“ยินดีตอนรับกลับเจ้าน้องชาย”

เมื่อได้ยินคำพูดของนอร่าขณะที่เธอจับหน้าผม ผมก็ประหลาดใจขณะมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอที่แสดงอารมณ์ที่รุนแรง ผมคุ้นเคยกับสายตาแห่งความลุ่มหลงเหล่านั้นมาก ผมเคยเห็นดวงตาเหล่านั้นในผู้หญิงบางคนของผมมาแล้ว

“เห้อออ…มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?”

ผมหมายถึง ผมเพิ่งกอดพี่สาวและบอกเธอว่าคิดถึงเธอแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์แล้วเหรอ? ความจริงผมไม่รู้และเริ่มจะไม่สนใจมันแล้ว ผมเป็นต้นเหตุ ผมจึงต้องยอมรับกับผลที่ตามมา 

ผมสะบัดความคิดออกก่อนจะยิ้มไปด้วยขณะพูด

“ได้อยู่บ้านกลับครอบครัวนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ผู้หญิงทั้งสามคนในห้องก็ยิ้ม นอร่าตาเป็นประกายขณะที่เธอเอนตัวมาจูบหน้าผากผม ผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากนุ่มๆ ของเธอบนหน้าผากของตัวเอง เธอจูบมันชั่ววินาทีก่อนจะผละออกไป 

ผมเห็นเธอมีดวงตาเปล่งประกายด้วยความสุขหลังจากนั้น

“ฮิฮิ..ดูเหมือนพี่สาวจะคิดถึงผมมากเลยนะครับ”

เมื่อได้ยินเสียงหยอกล้อของผม ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะถอนหายใจและปล่อยอ้อมกอด ผมเห็นดวงตาของนอร่าหรี่ลงชั่วขณะในตอนที่เธอปล่อยผม ผมทำได้เพียงส่ายหัวในใจก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเกรซ

เมื่อทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เกรซได้แต่มองทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม สำหรับเธอแล้ว นี่เป็นแค่การทักทายกันของลูกๆ เธอที่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ถือเป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ตอนนี้เกรซไม่สามารถสอดส่องความคิดของลูกสาวได้ ไม่เช่นนั้นทุกคนคงจะสงสัยว่าเธอจะยังคงสามารถเก็บรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นไว้ได้ไหม

ทันทีที่ผมนั่งลงบนโซฟา เอลด้าก็กระโดดขึ้นมาบนตักของผมจนทำเอาผมสามารถสัมผัสถึงก้นนุ่มๆ ของเธอที่อยู่บนตักของตัวเองได้เลย ในขณะเดียวกันเธอก็เอนหลังโดยใช้ร่างกายของผมเป็นตัวพยุง กลิ่นหอมของเอลด้าโชยเข้าจมูกผมอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของผม

ฉันไม่รู้ว่าเธอจงใจหรือเปล่า แต่ขณะที่เธอนั่งอยู่ เธอได้ขยับก้นขึ้นลงบนตักของผม เธอคนนี้กำลังทดสอบความอดทนของผมจริงๆ ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ความสวยของเอลด้าเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตา ยิ่งคุณมองเธอมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งใช้เวลากับเธอมากเท่านั้น คุณจะยิ่งอยากปกป้องเธอมากเท่านั้น

“ฮิฮิ อย่างที่หนูคิดตักพี่ชายดีที่สุดเลยค่ะ”

เมื่อได้ยินเอลด้าหัวเราะเบาๆ ด้วยความสุข ผมก็ได้แต่กรีดร้องในใจ แต่ผมต้องขอบอกเลยว่าการที่เอลด้ามานั่งบนตักของผมนั่นช่างรู้สึกดีจริงๆ 

ผมหัวเราะเบาๆ ขณะที่โอบเอวอันบอบบางของเธอ

“เอลด้าเธอโตเป็นสาวแล้วนะ ยังจะมานั่งตักพี่อีกเหรอ?”

“หนูไม่สน หนูอยากนั่งตักพี่ชายค่ะ หรือว่าพี่ชายไม่ชอบเอลด้าแล้วเหรอคะ?”

ขณะที่เอลด้าพูดอยู่นั้น ดวงตาของเธอก็เบิกโพลง เธอกุมศีรษะของตัวเองด้วยความสิ้นหวัง ผู้ชายคนไหนเห็นสิ่งนี้คงอยากจะทุบตีผู้ชายที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนางฟ้าตัวน้อยคนนี้ เมื่อมองไปที่การแสดงของเอลด้า ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเอลด้าขี้อายในอดีตจากไปแล้วสินะ

“พี่จะไม่ชอบน้องสาวที่รักคนนี้ได้ยังไงหล่ะ? เธอคือสิ่งมีค่าที่สุดในโลกนี้สำหรับพี่แล้ว”

ขณะที่ผมพูด ผมก็กอดเธอและดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง ร่างกายอันอ่อนนุ่มนั้นช่างนุ่มนิ่มจริงๆ เอลด้ายิ้มและวางหัวของเธอลงบนไหล่ของผมด้วยท่าทางเหมือนอยู่ในความฝัน ทันทีที่ผมกอดเธอ น้ำตาของเธอก็หายไปและรอยยิ้มก็เกิดขึ้นมาแทน

“พี่ต้องบอกเลยว่าเธอเติบโตขึ้นจริงๆ นะเอลดาตัวน้อยของพี่”

“หนูไม่เห็นเข้าใจเลยว่าพี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรเหรอคะ?”

