ตอนที่ 17

Dungeon Defence

นึ่งในผู้บริหาร กึนคัสก้า, ก๊อบลินผู้ตระหนี่, โทรูเคล
ปฏิทินจักรวรรดิ: ปี 1505, เดือน 8, วัน 16
สำนักงานใหญ่บริษัท กึนคัสก้า, ชั้นสูงสุด

ณ ชั้นสูงสุดของสำนักงานใหญ่

มันเป็นสถานที่ซึ่งระดับผู้บริหารเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าถึงได้

ในห้องขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่ เว้นแต่โลงศพจำนวนหนึ่งที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง …… เมื่อมองดูคราวๆ, มันมีจำนวนเกินกว่า 30 โลงเลยทีเดียว

“เครุ.”

ไม่ว่าข้าจะเห็นมันกี่ครั้งก็ตาม, มันก็ยังทำให้ข้ารู้สึกขนลุกทุกที. แวมไพร์ในยุคปัจจุบันได้กล่าวว่า โลงศพนั้นเป็นของที่เชยดูล้าสมัยและพวกเขาก็ไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว. พวกเขาทั้งหลายชื่นชอบที่จะนอนอยู่บนเตียงแทน. เป็นอีกครั้งหนึ่ง, ที่ทำให้ข้าได้คิดว่า อีวาน ล๊อทบรอค ผู้นั้น เป็นพวกหัวโบราณตกยุคอย่างแท้จริง

ณ ตอนที่ข้า กำลังก้มมองอ่านหนังสืออยู่

“—คุณโทรูเคล.”

“โอ คุณพระช่วย!”

ผมสะดุ้งตกใจและหันไปมอง

มีแม่มดร่างเตี้ยผู้หนึ่งกำลังแสยะยิ้มทักทายตอบ

“สีหน้าคุณเหมือนพึ่งเห็นผีมาเลย.”

“ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ก็บอกกันดีๆสิ!”

“หนูขอโทษด้วยค่ะ. หนูอดไม่ได้ที่จะแหย่คุณเล่นทุกครั้งที่หนูเห็นคุณค่ะ คุณโทรูเคล.”

“เครุรุก, ข้ารู้สึกเหมือนหัวใจหล่นหายไปกับพื้นเลย……. ว่าแต่ วิธีการพูดแปลกๆของคุณนั่นมันอะไรกันห๊า?”

นังแม่มดผู้นั้น ได้ก้าวเดินเข้าหาโลงศพสีดำ

ถ้าข้าจำชื่อของเธอไม่ผิด เธอน่าจะชื่อ เบียทริส. โดยปกติแล้ว หล่อนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแม่มดเบอร์เบเร่. แต่เมื่อหลายทศวรรษก่อน, หลังจากเกิดความขัดแย้งขึ้นกับอีวาน ล๊อทบรอค หล่อนได้ถูกจับกุมตัวโดยฝ่ายของเขา. และเมื่อวานนี้, เธอก็ได้ออกไปข้างนอกโดยบอกว่าจะขุดคุ้ยหาข้อมูลของลาพิส ลาซูรี่. กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ, เธอทำหน้าที่เป็นสายลับนั่นเอง

“วิธีการพูดของหนู?”

นังแม่มดได้นั่งลงบนโลงศพ. เสียงของหล่อนแม้จะดูเอียงอายแต่สีหน้าของเธอกลับยิ้มแย้มอยู่. นังโรคจิตนี่. ยัยนี่กำลังสนุกกับสถานการณ์ในตอนนี้แน่ๆ

“วิธีการพูดของหนูเป็นยังไงหรือคะ, คุณโทรูเคลผู้ขี้งก?”

“มันสร้างความรำคาญมากพอที่จะทำให้ข้ารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนเลย……ชิ. ช่างเปล่าประโยชน์จริงๆที่บ่นคุณ ในเมื่อยังไงคุณก็ไม่ฟังอยู่ดี. เอาเหอะ. บอกข้าเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลาพิส ลาซูรี่ได้แล้ว. คุณจะกลับมาก็ต่อเมื่อได้ข้อมูลใหม่ๆมา, หรือมันไม่จริงล่ะ?”

“กรุณาอย่าพึ่งรีบร้อนสิคะ คุณโทรูเคล. ผู้ชายที่ชอบกล่าวเร่งผู้หญิงมักจะไม่เป็นที่นิยมนะคะ. ในเมื่อคุณชอบทำตัวแบบนี้ตลอด, นั้นเป็นสาเหตุที่ทำไมคุณถึงยังไม่มีเมียมานานเป็นร้อยๆปีค่ะ.”

“ข้ายอมเป็นโสดเองโว้ย!”

นังแม่มดหลุดขำออกมาอย่างเสียงดัง

เสียงหัวเราะของหล่อนฟังดูเหมือนกับแม่มดชั่วร้าย. นี่ยิ่งทำให้ข้าโมโหหนักขึ้นกว่าเดิมอีก

“หนูคิดว่า มีเรื่องสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่หนูเจอ. จอมปีศาจ ดันทาเลี่ยน ได้ตกหลุมรักกับซัสคิวบัสมากกว่าที่พวกเราได้คาดคิดไว้. เขาถึงกับสารภาพรักของเขาต่อหน้าเธอ กลางจตุรัสลานกว้างเฮอร์มีสอย่างโจ่งแจ้ง”

“อะไรนะ?”

“ต้องให้หนูทวนคำพูดของเขาคำต่อคำเลยมั้ยคะ? ‘ข้าคือจอมปีศาจ ส่วนนางผู้นี้เป็นเพียงสามัญชนธรรมดา พวกเราทั้งสองต่างถูกห้ามมิให้ครองคู่กัน แต่ทว่า, ข้าขอสาบานต่อเทพธิดาอโพไดส์ว่า, ข้า, ดันทาเลี่ยน, จอมปีศาจลำดับที่ 71, ขอประกาศความรักของข้าที่มีต่อนางผู้นี้.’”

ข้าถึงกับขมวดคิ้วหลังจากได้ฟัง

การที่กล่าวถ้อยคำเหล่านั้นในที่สาธารณะ, มันฟังดูไม่เข้าท่าเลย. มันมีลิมิตว่าคนเราสามารถโง่เขลาได้ถึงเพียงไร. ถ้าหากว่าดันทาเลี่ยน เป็นคนเซ่อซ่าไม่รู้จักยางอาย, เขาจะกระทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?

“มันคือเรื่องจริงค่ะ. เขาถึงขนาดฆ่าแอนโดรมาเรียส โดยอ้างว่าทำไปเพื่อเจ้าซัสคิวบัสนั่น.”

“แอนโดรมาเรียส? อย่าบอกนะว่าคุณพูดถึงจอมปีศาจลำดับที่ 72.”

นังแม่มดยิ้มเจื่อนๆออกมา

เธอเริ่มบอกข้าเกี่ยวกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. เรื่องที่แอนโดรเรียสก่อความวุ่นวายอย่างไร เขาด่าทอและทำร้ายลาพิส ลาซูรี่ยังไง. และเหตุการณ์ที่ดันทาเลี่ยนได้ฆ่าแอนโดรมาเรียส…….

“โอ้ว พระเจ้า.”

ขณะที่ข้าได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ, ปากของข้าก็อ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ

นังแม่มด, ได้พยักหน้าเหมือนกับเข้าใจความรู้สึกของข้า

“ทุกถนนหนทางในเมืองนิฟเฮมต่างฮือฮากัน. ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ผู้คนต่างก็พูดถึงเรื่องราวความรักระหว่างจอมปีศาจดันทาเลี่ยน กับสามัญชนลาพิส ลาซูรี่ พวกเขาต่างก็หลงใหลในเรื่องราวของรักต้องห้าม.”

“นี่ดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แม้ว่าแอนโดรมาเรียสจะเป็นจอมปีศาจที่ห่วยที่สุด, เขาก็ยังเป็นถึงจอมปีศาจนะ มันเป็นไม่ได้ที่จะฆ่าเขาแบบนั้น!”

“น่าเสียดาย, ประชาชนเมืองนิฟเฮมกลับชื่นชมในตัวดันทาเลี่ยนแทนค่ะ”

นังแม่มดพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

“แอนโดรมาเรียสใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาอยู่ในบ่อนคาสิโน และชอบทำตัวเหมือนกุ้ยข้างถนน, คุณก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีนะคะ. ถ้าคุณมองข้ามเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ของเขา มันก็ไม่เหลือข้อดีเกี่ยวกับตัวเขาเลย เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของเขาเลวร้ายสุดๆ จนประชาชนส่วนใหญ่ต่างกล่าวกันว่าพวกเขาดีใจสุดๆและถึงกับดื่มฉลองให้แก่เหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยค่ะ”

“……”

มันจินตนาการได้ไม่ยากเลย

เสียงบ่นเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของแอนโดรมาเรียสนั้นเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ‘แม้ว่าเขาจะเป็นถึงจอมปีศาจ ใชว่าเขาจะทำตัวกร่างได้ขนาดนี้นะ’ ‘นี่เขาไม่ต้องโดนควบคุมพฤติกรรมบ้างเลยหรือไง’ ; คำพูดเหล่านี้ถูกส่งไปยังสภาเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า, สรุปได้ว่า เขาเป็นตัวป่วนสำหรับทุกคน

ทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายอย่างไร้เหตุผลโดยแอนโดรมาเรียส ครอบครัวของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จึงยกย่องชื่นชมตัวดันทาเลี่ยนกัน.

“……จังหวะมันเหมาะเกินไป”

“ช่าย—”

แม่มดพยักหน้าของเธอ

ในไม่ช้าการประชุมใหญ่ของเหล่าจอมปีศาจกำลังจะถูกจัดขึ้น พวกเรากำลังวางแผนที่จะโจมตีทางการเมืองต่อดันทาเลี่ยน ณ ที่นั้น. ในช่วงเวลาอันน้อยนิดก่อนการประชุม, ซึ่งก็คือในขณะนี้ , ดันทาเลี่ยนสามารถเพิ่มคะแนนนิยมอย่างพรวดพราดต่อประชาชน

“นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่านะ?”

มันเป็นเรื่องยากที่จะลบข้อสงสัยในหัวของข้า พวกเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่า การกำจัดแอนโดรมาเรียสเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกวางแผนเอาไว้ ข้าจ้องมองไปที่นังแม่มดด้วยสงสัย

“หนูไม่อาจหาข้อมูลได้ไกลถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงก็ตาม …… ”

“ยังไงก็ตาม, มันมีโอกาสเป็นไปได้สูง. คือสิ่งที่คุณกำลังจะพูด ถูกมั้ยล่ะ?”

“ช่าย.”

สีหน้าของนังแม่มดเริ่มจริงจังขึ้น

“ตัวดันทาเลี่ยนนั้น, ในทันทีที่แอนโดรมาเรียสทำร้ายคนรักของเขา ได้กล่าวใช้คำเตือนโคไซทัสเป็นข้ออ้าง มันราวกับว่าเขากำลังรอคอยโอกาสนี้อยู่. นี่เป็นไอเดียที่ยากจะคิดถึง ณ ตอนนั้นโดยทันควันค่ะ ”

“อืมมมมม”

งั้นนี่ก็ไม่ใช่การฆาตกรรมโดยบังเอิญสินะ

ทุกคนรู้ว่าแอนโดรมาเรียส ชอบร่อนเร่ไปมาในเมืองนิฟเฮม สถานที่เขาชอบไปก็มีไม่มาก. มีแค่คาสิโน, ย่านหอนางโลมและก็บาร์ มันมีแค่นี้เอง. โอกาสที่จะเจอแอนโดรมาเรียสจึงค่อนข้างสูง การวางแผนที่จะฆ่าเขาล่วงหน้าจึงเป็นไปไม่ยากเช่นกัน ……

“คุณไม่คิดว่ามันตลกเหรอคะ?”

“เครุ? อะไรนะ?”

“หลายปีที่ผ่านมา, ไม่มีใครพยายามที่จะหยุดแอนโดรมาเรียสจากการก่อกวนเลยเพียงเพราะเขาเป็นจอมปีศาจ แม้จะเป็นเช่นนั้น, ดันทาเลี่ยนก็ได้ฆ่าเจ้าตัวสร้างปัญหานั่นภายใน 30 นาทีหลังจากที่ได้พบเขา …… ”

นังแม่มดฉีกยิ้มกว้าง

“แอนโดรมาเรียสได้คว้าผมของหนูและดึงมันตามที่เขาพอใจ มันทำให้หนูรู้สึกหยั่งกับเป็นปศุสัตว์แทนที่จะเป็นคน เปรียบเสมือนหมูที่คุณสามารถทุบตีและแกล้งมันตามที่คุณพอใจ. ”

“…… ”

“มันเป็นการดูถูกอย่างรุนแรง”

นัยน์ตานังแม่มดได้ทอประกายอย่างพิกล

เธอคนนี้แสดงความเป็นปรปักษ์ต่อสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าจอมปีศาจอย่างชัดเจนเลย

“เขาแค่มียศฐาบรรดาศักดิ์ที่สูงเท่านั้นเอง เมื่อเจ้าคนไร้ค่าที่ไม่มีพรสวรรค์ใดๆดึงผมของหนู มันรู้สึกขัดใจจนหนูอยากจะฉีกคอของเขาและ …… ”

“เฮ้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคุณหรอกนะ, แต่ว่า ”

ข้าพูดอย่างระมัดระวัง

“ถ้ากล่าวตามเหตุผลโดยทั่วไปแล้วนั้น, จอมปีศาจไม่ได้ไร้ความสามารถซะทีเดียวหรอกนะ. อย่างแรกก็คือ, พวกเขาเชี่ยวชาญภาษาบาบิโลน และไม่ใช่ว่าพวกเขานั้นเข้าใจรวมทั้งสามารถใช้ภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ปีศาจได้ตั้งแต่แรกเกิดหรอกเหรอ? อีกทั้ง, ตำแหน่งทางการเมืองของพวกเขา …… ”

“หนูเชี่ยวชาญภาษาถึง 36 ภาษาของชนเผ่าต่างๆเลยนะคะ”

“…… ข้าก็รู้เรื่องนี้ดี. ยังไงก็เถอะ, จอมปีศาจมีความสำคัญทางศาสนาอย่างมาก สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วนั้นเหล่าจอมปีศาจทั้งหลายเปรียบเสมือนตัวแทนของพระเจ้า และพวกเขาก็ยังเป็นนักบวชที่มีอำนาจที่สุดในนั้นด้วย ”

“งั้น ถ้ามีใครสักคนสั่งให้จอมปีศาจตาย, คนที่บังอาจสั่งเช่นนั้นคงจะถูกฆ่าตายแทนสินะคะ?”

นังแม่มดหัวเราะเยาะเย้ยออกมา

“โอ้ ได้โปรดเถอะค่ะคุณโทรูเคล อย่าคิดในมุมมองของประชาชนทั่วไปสิคะ ”

น้ำเสียงของนังแม่มดเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม และรอยยิ้มอันน่าลุ่มหลงได้ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเธอ

“ประชาชนทั้งหลาย ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มคนโง่เง่าและไร้ความคิดหรอกค่ะ”

“ข้าต้องขอโทษด้วย, แต่ข้าคงต้องคัดค้านคำกล่าวนั้น. เสียงของมวลชนย่อมเหนือกว่าเสียงส่วนน้อยอยู่แล้ว แม้กระทั่งฮีโร่ ก็ไม่สามารถพิชิตทั้งทวีปได้ด้วยตัวของเขาเอง ”

“ถ้างั้นคุณกำลังบอกว่าพวกเราควรจะทำตามตรรกะของคนส่วนใหญ่ และใช้ตรรกะนั้นตัดสินว่ามันถูกหรือผิดงั้นเหรอคะ? โทรูเคล. พ่อก๊อบลินขี้งกผู้สูงส่งของพวกเรา นั่นไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีเลยในสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเรา ”

แท๊ค

หล่อนได้ดีดนิ้วของเธอ

และทันทีหลังจากนั้น, ก็มีเสียงของโลงศพเปิดขึ้น ณ ที่ใดที่หนึ่งของห้องก้องกังวาลออกมา ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าหวาดกลัว, ก็มีคนบางคนลุกขึ้นมาจากโลงศพสีดำ

มันคือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดสาวใช้

เธอค่อยๆเปิดตาของเธอและหันมองมาทางนี้

เด็กผู้หญิงคนนั้นเหยียดยิ้มอย่างเย็นชาและเริ่มขยับริมฝีปากของเธอ

“นั่นเป็นเพราะว่าพวกเรานั้นมีอำนาจค่ะ ”

“…… ความคิดเห็นส่วนน้อยสามารถได้รับการยอมรับแม้ว่าสังคมจะใช้ตรรกะส่วนใหญ่เป็นหลักตัดสิน มันเกิดขึ้นได้แม้คนๆนั้นจะมีวิจารณญาณและหลักความคิดอยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม”

“โอ้, คุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ?”

สาวใช้ผู้นั้นเคาะที่หลังมือของเธอเบาๆ ทันใดนั้น โลงศพสีดำอีกโลงก็เปิดขึ้นมาและมีร่างบางอย่างลุกขึ้นจากในนั้น

ครั้งนี้ ที่ปรากฏตัวคือผู้ชายที่มีหัวเป็นหมาป่า หรือก็คือแวร์วูลฟ์นั่นเอง ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า

“นั่นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเสียงส่วนน้อยมีกำลังมากพอตัว อย่างไรก็ตาม, ในโลกของปีศาจที่เราอาศัยอยู่ มันมีชนเผ่าออร์คมากกว่า 470 เผ่า ในขณะที่เผ่าแวร์วูลฟ์มีเพียง 2 เผ่าที่ยังหลงเหลืออยู่ หากมีการกระทบกระทั่งระหว่างสองเผ่าพันธุ์ คุณคิดว่าพวกออร์คที่มีเป็นล้านตัว จะให้เกียรติเผ่าพันธุ์แวร์วูลฟ์ที่มีจำนวนแค่เกือบร้อยงั้นเหรอ? มันคงได้แต่หวังให้พวกออร์คมีวิจารณญาณและความคิดที่ดีเท่านั้นแหละ”

“…… ”

มนุษย์หมาป่าผู้นั้นได้ผิวปาก

ทันทีที่เขาทำเช่นนั้น, โลงศพที่เหลือทั้งหมดก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมๆกัน

โลงศพแต่ละอันบรรจุคนเพียงหนึ่งคน. คนทั้งหมดกว่า 33 คน ได้ขยับร่างของพวกเขาขึ้นมา

ในจำนวนเหล่านั้น, มีชายแก่ท่าทางดูเหมือนสุภาพบุรุษเดินตรงมาทางนี้

“การจะเป็นเสียงส่วนน้อยจำเป็นต้องมีอำนาจนะโทรูเคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างข้า, ผู้ซึ่งต้องแข่งกับแวมไพร์ที่เหลืออีก 2 คน, ข้าจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นต่อคนรอบข้างของข้า. ”

“…… อีวาน ล๊อทบรอค”

เสียงถอนหายใจดังออกมาจากปากของข้า

นั่นคือพลังของเขาที่เป็นทั้งแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์และนักเชิดหุ่นด้วย

