ตอนที่ 193 พบสหายเก่าและมีชื่อเสียง ตอนที่ 194

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 193 พบสหายเก่าและมีชื่อเสียง / ตอนที่ 194 ห้ามทำให้นายท่านน้อยต้องขุ่นเคือง!

ตอนที่ 193 พบสหายเก่าและมีชื่อเสียง

หลังจากที่เจาชิงม่านทำลายคาถายืมชะตาชีวิตและรักษาอาการไอของฮูหยินเจาแล้ว ฉินหลิวซีก็พาพวกนางไปที่อารามหลัก นำตะเกียงเจ็ดดาวมาบูชาที่โต๊ะบูชาหน้ารูปปั้นเจ้าลัทธิเต๋า

ฮูหยินเจารู้งาน ส่งสายตาให้บ่าวรับใช้ข้างกายมอบค่าน้ำมันตะเกียงเป็นเงินสองพันตำลึง ทำเอาฉินหลิวซียิ้มกว้างด้วยความดีใจ

ไม่เลวเลย นับว่านางทำผลงานได้อย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าปากของเจ้าลัทธิเต๋าจะฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ฮูหยินเจาก็พาเจาชิงม่านมาเอ่ยลา นางยังต้องไปสืบข่าวที่เมืองฝู่สักหน่อย และอยากถามว่าเหตุใดพี่หญิงใหญ่ของนางจึงได้ทำเช่นนี้

ตอนที่ทั้งสองคนออกไป ได้มีคนเข้ามาในตำหลัก เมื่อเห็นฉินหลิวซีก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รีบก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“คุณชายน้อย เป็นท่านหรือ”

ฮูหยินเจาหยุดฝีเท้า หันไปมอง

ฉินหลิวซีก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน เมื่อเห็นสตรีผู้นั้นเดินเข้ามาก็แปลกใจเล็กน้อย “เป็นท่านหรือ ฮูหยินเซี่ย เหตุใดจึงได้มาที่นี่”

สตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นภรรยาของเซี่ยฉี่คัง ที่นางไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเมื่อเดือนแปด ไม่คิดว่าจะได้พบที่นี่

สตรีผู้นั้นยิ้มเจื่อนๆ “ท่านอย่าเรียกข้าว่าฮูหยินเซี่ยเลย ตระกูลเดิมข้าแซ่โจว”

“แม่นางโจว”

โจวซื่อคำนับนาง “ข้ามาที่เมืองหลีเพื่อหารือเรื่องกิจการ ได้ยินว่ายันต์แคล้วคลาดของอารามชิงผิงค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์ จึงได้มาจุดธูปบูชา คิดไม่ถึงว่าจะได้พบคุณชายน้อยที่นี้ นับว่ามีวาสนาจริง”

“ข้าคือนักพรตอารามชิงผิง มีฉายาเต๋าว่าปู้ฉิว”

โจวซื่อประหลาดใจ จากนั้นก็ตระหนักได้ทันที เอ่ย “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่คุณชายสามารถเล่าเรื่องสกปรกที่สามีทรยศของข้าผู้นั้นปกปิดไว้ได้ ท่านได้ค้นพบความลับแล้ว”

ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว “หรือว่าชู้กับบุตรนอกสมรสของเขามาหาถึงเรือนแล้ว”

โจวซื่อยิ้มอย่างเย็นชา เอ่ยว่า “เป็นเช่นนั้น ในเมื่อท่านรู้ความลับมานานแล้ว ข้าก็จะไม่ปิดบังท่าน ข้าพาคนเลวผู้นั้นกลับบ้านเกิด จากนั้นคนของราชการก็มาหา ข้าจึงได้รู้เรื่องไร้ศีลธรรมที่เขาทำ ต้องโทษที่ข้ากับท่านพ่อมีตาหามีแววไม่ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว หลังจากที่เขาเสียชีวิต คดีก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว ข้าตั้งป้ายวิญญาณหน้าศพให้น้องหญิงหลิงกับท่านพ่อของนาง เผากระดาษเงินไปให้ หลังจากนั้นข้าก็จะส่งคนไปไหว้หลุมศพในช่วงเทศกาลชิงหมิง[1]เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ”

ฉินหลิวซีได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า “แม่นางจิตใจดี ย่อมได้รับพรเป็นสิ่งตอบแทน”

โจวซื่อถอนหายใจ “นับว่าทำดีที่สุดแล้ว หลังจากที่ข่าวการตายของคนเลวผู้นั้นแพร่สะพัดไป สตรีผู้นั้นก็พาบุตรชายของนางมานับญาติ คิดอยากจะแบ่งทรัพย์สินตระกูล เหอะ”

ตอนที่ทั้งสองคนมาหา นางจึงได้รู้ว่าฉินหลิวซีกำลังเอ่ยถึงเรื่องใด เดิมทีนางเป็นคนทำกิจการค้าขาย เกิดในตระกูลค้าขาย มีความกล้าหาญ ย่อมไม่ยอมรับความปรารถนาของอีกฝ่าย เอ่ยว่าไม่มีหลักฐานใดๆ เพราะคนได้ตายไปแล้ว และนางก็ได้ตัดขาดกับเซี่ยฉี่คังไปนานแล้ว จึงได้ไล่ทั้งสองคนออกไป

