บทที่ 98 การแสดงโชว์ประสบความสำเร็จ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

วารุณีก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด“ขอโทษนะคะประธานนัทธี ก่อนการแสดง ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แต่คุณวางใจได้ค่ะ งานแสดงโชว์จะยังคงดำเนินการตามปรกติ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นัทธีก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาคมเข้มส่องประกายผ่านเปลือกตา“กล่องกระดาษเหล่านั้นของคุณเมื่อครู่……”

“ใช่ค่ะ!”วารุณีพยักหน้า

คิ้วที่ผูกปมแน่นของนัทธีเมื่อครู่ก็คลายลง “คุณนี่มันจริงๆเลย”

“ฉันก็แค่เผื่อไว้เท่านั้นเอง”วารุณียิ้มอย่างเขินอาย

“อ๋อ?”นัทธีเลิกคิ้ว “คุณรู้แต่แรกแล้วว่าจะมีคนมาทำลายเสื้อผ้าของคุณ ? แล้วคุณมีคนที่สงสัยหรือยัง ?”

“มีค่ะ!”วารุณีมองไปที่ตาของเขา “คนคนนั้น คือพิชญา”

นัทธีหรี่ตา “คุณมั่นใจขนาดนั้นเชียว?”

วารุณีพยักหน้าแล้วส่ายหัว

นัทธีไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไง ?”

วารุณีถอนหายใจยาว “ ตอนแรกฉันมั่นใจมากว่าเป็นเธอ แต่เมื่อกี้ฉันเจอเธอแล้ว และหลังจากที่ได้พูดคุยกับเธอ ฉันก็เริ่มจะไม่แน่ใจ อีกทั้งไม่มีพยานหลักฐาน แต่ถ้าหากหาตัวพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ ก็น่าจะพอหาหลักฐานมาได้ ”

นัทธีหลับตาลง กักเก็บพายุอารมณ์ในดวงตา “ผมรู้แล้ว ผมจะให้มารุตหาตัวมาให้ ”

“ยอดไปเลยค่ะ”วารุณีดีใจมาก

มีเขาเป็นคนลงมือจัดการให้ เชื่อว่าไม่นานความจริงก็จะปรากฏ

“คุณกลับไปก่อนเถอะ เรื่องนี้ให้การแสดงเสร็จสิ้นลง ผมจะให้คำตอบคุณ!”นัทธีมองดูไปที่นาฬิกาบนข้อมือ อีกหนึ่งชั่วโมงการแสดงก็จะเริ่มขึ้น ชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการ

วารุณีตอบกลับ “ได้ค่ะ”

หลังกลับมาที่ห้องแต่งตัว วารุณีก็ให้ปาจรีย์กลับไป

วันนี้เป็นวันหยุด ทิ้งลูกทั้งสองคนไว้ที่บ้าน เธอก็ไม่วางใจ

ให้ปาจรีย์กลับไปช่วยเธอดูแลเด็กๆจะดีกว่า

ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงได้ นางแบบในห้องแต่งตัว ก็แต่งหน้าเสร็จแล้ว

วารุณีตามผู้ช่วยฝ่ายเสื้อผ้ามา “เอาล่ะ พวกคุณเปิดกล่องพวกนี้ได้แล้ว”

เดิมทีผู้ช่วยฝ่ายเสื้อผ้าก็อยากจะรู้กันอยู่แล้วว่ามีอะไรในกล่องนั้น พอได้ยินว่าให้เปิดมันได้ ก็รีบทำตามโดยทันที

หลังจากที่เปิดกล่อง ของด้านในก็ถูกเผยออกมา

ทุกคนต่างตกใจ “คุณวารุณี ทำไมเสื้อผ้าที่เอาไว้เดินโชว์ถึงมีสองชุดกัน ?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณต้องมาสงสัย ตอนนี้พวกคุณรีบให้นางแบบเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เร็วๆๆๆ !”วารุณีปรบมือเร่ง

ทุกคนต่างก็เริ่มยุ่งชุลมุนขึ้นมาทันที

เพียงไม่นาน การแสดงโชว์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ท่ามกลางผู้ชมที่นั่งชมอยู่ด้านล่างของเวที หัวใจของพิชญาเต้นแรง สายตาที่ตื่นเต้นจนยากจะปิดบังจ้องมองไปยังเวที

เธอในตอนนี้จินตนาการภาพขึ้นว่า นางแบบเหล่านั้นจะไม่ปรากฏตัว หรือไม่ก็คงปรากฏตัวพร้อมกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นบนเวที

ไม่ว่าจะแบบไหน ผลลัพธ์ของวารุณีก็มีเพียงอย่างเดียว คือถูกวงการแฟชั่นคว่ำบาตร!

