บทที่ 126 โหดร้าย! ส่งจดหมายทวงหนี้แค้นให้จี้หมิงซู

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 126 โหดร้าย! ส่งจดหมายทวงหนี้แค้นให้จี้หมิงซู

“กรี๊ด!” แม่นมฟางตัวสั่นเทา พลางมองจี้จือฮวนด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“เจ้า ๆ ๆ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เจ้าควรจะ…” ไหนว่าตายไปนานแล้วอย่างไรเล่า นางแต่งงานออกไปแทนคุณหนูตั้งนานแล้ว และไม่รู้ว่าไปตายอยู่ในหุบเหวไหน เหตุใดจู่ ๆ ถึงมาโผล่ที่นี่ได้!!

จี้จือฮวนเห็นท่าทางของแม่นมฟางเช่นนั้น ก็ใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของนางขึ้น ก่อนจะเอ่ยออกมาช้า ๆ “ทำไม ได้เจอข้าที่นี่แปลกใจมากอย่างนั้นหรือ อันที่จริงข้ายังกังวลอยู่ว่า หากยังไม่ปรากฏตัวอีก คนของจวนจี้กั๋วกงคงจะคิดว่าข้าตายไปแล้วจริง ๆ น่ะสิ”

ทุกคำที่นางพูด ทำให้แม่นมฟางใจสั่นตามไปด้วย

นิ้วเรียวยาวของจี้จือฮวนลูบไปบนขอบถ้วย “ชานี่ยังร้อนอยู่ เจ้าจะให้ข้ารออีกนานเพียงใดถึงจะยอมดื่ม ข้าไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไรนัก ดังนั้นอย่าให้ข้าต้องป้อนเจ้าถึงปากจะดีกว่า”

แม่นมฟางกระโดดขึ้นมาถลึงตาใส่นางทันที พลางชี้หน้าและเอ่ยกับจี้จือฮวน “เจ้าคิดจะเล่นอะไรของเจ้ากัน จี้จือฮวน ข้าจะบอกเจ้าให้นะ อย่าคิดที่จะมาเล่นกลหลอกข้าที่นี่จะดีกว่า เมื่อก่อนข้าไม่กลัวเจ้า คิดว่าตอนนี้ข้าจะกลัวเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าก็แค่คนชั้นต่ำเท่านั้น คิดว่าตัวเองยังเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่อย่างนั้นหรือ!”

แม่นมฟางตะโกนด่าจบ ก็นึกถึงท่าทางตอนที่เคยรังแกจี้จือฮวนเมื่อก่อนขึ้นมาได้ นางตั้งใจว่าจะตีจี้จือฮวนให้เหมือนกับก่อนหน้านี้ เข้าไปจิกหัวของนางก่อน และให้นางดื่มชาหนูตายนั่นเสียเอง

กล้าขู่นางอย่างนั้นหรือ!? นางจะทำให้จี้จือฮวนได้รู้สำนึก!

น่าเสียดายที่แม่นมฟางยังไม่ทันลงมือ ร่างของนางก็ถูกแรงมหาศาลกดเอาไว้จนหมอบอยู่ข้างโต๊ะ

จากนั้นก็มีเสียง ‘กร๊อบ’ ดังขึ้น จี้จือฮวนหักนิ้วของนางที่ชี้มาที่ตน

แม่นมฟางรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นมาจากนิ้วมือ นิ้วสื่อถึงใจ แม้แต่หัวใจของนางก็เจ็บตามไปด้วย

จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าสตรีที่ทำร้ายตนเองผู้นี้คือจี้จือฮวน! ไม่มีทาง จี้จือฮวนไม่มีความกล้าเช่นนี้และไม่สามารถทำร้ายนางได้ นี่ต้องเป็นความฝันอย่างแน่นอน นางต้องเห็นภาพหลอนเป็นแน่

ทว่าพริบตาต่อมา แม่นมฟางก็ไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้อีกแล้ว จี้จือฮวนไม่ใช่แค่หักนิ้วของนางแค่หนึ่งนิ้ว แต่ยังค่อย ๆ ไล่หักนิ้วอื่น ๆ ของนางอีกด้วย

“นิ้วนี้ เพราะข้าเกลียดการที่คนอื่นเอานิ้วมาชี้หน้าข้า โดยเฉพาะยายแก่อย่างเจ้า

นิ้วนี้ ล้างแค้นตอนฤดูหนาวที่เจ้าให้ข้าคุกเข่าบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ และด่าทอข้าว่าเป็นนางสารเลว