“ทุกอย่างผ่านไปแล้ว หากแม่นางทำคุณงามความดี สะสมคุณธรรม ในที่สุดจะได้พบกับคู่ชีวิตที่ดีอีกครั้ง และมีความสุขในบั้นปลาย” ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

บางทีอาจเป็นเพราะช่วยบิดาและบุตรสาวตระกูลหลิงสร้างสุสาน โหงวเฮ้งของโจวซื่อจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากสะสมคุณธรรมมากขึ้น ก็จะมีบุตรชายคอยส่งในยามจากไปและมีความสุขยามบั้นปลาย

เมื่อโจวซื่อได้ยินดังนั้นก็มีความสุขมาก เอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ขอให้สมพรปากท่าน ข้าจะเพิ่มค่าน้ำมันตะเกียงสักหน่อย”

“ขอสวรรค์ประทานพรแก่ท่าน ผู้ศรัทธาจิตใจดี เชิญท่านทำตามประสงค์” ฉินหลิวซีหยิบยันต์แคล้วคลาดมอบให้นาง แล้วให้เด็กในอารามเต๋านำธูปไปจุด ก่อนจะออกจากอารามหลักไป

ฮูหยินเจาเดินมาพูดคุยกับโจวซื่อสองสามประโยค เมื่อรู้ว่าฉินหลิวซีเคยให้คำทำนายแก่นางเช่นกัน ก็อดนับถือไม่ได้

“อาจารย์ปู้ฉิวแห่งอารามชิงผิงผู้นี้อายุยังน้อย แต่ฝึกฝนทั้งคาถาและวิชาแพทย์ เป็นการบำเพ็ญที่ลึกล้ำจริงๆ ”

หลังจากที่ทั้งสองออกจากอารามชิงผิง เมื่อได้พบกับผู้คนก็จะเอ่ยยกย่องฉินหลิวซี ทันใดนั้นทำให้อารามชิงผิงกลายเป็นที่รู้จักในฐานะที่มีอาจารย์ปู้ฉิวซึ่งแก่กล้าในวิชาเต๋าและวิชาแพทย์ ทำให้ชื่อเสียงยิ่งกระจายไปอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ 194 ห้ามทำให้นายท่านน้อยต้องขุ่นเคือง!

ฉินหลิวซีเดินออกมาจากเรือนหลัก เมื่อเห็นอวี้ฉังคงกำลังพูดคุยกับชิงหย่วน จึงเดินเข้าไปหา

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ” อวี้ฉังคงถามด้วยรอยยิ้ม

ฉินหลิวซีพยักหน้า “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ”

อวี้ฉังคงเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าต่อไปในภายภาคหน้าข้าจะเป็นฆราวาสที่อารามชิงผิง และจะเรียนรู้วิชาจากท่าน คงใช้เวลาในอารามเต๋ามากสักหน่อย ดังนั้นจึงคิดที่จะตั้งป้ายวิญญาณบูชาท่านบิดามารดาของข้าไว้ในอาราม จะได้สะดวกในการจุดธูปบูชา”

“ก็ดี วางไว้ใต้แท่นของเจ้าลัทธิเต๋าจะได้รับควันธูปด้วย งานแกะสลักป้ายวิญญาณมอบให้เป็นหน้าที่ของชิงหย่วน ในอารามยังมีไม้อยู่สักสองสามแผ่นหรือไม่” ประโยคหลังเอ่ยถามชิงหย่วน

ชิงหย่วนคิดในใจ ไม้ในอารามเรามีเท่าใด ในใจท่านไม่รู้หรือ เมื่อก่อนท่านไม่ทำอะไรเลย จนกระทั่งมีผู้ศรัทธามาจุดธูปบูชาและถวายน้ำมันตะเกียงน้อยลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยากจะตั้งป้ายวิญญาณ แทบจะไม่มีคนเหล่านั้น ดังนั้นแผ่นไม้ที่เก็บสะสมไว้ในอารามน่ะ เขาไม่ได้อยากอวดหรอกนะ แต่จะทำสักสิบแผ่นก็ยังได้

“แน่นอนว่ามีแผ่นไม้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณชายอวี้ต้องการเลือกไม้ชนิดไหน” ชิงหย่วนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าราคาย่อมแตกต่างกันไป

อวี้ฉังคงเอ่ยว่า “แน่นอนว่าต้องเลือกอันที่ดี” หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ลุงเฉียนได้ไปดูโรงหล่อรูปปั้นเทพเจ้า รูปหล่อทองคำของเจ้าลัทธิเต๋าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่วัน แต่ต้องยกขึ้นแท่นบูชาอีก ไม่รู้ว่าต้องเป็นวันมงคลหรือไม่ แล้วให้ใครมาเป็นผู้นำพิธี”