ตึง!

ไฟภายในห้องแสดงถูกหรี่ลง และเสียงเพลงก็ดังขึ้นมา

พิธีกรบนเวทีถอยตัวออกไป นางแบบที่เดินเปิดการแสดงมือเท้าสะเอวเดินออกจากหลังเวที เริ่มจากโพสต์ท่าในจุดกึ่งของกลางเวที จากนั้นก็เดินไปตามแคทวอล์ค

ในขณะที่เธอกำลังเดินเข้าใกล้กับปลายเวที ความตื่นเต้นบนใบหน้าของพิชญาก็ค่อยๆแข็งค้างไป พึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ“นี่มันเป็นไปได้ยังไง ?”

เสื้อผ้าไม่ใช่ถูกทำลายแล้วเหรอ?

ทำไมเสื้อผ้าของนางแบบยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ได้ ?

พิชญากัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยไม่เข้าใจ

และเมื่อนางแบบที่อยู่ข้างหลังเดินตามกันออกมาทีละคนๆ เธอก็ยิ่งวุ่นวายใจมากขึ้นไปอีก

เรื่องที่เกิดขึ้น เกินความคาดหมายและการควบคุมของเธอ เธอโมโหจนกระทืบเท้า และไม่อยากอยู่ต่ออีก ลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเดินออกไป

และในจังหวะนี้เอง ก็มีบอดี้การ์ดสองคนเข้ามาประกบเธอทั้งซ้ายขวา พาตัวเธอออกไปด้วยท่าทีที่แข็งขืน

ภาพๆนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่เห็น เพราะไม่ได้เป็นจุดสนใจอะไร

การเดินแบบบนเวทียังคงดำเนินต่อ นัทธีมองดูผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างติชมและตอบรับด้วยความประหลาดใจ รู้ได้ทันทีว่างานแสดงครั้งนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เสื้อผ้าของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป จะมีที่ยืนในวงการอุตสาหกรรมแล้ว

ในตอนนี้เอง มารุตมายืนอยู่ด้านข้างของนัทธี ก้มตัวลงพูดบางอย่างกับเขา

“ฉันรู้แล้ว ดูเธอเอาไว้ให้ดี”นัทธีพยักหน้า

“ครับ!”จากนั้นมารุตก็จากไป

นัทธีให้ความสนใจไปยังบนเวทีอีกครั้ง เสียงที่ดังจากบนเวทีใกล้เข้าถึงช่วงสุดท้ายแล้ว นางแบบต่างเดินกลับไปยังเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณก่อนปิดการแสดง ในตอนนี้เอง วารุณีก็ถือไมโครโฟนแล้วเดินออกมา

เธอในฐานะผู้ออกแบบของงานนี้ ก็ต้องออกมากล่าวสุนทรพจน์

หลังกล่าวสุนทรพจน์จบ นัทธีรับดอกไม้จากพนักงานที่อยู่ข้างๆ ขึ้นเวทีไป แล้วมอบดอกไม้นั้นให้วารุณี

วารุณีที่กำลังปลื้มปีติอยู่ในขณะนั้น ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย

นัทธีในฐานะหัวหน้าผู้จัดงานนี้ แม้ว่าจะต้องขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าเขาจะให้ดอกไม้กับเธอ

แม้จะไม่เข้าใจ แต่วารุณีก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป ยังคงยกยิ้มและรับดอกไม้นั้นมา แล้วยื่นไมโครโฟนให้นัทธี

นัทธียืนอยู่ข้างๆเธอ และกล่าวคำเป็นการเป็นงาน แต่พูดมาถึงในตอนท้าย จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องพูดซะอย่างงั้น เขามองไปที่วารุณี “ ที่ผมต้องขอบคุณมากที่สุด ก็คือผู้ออกแบบคุณวารุณี หากไม่มีเธอ คงไม่มีงานแสดงโชว์ที่ยอดเยี่ยมอย่างวันนี้”

วารุณีไม่คิดว่านัทธีจะพูดขอบคุณเธอในที่สาธารณะแบบนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกตกใจไปชั่วขณะ

“คุณวารุณี ขอบคุณครับ !”นัทธีหันไปทางวารุณีแล้วอ้าแขนออก“ เป็นคุณที่ช่วยบริษัทเสื้อผ้าของไชยรัตน์กรุ๊ปเอาไว้ ”

คำพูดของเขาประโยคนี้ ทำให้วารุณีดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที

เธอหยิบไมโครโฟนในมือของเขามา “ก่อนอื่นเลย ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในคำขอบคุณของประธานนัทธีมาก ถัดมาที่ดิฉันอยากจะพูดก็คือ ประธานนัทธี หากไม่มีความเชื่อมั่นและการยอมรับจากคุณ อีกทั้งแรงสนับสนุนต่างๆอย่างเต็มกำลัง ดิฉันก็คงไม่สามารถทำโชว์นี้ให้ออกมาได้สมบูรณ์อย่างนี้ยังไงดิฉันก็ต้องขอบคุณประธานนัทธีด้วยเช่นกันค่ะ”

พูดจบ วารุณีก็โอบกอดนัทธี

ในตอนนี้เอง ผู้ชมและแขกเหรื่อทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างก็ลุกขึ้นยืน และทันใดนั้น เสียงปรบมือก็ดังก้องไปทั่วแฟชั่นพาวิลเลี่ยน

หลังจากนั้นไม่นาน วารุณีก็ปล่อยมือจากนัทธี แล้วใช้หลังมือเช็ดน้ำตาแห่งความตื่นเต้นและความสุขออก

เมื่อนัทธีเห็น ก็ขมวดคิ้ว แล้วหยิบทิชชูออกมาให้เธอ “ใช้อันนี้สิ”

“ค่ะ”วารุณีรับทิชชูมาไว้ในมือ

หลังจากเสียงปรบมือเงียบไป ทั้งสองก็เคียงคู่กันเดินลงจากเวทีไป

ที่หลังเวที นัทธีหันมองไปที่วารุณี “คุณมากับผม”

จากสายตาที่เย็นชาของเขา วารุณีก็พอจะเดาได้ว่าเขาจะไปที่ไหน จึงพยักหน้าให้ แล้วเดินตามหลังเขาไปยังห้องรับรอง

เมื่อมาถึงที่ห้องรับรอง มารุตที่เห็นพวกเขา ก็กล่าวคำทักทาย แล้วเปิดประตูห้องรับรอง

พิชญาที่อยู่ในห้องรับรองเห็นคนทั้งสามคนเดินเข้ามา ในใจก็รู้สึกร้อนรน แต่ใบหน้ายังคงฝืนยิ้มออกมา “นัทธี ในที่สุดคุณก็มาจนได้ คุณดูมารุตสิ เขาขังฉันไว้ที่นี่ไม่ยอมปล่อยฉันออกไป ”

“ผมเป็นคนสั่งเอง ”นัทธีกล่าว

ใบหน้าของพิชญาแข็งค้างไป จากนั้นก็เห็นวารุณีที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ทันใดนั้นก็เข้าใจทุกอย่าง หญิงสาวกำมือแน่น“นัทธี คุณเองก็สงสัยว่าฉันเป็นคนทำลายเสื้อผ้าพวกนั้น ?”

นัทธีไม่ปริปากพูดว่าใช่หรือไม่ใช่

“ผู้จัดการพิชญา ยอมรับมาเถอะ!”วารุณีเงยหน้าขึ้น มองไปยังพิชญาอย่างเย็นชา

พิชญายิ้มเยาะ “ตลก อะไรที่ฉันไม่ได้ทำ ทำไมฉันต้องยอมรับด้วย จะว่าไป เสื้อผ้าที่เอาไปแสดงก็มีสภาพดีอยู่ไม่ใช่เหรอ เธออย่ามาใส่ร้ายฉันให้มันมากนักเลย !”

“เสื้อผ้าที่เดินแบบนั้นมีสภาพดีอยู่ก็จริง แต่เพราะนั้นเป็นชุดสำรอง ฉันระแวงเธออยู่แต่แรกแล้ว”วารุณียกยิ้มมุมปาก

“ชุดสำรอง ?”พิชญาหรี่ตา

วารุณีพยักหน้า “ใช่ ฉันเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เธอจะต้องเล่นสกปรกกับงานแสดงโชว์ครั้งนี้ เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นฉันเตรียมการรอไว้เพียบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ หรือแม้แต่รองเท้า ฉันก็เตรียมสำรองไว้หมด”

นัทธีเลิกคิ้วขึ้น

เขาคิดว่ามีแค่เสื้อผ้าเท่านั้น ที่หญิงสาวสำรองไว้

ไม่คิดว่าจะมีรองเท้าและเครื่องประดับด้วย

มารุตก็ประหลาดใจด้วยเช่นกัน “มิน่าล่ะที่ฝ่ายการเงินบอกว่า คุณวารุณีใช้เงินทุนในโครงการ‘Bath fire rebirth’ เป็นสองเท่าของงบประมาณที่ตั้งเอาไว้”