่างของเขาก็ลอยขึ้นกลางอากาศ
โจวอี้รู้สึกเหมือนถูกยกขึ้นไปบนก้อนเมฆ จากนั้นเขาก็ถูกหมัดสวนเข้าที่หน้าท้อง เขาขดตัวด้วยความเจ็บปวด แต่แล้วก็ถูกกระแทกไปที่มุมห้องอย่างแรงก่อนจะได้ทันสู้กลับ
ทั้งหมัดทั้งแรงเตะกระหน่ำลงที่ร่างของเขาอย่างรุนแรง
โจวอี้ไม่สามารถลุกขึ้นได้ หมัดและแรงเตะยังคงกระหน่ำใส่เขาราวกับห่าฝน
เจ็บ!
แต่ตราบใดที่ไม่ได้ถูกตบหน้าก็ไม่เป็นไร
โจวอี้ได้กลิ่นที่คุ้นเคยจึงปล่อยให้อีกฝ่ายตีเขาอยู่อย่างนั้น
ไม่กี่นาทีต่อมา หญิงสาวในชุดแดงก็ดูเหมือนจะปลดปล่อยความโกรธของเธอไปแล้ว เธอยกร่างโจวอี้ขึ้นมาอีกครั้งแล้วโยนโครมลงบนเตียงใหญ่โดยไม่มีความลังเลใด ๆ
จากนั้นเธอก็ขึ้นคร่อมเขาทันที
ดวงตาของเธอจดจ้องโจวอี้ภายในแสงสลัว
“รู้ไหมว่าทำอะไรผิด?” หญิงชุดแดงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“รู้!”
สภาพตอนนี้ของโจวอี้เหมือนแมวตัวน้อยที่ถูกทำร้ายหลังจากถูกทุบตีไม่มีผิด
“ถ้ารู้ก็บอกมา”
“ฉันไม่ควรแอบออกไปโดยไม่บอก” โจวอี้ลูบเอวข้างที่ปวดของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ
“เปลี่ยนที่กันไหม” ผู้หญิงในชุดกระโปรงแดงถามกลับ
“เปลี่ยน”
“ถ้าเปลี่ยนก็กลับไปกับฉัน”
“ไม่!” ใบหน้าของโจวอี้เปลี่ยนไปและปฏิเสธออกมาทันที
เมื่อพูดจบ เขาก็โดนหมัดของคนบนร่างกระหน่ำลงมาอีกรอบ
ผ่านไปครู่ใหญ่ หญิงสาวชุดแดงจึงถามอย่างเย็นชาว่า “อยากกลับไปกับฉันไหม”
“ไม่กลับ!” โจวอี้ยกข้างแขนที่ปวดขึ้นมาและพูดด้วยเสียงอันดังว่า “หยุดทุบตีฉันได้แล้ว จะทุบอีกกี่รอบฉันก็ไม่กลับไปหรอก”
“นี่นาย…!” หญิงสาวชุดแดงโทสะปะทุทันทีที่ได้ยิน
“ฉันออกมาเพราะมีเหตุผลบางอย่าง หยุดมือได้แล้ว แล้วก็นั่งลงซะ ฉันจะเล่าให้ฟัง” โจวอี้พยายามประนีประนอม
ผลัวะ!
หลังทุบไปอีกรอบ หญิงสาวชุดแดงก็ช่วยโจวอี้นั่งข้างเตียง
“เอาเลย! ถ้าฉันไม่พอใจกับคำอธิบายของนาย ฉันจัดการนายอีกรอบแน่” หญิงสาวชุดแดงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงฟังดูโหดร้ายอย่างยิ่ง