ตอนที่ 130 ชายผู้ไร้หัวใจ

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 130 ชายผู้ไร้หัวใจ

หลี่ปิ้งถิงตั้งครรภ์!

องค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่หัวเราะร่า

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เขาดีใจที่สุดในหนึ่งปีนี้

เขาเดินทางเข้าไปทูลรายงายข่าวนี้ในวังหลวงอย่างทนรอไม่ไหว

“เสด็จพ่อ กระหม่อมจะเป็นบิดาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้หย่งไท่ได้ยิน จึงเผยรอยยิ้มให้องค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่อย่างหาได้ยาก

อภิเษกมาหนึ่งปีกว่า ในที่สุดก็มีบุตรแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดี

ระยะนี้ภายในวังหลวงบรรยากาศตึงเครียด ไร้ซึ่งรอยยิ้ม

พระชายาองค์ชายใหญ่มีครรภ์เป็นเรื่องมงคล ต้องเฉลิมฉลอง

ฮ่องเต้หย่งไท่พระราชทานของขวัญมากมาย ทั้งสมุนไพร ผืนผ้า เครื่องประดับเงินทอง…

องค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่เสด็จออกจากวังหลวงพร้อมกับของขวัญกว่าสองคันรถ

เมื่อเขากลับถึงจวนองค์ชายเผชิญหน้ากับหลี่ปิ้งถิง ยิ่งเผยสีหน้าแจ่มใสและท่าทีอ่อนโยน

หลี่ปิ้งถิงเห็นทีจึงแอบคิดในใจ บุรุษช่างเปลี่ยนง่าย

อีกทั้งนางยังถอนหายใจให้ตนเองที่ทำเพื่อองค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่สุดใจ แต่กลับไม่ได้รอยยิ้มกลับมาแม้แต่ครั้งเดียว

สุดท้ายเมื่อนางมีครรภ์ ทุกสิ่งที่นางปรารถนาล้วนได้มา

มิน่าผู้คนถึงบอกว่ามารดาร่ำรวยเพราะบุตร

นางก้มหน้ายิ้มเยาะเย้ยตนเอง พลันพึมพำ “หากในท้องของข้าเป็นเด็กหญิง พระองค์จะทรงดีใจเช่นนี้หรือไม่”

“อย่าได้พูดเหลวไหล! ท้องนี้ของเจ้าต้องเป็นเด็กชายอย่างแน่นอน” ใบหน้าของเซียวเฉิงเย่ดำทะมึนด้วยความไม่พอใจ

แต่ไม่นานเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ปิ้งถิง เจ้าอย่าคิดมาก เจ้าตั้งครรภ์อย่างสบายใจ ให้กำเนิดบุตรชายของข้า นับแต่นี้ต่อไป พวกเรามีชีวิตอย่างดี”

หลี่ปิ้งถิงมองเขาด้วยรอยยิ้ม พลันพยักหน้า “ข้าเชื่อฟังท่าน”

ครรภ์นี้มาอย่างไม่คาดคิด

ระยะนี้ร่วมหอเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่คิดว่าจะมีครรภ์

ดูท่าสวรรค์จะสงสารนางจึงประทานเด็กคนนี้มาให้

เวลานี้สิ่งเดียวที่นางกังวลก็คือ หากครรภ์นี้เป็นบุตรสาว ควรจะทำอย่างไรดี

ดูท่าทางดีใจของเซียวเฉิงเย่ หลี่ปิ้งถิงไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องบุตรสาวอีก

เพียงแค่หวังว่าครรภ์นี้จะเป็นบุตรชายดั่งที่เขาปรารถนา

ข่าวการตั้งครรภ์ของหลี่ปิ้งถิงถูกแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

เถาฮองเฮา พระสนมทั้งหลายในวังหลวงต่างส่งของขวัญมาให้

ทางตระกูลหลี่ยิ่งเบิกบาน

หลี่ฮูหยินนำแม่นมมาเดินทางมาดูแลหลี่ปิ้งถิงด้วยตนเองที่จวนองค์ชาย

“แม่นมซุนเป็นแม่นมที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในการดูแลสตรีมีครรภ์ที่สุด อีกทั้งสตรีมีครรภ์กว่าครึ่งที่ผ่านการดูแลของนางล้วนให้กำเนิดบุตรชาย ครรภ์นี้ของเจ้าย่อมต้องสมดังปรารถนา”

หลี่ปิ้งถิงลูบไล้หน้าท้องแผ่วเบา “ขอบพระคุณท่านแม่ ข้าก็หวังว่าครรภ์นี้จะเป็นเด็กชาย”

หลี่ฮูหยินยิ้มจนไม่อาจหุบปากได้ “ย่อมต้องเป็นเด็กชาย ไม่ผิดแน่ เพียงแค่เจ้าให้กำเนิดบุตรชายคนโตขององค์ชายใหญ่ นับแต่นี้ต่อไป เจ้าย่อมไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดในจวนองค์ชาย อีกทั้งเจ้าให้กำเนิดพระราชนัดดาองค์โตก่อน ย่อมสามารถเพิ่มข้อได้เปรียบให้องค์ชายใหญ่”

หลี่ปิ้งถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย บางเรื่องนางไม่อยากพูด แต่ก็ไม่อยากฟัง

สภาพจิตใจขององค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีของเขาดูบ้าคลั่ง

ถึงแม้การให้กำเนิดพระราชนัดดาองค์โตอาจเพิ่มข้อได้เปรียบ แต่ก็อาจทำให้องค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่ตกลงสู่หุบเหวลึก

นางแอบถอนหายใจ

เมื่อก่อนเจี่ยซูเฟยสง่างามเพียงใด

สุดท้าย เมื่อพ่ายแพ้ แม้แต่ชีวิตก็รักษาเอาไว้ไม่ได้

หากองค์ชายใหญ่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไร

นางเตือนหลี่ฮูหยินผู้เป็นมารดา “อย่ายโสโอหังเพียงเพราะข้ามีครรภ์ ตระกูลเจี่ยเป็นตัวอย่าง อยากรักษาชีวิตต้องไม่ทำตัวเด่น”

หลี่ฮูหยินโบกมือระรัว “ไม่เหมือนกัน! คนตระกูลเจี่ยสมองมีปัญหา บังอาจปะทะกับตระกูลเถา ตำแหน่งของเถาฮองเฮามั่นคงดุจภูเขาไท่ซาน ตระกูลเจี่ยถูกลิขิตให้พ่ายแพ้อย่างแน่นอน แต่ตระกูลหลี่ของพวกเราไม่เหมือนกัน พวกเราไม่ปะทะกับตระกูลเถา พวกเราจะหลบเลี่ยงตระกูลเถา ในเมื่อสู้ไม่ได้ย่อมต้องหลบ เจ้าวางใจเถิด ด้านนี้ท่านพ่อของเจ้า รวมทั้งท่านผู้เฒ่ามีประสบการณ์มากมาย ไม่เกิดเรื่องอย่างแน่นอน”

ตระกูลหลี่มีประสบการณ์มากมายจริง

หลังจากมารดาขององค์ชายใหญ่ เซียวเฉิงเย่เสียชีวิจ แต่หลายปีนี้ที่ตระกูลหลี่ยังไม่ล่มสลายไป ยังไม่ถูกกำจัด ยังไม่ถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง ย่อมเป็นเพราะมีประสบการณ์ในการเอาตัวรอดอย่างมาก

หลี่ปิ้งถิงยิ้มเยาะเย้ยตนเอง “ข้าเป็นกังวลเกินไป”

หลี่ฮูหยินพูดพลันยิ้ม “เจ้าน่ะ ชอบกังวลเกินไป ในตระกูลมีท่านพ่อของเจ้าและท่านผู้เฒ่า ไม่เกิดเรื่องอย่างแน่นอน”

