ตอนที่ 83 บุตรชายของท่านอ๋องซิวรึ!

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว

ตอนที่ 83 บุตรชายของท่านอ๋องซิวรึ!

เย่ซิวตู๋ตอบ ‘อืม’ เสียงเบา “เหมียวกงกง[1] ไม่ต้องมากพิธี”

เดิมทีจวนแห่งนี้เป็นจวนที่จักรพรรดิมอบให้เขา ในตอนแรกเริ่มก็มีห้องลับที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้แล้ว เพียงแค่คนที่รู้เรื่องเหล่านี้ มีแค่คนที่อยู่ข้างกายของเขา และคนข้างกายของจักรพรรดิเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ การได้มาเจอกันภายในนี้ กลับเป็นเรื่องที่ปลอดภัยและเรื่องปกติที่สุด

เหมียวเชียนชิวชะงักไป ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น เอ่ยปากพูดด้วยท่าทางราวกับตื่นเต้น “ท่านอ๋องซิว กระหม่อมได้พบกับพระองค์แล้ว”

“นั่งเถิด ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในวัง ไม่ได้มีกฎเกณฑ์มากมายขนาดนั้น” เย่ซิวตู๋ชี้ไปยังเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ หลังจากนั่งลง ก็รินน้ำชาด้วยตัวเองสองแก้ว และยื่นไปตรงหน้าเหมียวเชียนชิวหนึ่งแก้ว

เหมียวเชียนชิวรับแก้วไปด้วยความตกตะลึงเพราะได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน หลังจากจิบเบา ๆ จึงถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก “จะว่าไป บ่าวเฒ่าผู้นี้ก็ไม่ได้เจอท่านอ๋องซิวมาสี่ปีแล้ว หลายปีมานี้ท่านอ๋องซิวไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง ฝ่าบาททรงมีพระราชหฤทัยระลึกถึงพระองค์เป็นอย่างมาก”

ไม่ได้เจอกันแค่สี่ปี ก็พบว่าอุปนิสัยของเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้ว ราวกับว่าไม่มีความเย็นชาที่ทำให้ผู้คนรู้สึกยอมถอยให้เหมือนเมื่อสี่ปีก่อนแล้ว

เย่ซิวตู๋เหลือบมองเขาปราดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เหมียวเชียนชิวเห็นเช่นนี้ ก็แอบถอนหายใจอยู่ในใจ เขาเข้าใจดีถึงความทุกข์ภายในใจของท่านอ๋องซิว แม้ว่าจะได้รับความรักจากจักรพรรดิ แต่กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงกลับเย็นชากับเขาเป็นอย่างมาก ภายในใจรักแค่องค์ชายเจ็ด กอปรกับจิตใจของเหล่าพี่น้องคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จึงแอบบีบเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

ท่านอ๋องซิวไม่อยากมีส่วนร่วมอยู่ในเรื่องถูกๆ ผิดๆ เหล่านี้ จึงออกจากเมืองหลวงไป เงียบหายไปเป็นเวลาถึงสี่ปี

เพียงแต่สิ่งนี้ทำให้จักรพรรดิทรงทุกข์ทรมาน ไม่มีโอรสที่เก่งกาจที่สุดอยู่ข้างพระวรกาย หลายปีมานี้ก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งพระวรกายและพระหทัยจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว

“ท่านอ๋องซิว ในเมื่อพระองค์ทรงกลับเมืองหลวงแล้ว เหตุไฉนถึงไม่กลับเข้าไปพักในจวนอ๋อง และไม่เข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทล่ะพะยะค่ะ?” เมื่อวานจักรพรรดิได้รับข่าวที่ท่านอ๋องซิวกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว วันนี้จึงเลื่อนทุกสิ่งอย่างและตั้งใจอ่านรายงานอยู่ภายในห้องตำราหลวง ก็เป็นเพราะรอให้ท่านอ๋องซิวเข้าวัง

แต่คิดไม่ถึงเลย นี่มืดค่ำแล้วก็ยังไม่ได้ยินว่าเขาจะเข้าเฝ้า

เช่นนั้นพระองค์จึงทนไม่ไหว มีรับสั่งให้เขามาดูที่นี่ และฝากบอกเจตนารมณ์ของจักรพรรดิให้เขาทราบ

เย่ซิวตู๋หลุบตาแกว่งแก้วน้ำชาในมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบอย่างยิ่งยวด “ไม่ได้มีอะไร เพียงแต่ข้างกายของข้ายังมีเรื่องต้องทำ จึงไม่สะดวกเข้าวัง”

ระหว่างที่พูด จู่ ๆ ก็วางแก้วชาลงบนโต๊ะ ช้อนสายตามองเหมียวเชียนชิว ถามเสียงทุ้มต่ำว่า “เสด็จพ่อเป็นเช่นไรบ้าง?”

