ตอนที่ 138 อึดอัด
ตอนที่ 138 อึดอัด
ครั้นฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ออกมา ก็เห็นฟู่ซวี่ตงกับเสิ่นหรูฮวน…กำลังกอดกัน?
เมื่อเห็นทั้งสองคนกระทำเช่นนั้น ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ชะงักทันที รู้สึกเพียงว่าพวกเขาอาจมาผิดจังหวะไปหน่อย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจ สองคนนี้คบกันตั้งแต่เมื่อใด ทำไมพวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยสักนิด
หลังจากฉินมู่หลานหายตกใจก็รู้สึกสับสนนิดหน่อย เสิ่นหรูฮวนเคยบ่นกับตนมาก่อนหน้านี้ว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องแต่งงาน หากหล่อนคบกับฟู่ซวี่ตง คงไม่มีความคิดเช่นนี้เป็นแน่
และในขณะนั้นเอง เสิ่นหรูฮวนกับฟู่ซวี่ตงก็สังเกตได้ว่ามีคนกำลังมา เสิ่นหรูฮวนที่นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองกับฟู่ซวี่ตงใกล้ชิดกันมากจึงรีบผลักเขาออกไปทันที เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาสงสัย หล่อนจึงรีอธิบาย “มู่หลาน ฟู่ซวี่ตงใจร้ายมาก เขาแกล้งหลอกว่าเชือกนั่นเป็นงูเพื่อทำให้ฉันกลัว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็มองดูด้วยความสงสัย รู้สึกว่าฟู่ซวี่ตงไม่น่าจะทำเรื่องเด็ก ๆ แบบนี้
แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่เองก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองฟู่ซวี่ตง
ฟู่ซวี่ตงรีบหันหน้าหนีด้วยความอึดอัด ไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่ เขาเห็นเสิ่นหรูฮวนอยู่ตรงนี้และข้าง ๆ ก็มีเชือกอยู่อีก จึงอดไม่ได้ที่จะแกล้งหลอกให้หล่อนกลัว ใครจะไปรู้ว่าเสิ่นหรูฮวนจะเป็นตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูมขนาดนี้ หล่อนกลัวจนตะโกนร้องดังลั่นแล้วอยู่ ๆ ก็กระโดดเข้ามากอดเขา
“อะแฮ่ม…ก็ฉันเห็นเสิ่นหรูฮวนอยู่ตรงนี้ เลยค่อนข้างแปลกใจ อยากจะลองแกล้งหล่อนขำ ๆ ใครจะรู้ว่าหล่อนจะใจเสาะขนาดนั้น แล้วก็กลัวงูด้วย” หลังจากเขาช่วยเหลือเรื่องเจิ้งเต๋อข่ายเมื่อคราวก่อน เขากับเสิ่นหรูฮวนก็ได้กลายเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้เขาคิดจะหยอกล้อเล่นกับหล่อนในครั้งนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะตลกร้ายเกินไป โนเวลพีดีเอฟ
เสิ่นหรูฮวนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะหันมองฟู่ซวี่ตงตาเขม็ง
ฟู่ซวี่ตงรู้ตัวว่าตนผิด จึงขอโทษอย่างรวดเร็ว
ฉินมู่หลานหันมองเสิ่นหรูฮวน แล้วหันมองฟู่ซวี่ตงอีกครั้ง ก่อนจะก็รู้สึกว่าเหมือนสองคนนี้ยืนอยู่ด้วยกันแล้วค่อนข้างสะดุดตา แต่ตอนนี้หรูฮวนกำลังโกรธ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที “จริงสิ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว พวกเรารีบออกไปกินข้าวกันดีกว่า”
“เอาสิ”
ฟู่ซวี่ตงเป็นคนแรกที่ตอบรับ และเสิ่นหรูฮวนก็ไม่ได้พูดอะไร เดินอยู่ข้าง ๆ ฉินมู่หลาน ทุกคนกำลังเดินไปที่โรงแรมรัฐที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยกัน
ระหว่างนั่งรอรับประทานอาหาร สุดท้ายความอึดอัดระหว่างฟู่ซวี่ตงกับเสิ่นหรูฮวนก็หายไป และฟู่ซวี่ตงก็เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “หรูฮวน คุณมาที่นี่ จะพักอยู่กี่วันเหรอ”
เสิ่นหรูฮวนได้ยินเช่นนี้ จึงรีบตอบ “น่าจะประมาณหนึ่งสัปดาห์ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้คุณไปพักอยู่ที่ไหนเหรอ?”