นิ้วที่สาม ตอบแทนที่หลายปีมานี้เจ้าใช้งานข้าเยี่ยงสาวใช้ เหยียดหยามด่าทออดีตฮูหยิน และปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะเจ้านาย”

นิ้วของแม่นมฟางถูกจี้จือฮวนไล่หักไปทีละนิ้ว และในเวลานี้แม่นมฟางก็เจ็บจนสลบไปแล้ว

แต่คิดว่าสลบเช่นนี้จะสามารถรอดไปได้อย่างนั้นหรือ ไฉนเลยจะง่ายดายเช่นนั้น จี้จือฮวนใช้เข็มเล่มหนึ่งทิ่มลงไป ทำให้แม่นมฟางเจ็บจนฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับหายใจหอบ สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะมองไปที่จี้จือฮวน

สาวใช้ในห้องตกใจเป็นอย่างมาก นางเข้าไปหลบอยู่ที่มุมพร้อมกับร่างที่สั่นเทา

จี้จือฮวนพิจารณาอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง สาวใช้ผู้นี้นางไม่รู้จัก ดังนั้นจะปล่อยไว้ชั่วคราว

แม่นมฟางเอ่ยอย่างอ่อนแรง “เจ้าไม่ใช่จี้จือฮวน เจ้าเป็นใครกันแน่?”

จี้จือฮวนหากมีความสามารถเช่นนี้จริง ตอนนั้นก็คงไม่ถูกนางเหยียบย่ำขนาดนี้

จี้จือฮวนก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อมองนาง และเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “ข้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วอย่างไรเล่า เจ้าดูให้ดี ๆ สิว่าข้าเหมือนเมื่อก่อนมากเพียงใด?” จากนั้นนางก็หุบยิ้มลง แล้วจับหัวของแม่นมฟางกดลงข้าง ๆ ชาหนูตายถ้วยนั้น

“ดื่มมันลงไปซะ ตอนนั้นเจ้าบีบให้จี้จือฮวนดื่มอย่างไร ตอนนี้ก็ดื่มมันลงไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่หยดเดียว หากข้ายังเห็นหางหนูอยู่แม้แต่นิด ข้าไม่เพียงจะหักนิ้วของเจ้า แต่จะหักกระดูกในร่างกายของเจ้าให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกด้วย”

เมื่อปากของแม่นมฟางแตะโดนหนูตายตัวนั้น นางก็หุบปากลงตามสัญชาตญาณทันที แต่ไม่รู้ว่าจี้จือฮวนหยิบอะไรออกมา เป็นกระบอกใสตรงปลายมีเข็มยาว ๆ อยู่หนึ่งเล่ม เมื่อนางกดเบา ๆ ปลายเข็มก็มีน้ำพุ่งออกมา

แม่นมฟางทำได้เพียงมองดูจี้จือฮวนทิ่มเข็มเล่มนั้นเข้ามาภายในร่างกายของตน

“ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อฟัง พิษชนิดใหม่นี้จะค่อย ๆ ออกฤทธิ์ เช่นนั้นก็เพลิดเพลินกับเวลาที่เหลือไปก็แล้วกัน” จากนั้นจี้จือฮวนก็กระชากแม่นมฟางอย่างแรง หักกระดูกข้อมือของนาง และค่อย ๆ บดขยี้ไล่ขึ้นไปทีละนิด

พิษชนิดใหม่นี้สามารถขยายประสาทสัมผัสของคนได้อย่างไร้ขีดจำกัด มันตอบสนองได้ไวมาก แม้กระทั่งหายใจก็ยังเจ็บ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกทรมานเช่นนี้เลย

แม่นมฟางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนไม่อาจควบคุมระบบขับถ่ายได้อีก น้ำลายไหลออกมาพร้อมกับตาที่เหลือกขึ้น

จี้จือฮวนหยิบชาหนูตายนั่นขึ้นมา ก่อนจะบีบกระดูกกรามของนางจนหัก จากนั้นจึงกรอกชาใส่ปากของนาง

แม่นมฟางน้ำตาไหลออกมาตามหางตา จี้จือฮวนมองนางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เจ้าเคยบอกว่าเพราะอ่อนแอไร้ความสามารถ ดังนั้นจึงสมควรที่จะถูกรังแก วันนี้ข้าจะบอกเจ้าให้ว่า สิ่งชั่วร้ายมากมายที่เจ้าทำกับคนอื่น สักวันหนึ่งมันจะย้อนกลับมาหาเจ้าเป็นสิบเท่า”