“ฝ่าบาททรงพระเกษมสำราญดี เพียงแต่ทอดพระเนตรของที่ท่านอ๋องซิวส่งไปให้อยู่บ่อย ๆ และเอาแต่บ่นถึงท่านอ๋องพะยะค่ะ”

เย่ซิวตู๋พยักหน้าเบา ๆ หยิบขวดกระเบื้องเคลือบเล็ก ๆ ออกมาจากด้านในเสื้อ ผลักไปตรงหน้าเขา กล่าวว่า “นี่คือโอสถกู้เปิ่นเผยหยวนของหมออาวุโสฉินซาน ท่านนำกลับไปถวายให้เสด็จพ่อด้วย”

เหมียวเชียนชิวไม่ได้รับไป แต่กลับเกิดความประหลาดใจเล็ก ๆ “เหตุใดท่านอ๋องไม่นำไปถวายให้ฝ่าบาทด้วยพระองค์เองล่ะพะยะค่ะ?” วัตถุประสงค์หลักที่เขามาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อนำคำพูดมาบอกท่านอ๋องซิว เพื่อให้เขาเข้าวัง

ทว่า คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอ๋องซิวจะใส่ใจเช่นนี้ ระยะเวลาสี่ปี เปลี่ยนเป็นคนมีน้ำใจอย่างมาก

“ข้างกายของข้ามีสายตาจำนวนมากกำลังจ้องมองถึงเพียงนั้น หากข้านำไปให้เสด็จพ่อ คนที่มีแผนอยู่ในใจคงได้ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกมากมาย”

เหมียวเชียนชิวก้มหน้าครุ่นคิด ก็เข้าใจอยู่ภายในใจ จึงนำขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กเก็บกลับเข้าไปอย่างระมัดระวัง

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลุกขึ้นยืน เย่ซิวตู๋ที่อยู่ตรงข้ามกลับหันหน้ากลับไป สายตาที่เย็นชาจ้องมองไปยังประตูไม้ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ใครอยู่ข้างนอก เข้ามา”

เหมียวเชียนชิวตกตะลึง ห้องลับแห่งนี้ถูกเปิดเผยแล้ว? มีคนได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเขา?

เขาเพิ่งจะคิดได้เช่นนี้ ก็ได้ยินเสียงประตูไม้ถูกผลักให้เปิดออกจนเกิดเสียง ‘ปึง’ ตามมาด้วยใบหน้าอันน่าสงสารปรากฏขึ้น

เย่ซิวตู๋ชะงัก “หนานหนาน?”

ครั้นเด็กน้อยได้เห็นเขา ก็ทำท่าทางราวกับได้เห็นดวงตะวันอีกหน เขารีบถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเย่ซิวตู๋ พร้อมกับใช้มือและเขารัดตัวของเย่ซิวตู๋ไว้จนแน่น ระหว่างที่โอบคอของเขาก็ใช้ศีรษะถูอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างสุดชีวิต

“ท่านพ่อ ข้าได้เจอกับท่านแล้ว ฮือ ๆ ทำยังไงดี ข้าหาทางออกไม่เจอ ไม่เจอเงินของข้าแล้วด้วย เงินของข้าถูกวางไว้ที่ประตูทางเข้า ไม่รู้ว่าจะถูกมดคาบไปหรือไม่ เอ๋ ยังมีอีก ๆ ข้าไม่เจอห้องที่ข้าเคยนอนเมื่อเช้าแล้วด้วย ท่านพ่อ ไข่มุกราตรีของข้าดูเหมือนว่าจะหล่นหายอยู่ในนั้น แผนผลิตเงินของข้ากำลังจะจบเห่แล้ว”

หนานหนานเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องลับจนสมองแทบระเบิดแล้ว ตอนนี้ได้เจอคนตัวเป็น ๆ สักที จึงนำเรื่องที่ตนเองเดินอ้อมไปอ้อมมาอยู่ด้านในมาเล่าอย่างน้ำไหลไฟดับให้อีกฝ่ายฟังในทันที ทั้งยังเน้นย้ำเรื่องเงินของเขาตรงหน้าประตูที่เขาต้องตามหากลับมาให้ได้

เหมียวเชียนชิวที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง จ้องมองหนานหนานอยู่นานก็ยังไม่ได้สติกลับมา

เมื่อครู่…เมื่อครู่เขาหูแว่วไปใช่หรือไม่?