เอลด้าตอบกลับผมขณะที่ใบหน้าของเธอยังคงจมลึกเข้าไปในอกของผม ผมมองทั้งเกรซและนอร่าที่มองสิ่งนี้ด้วยท่าทางบึ้งตึง ทั้งคู่ดูมีแววอิจฉาเมื่อมองเอลด้า

‘พวกเธอนี่เหมือนกันจริงๆ’

เช่นเดียวกับแม่เหมือนลูกสาว นั่นคือทั้งหมดที่ผมคิดได้ในขณะที่มองดูใบหน้าที่อิจฉาของผู้หญิงเหล่านี้

“ฉันสงสัยว่าจริงๆ ว่านายจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับรู้ถึงปัญหาที่เอลด้าก่อขึ้นให้กับนาย”

“ปัญหาเหรอครับ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของนอร่า ผมก็มองเธอด้วยความสงสัย ไม่เพียงเท่านั้นผมยังรู้สึกได้ถึงตัวของเอลด้าที่กำลังสั่นอยู่ในอ้อมกอดได้อีกด้วย

“เอลด้าทำอะไรงั้นเหรอครับ?”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก เธอแค่ประกาศกับคนทั้งสถาบันว่าเธอจะยอมรับเฉพาะผู้ชายที่ชนะพี่ชายของเธอได้เท่านั้นเอง”

“ห้ะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของนอร่า ผมก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองเอลด้า 

ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเธอ แต่เอลด้าพยายามหลบสายตาของผม

“เอลด้า บอกพี่ทีว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

“ม-มัน”

“นายอย่าโทษเอลด้าเลยนะ เธอทำแบบนั้นเพื่อให้ผู้ชายพวกนั้นกลับไปหน่ะ”

“ผู้ชายเหรอครับ? เป็นไปได้ไหมว่าเธอกำลังถูกรบกวนด้วยคำสารภาพรักครับ?”

“ใช่ มันค่อนข้างเป็นปัญหาเลยแหละ”

นอร่าไม่รีรอก่อนจะเริ่มอธิบายสถานการณ์ให้ผมฟัง หลังจากเธอพูดจบผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า พวกขุนนางนี่มันน่าปวดหัวจริงๆ ประเด็นไม่ได้ใหญ่โตอะไร แค่มีหนุ่มๆ หลายคนมาตกหลุมรักกับน้องสาวของผมก็เท่านั้นเอง

รูปร่างหน้าตาของเอลด้านั้นน่าทึ่งมาก ความงามของเธอเป็นหนึ่งในล้านที่แม้แต่ผมยังหลงเสน่ห์ชั่วครู่ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีความจริงที่ว่าเธอมีสายเลือดของนางฟ้าด้วย เธอยังมีออร่าแห่งเสน่ห์อีกด้วย ผู้หญิงที่อ่อนโยน สุขุม และมีมารยาทดี

ใครก็ตามจะรู้สึกอยากปกป้องเธอเมื่อพวกเขาจ้องมองเธอ บวกกับความจริงที่ว่าเธอจะทุ่มเทให้กับคุณอย่างเต็มที่เมื่อคุณแต่งงานกับเธอ ใครจะต้านทานได้ หลังจากที่เอลด้าเริ่มเข้าเรียนที่สถาบัน จำนวนของผู้ชายที่สารภาพรักกับเธอนั้นก็มีมาไม่รู้จบ

ความจริงแล้วมีตระกูลขุนนางหลายตระกูลที่ส่งจดหมายแสดงความต้องการการแต่งงานทางการเมืองมาอยู่ แต่แม่ของผมได้ปฏิเสธจดหมายทุกฉบับ เกรซเป็นผู้หญิงที่เชื่อในการเลือกคู่ของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธที่จะใช้การแต่งงานของลูกสาวเพื่อการเมือง แถมยังไม่มีใครต้องการทำให้เอลด้าอารมณ์เสีย ท้ายที่สุดแล้วเธอเป็น 1 ใน 2 คนในโลกที่สามารถใช้เวทมนตร์แห่งชีวิตได้

ในอนาคตเธอจะเป็นผู้รักษาที่เป็นที่ต้องการตัวมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครบังคับเธอได้ แถมสถานะของเอลด้าก็ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะยุ่งด้วยได้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ชายที่มีระดับสูงกว่าเริ่มสารภาพกับเธอ

ดูเหมือนว่าเจ้าชายแห่งเผ่าสิงโต, เจ้าชายแห่งโลกปีศาจแห่งอาณาจักรเอฟเฟธ, เจ้าชายแห่งเผ่าวาฬและผู้ชายคนอื่นๆ จะตกหลุมรักเอลด้า อย่างหัวปักหัวปำและพวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เอลด้าที่ปวดหัวจึงพูดว่า เธอจะพิจารณาเฉพาะคนที่เอาชนะพี่ชายของเธอได้เท่านั้น

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต