ตอนที่ 135 เทคโนโลยีการวิจัย

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 135 เทคโนโลยีการวิจัย

พัฒนาการของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เราพบข้อบกพร่องมากมายในเทคโนโลยีร่วมสมัย ดังนั้นการวิจัยจึงอยู่ในขอบเขตที่จำกัด!

วิศวกรรมชีวภาพเป็นศาสตร์ประยุกต์สมัยใหม่ซึ่งค่อยๆ พัฒนาให้เป็นระบบขึ้นในช่วงปี 1970 จนถึง 1990 และยาวมาจนถึงศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

วิศวกรรมชีวภาพเป็นศาสตร์ที่อิงตามทฤษฎีและเทคโนโลยีทางชีววิทยา ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่และวิศวกรรมศาสตร์ เช่น วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจความลึกลับของชีววิทยา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศจีนยังมีวิทยาการที่ล้าหลังกว่าชาติตะวันตกอยู่หลายอย่าง เช่น พัฒนาการด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน การวิจัยทฤษฎีสมัยใหม่ เป็นต้น

วิศวกรรมชีวภาพประกอบไปด้วย พันธุวิศวกรรม วิศวกรรมเซลล์ วิศวกรรมเอนไซม์ วิศวกรรมโปรตีน และวิศวกรรมจุลินทรีย์

ดังนั้นการเปิดตัวยาชนิดใหม่จึงไม่ใช่แค่การศึกษาประสิทธิภาพทางเภสัชวิทยาคร่าวๆ เท่านั้น แม้ว่าจะมีสูตรโมเลกุลของยาและแบบบันทึกผลการทดลองให้ แต่คุณก็เป็นได้เพียงคนประกอบส่วนผสมเท่านั้น

การพัฒนาและนวัตกรรมเกี่ยวกับยาเป็นเทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

แม้ว่าข้อมูลของคาร์ลจะเป็นเพียงแค่ข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น แต่ถ้าหากข้อมูลดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแล้วล่ะก็ มันอาจจะกลายเป็นกระบวนการพัฒนายาชนิดใหม่ขึ้นมาก็ได้

นี่คือผลผลิตของพันธุวิศวกรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของวิศวกรรมชีวภาพ!

ถ้าคุณนำเทคโนโลยีจากการทดลองมาใช้ได้ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากสำหรับคุณ!

ไป๋เยี่ยคิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจใช้บัตรซ่อมแซมกับข้อมูลชุดนั้นทันที

ยิ่งไปกว่านั้น…ด้วยวิธีนี้ เขาจึงจะตอบแทนน้ำใจของคาร์ลและสืบว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นได้อีกด้วย

ไป๋เยี่ยรู้สึกมั่นใจมาก เขาจึงเริ่มจับรางวัลชิ้นต่อไป

คราวนี้เป็นรางวัลระดับสามดาว ตอนนี้ไป๋เยี่ยได้จับรางวัลใหญ่ไปแล้วสองครั้ง เขาจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก

ไม่ว่าจะจับได้อะไร เขาก็ยอมรับได้หมด ไป๋เยี่ยจึงกดจับรางวัลทันที

เข็มหยุดลง

คำว่า ‘ทักษะ’ ปรากฏขึ้นตรงเข็ม

ไป๋เยี่ยเบิกตาโพลง…พระเจ้า!

ดูเหมือนว่าวันนี้จะมือขึ้นนะ หรือเป็นเพราะแต้มบุญกันนะ

ไป๋เยี่ยพึมพำเบาๆ อย่าตื่นเต้น…อย่าตื่นเต้น…

ไป๋เยี่ยกดตรงคำว่าทักษะ

ชื่อทักษะหนึ่งปรากฏขึ้นมาต่อหน้าไป๋เยี่ย ครั้งนี้ไป๋เยี่ยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลย…

แต่เมื่อเขาได้เห็นชื่อทักษะ เขาก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที

มันคุ้มค่าจริงเหรอ

ไป๋เยี่ยมองดูชื่อทักษะที่ปรากฏขึ้นมาพลางฝืนยิ้มออกมา

[ทักษะสำหรับปฏิบัติงานในแผนกทวารหนัก]

ไป๋เยี่ยถอนหายใจ…หลิวป๋อหลี่เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง เขาทำวิจัยมากมายเกี่ยวกับโรคทั้งสองชนิด

นอกจากนี้ การรับสมัครนักศึกษาชั้นปริญญาโทและปริญญาเอกของหลิวป๋อหลี่ยังเน้นการรับนักศึกษาที่ให้ความสนใจเรื่องโรคสมองด้วย

ไป๋เยี่ยประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นทักษะนี้ เขาคงจะรู้สึกยินดีมากกว่านี้ถ้าทักษะที่เขาได้รับเป็นทักษะภาคปฏิบัติ แต่เขาไม่คิดเลยว่าทักษะที่ได้มาจะเกี่ยวกับแผนกทวารหนัก…

แค่ไป๋เยี่ยได้รับทักษะในสาขาอายุรศาสตร์เขาก็มีความสุขมากแล้ว…ใครจะไปคิดว่าจะจับได้แผนกทวารหนักล่ะ

ไป๋เยี่ยนึกถึงความรู้ที่เขาได้สั่งสมมาและภาพการฝึกงานในวอร์ดก่อนจะส่ายหัวไล่ความคิดนั้นออกไป เขาคิดไม่ออกเลย…นี่มันอะไรกัน…

หลังจากจับรางวัลแล้ว ไป๋เยี่ยก็หันไปสนใจ ‘บัตรซ่อมแซม’ แทน

ไป๋เยี่ยไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาจะใช้มันได้จริงหรือไม่

ถ้ามันใช้ได้กับแค่สิ่งของที่จับต้องได้เท่านั้นล่ะ

ไป๋เยี่ยจึงต้องปรึกษาระบบสักหน่อย

[ติ๊ง! หากคุณพบข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ คุณใช้ ‘บัตรซ่อมแซม’ ได้ หลังใช้งานบัตรใบนี้จะหายไป และคุณจะได้รับชุดข้อมูลที่สมบูรณ์กลับมาพร้อมสุ่มได้รับไอเทมหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง]

พอรู้ว่าใช้ได้ ไป๋เยี่ยก็ดีใจมาก เขาไม่ลังเลอีกต่อไป

“ใช้!”

ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในหอพัก ทว่าไป๋เยี่ยก็ยังปิดประตูไว้เพื่อความปลอดภัยก่อนจะกดใช้บัตร

ตอนแรกเขาคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

แต่ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น

ทันใดนั้นข้อมูลที่อยู่ในโน้ตบุ๊กของเขาก็เปลี่ยนไป!

ไป๋เยี่ยรีบนั่งลง เขามองหน้าจอโน้ตบุ๊กและเลื่อนเมาส์ลงไป

ข้อมูลพวกนี้…

มันเปลี่ยนไป!

โดยเฉพาะข้อมูลในส่วนแรก ทั้งแนวคิด สมมติฐาน และการอภิปรายเกี่ยวกับงานวิจัย ไป๋เยี่ยแปลกใจมากที่พบว่ามีข้อมูลปรากฏขึ้นมากมาย

นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก!

จุดเริ่มต้นของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์คือการกำหนดปัญหา! จากนั้นจึงค่อยหาแนวคิดและตั้งสมมติฐาน ออกแบบการทดลองตามสมมติฐานที่ตั้งไว้และแสดงศักยภาพในการทดลองออกมา

การกำหนดปัญหาและแนวความคิดในการแก้ปัญหาถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นแกนหลักของงานวิจัย

โดยเฉพาะการทดลองครั้งนี้!

ไป๋เยี่ยได้เห็นข้อมูลที่เขาไม่ได้เห็นในตอนแรก

ในการทดลองนั้น ที่ปรึกษาของคาร์ลค้นพบว่าเมื่อเซลล์เดียวมีการสืบพันธุ์ ทั้งดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอจะเกิดการกลายพันธุ์เล็กน้อยตามสภาพแวดล้อม

ซึ่งล้วนส่งผลต่อลำดับกรดนิวคลีอิกในสิ่งมีชีวิตรุ่นต่อไป

หลังจากที่ร่วมทดลองเป็นเวลาหนึ่งปี สิ่งที่พวกเขาพยายามมาก็ไม่สูญเปล่าเลย พวกเขาค้นพบว่าถ้าพวกเขาลบลำดับดีเอ็นเอบางลำดับออกไป พวกเขาก็จะยับยั้งการกลายพันธุ์ได้!

พวกเขาจึงวางแผนและเริ่มการทดลอง

ต่อไปเป็นข้อมูลการทดลองในสัตว์ ข้อมูลเหล่านี้เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องเซลล์เนื้องอกชนิดหนึ่งในหนูที่เป็นมะเร็ง

พวกเขาเลือกใช้ยาที่มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ซึ่งที่ปรึกษาของคาร์ลสกัดมาจากกลุ่มพืช

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูลนี้มีการบันทึกกระบวนการสกัดสารเชิงซ้อนหลายชนิดออกจากกัน

ไป๋เยี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ!

นี่คือข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาสินะ

ทันใดนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอโปร่งแสง

[ติ๊ง! การซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์แล้ว ได้รับทักษะงานวิจัย: การแยกและสกัดสาร เลเวล 0]

การแยกและการสกัดเป็นทักษะด้านงานวิจัยทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดลอง เป็นเสมือนตัวช่วยที่ทำให้ได้เรียนรู้วิธีแยกสารประกอบเชิงซ้อนออกจากกันได้

ไป๋เยี่ยประหลาดใจมาก!

เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้รับทักษะนี้

อีกทั้งข้อมูลต่อไปนี้ยังบันทึกวิธีการแยกและการสกัดสารหลากหลายวิธีที่ใช้ในการทดลองนี้

ตัวอย่างเช่น วิธีการใช้ตัวทำละลาย วิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ วิธีการแยกส่วน วิธีการดูดซึม วิธีการตกตะกอน วิธีการตกตะกอนเป็นลำดับส่วนด้วยเกลือ วิธีการไดอะไลซิส[1] วิธีการระเหิด การตกผลึกและการตกผลึกซ้ำ วิธีโครมาโตกราฟี[2] เป็นต้น

ไป๋เยี่ยมีความสุขกับสิ่งที่เขาได้รับในวันนี้มาก เขาไม่ได้ได้รับแค่ทักษะภาคปฏิบัติเท่านั้น แต่ยังได้รับทักษะด้านการวิจัยด้วย

ต้องแยกแล้วสกัดสาร!

นี่แหละหลักของการทดลอง!

[1] ไดอะไลซิส (Dialysis) คือ วิธีการแยกสารโดยใช้การกรองผ่านเยื่อบาง

[2] โครมาโตกราฟี (Chromatography) คือ การนำสารมาผสมกับตัวทำละลายบนตัวดูดซับ และสังเกตความเร็วในการเคลื่อนที่ของสารแต่ละชนิด