บทที่ 98 หลานดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 98 หลานดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

บทที่ 98 หลานดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

ซูโย่วอี๋ตั้งน้ำมันในหม้อให้ร้อนแล้วตอกไข่ลงไป เพื่อให้ดูดี เธอตั้งใจทอดไข่ให้เป็นทรงกลม

แต่ด้วยควัน ทำให้เธอคันจมูกและหันหน้าไปอีกทางโดยไม่รู้ตัว

แต่จู่ ๆ ก็มีมือเรียวยกขึ้นมาเปิดที่เครื่องดูดควัน

“คุณโง่หรือเปล่า”

ซูโย่วอี๋เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? เมื่อกี้คุณไม่พูดอธิบายอะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้ทำมาเป็นพูดมาก”

ฉันเกลียดคุณที่เป็นคนหัวดื้อ

ลู่เฉินเลิกคิ้วและหยิบชามใส่น้ำขึ้นมา “ใส่เข้าไปเลยไหม?”

“ยังไม่พอ ขอเพิ่มอีก”

ในระหว่างที่น้ำกำลังเดือด เธอก็ล้างต้นหอมแล้วสับให้ละเอียด

จากนั้นก็ปรุงรสเพิ่ม

“คุณปู่ลู่กินเผ็ดได้ไหม”

“พอได้”

เธอใส่ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู และน้ำมันพริกเล็กน้อยลงไป

เขามองไปยังร่างที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัวด้วยดวงตาอ่อนโยน

“คุณชอบทำอาหารไหม?”

ซูโย่วอี๋ไม่คาดคิดว่าเขาจะถามคำถามนี้ เธอชะงักไปและพูดว่า “ทำ แต่ไม่บ่อย”

ใครจะชอบทำอาหารบ้าง?

เธอก็แค่ทำเพื่อคนที่เธอชอบ

หลังจากที่ซูโย่วอี๋เอาเส้นนึ่งออกจากหม้อ เธอวางไข่สองฟองอย่างชำนาญและโรยต้นหอมลงไป

กลิ่นของมันหอมมาก

เธอต้องการจะใช้ผงเลิศรส แต่เป็นเพราะลู่เฉินอยู่ตรงนี้เธอจึงไม่มีโอกาส

ซูโย่วอี๋ยื่นมือออกไปปิดชาม แต่ลู่เฉินกลับนำหน้าเธอไปหนึ่งก้าว

“ผมยกไปเอง”

ซูโย่วอี๋ได้ยินอย่างนั้นก็ยินดี

เมื่อชายชราและหลี่ขุยเห็นทั้งสองคนเดินมาพร้อมกัน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ลู่เฉิน หลานดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นนะพอมีโย่วโย่วอยู่ข้าง ๆ”

ลู่เฉินขมวดคิ้วและรีบวางชามลง จนกระทั่งซูโย่วพบว่านิ้วของเขากำลังแดง

“คุณต้องจับขอบชาม”

มันร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?

แต่ผู้เฒ่าลู่กลับไม่สงสารหลานชายตัวเองเลยสักนิด “อย่ากังวลไปเลย ผิวของเขาทั้งหยาบและหนา แค่นี้ก็ทำเป็นสำออย”

“คุณปู่ลู่ลองชิมฝีมือฉันเถอะค่ะ”

พูดจบเธอก็ตักบะหมี่แยกใส่ชามให้กับทุกคน

ชายชราเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มไม่หยุด

“อร่อย”

“เธอทำอาหารอร่อยมาก”

“ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าใครจะโชคดีได้กินอาหารอร่อย ๆ อย่างนี้ทุกวัน”

ตอนนี้ดึกมากแล้ว ชายชราอย่างเขาคงกินมากเกินไปไม่ได้ เพราะเดี๋ยวอาหารจะไม่ย่อย

ผู้เฒ่าลู่มองซูโย่วอี๋อย่างเอ็นดู “บะหมี่อร่อยมากเลยแต่ฉันอิ่มแล้วล่ะ แล้วก็ตอนนี้ดึกมากแล้วด้วย ให้ลู่เฉินพาเธอกลับเถอะนะ”

“หลี่ขุยไปส่งพวกเขากลับบ้านสิ อ้อแล้วก็หลานรัก พาซูโย่วอี๋มาเยี่ยมปู่บ่อย ๆ นะ”

หลังจากขึ้นรถ ซูโย่วอี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งการแสดงต่อหน้าแฟน ๆ การถูกวางยา จากนั้นไปที่สถานีตำรวจ ไปโรงพยาบาล และคฤหาสน์ตระกูลลู่

ทั้งหมดนี้มันทำให้เธอนึกถึงสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนไม่ออกเลย

เมื่อมองไปที่นอกหน้าต่าง ซูโย่วอี๋ก็รู้สึกเหนื่อยมากจนผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

และเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ารถจอดอยู่หน้าบ้านของเธอแล้ว เมื่อหันไปที่ด้านข้างก็เห็นลู่เฉินนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับกำลังจมอยู่ในความคิด เมื่อเธอขยับตัวเขาก็หันมาสบตา

ซูโย่วอี๋ยังคงสบตากับเขานิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น

หลังจากมองหน้ากันสักพัก เธอก็เปิดปากพูดว่า “จริงสิ ประธานลู่ฉันต้องไปแล้ว ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ

ชายหนุ่มที่เห็นเธอกำลังลงจากรถ เขาก็ตามลงมาด้วย ไปที่เบาะหลังและหยิบถุงขนมออกมายื่นให้เธอ

“ผมซื้อระหว่างทาง เอากลับไปกินสิ”

ซูโย่วอี๋ปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกินขนมพวกนี้ตอนไดเอ็ตไม่ได้”

ด้านลู่เฉินที่เห็นว่าเธอกินบะหมี่ไปแค่ไม่กี่เส้น ก็กังวลว่าเธอจะไม่อิ่ม ดังนั้นเขาจึงซื้อมันมาให้

ขนมที่เขาเลือกล้วนเป็นของราคาแพงและไขมันต่ำ ตอนเลือก เขายังสงสัยว่าเธอจะชอบพวกมันหรือไม่

ลู่เฉินเม้มริมฝีปากอย่างขัดใจ “รับไปเถอะ”

จู่ ๆ สุนัขจิ้งจอกก็เตือนซู่จู่ของมันว่า [รับไปเถอะ เขาซื้อมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ]

ซูโย่วอี๋ได้ยินอย่างนั้น ก็รับไว้และพูดว่า “ขอบคุณมากค่ะ”

จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในบ้านช้า ๆ

เมื่อคิดว่าในที่สุดก็ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเมื่อเปิดประตูเข้าไป

ซูโย่วอี๋เห็นซูหยินนอนอยู่บนพื้น ใบหน้าของเธอแดงก่ำและขวดเบียร์กระจัดกระจายไปทั่ว

“ซูหยิน”

หลังจากเรียกชื่อเธอไม่กี่ครั้ง ในที่สุด ซูหยินก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง

“ที่รัก เธอกลับมาแล้วเหรอ”

กลิ่นแอลกอฮอล์แทบทำให้เธอหายใจไม่ออก

“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

ทุกอย่างเรียบร้อยดีก่อนที่พวกเธอจะแยกกันนี่

ซูหยินเม้มริมฝีปากและพึมพำสองสามคำ ทันใดนั้นเธอก็กอดซูโย่วอี๋ไว้ในอ้อมแขนและสะอื้นด้วยเสียงน่าสงสาร มันไม่ได้บีบคั้นหัวใจและซูหยินก็ไม่ได้กรีดร้อง แต่มันกลับน่าหดหู่ใจเหลือเกิน

ซูโย่วอี๋ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ซูหยินจะหยุดร้องไห้

เพื่อนคนนี้มักซ่อนความรู้สึกจากเธอเสมอด้วยรอยยิ้มและการเสแสร้ง

ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งที่ข้างในอ่อนไหวถึงขนาดนี้

หัวใจของซูโย่วอี๋เต็มไปด้วยน้ำตา

“ฉันจะไม่ถามอะไรอีกแล้ว”

เธอตบหลังเพื่อนสาวเบา ๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา

เสียงของเธอค่อย ๆ เบาลง จนกระทั่งจางหายไป

เธอมองและพบว่าซูหยินหลับไปแล้ว

ซูโย่วอี๋พาซูหยินไปนอนบนเตียงและทำความสะอาด จากนั้นก็ล้มตัวนอนบนเตียงเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็หลับไม่ลง