รูปหล่อทองคำเสร็จแล้วหรือ

ฉินหลิวซีกับชิงหย่วนมองตากัน สายตาของทั้งสองแฝงไว้ด้วยความสุขเล็กน้อย

“หาวันมงคลตั้งแท่นบูชา และเชิญผู้ศรัทธามาร่วมพิธี เจ้าไปจัดการให้เรียบร้อย” ฉินหลิวซีเอ่ย “ข้าจะส่งจดหมายไปให้ตาเฒ่าด้วยตัวเอง ให้เขากลับมาเป็นผู้นำพิธี ออกไปแสวงบุญนานเช่นนี้ ได้เวลากลับมาแล้ว”

รูปหล่อทองคำเป็นเรื่องสำคัญของอาราม จะต้องจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่

ชิงหย่วนเอ่ย “ทุกวันนี้มีผู้ศรัทธาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็ใกล้สิ้นปีแล้ว คงจะมีคนต้องการเชิญเราไปทำพิธีมากขึ้น แต่อารามชิงผิงของพวกเรามีนักพรตประจำอารามอยู่น้อย บางครั้งจึงยุ่งมาก ต้องหาสหายนักพรตเต๋ามาประจำในอารามของพวกเราเพิ่ม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่พิธีบวงสรวงก็ต้องหาคนเพิ่ม หรือว่าศิษย์พี่ปู้ฉิว…”

“ข้าเคยทำสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” ฉินหลิวซีปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด เอ่ยว่า “ข้าร่างกายอ่อนแอ ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ โดยปกติทั่วไปไม่ใช่ข้าหรือที่วาดยันต์ รักษาโรค หาค่าน้ำมันตะเกียง แล้วยังจะให้ข้าทำพิธีบวงสรวงอีก อยากให้ข้าเหนื่อยตายหรืออย่างไร ไม่มีทาง เช่นนั้นก็ปิดอารามไปเสียเถิด!”

จะให้นางไปทำพิธีบวงสรวง นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งยุ่งยากและซับซ้อน นางไม่ทำ!โนเวล-พีดีเอฟ

หากบังคับให้นางทำ นางก็จะต่อต้าน!

เมื่อชิงหย่วนเห็นว่านางดื้นรันเพียงนี้จึงกลืนคำพูดกลับลงไป ส่งสายตาไม่หยุด ต่อหน้าคนนอก อย่างไรเสียก็แกล้งทำสักหน่อยเถิด

ฉินหลิวซี ‘แกล้งทำอะไรกัน อยากจะยกยอข้าต่อหน้าคนนอก เพื่อที่จะได้ให้ข้าทำงานมากขึ้นเช่นนั้นหรือ’

เจ้าคิดผิดแล้ว!

ไม่มีทางอย่างแน่นอน!

ชิงหย่วน “…”

อวี้ฉังคงหลุบตาลง ซ่อนรอยยิ้มในดวงตา แสร้งทำเป็นไม่เห็นที่ทั้งสองตอบโต้กัน

“ในอารามมีสหายนักพรตอยู่น้อยจริงๆ ได้ยินว่าพวกท่านต้องแจกโจ๊ก ยา และข้าวของอื่นๆ ทุกปีเช่นนี้ แน่นอนว่าคงต้องการสหายนักพรตเต๋าอีกสองสามคนมาช่วยงาน” อวี้ฉังคงเอ่ย

ฉินหลิวซีเอ่ย “เสวียนเหมินไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักในช่วงหลายปีมานี้ สหายนักพรตเต๋าที่มีความสามารถแท้จริงก็ไม่มาที่อารามเต๋าของพวกเรา แต่ไปเข้าศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก กลับไปก็ไปติดป้ายประกาศหานักพรตเต๋าประจำอารามที่ประตูเขาเถิด ผู้ที่มีบุญสัมพันธ์ย่อมมาเป็นสาวกในอารามชิงผิงของข้า”

ชิงหย่วนก็คิดเช่นนี้

ทุกวันนี้มีผู้ศรัทธาในอารามชิงผิงมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็มาอาศัยอยู่ในอาราม แต่ก็ไม่มีกำลังคนมาช่วยเหลืองาน ยิ่งไม่ต้องคาดหวังกับฉินหลิวซีผู้เกียจคร้าน แค่นางช่วยวาดยันต์เต๋าให้ก็นับว่าก็เห็นแก่หน้าแล้ว

หากบังคับให้นางทำมากกว่านี้ เกรงว่านางจะกล้ากบฎอารามเต๋าแห่งนี้จริงๆ!

อย่าได้ทำให้นายท่านน้อยต้องขุ่นเคือง

ทำได้เพียงบูชาไว้เหนือศรีษะ!

[1]เทศกาลชิงหมิง หรือเทศกาลเช็งเม้ง เป็นเทศกาลที่แสดงออกถึงความกตัญญูความเคารพและการระลึกถึงบรรพบุรุษ

*******************