ตอนที่ 137 ภารกิจของหลิวป๋อหลี่

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 137 ภารกิจของหลิวป๋อหลี่

หลิวป๋อหลี่หัวเราะเบา ๆ พลางปรายตามองหลีว์เฟิ่งเซียนก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ของคุณคือศาสตราจารย์เซียวอิ๋งสินะ เธอเคยเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังบ้างแล้วละ”

หลีว์เฟิ่งเซียนดูจะตกใจเล็กน้อย เขาเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้า

หลิวป๋อหลี่เปิดประตูพร้อมกับส่งยิ้มให้ “เข้ามาสิ ผมฝากเสี่ยวหยางซื้ออาหารเช้ามาให้แล้ว เรามานั่งคุยกันสบายๆ ดีกว่านะ”

นักวิชาการมีคนขับรถและเลขานุการคอยดูแล ทำเอาไป๋เยี่ยและหลีว์เฟิ่งเซียนอดเกรงใจไม่ได้เลย…

หลิวป๋อหลี่ยังคงยิ้ม เขาโทรฝากเสี่ยวหยางให้ซื้ออาหารเช้ามาสามชุด

ตอนแรกไป๋เยี่ยคิดว่าหลิวป๋อหลี่ก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้า แต่กลับกลยเป็นว่าเขาตั้งใจสั่งอาหารมาให้หลีว์เฟิ่งเซียนสองชุด…

เป็นคนที่มีน้ำใจจริงๆ…

ผู้อำนวยการหลิวรอให้ทั้งคู่กินอาหารเช้าให้เสร็จก่อน จากนั้นจึงจิบชาในแก้วและพูดขึ้นทั้งรอยยิ้ม

“เซียวอิ๋งเป็นนักศึกษาของผมเอง เธอบอกว่าคุณเป็นคนดีมาก ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ”

หลีว์เฟิ่งเซียนเกาหัวก่อนจะกล่าวขอบคุณไป

ทั้งสามคนพูดคุยกันราวๆ สองชั่วโมงเต็ม ทว่าผู้อำนวยการหลิวก็ไม่ได้พูดคุยเรื่องการศึกษาหรืองานวิจัยใดๆ เลย กลับกันเขาเอาแต่ชวนคุยถึงชีวิตทั่วไป ความสนใจ และงานอดิเรกแทน

ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว จู่ๆ หลิวป๋อหลี่ก็ถามขึ้น “คุณมีแผนที่จะทำอะไรในอนาคตบ้าง”

คำถามมาแล้วสินะ

หลีว์เฟิ่งเซียนเริ่มพูดก่อน “ผมอยากทำงานวิจัยครับ ตอนแรกผมเกือบจะได้ทำวิจัยกับม.แพทย์แผนจีนปักกิ่งแล้ว แต่น่าเสียดายที่ผมทำไม่ได้ หลังจากเรียนจบด็อกเตอร์ผมก็น่าจะเน้นทำงานวิจัยแหละครับ”

“ผมเข้าร่วมโรงการกับอาจารย์เซียวมาหลายโครงการ ซึ่งทั้งหมดก็เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมเลยคิดว่าผมน่าจะเหมาะกับแนวทางนี้ และคงจะเริ่มต้นได้ดีนะครับ!”

“ถ้าอาจารย์หลิวอยากให้ผมทำอะไร ผมก็ทำให้ได้หมดเลยครับ”

หลีว์เฟิ่งเซียนเล่าถึงสิ่งที่เขาทำในอดีตและสิ่งที่เขาทำได้ดี เขารู้ว่าผู้อำนวยการหลิวต้องการคำตอบแบบไหน เพราะต่อไปถ้าทีมวิจัยมีสมาชิกเยอะขึ้น ก็จะมีแนวทางการวิจัยที่มากขึ้นตามไปด้วย

โดยปกติแล้ว ในหนึ่งปีการศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษาระดับผู้อำนวยการจะไม่ค่อยติดต่อกับนักศึกษามากนักด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ก็เพราะพวกเขายุ่งมาก!

อาจารย์ที่ปรึกษาที่มีเวลานั่งคุยกับนักศึกษาทั้งเช้า คอยให้คำปรึกษา ชี้แนะแนวทาง ทั้งยังซื้ออาหารเช้ามาให้ด้วยแบบนี้ยิ่งหายาก แถมอีกฝ่ายยังเป็นนักวิชาการอีกด้วย!

คุณคิดว่านักวิชาการจะมีเวลาว่างมากงั้นเหรอ เปล่าเลย พวกเขายุ่งจะตาย ไปบรรยายครั้งหนึ่งก็พูดเกินหมื่นคำแล้ว

หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของหลีว์เฟิ่งเซียนแล้ว หลิวป๋อหลี่กพยักหน้าทั้งรอยยิ้มก่อนจะหันไปทางไป๋เยี่ย “แล้วคุณล่ะไป๋เยี่ย ลองบอกแผนในอนาคตของคุณในผมฟังหน่อยสิ”

อันที่จริงไป๋เยี่ยเตรียมคำตอบมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเห็นหน้าผู้อำนวยการหลิวแล้วหัวสมองของเขามันกลับมีแต่ความว่างเปล่า…

ไป๋เยี่ยรู้สึกกังวลเล็กน้อย…จู่ๆ เขาก็คิดอะไรได้ เขาจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลิวก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ และโพล่งออกมา

“ผมจะเรียนเพื่อความเจริญก้าวหน้าของการแพทย์แผนจีน!”

หลิวป๋อหลี่ถึงกับตะลึง!

หลีว์เฟิ่งเซียนแทบจะพ่นน้ำที่เพิ่งดื่มไปออกมาพลางหันไปมองไป๋เยี่ยด้วยความตกใจ…เจ้าเด็กนี่ต้องป่วยแน่ๆ…หลีว์เฟิ่งเซียนคิดในใจ

ไป๋เยี่ยยังงงกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไป ทว่าประโยคเมื่อครู่ก็เป็นประโยคเดียวที่เขาคิดออก

เขาแค่คิดและพูดมันออกมาลอยๆ แต่ก็คงไม่เกินจริงถ้าจะบอกว่าเขาพูดประโยคนั้นออกมาจากใจ

หลิวป๋อหลี่จ้องไปที่ไป๋เยี่ยพลางขมวดคิ้ว เขารู้ว่าไป๋เยี่ยจริงจัง เพราะเขาเองก็พอใจเข้าใจในตัวไป๋เยี่ยเช่นกัน

เขาเข้าใจได้ถึงความสำเร็จทั้งหมดของไป๋เยี่ย และรู้ว่าสิ่งที่ไป๋เยี่ยพูดนั้นไม่ใช่เรื่องตลก

หลิวป๋อหลี่เอ่ยขึ้นช้าๆ “การเรียนเพื่อความเจริญก้าวหน้าของการแพทย์แผนจีนน่ะเป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ หรอกนะ แม้แต่ผมยังไม่เคยประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้เลย”

“ผมได้อ่านบทความและกระดาษคำตอบจากมหาวิทยาลัยไห่ซื่อของคุณแล้ว สิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องดี และผมเองก็เห็นด้วยกับคุณ”

“ตอนแรกผมอยากให้คุณและหลีว์เฟิ่งเซียนเข้าร่วมโครงการของผม ให้ช่วยๆ กันทำ แต่…ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่จำเป็นแล้ว!”

ไป๋เยี่ยตะลึงไปพักใหญ่ เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอะไรดี ภายในใจก็เริ่มโทษตนเองเสียแล้ว ทำไมเราไม่พูดดีๆ วะ จะแอ็คหาพระแสงอะไร

ผู้อำนวยการหลิวเอ่ยขึ้นช้าๆ “พอตอนนี้มาคิดดู ผมว่ามันน่าจะมีอย่างอื่นที่เหมาะกับคุณมากกว่า”

แววตาของไป๋เยี่ยเป็นประกาย! เขายืดตัวตรงแล้วจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลิวอย่างมีความหวัง!

ผู้อำนวยการหลิวเปิดกระเป๋าของเขาออก “เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะมอบงานแล้วก็แผนดำเนินงานให้คุณ”

พูดจบผู้อำนวยการหลิวก็หยิบแฟ้มเอกสารออกมายื่นให้ไป๋เยี่ย “ลองเปิดดูสิ”

ไป๋เยี่ยรับมันมาด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะเปิดแฟ้มเอกสารนั้นออกด้วยความสงสัย ทันทีที่เปิดออกมา เขาก็เห็นสมุดงานสองเล่ม เล่มหนึ่งเป็นบทเสนอหัวข้องานวิจัย ส่วนอีกเล่มเป็นผลสรุปงานวิจัย หัวข้องานวิจัยคือ ‘การทดลองและสังเกตการณ์ทางคลินิกของยา ‘ตันชีหั่วเซวี่ย’ ต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ’