“พักที่ห้องพักแถวนี้แหละค่ะ มู่หลานไปเปิดห้องให้ฉันเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟู่ซวี่ตงก็พยักหน้า แล้วพูดขึ้น “อย่างนั้นก็ดี อีกสองวันผมว่าง ถึงตอนนั้นเดี๋ยวจะพาคุณไปเที่ยวรอบ ๆ เอง ตอนนี้น้องสะใภ้กำลังตั้งท้อง ให้หล่อนพักผ่อนไปดีกว่า”
เสิ่นหรูฮวนกำลังจะปฏิเสธ แต่หลังจากได้ฟังฟู่ซวี่ตงเอ่ยก็รู้สึกว่าควรปล่อยให้ฉินมู่หลานได้พัก ไม่อย่างนั้นเธออาจเหนื่อย ดังนั้นจึงยอมพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “เอาสิ ถ้าอย่างนั้นคุณพาฉันไปเที่ยวรอบ ๆ แล้วกัน”
หลายคนกำลังพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร เป็นมื้ออาหารที่มีความสุขมาก
หลังจากกินเสร็จ ฉินมู่หลานก็กำลังจะไปส่งเสิ่นหรูฮวนก่อน
เสิ่นหรูฮวนเห็นจึงพูดอย่างรีบร้อน “มู่หลาน ฉันจำทางได้ เดี๋ยวฉันกลับเองดีกว่า”
ฉินมู่หลานย่อมไม่ยอมปล่อยให้เสิ่นหรูฮวนเดินกลับคนเดียว “หรูฮวน ให้พวกฉันไปส่งเธอเถอะ หลังจากส่งแล้วเดี๋ยวพวกเราก็จะกลับบ้านพักครอบครัวด้วย”
สุดท้ายฟู่ซวี่ตงที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้น “น้องสะใภ้ครับ คุณกับอาหลี่กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมไปส่งหรูฮวนเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็อดหันมองฟู่ซวี่ตงเสียไม่ได้ เมื่อเห็นเขาโบกมือให้พวกเขาจึงไม่ได้ว่าอะไร แล้วพูดแค่เพียงว่า “หรูฮวน ถ้าอย่างนั้นเธอกลับกับซวี่ตงนะ ฉันกับอาหลี่จะกลับก่อน”
“ได้”
เสิ่นหรูฮวนมองฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้แต่รู้สึกว่าเป็นภาพที่น่ามอง และรู้สึกว่าระหว่างหล่อนกับฟู่ซวี่ตงมีความแปลกอยู่นิดหน่อย จากนั้นจึงรีบโบกมือลาทั้งสองคน แล้วพูดว่า “มู่หลาน เธอรีบกลับไปเถอะ”
หลังจากฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปแล้ว ฟู่ซวี่ตงก็หันไปพูดกับเสิ่นหรูฮวนอย่างช่วยไม่ได้ “หรูฮวน ไปกันเถอะ”
“อื้ม”
เสิ่นหรูฮวนเดินตามอยู่ข้างหลังฟู่ซวี่ตง ทั้งสองมุ่งหน้าตรงไปที่เกสต์เฮ้าส์อย่างช้าๆ
ระหว่างทาง ทั้งสองก็เงียบไป ฟู่ซวี่ตงที่รู้สึกว่าพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของตัวเองค่อนข้างเกินไปหน่อย จึงเอ่ยขอโทษอีกครั้ง “ขอโษนะหรูฮวน ผมไม่น่าแกล้งให้คุณกลัวเลย”
เสิ่นหรูฮวนเห็นฟู่ซวี่ตงเอ่ยขอโทษ จึงรีบโบกมือ แล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าคุณแค่อยากจะแกล้งเล่น ฉันก็ขี้ตกใจเกินไป”
คนสองคน คนหนึ่งบอกขอโทษ ส่วนอีกคนบอกไม่เป็นไร แสดงทัศนคติอย่างชัดเจน หลังจากมาถึงที่หมาย สายตาของทั้งคู่ก็สบประสานเข้าด้วยกัน พลางอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มให้กัน ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