เขามีความสามารถในการเคลื่อนย้ายจิตไปยังทาสต่างๆของเขาตามที่อีวานพอใจ

อีวาน ล๊อทบรอค มีตุ๊กตาทาสถึง 32 ตัว. เพราะฉะนั้น มันเลยเป็นไปได้ที่เขาจะทำงาน 32 อย่างที่แตกต่างกันได้โดยพร้อมเพรียงกันตามที่เขาต้องการ มันเป็นความลับที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีซึ่งมีแค่ข้า, จากบรรดาผู้บริหารทั้งหลายเท่านั้นที่รู้

โลกของปีศาจถูกควบคุมโดยเหล่าจอมปีศาจ ไม่ว่าคุณจะร่ำรวยมากแค่ไหน, มันก็ยังมีอันตรายจากการที่จะถูกกวาดล้างโดยบุคคลที่มีอำนาจอย่างแท้จริงอยู่เสมอ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมผู้คนต้องสร้างเกราะป้องกันเพื่อความปลอดภัย และนั่นคือเหตุผลที่อีวาน ล๊อทบรอค มีตุ๊กตาทาส 32 ตัวไว้ในครอบครอง

แม้ว่าพวกเราจะถูกจอมปีศาจคุกคาม, อีวาน ล๊อทบรอค ก็สามารถย้ายจิตวิญญาณไปมาระหว่างทาสของเขาได้ และสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ในที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ อีวาน ล๊อทบรอค ซ่อนตุ๊กตาเหล่านี้ไว้อย่างลับๆ ความลับที่เหล่าจอมปีศาจต้องห้ามรู้เป็นอันขาด

…… แต่ดูจากท่าทางพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมา มันรู้สึกว่าครึ่งนึงของเหตุผลที่เขามีมันไว้ เป็นเพราะว่ามันคืองานอดิเรกของเขา

“อืม ทุกอย่างดูปกติดี”

อีวาน, ผู้กำลังพึงพอใจร่างกายของตนจนออกนอกหน้า ได้ปัดฝุ่นออกจากร่างของเขา

“ข้ากำลังกังวลว่าอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมันเป็นระยะเวลานานแล้วนับตั้งแต่ที่ข้าได้ย้ายจิตวิญญาณไปมา. ข้าคงไม่รู้สึกโล่งใจไปกว่าเรื่องนี้แล้ว. ”

“โล่งอกไปที หลังจากที่ข้าถูกบังคับให้เห็นชายชราคนหนึ่งทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิง มันทำให้ทั้งเบ้าตาและรูหูของข้าถึงกับเน่าเปื่อยเลย. นี่, ข้าอยากรู้ว่า, ทำไมคุณถึงเชี่ยวชาญในการเลียนแบบวิธีที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆพูดฮะ?”

อีวาน ล๊อทบรอคนวดไหล่ของเขา

“จะให้ข้าทำยังไงเมื่อจิตสำนึกได้รับผลกระทบจากร่างกายล่ะ?”

อีวานยักไหล่

“ข้าอยากให้คุณเข้าใจสักหน่อยนะโทรูเคล เพื่อเป็นการตบตาเหล่าสาวๆเบอร์เบเร่ การแสดงคือหัวใจสำคัญเลย. พวกเขายังไม่รู้ว่าเบียทริสถูกข้ายึดครองแล้ว ”

“เอาล่ะ, นั้นเป็นเหตุผลที่ฟังดูเข้าท่าสำหรับเรื่องตบตาแม่มด แต่ทำไมคุณถึงต้องทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงและเพิ่มคำสุภาพต่อหน้าข้าด้วยห๊า? ”

“แน่นอนว่า, เพื่อสนุกกับการดูสีหน้าการแสดงออกของคุณที่ขยะแขยงทุกครั้งที่ข้าใช้คำสุภาพไงล่ะ”

“แสดงว่ามันเป็นงานอดิเรกของคุณนี่เอง!”