ไป๋เยี่ยหันไปมองผู้อำนวยการหลิวด้วยความสับสน นี่มันหมายความว่าอย่างไร

ผู้อำนวยการหลิวยิ้ม “นี่เป็นโครงการระดับปริญญาเอกของอาจารย์ของรุ่นพี่คุณ การทดลองเสร็จสมบูรณ์ดีแล้วและพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตยา”

“ภารกิจของคุณคือคุณต้องระบุส่วนผสมของยาตันชีหั่วเซวี่ยโดยใช้วิธีการทางเภสัชวิทยาสมัยใหม่ให้ได้ก่อนเดือนกันยายนที่จะถึงนี้”

“แผนการดำเนินงานคือ คุณต้องจัดทำบทเสนอหัวข้องานวิจัยให้เสร็จก่อนเปิดเทอม”

ก่อนที่ไป๋เยี่ยจะเอ่ยปากพูดอะไร ดวงตาของหลีว์เฟิ่งเซียนก็เบิกกว้างด้วยความไม่น่าเชื่อ…นี่มันยากเกินไปแล้ว!

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว หลิวป๋อหลี่ก็ได้แต่มองตามพลางครุ่นคิดไปด้วย คำพูดของไป๋เยี่ยทำเอาเขาว้าวุ่นเลยทีเดียว แม้ว่านั่นจะเป็นคำพูดธรรมดาๆ ที่ไม่มีสาระสำคัญอะไรเลยก็ตาม

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคำพูดแค่นี้ถึงสะกิดใจเขาจนคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้่!

จนเขาต้องมอบงานที่วางแผนไว้ให้สำหรับทีมทดลองให้กับไป๋เยี่ยแทน

การวิจัยส่วนผสมของยาถือเป็นบททดสอบจากเขา!

อันที่จริงงานที่เขาตั้งใจจะมอบหมายให้ไป๋เยี่ยในตอนแรกคือขอให้ไป๋เยี่ยทำบทเสนอหัวข้องานวิจัยส่งเขาก่อนจะเปิดเทอมในเดือนกันยายนเท่านั้นเอง

แต่หลังจากฟังคำพูดของไป๋เยี่ยที่ว่า ‘ผมจะเรียนเพื่อความเจริญก้าวหน้าของการแพทย์แผนจีน’ เขาก็รู้สึกว้าวุ่นไปหมด มันอาจจะเป็นการรับรู้ อารมณ์ ความไร้เดียงสา ไร้สาระหรืออะไรก็ตามแต่…

นั่นคือทั้งหมดที่เขากำลังคิด!

หลิวป๋อหลี่คิดแล้วก็ถอยหายใจ พลางมองตามคนสองคนที่กำลังเดินลงไปชั้นล่างโดยไม่พูดอะไร

หลีว์เฟิ่งเซียนจะไปหารุ่นพี่เพื่อตอบแทนน้ำใจ พร้อมกับเข้าร่วมทีมทดลองของพวกเขาเลย

ในขณะที่ไป๋เยี่ยตั้งใจจะกลับไปเริ่มงานที่เพิ่งได้รับมอบหมายมา

ทันทีที่ไป๋เยี่ยเดินออกไป เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น

[ติ๊ง! ภารกิจจากอาจารย์ วิเคราะห์และวิจัยส่วนผสมของยาตันชีหั่วเซวี่ยให้เสร็จสิ้น จะได้รับรางวัลโดยอิงตามระดับความสำเร็จ รางวัล: ค่าประสบการณ์ทักษะงานวิจัย และ โอกาสจับรางวัลแบบเลือกเป้าหมาย]

[ติ๊ง! ภารกิจจากอาจารย์ จัดทำรายงานเสนอหัวข้องานวิจัยและได้รับการอนุมัติจากอาจารย์ก่อนจะเปิดเทอมในเดือนกันยายน

หมายเหตุ: จะถือว่าภารกิจสำเร็จหากได้รับทุนการสนับสนุนจากอาจารย์

รางวัล: ค่าประสบการณ์ทักษะงานวิจัย 3000 แต้ม และโอกาสจับรางวัลแบบเลือกเป้าหมายสามดาว]

ไป๋เยี่ยงุนงง จับรางวัลแบบเลือกเป้าหมายคืออะไร

[ติ๊ง! รางวัลแบบเลือกเป้าหมายคือรางวัลที่จำกัดขอบเขตของรางวัลให้แคบลงและจะรับรางวัลในหมวดที่เกี่ยวข้องได้]