ตำหนักเว่ยยาง

เนื่องจากหลี่ปิ้งถิงตั้งครรภ์ ทำให้เถาฮองเฮาได้รับความกระเทือนทางจิตใจอย่างมาก

นางรับสั่งให้คนไปเรียกองค์ชายสอง เซียวเฉิงเหวินมา

“สะใภ้เจ้าจะมีครรภ์ได้เมื่อใด หลี่ปิ้งถิงมีครรภ์แล้ว พวกเจ้าทั้งสองต้องเร่งมือ หากให้หลี่ปิ้งถิงให้กำเนิดพระราชนัดดาลงมาก่อน เรื่องนี้คงไม่ดีนัก”

เซียวเฉิงเหวินพูดอย่างสงบ “เรื่องบุตรยังไม่รีบ”

“ไม่รีบได้อย่างไร” เถาฮองเฮาถลึงตา “เจ้าก็ไม่เด็กแล้ว รีบมีเชื้อสายสืบทอดเสีย”

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม “เสด็จแม่ ท่านรู้สถานการณ์ร่างกายของข้าดี อวิ๋นฉีอยากตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่าย”

เถาฮองเฮาทำหน้าบึ้ง “ข้าไม่ได้พูดว่าร้ายสะใภ้เจ้าแม้แต่น้อย เจ้ากลับรีบแก้ต่างให้นาง นางมีดีเพียงนั้นเชียวหรือ”

เซียวเฉิงเหวินพูดอย่างจริงจัง “นางเป็นคู่ครองที่ข้าขอมาเอง ไม่ว่าดีหรือไม่ ข้าสมควรปกป้องนาง”

ฮึ!

เถาฮองเฮาไม่ชอบใจที่ได้ยิน

“หมอหลวงคอยบำรุงให้เจ้าอยู่เสนอ เขาได้บอกมีบุตรเมื่อใดได้หรือไม่”

“ขึ้นอยู่กับวาสนาเถิด!”

ท่าทีของเซียวเฉิงเหวินเหมือนไม่รีบร้อนในการมีบุตร

เถาฮองเฮานวดคลึงระหว่างคิ้ว “ความอกตัญญูมีสามอย่าง ไร้เชื้อสายใหญ่สุด เรื่องของบุตร เจ้าต้องใส่ใจ อย่าละเลยเช่นนี้ หากร่างกายไม่ดีก็สมควรบำรุงให้ดี หากเจ้าสามารถมีหลานให้ข้าได้ ข้าพระราชทานแปลงนาให้เจ้า”

เซียวเฉิงเหวินไม่สนใจแม้ต้องเผชิญกับแรงดึงดูดจากแปลงนา

เขากลับพูด “เสด็จแม่รีบร้อนที่จะอุ้มหลาน สู้ให้น้องสามรีบอภิเษก น้องสามร่างกายดี หลังจากอภิเษกไปสามเดือนห้าเดือนย่อมต้องมีข่าวดี”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องอภิเษกขององค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้ สีหน้าของเถาฮองเฮาก็ดำทะมึนลง

ว่าที่ภรรยาขององค์ชายสามคือเถาชีแห่งตระกูลเถา

นับแต่ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาจากไป เถาฮองเฮาก็วางแผนจะถอนหมั้น

เถาฉีไม่คู่ควรกับบุตรชายของนางอีกแล้ว อีกทั้งยังจะเป็นตัวถ่วง

นอกจากช่วยเหลือไม่ได้แล้วยังจะเป็นตัวถ่วง สะใภ้แบบนี้จะแต่งได้อย่างไร

โชคดีที่แค่หมั้นหมาย ยังไม่อภิเษก

เพียงแค่คิดจะถอนหมั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

เวลานี้ทั่วทั้งตระกูลเถาล้วนจับจ้องงานอภิเษกของเถาชีกับองค์ชายสาม คิดหวังพึ่งการอภิเษกในคราวนี้พลิกตัวกลับมา