เจ้าของร่างเดิมถูกบังคับให้กินหนูตาย ถูกบังคับให้กินของเหลือจากคนรับใช้ในจวน แม่นมฟางบีบให้นางกลายเป็นคนที่สิ้นหวังในชีวิต แม้แต่การแต่งงานสุดท้าย จวนจี้กั๋วกงก็ยังจะทำร้ายนางจนไม่เหลือชิ้นดี

ตอนที่จี้จือฮวนแก้แค้นแม่นมฟาง ความแค้นที่ไม่มีที่ระบายและอัดอั้นมานานก็ได้กรีดร้องขึ้นภายในใจ

เวลานี้นางรู้สึกว่าตนเองคือจี้จือฮวนจริง ๆ จี้จือฮวนที่ถูกสัตว์เดรัจฉานพวกนี้เหยียดหยามมานานนับสิบปี

นางไม่สามารถแก้แค้นคนอย่างพวกแม่นมฟางได้ ทำได้เพียงระบายความแค้นกับคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น ทุกสิ่งที่เจ้าของร่างเดิมได้เรียนรู้มานั้น แม่นมฟางล้วนเป็นคนยัดเยียดให้นางทั้งสิ้น

พวกเขาสร้างชะตากรรมของตัวประกอบให้กับเจ้าของร่างเดิม แต่ตัวประกอบไม่มีศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ!? ไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดค้านใด ๆ อย่างนั้นหรือ? เรื่องอะไรจะต้องเดินตามเนื้อเรื่องด้วย!

จี้จือฮวนคิดถึงตรงนี้ การเคลื่อนไหวของมือก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก “ไม่ได้มีแค่เจ้าเพียงคนเดียวที่สามารถรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าได้ มีเหตุย่อมมีผล ผลกรรมของเจ้าก็คือข้า!”

แม่นมฟางไม่สามารถขัดขืนได้ ทำได้เพียงอ้าปากพะงาบ ๆ และค่อย ๆ กลืนชานั่นลงไป นางสะกดความสะอิดสะเอียนเอาไว้ ทว่าในใจกลับรู้สึกเสียใจอย่างสุดจะพรรณนา

ในหัวมีภาพต่าง ๆ ที่ในอดีตทำกับจี้จือฮวนผุดขึ้นมา นางเสียใจหรือไม่? เสียใจกับการที่ได้รังแกจี้จือฮวนหรือไม่?

ไม่มีทาง คนเหล่านี้เพียงแค่กำลังคิดว่า ตอนนั้นหากฆ่าจี้จือฮวนไปเสียก็คงจะดี และไม่ต้องมาชดใช้กรรมอีก

ดังนั้นจี้จือฮวนจะไม่มีวันใจอ่อนกับคนเหล่านี้

ความเจ็บปวดในร่างกายของแม่นมฟางแพร่กระจายไปทีละน้อย และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จี้จือฮวนทำตามสัญญาของตนเมื่อครู่ ในเมื่อนางพูดดี ๆ ไม่ฟัง ก็คงทำได้เพียงบดขยี้กระดูกทุกท่อนของนางเสีย

วิธีการทรมานของหน่วยสืบราชการลับถูกนำมาใช้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อจัดการกับอาชญากรที่ชั่วร้าย การที่แม่นมฟางทนได้ถึงตอนนี้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว

แล้วก็จริง ไม่นานร่างของแม่นมฟางก็อ่อนระทวยอยู่บนพื้น มีเพียงลูกตาสองข้างเท่านั้นที่ยังกลอกไปมา จี้จือฮวนมองไปยังสาวใช้ที่กำลังร้องห่มร้องไห้ด้วยความตกใจอยู่ที่มุมห้อง นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือแล้วก็เอ่ยขึ้นพร้อมท่าทางที่สูงส่ง “พรุ่งนี้เช้าให้เจ้าพานางกลับไปที่จวนจี้กั๋วกง รู้หรือไม่ว่าต้องพูดเช่นไร?”

สาวใช้ร้องไห้พลางส่ายหน้าไปมา

“ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ยายแก่คนนี้ยังสามารถทนได้อีกสองถึงสามวัน เจ้าแค่ป้อนข้าวป้อนน้ำให้นางทุกวัน นางก็จะสามารถมีชีวิตอยู่จนกลับไปถึงจวนจี้กั๋วกงได้ จากนั้นก็ฝากไปบอกจี้หมิงซูด้วยว่า ข้าจี้จือฮวนมาทวงหนี้นางแล้ว ให้นางเช็ดคอของตัวเองให้สะอาด หากวันใดข้าว่างแล้วจะไปเอาหัวของนาง”