หลังจากส่งยิ้มแล้ว ฟู่ซวี่ตงกับเสิ่นหรูฮวนก็แลดูเข้ากันได้ดี ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเหมือนจะเริ่มใกล้ชิดมากขึ้น
เนื่องจากสถานที่นัดเจออยู่ไม่ไกลจากเกสต์เฮ้าส์ ดังนั้นพวกเขาจึงมาถึงโดยเร็ว “หรูฮวน คุณรีบเข้าไปเถอะ”
“ค่ะ”
เสิ่นหรูฮวนหันมองฟู่ซวี่ตงด้วยรอยยิ้ม แล้วโบกมือลาเขา หลังจากนั้นก็รีบเข้าเกสต์เฮาส์ไป
ฟู่ซวี่ตงเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนเข้าไปแล้วก็หันหลังเดินกลับ แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เขาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามเสิ่นหรูฮวนเลยว่าพักอยู่ที่ห้องไหน จึงเดินกลับไปที่เกสต์เฮ้าส์อีกครั้ง เนื่องเพราะตกลงกับเสิ่นหรูฮวนว่าจะมารอรับหล่อนไปเที่ยวในอีกสองวัน ดังนั้นต้องทราบหล่อนว่าพักอยู่ห้องไหน จะได้สะดวกเวลามาหาอีกครั้ง
ฟู่ซวี่ตงกลับมาที่เกสต์เฮาส์อีกครั้ง เพียงแต่เสิ่นหรูฮวนหายตัวไปตั้งนานแล้ว เขาจึงถามพนักงานแทนว่าเสิ่นหรูฮวนพักอยู่ห้องไหน
พนักงานเงยหน้าขึ้นมองฟู่ซวี่ตง เมื่อเห็นว่าเขาสวมชุดทหาร จึงรีบเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “สหาย มีอะไรให้ช่วยหรือคะ?”
ฟู่ซวี่ตงอธิบายรูปลักษณ์ของเสิ่นหรูอวาน หลังจากนั้นจึงบอก “หล่อนเป็นเพื่อนผม เพิ่งกลับมาเมื่อสักครู๋นี้ ผมเพิ่งมาส่งแต่ลืมถามว่าหล่อนพักอยู่ที่ห้องไหน ก็เลยกลับมาถามอีกรอบครับ”
พนักงานคนนั้นจำเสิ่นหรูฮวนได้ เพราะคนแบบเสิ่นหรูฮวนเพียงมองครั้งเดียวก็จำได้แล้ว เมื่อเห็นฟู่ซวี่ตงถามขึ้นมา หล่อนจึงรีบเอ่ยทันที “คุณกำลังพูดถึงเพื่อนผู้หญิงคนนั้นสินะคะ หล่อนเพิ่งกลับเข้ามาเมื่อกี้ แต่สักพักก็ออกไปอีกครั้งแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฟู่ซวี่ตงก็อดตกใจไม่ได้ ก่อนจะรีบเอ่ยถาม “ถ้าอย่างนั้นทราบไหมครับว่าหล่อนไปที่ไหน?”
พนักงานส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “เรื่องนั้นฉันไม่รู้ค่ะ แต่รู้ว่าหล่อนพักอยู่ห้องไหน มันคือห้องที่อยู่ตรงสุดทางเดินชั้นสองค่ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับสหาย”
เมื่อฟู่ซวี่ตงเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนออกไปอีกครั้ง ก็รีบเดินออกจากเกสต์เฮ้าส์ทันที เขาคิดว่าเสิ่นหรูฮวนไม่คุ้นสถานที่นี้จึงกลัวว่าหล่อนจะหลงทาง รีบค้นหาตัวหล่อนในรัศมีใกล้ๆ ทันที
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เริ่มสนิทกันแล้วสินะ ต่อไปจะมีใจให้กันไหมหนอ
หรูฮวนหายไปไหนอีกแล้วเนี่ย
ไหหม่า(海馬)