หากพวกเขารู้ว่าเถาฮองเฮามีเจตนาถอนหมั้น เกรงว่าจากมิตรจะกลายเป็นศัตรูในทันที

เถาฮองเฮาพูดกับเซียวเฉิงเหวิน “เจ้าคิดวิธีแทนข้า ทำอย่างไรจึงจะถอนหมั่นตระกูลเถาได้”

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม “เรื่องถอนหมั้นง่ายดายนัก เถาชีตาย การหมั้นหมายย่อมไม่มีผล”

“เจ้า…”

เถาฮองเฮาขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าสอง เหตุใดเจ้าจึงชอบทำเรื่องเสี่ยงอย่างการเอาชีวิตคน”

แผนการใส่ร้ายเจี่ยซูเฟยก็มาจากเซียวเฉิงเหวิน

เถาฮองเฮาใช้แผนการของเขา เอาตัวลองพิษ สุดท้ายเจี่ยซูเฟยถูกประหารจริง

พระสนมในวังหลังไม่กล้าต่อต้านนางอีก

หากพูดตามคำพูดของเซียวเฉิงเหวินก็คือ หากเชือดไก่ให้ลิงดูไม่ได้ผล อย่างนั้นก็เชือดลิงให้ไก่ดู

เจี่ยซูเฟยที่สง่าที่สุดยังตาย ดูว่าผู้ใดจะกล้ากระโดดออกมาหาเรื่องฮองเฮาอีก

เซียวเฉิงเหวินกลับพูด

“เสด็จแม่ทรงอยากจะจัดการปัญหาในคราวเดียว หรือว่ายังเหลือปัญหาเอาไว้ หากพระองค์เสียดายชีวิตของเถาชี อยากจะถอนหมั้นอย่างสันติย่อมไม่มีทาง อย่างไรย่อมต้องเกิดความแค้น

มีเพียงเถาชีตาย อีกทั้งตายยังหาปัญหาไม่ได้ จึงจะจัดการปัญหาได้อย่างสิ้นซาก ทั้งถอนหมั้น ทั้งรับรองว่าตระกูลเถาจะไม่กลายเป็นศัตรูจองเสด็จแม่ ถึงแม้ข้าจะชอบทำเรื่องเสี่ยง แต่มันก็สามารถจัดการปัญหาได้ในคราวเดียว”

เถาฮองเฮาขมวดคิ้วมุ่น “ไม่มีวิธีอื่นหรือ”

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม “ย่อมมีวิธีอื่น อาทิส่งคนทำลายชื่อเสียงของเถาชี หรือทำให้นางป่วยหนัก หรือผู้อาวุโสในตระกูลเสียชีวิต จำเป็นต้องไว้ทุกข์สามห้าปี หรือเจ็ดแปดปี อย่างไรแล้ว วิธีการถอนหมั้นมีมากมาย แต่ไม่ว่าวิธีใดก็ไม่อาจเทียบกับการตายของเถาชี”

เถาฮองเฮาเป็นคนโหดเหี้ยม แต่เซียวเฉิงเหวินโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเถาฮองเฮาอย่างเห็นได้ชัด

จากความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้ว เถาชีเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา

แต่เมื่อพูดถึงเอาชีวิตของเถาชี ท่าทีของเขาปกติเหมือนดื่มน้ำ

เขา…

ราวกับคนไม่มีหัวใจ!