อีวานหัวเราะออกมา

หลังจากหัวเราะเป็นเวลานาน เขาก็กลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง

“…… โทรูเคล. คุณลองคิดดูให้ดีนะ. ถ้าหากว่าพวกเขาตั้งใจฆ่าแอนโดรมาเรียสจริงๆ, ตัวจอมปีศาจดันทาเลี่ยนกลับไม่ได้ประโยชน์หรอก ”

“อะไรนะ?”

“กล่าวสั้นๆก็คือ, ในช่วงเวลาไม่นานเขาอาจจะได้รับความนิยมจากประชาชนทั้งหลาย แต่ถ้าคุณมองในระยะยาวแล้ว การสูญเสียจะเกิดขึ้นมากกว่า ความจริงที่ว่าเขาได้นำเอาจัณฑาลเป็นคนรัก จะยังคงเป็นมลฑิลและทำลายชื่อเสียงของเขาอย่างต่อเนื่อง สรุปได้ว่า, เส้นทางการเมืองของเขาจะบั่นทอนลง เขากำลังบีบคอของตัวเอง ”

ข้าได้ขมวดคิ้ว

“งั้น ทำไมดันทาเลี่ยนถึงฆ่าแอนโดรมาเรียสล่ะ?”

อีวานส่ายหน้า

“คิดให้กว้างกว่านี้สิ โทรูเคล”

“กว้างกว่านี้?”

“ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้, มีเพียงคนเดียวที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด มันไม่ใช่ทั้งแอนโดรมาเรียสและไม่ใช่ดันทาเลี่ยน”

“…… ?”

มันเป็นปริศนาเหมือนกับตอนทำบัญชีงบดุล (แอส : ปริศนาเงินบริษัทหายไปไหนไง)

แอนโดรมาเรียสและดันทาเลี่ยนปะทะกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ ใครกันที่ …… อาาา หรือว่ามันจะเป็น, หรือว่ามันจะเป็นแบบนั้น!

“ลาพิส ลาซูรี่!”

เสียงของข้าดังออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้, นี่ไม่ต่างอะไรกับการที่นังลาพิส ลาซูรี่ ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นคนรักของจอมปีศาจ!”

“เพราะเหตุนี้ นังซัสคิวบัสสาวนั่นจึงเป็นคนเดียวที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด. ”

อีวานพยักหน้า

“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะสั่งดันทาเลี่ยนไว้ล่วงหน้า, ว่าถ้าแอนโดรมาเรียสพยายามหรือเริ่มที่จะหาเรื่องกับพวกเขา ก็ให้ใช้ คำเตือนโคไซทัส เป็นข้ออ้างจากนั้นก็ฆ่าเขาทิ้งซะ ตั้งแต่ที่ดันทาเลี่ยนได้ตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำกับนังซัสคิวบัสนั่น, เขาคงจะยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งเป็นอย่างยิ่งแน่ๆ และก็เป็นไปตามที่พวกเขาได้วางแผนไว้, พวกเขาได้เจอกับแอนโดรมาเรียส …… ”

ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย

“งั้น, สิ่งที่ลาพิส ลาซูรี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อเพิ่มฐานะของตัวเอง …… ?”

“ใช่แล้ว หล่อนได้ปั่นหัวจอมปีศาจทั้งสองตน ดันทาเลี่ยน, และแน่นอนว่า รวมถึงตัวแอนโดรมาเรียสด้วย ถูกกวาดต้อนเข้ามาในแผนการของเธอโดยไม่รู้ตัว ”

“ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าเย้ยหยันอะไรเช่นนี้ …… ”

ข้ารู้สึกได้ถึงเสียงของตัวเองที่กำลังสั่นคลอน

ในทางตรงกันข้าม, อีวานกลับบ่นพึมพำราวกับว่าเขากำลังสนุกอยู่

“ไม่ใช่ว่ามันช่างดูน่างดงามงั้นหรือ? เพียงช่วงเวลาสั้นๆก่อนหน้านี้, นังซัสคิวบัสนั่นมีฐานะไม่เกินไปกว่าพ่อค้าเลย แต่ทว่า, เธอกลับสามารถได้รับเงินกู้ก้อนใหญ่จากบริษัทโดยการหลอกลวงพวกเรา, เธอดึงดันทาเลี่ยนให้มาอยู่ข้างเธอ และตอนนี้เธอก็สามารถกำจัดแอนโดรมาเรียสได้ …… ”