เธอนอนไม่หลับจนกระทั่งรุ่งสาง

หายากที่จิ้งจอกจะไม่รบกวนเธอ ดังนั้นเธอจึงหลับสบายหลังจากนั้น

เธอตื่นขึ้นในตอนเที่ยง ก็เห็นว่าซูหยินกำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงห้องนั่งเล่น ใบหน้าที่สวยงามของเธอซ่อนอยู่ในควันบุหรี่

ซูหยินที่เห็นว่าเพื่อนตื่นแล้วก็ดับบุหรี่

ซูโย่วอี๋พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เธออยากกินอะไรเป็นมื้อเที่ยง ฉันจะทำให้ ฉันอยากทำอาหารให้เธอกินมานานแล้ว”

แต่ซูโย่วอี๋ไม่เคยมีโอกาส

“ทำไมเธอไม่ถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น”

ซูโย่วอี๋ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงัก จากนั้นก็พูดต่อว่า “ถ้าเธอต้องการบอกฉัน ฉันก็จะฟัง แต่ถ้าเธอไม่ต้องการบอก ฉันก็จะไม่ถาม”

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

“เธอเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ซูโย่วอี๋ถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ

“วันนี้ แล้วฉันจะไม่สูบบุหรี่อีก”

เมื่อก่อนฮัวจิงไม่อนุญาตให้เธอสูบมัน เธอจึงทำตามความชอบของเขา เธอคิดว่าเขาดูมีความสุขมากที่ได้สูบบุหรี่แต่ละมวน

เธอจึงลองสูบบุหรี่ดูบ้าง ก็แค่นั้น…

ที่สำนักงานใหญ่เมืองปักกิ่ง

ชายคนนั้นหยิบซองเอกสารแล้วตะโกนว่า “ใครจะเซ็นรับ”

ชายหนุ่มในห้องมองหน้ากันแล้วถามว่า “ใครซื้ออะไรมา ฮ่าฮ่า มันไม่ใช่ถุงน่องไหมสีดำใช่ไหม”

คนกลุ่มนั้นหัวเราะและรับพัสดุไป

“นี่ ฉันยังไม่ได้เซ็นเลย”

เมื่อเขาเปิดดูก็พบว่าข้างในนั้นเป็นแฟลชไดรฟ์ พวกตำรวจก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เจ้าหน้าที่หลิวเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “เอามันไปที่ห้องประชุม”

ระหว่างทาง ชายผมเกรียนก็เข้ามาใกล้เจ้าหน้าที่หลิวและถามว่า “ฉูรั่วฮวนเป็นคนวางยาจริงเหรอครับ?”

เช้าวันนี้ ฉูรั่วฮวนถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ แต่ก็ยังไม่ทราบผล

เจ้าหน้าที่หลิวลังเลที่จะพูดมากกว่านี้ แต่ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าเขา และคนร้ายก็ชัดเจน

เมื่อตระกูลฉูต้องการประกันตัวฉูรั่วฮวน แต่ตระกูลเฉินจะไม่มีวันยอม ผลคำตัดสินไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำรวจอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันระหว่างทั้งสองตระกูล

หลังจากเชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์แล้ว ก็มีคลิปวิดีโอสองคลิปปรากฏขึ้นบนหน้าจอใหญ่

“เฮ้ มันต้องเป็นคลิปโป๊แน่ ๆ”

“ฮ่าฮ่า ตื่นเต้นจัง”

“แล้วจะดีเหรอถ้าเราเปิดมันที่นี่?”

“ยิ่งคุณรู้กฎหมายมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีความผิดมากเท่านั้น”

ตำรวจใหม่เหล่านี้มักจะเก้ ๆ กัง ๆ เพราะกลัวทำอะไรผิด

เจ้าหน้าที่หลิวคลิกที่วิดีโอนั้นอย่างไม่ลังเล

เห็นได้ชัดว่าวิดีโอนี้ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือที่มีความคมชัดต่ำ แต่หญิงสาวในวิดีโอคือนางเอกที่พวกเขาพูดถึง ฉูรั่วฮวน

และชุดที่เธอใส่เหมือนกับในวิดีโอกล้องวงจรปิดทุกประการ!