เถาฮองเฮารู้สึกหนาวอีกครั้ง หนาวเย็นเข้าไปในกระดูก

นางให้กำเนิดบุตรชายที่ไร้หัวใจนั้นเป็นเรื่องที่ดี

หรือนางจะได้รับผลกรรมเอง

เถาฮองเฮาไม่อาจสนใจได้มากมายนัก

สถานการณ์อันตราย นางต้องการบุตรชายคนโตที่ไร้หัวใจเสนอแผนการแทนนาง

เมื่อไร้หัวใจ ย่อมสามารถทำได้อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตและเด็ดเดี่ยว

นางหลับตาลง ลังเลขึ้นมาอย่างหาได้ยาก

เซียวเฉิงเหวินโน้มน้าวอยู่ด้านข้าง “หากเสด็จแม่เสียดายชีวิตของเถาชีก็ให้น้องสามทำตามสัญญาหมั้นหมาย รีบแต่งเถาชีกลับจวน มีบุตรมีหลาน เถาชีอาจไม่สามารถช่วยเหลือน้องสามได้ แต่นางเป็นคนฉลาด คงรู้ไตร่ตรองข้อดีข้อเสีย ตัดขาดจากตระกูลเถา ไม่เป็นตัวถ่วงของน้องสาม”

เถาฮองเฮาจ้องมองเขา “เจ้าคิดว่าน้องสามของเจ้าสมควรทำตามสัญญาหมั้นหมายอย่างนั้นหรือ”

เซียวเฉิงเหวินพูดอย่างใจเย็น

“ทำตามสัญญาหมั้นหมายในเวลานี้ มีทั้งข้อดีทั้งข้อเสีย ข้อดีเห็นได้อย่างชัดเจน น้องสามเป็นคนมีสัจจะ ไม่ได้ถอนหมั้นเพียงเพราะตระกูลเถาล่มสลาย ทำให้คนเกิดความประทับใจ สามารถผูกมัดใจคนได้จำนวนหนึ่ง

ข้อเสียก็ชัดเจนเช่นเดียวกัน เขาจะถูกตระกูลเถาถ่วง อีกทั้งยังนำมาซึ่งความไม่พอพระทัยของเสด็จพ่อ คนข้างกายส่วนใหญ่ล้วนไม่พอใจกับงานอภิเษกในครั้งนี้ มันมีผลกระทบอย่างมากต่อบารมีของเขา”

เถาฮองเฮาไตร่ตรองข้อดีและข้อเสียด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

นางชอบเถาชีมาก มิฉะนั้นตอนนั้นก็คงไม่หมั้นหมายให้องค์ชายสามด้วยตนเอง

เมื่อไตร่ตรองแล้ว นางจึงถอนหายใจออกมา

เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจแล้ว

นางพูดเสียงเบา “ทำตามวิธรแรกของเจ้า ให้เถาชีไปอย่างสงบเถิด!”

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม ภายในดวงตาฉายแววอันตราย “เสด็จแม่ทรงปรีชาสามารถ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยอย่างถูกต้อง เรื่องนี้ข้าจะส่งคนไปจัดการ ไม่ให้พระองค์ต้องทรงกังวล”

เคร้ง!

ตำหนักด้านข้างมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ผู้ใดอยู่ตรงนั้น”

เถาฮองเฮาตะหวาดเสียงดัง

เหมยเส้าเจี้ยนพุ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับคันธนู

“กรี๊ด…”

เสียงกรีดร้องหนึ่งดังขึ้นจากตำหนักด้านข้าง

หลังจากนั้นชั่วครู่ เหมยเส้นเจี้ยนลากองค์หญิงติ้งเถามาถึงด้านหน้าของเถาฮองเฮา

“ติ้งเถา!” สีหน้าของเถาฮองเฮาดำทะมึน ภายในใจเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าแอบฟังมานานเท่าใดแล้ว เจ้ามาตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดเจ้าจึงแอบฟัง”

เดิมทีติ้งเถาอยากจะต่อว่าเสด็จแม่และเสด็จพี่สองโหดเหี้ยมอำมหิต คิดจะเอาชีวิตของเถาชี

แต่เวลานี่ เมื่อนางเห็นสีหน้าของเถาฮองเฮาอย่างชัดเจน ความกล้าของนางก็หายลับไปจนหมดสิ้น

เพราะนางเห็นความอาฆาตจากดวงตาของเถาฮองเฮา

นางกลัว!

กลัวอย่างมาก!

นางร้องไห้โฮออกมา!