“…… ”

“ข้ารู้สึกประทับใจจริงๆเลย. นังซัสคิวบัสนี่เป็นเหมือนศูนย์รวมของความกระหายอำนาจ การที่หญิงสาวคนนี้ได้เกิดมา, มันทำให้โลกนี้ช่างคุ้มค่ายิ่งนักที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ ”

อีวานมองตรงมาที่ข้า

“โทรูเคล ฝ่ายตรงข้ามของพวกเรานั้นช่างร้ายกาจเหลือเกิน นังซัสคิวบัสคนนี้เก่งพอที่จะเอาชนะสถานะทางสังคมของตัวหล่อนเองได้ เธอเป็นคนเลือดเย็นอำมหิตและไร้ความเมตตาทั้งสองอย่างเลย ”

“…… ”

“แต่เธอก็ยังไม่ได้ดีเกินไปกว่านักวางแผนที่ยังคงอ่อนหัดอยู่ ฐานะของลาพิส ลาซูรี่ มาจากดันทาเลี่ยน ถ้าพวกเรากวาดดันทาเลี่ยนทิ้งซะ เธอก็จะไม่ได้เป็นคนรักของจอมปีศาจอีกต่อไป เธอจะเป็นแค่นังจัณฑาลที่โอหังอวดดีเท่านั้น”

นั่นกล่าวได้ถูกต้องเลย

ถ้าคุณต้องการจัดการกับแม่ทัพ, คุณก็ต้องเล็งที่ม้าก่อน

ในตอนนี้ ลาพิซ ลาซูรี่ ได้อยู่บนม้าที่รู้จักกันในชื่อดันทาเลี่ยน และกำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ แต่ถ้าคุณมัดเท้าของดันทาเลี่ยน, แน่นอนว่าความมั่นใจของเธอก็จะถูกบั่นทอนลงเช่นเดียวกัน

“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากว่า คุณต้องแยกพวกเขาออกจากกัน …… คุณสามารถทำได้อย่างงั้นเหรอ? ”

“ข้าขอสาบานตนเลยว่าแผนครั้งนี้จะต้องสำเร็จ ฝ่าบาทเพย์ม่อนก็เห็นด้วยกับแผนของเรา ถ้าโอกาสผิดพลาด1 ใน 10,000 ได้เกิดขึ้นในแผนนี้ ข้าจะรับผิดชอบทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ”

ข้าจ้องมองไปที่อีวาน ล๊อทบรอค อย่างจริงจัง

เมื่อข้าทำเช่นนั้น, อีวาน ล็อทบรอค ก็พยักหน้าตอบกลับ

โดยที่ไม่ต้องถามก่อนเลยว่าใครจะเป็นคนแรกที่จะกล่าวคำสาบานตน

“โอ้ กึนคัสก้าอันยิ่งใหญ่—–”

“เจ้าจะต้องใช้หนี้โลหิตด้วยโลหิตของเจ้า ”

นี่เป็นคำกล่าวปฏิญาณตนของบริษัทพวกเราที่ดำรงมากว่า 400 ปีตามประวัติศาสตร์ได้จารึกเอาไว้ พวกเราได้แบกรับความภาคภูมิใจกว่า 400 ปีในการประชุมใหญ่ครั้งนี้. พวกเราพ่ายแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด

ลาพิส ลาซูรี่ เจ้าอาจจะเป็นนางเอกที่น่าประทับใจ แต่เจ้ายังเป็นต้นกล้าอยู่ พวกเราจะเหยียบย้ำเจ้าให้มลายหายไปโดยสิ้นเชิงคอยดูเถอะ