เขารู้สึกราวกับเด็กน้อยคนนี้ เรียกท่านอ๋องซิวว่า…ท่านพ่อ?

ท่านพ่อ???

เหมียวเชียนชิวเบิกตาโต มองเย่ซิวตู๋ที่กำลังตบหลังของหนานหนานที่ใช้สองมือโอบกอดอย่างอ่อนโยนราวกับไม่อยากเชื่อสายตา เขาออกแรงขยี้ตา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงกลืนน้ำลายและกระซิบถาม “ท่านพ่อ?”

เย่ซิวตู๋ร่างแข็งทื่อ รีบหันกลับมาจ้องมองเขา สายตาของเย่ซิวตู๋ในวินาทีนั้นดูโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก

หนานหนานจึงหันกลับมาด้วยท่าทางสะอึกสะอื้น เขาส่งเสียง ‘เอ๋’ และเอ่ยถามด้วยความฉงนสงสัย “ท่านคือใครหรือ? ดูเหมือนว่าข้าจะไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย”

เหมียวเชียนชิวในเวลานี้ยังตกอยู่ในความตกตะลึง แม้แต่มารยาทพื้นฐานก็รักษาไว้ไม่ได้ เขาชี้ไปที่เย่ซิวตู๋ด้วยนิ้วมือสั่นระริกเล็กน้อย เอ่ยถามหนานหนานว่า “เขา…เขา…คือพ่อของเจ้าหรือ?”

หนานหนานพยักหน้า เย่ซิวตู่จึงพูดแทรกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “พ่อบุญธรรม”

เหมียวเชียนชิวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาว่าแล้วเชียว หลังจากท่านอ๋องเย่หายไปสี่ปี จู่ ๆ จะมีลูกที่โตขนาดนี้ออกมาได้อย่างไรกัน? ที่แท้ก็เป็นพ่อบุณธรรมนี่เอง

“พ่อบุญธรรมอะไรกัน?” หนานหนานจ้องเย่ซิวตู๋เขม็งด้วยความโกรธ ไม่เข้าใจในสายตาที่อีกฝ่ายมองมาหาตนเอง “ท่านพ่อ ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นพ่อแท้ ๆ ของข้านะ ความหมายที่ท่านพูดแบบนี้ หรือจะบอกว่าท่านแม่ของหนานหนานเป็นหัวขโมย ไปมีลูกกับคนอื่น? แบบนี้ข้าจะไปบอกท่านแม่ หากท่านแม่โกรธ ต้องสับท่านเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาไปห่อเกี๊ยวกินเป็นแน่ แบบนี้หนานหนานก็ต้องยอมรับคนอื่นเป็นพ่อแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ท่านพ่อคนใหม่รักหนานหนาน ซื้อของกินให้หนานหนานก็พอแล้ว”

เย่ซิวตู๋มีใบหน้าดำอึมครึมลง “เจ้ากล้า?”

เขายังคิดจะยอมรับคนอื่นเป็นพ่อ? ฝันหวานเกินไปแล้ว

เจ้าเด็กบ้านี่ ขอแค่มีของกินก็ได้แล้ว คนแบบไหนมาเป็นพ่อก็ได้ทั้งนั้น?

เหมียวเชียนชิวถลึงตามอง ฟังสิ่งที่หนานหนานคุยจ้อไม่หยุดพัก เขารู้สึกราวกับกำลังอยู่ในฝัน ไม่ได้สติกลับคืนมาชั่วขณะหนึ่ง

พูดเช่นนี้ พูดเช่นนี้…เด็กคนนี้ ก็เป็นบุตรของท่านอ๋องซิวจริง ๆ?

สวรรค์ เรื่องนี้มันน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว ตกตะลึงเกินไปแล้ว หัวใจของเขาแอบ…แอบรับไม่ไหว

บุตรชายของท่านอ๋องซิว!!! รึ!!!

………………………………………………………………………………………………………………………

[1] กงกง (公公) บุรุษที่ถูกตอนแล้วหรือขันที มีหน้าที่ดูแลหรือเป็นผู้รับใช้ส่วนพระองค์ของจักรพรรดิและราชสำนักฝ่ายใน หน้าที่หลักคอยรับใช้ในวัง รายงานข่าวสาร จัดการเรื่องต่าง ๆ ในวัง และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ

สารจากผู้แปล

ถ้าเกิดท่านเย่เป็นอ๋อง หนานหนานก็มีศักดิ์เป็นท่านชายน่ะสิคะ

ไหหม่า(海馬)