ตอนที่ 133 ผู้ส่งสาส์นจากทิศใต้

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

133 ผู้ส่งสาส์นจากทิศใต้

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

「ชั้นเป็นมาร์เควสจากอาณาจักมอลต์ บาบอน มัลนีย์」

「ชั้นเอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์……เคานต์จากโกลโดเนีย」

ผมเพิ่งพูดชื่อของผม แต่นน่าจิ้มข้างตัวผมให้พูดต่อเรื่อยๆ ดังนั้นผมบอกระดับขุนนางไปด้วยเหมือนกัน

「หนูภรรยาเค้า นนน่า ฮาร์ดเลตต์」

เธอจีบชายชุดเธอ ยกมันเล็กน้อย และคำนับอย่างสุภาพ มาร์เควสพยักหน้า ระหว่างที่ชำเลืองมองรอบหน้าอก กล้าดียังไง ที่ไอ้จังไรลามกนี่ทำอย่างนั้น

คนนี้ที่ชื่อว่ามาร์เควสมัลนี่ย์ ดูเหมือนชายวัยกลางคน ที่คุณไปเจอที่ไหนก็ได้ เขาไม่ได้ดูเหมือนจะมีนิสัยที่บิดเบี้ยว แล้วไม่ได้ดูว่าจะฉลาดเฉลียวหนักหนา นอกจากชุดชั้นสูงที่เขาใส่ ไม่มีอะไร ที่ทำให้เอาโดดเด่น ในฐานะมาเควส มีขุนนางที่หยิ่งและน่ารังเกียจจากโกลโดเนียด้วย แต่พวกเขาทั้งหมด มีตัวตนเด่นชัดเกี่ยวกับพวกเขาอยู่

「เค้าเหนือกว่าพี่ในแง่ของระดับชั้น แต่มีความต่าง ระว่างชาติกำเนิดด้วย อย่าหยาบคาย แต่อย่าก้มมากไป」

ตามคำแนะนำของนนน่า ผมปฏิบัติกับเขาอย่างเท่าเทียมกัน และจับมือของเขาอย่างมั่นใจ

「ยินดีที่ได้พบเจอ」

「อุมุ เหมือนกันกับคุณ……โอ้ย โอ้ย……」

อย่ามาเจ็บกับจับมือเล็กๆน้อยๆแบบนี้หน่อยเลยน่า

「ได้โปรดนั่ง」

เขาถูกเชิญให้นั่ง ที่โซฟาที่หรูหราที่อยู่ในห้องรับแขก ระหว่างที่ชาและขนมก็ถูกเสิร์ฟด้วย ในท่าทีที่ผ่อนคลาย ประเด็นถูกนำขึ้นมา โดยไม่มีช่วงเวลาของความล่าช้า ช่างมีปัญหา

「ถ้าอย่างนั้น มีประเด็นอะไรล่ะครั้งนี้?」

「อุไม ชั้นมาเพื่อสานสัมพันธ์ฉันมิตร ระหว่างอาณาจักรมอลต์และโกลโดเนีย」

ผมตอบไปอย่างไม่ได้ตั้งใจด้วย ‘ถ้าอย่างนั้นไปที่เมืองหลวงสิ’

「ฮ่าาา โชคร้าย ชั้นไม่ใช่ทูตของโกลโดเนีย ชั้นดูเหมือนบางคน ที่มีอำนาจแบบงั้นเหรอ?」

มัลนีย์ ชำเลืองมองกระดาษที่เขามีในมืออย่างรวดเร็ว มันไม่ได้ดดูเหมือนเขาจดบันทึกหรืออะไรซักอย่าง

「ถ้างั้นอย่างน้อย ให้ชั้นได้อยู่ในความสัมพันธ์อันดี กับคุณเป็นการแลกเปลี่ยน」

งี้ผมก็เป็นทาางเลือกสำรองดิ? ผมควรจะกระทืบเจ้านี่จริงๆ

「ชั้นไม่เห็นเลย ว่าเรื่องนี้มันจะไปถึงไหน นายปรากฏตัวกระทันกัน เรียกร้องความสัมพันธ์ที่ดีกับโกลโดเนียกับชั้น บอกชั้นได้มั้ย ว่าวันถุประสงค์คืออะไร」

「อืม อืมม……」

อีกครับที่เขาหันไปหาชุดกระดาษในมือของเขา เปลี่ยนผ่านหน้า

(หืม~?)

โอ้ เคซี่แอบมองจากเพดาน บางทีเธอเห็นว่าอะไรเขียนออยู่ในกระดาษเหล่านั้น

(หืมม พวกมันดูเหมือนประเด็นสำคัญ มมันดูอ่านยาก หนูนอนดึกเมื่อวาน ดังนั้นหนูจะไปนอนแล้วนะ)

เธอรีบถอยหัวและหายไป และจากนั้นมัลนี่ย์กระแอมคอ

「ประเทศของเรา ประสงค์สันติสุข กับประเทศเพื่อนบ้าน ชั้นไม่มีเจตนาที่จะไปแทรกแซงกับเรื่องธุระของคุณ แต่ชั้นอยากจะก่อตั้งสนธิสัญญาสันติ และการตกลงแลกเปลี่ยนกับคุณก่อน เมื่อเห็นว่าชายแดนได้กว้างขึ้น การสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับคุณ จะทำหน้าที่เป็นสะพานแห่งสันติ ระหว่างชาติทั้งสองของเรา คุณจะไม่เห็นด้วยเหรอ?」

เขาพล่ามต่อเกี่ยวกับเรื่องการทูต

「ชาติของคุณและชั้น ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้งออะไรต่อกันเป็นพิเศษ และมันไม่เหมือนว่า คุณพึ่งพาอาณาจักรเพื่อทำการแลกเปลี่ย ดังนั้น ถ้าคุณจะเห็นดีเห็นงาม เราก่อตั้งเรื่องนั้นได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข」

มันจะไม่เป็นไรกับการซื้อขาย ถ้ามันสร้างกำไร แต่สัญญาสัตตินั้นมีปัญหา แม้ว่ามันอาจจะดีกว่า ที่จะไม่หาการต่อสู้แบบเชิงรุก เนื่องด้วยการต่อสู้กับทริสตัน ที่ทำให้เกิดการเสียกำลังพลไปมากกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ผมพูดสัญญาสันติได้เพื่อการซื้อขาย และทำการเดินเข้าพื้นที่ได้ถ้าผมเห็นว่ามันจำเป็น

「โออ้ อย่างนั้นเหรอ?! ถ้างั้น」

ชายเปิดหน้ากระดาษอีกครั้ง และพยักหน้าอย่างยิ่งใหญ่

「ถ้างั้น ผมขอให้คุณมาแวะที่เบียโด้ เมืองหลวงของอาณาจักรมอลต์ และเข้าเฝ้าพระนางเซเลสติน่า ถ้าคุณทำ สิ่งต่างๆจะดำเนินการไปได้ไวขึ้น」

นนน่ามองดูกระดาษ ดั่งจะบอกว่าไม่ให้ผมตอบทันที และยอมรับข้อเสนอของเขา อา สิ่งต่างๆมันเป็นอย่างนั้นเหรอ?

「ฮ่าาา นี่เป็นเกียรติ แต่ชั้นรับใช้ราชวงศ์โกลโดเนีย และชั้นเชื่่อว่าการไปเหยียบเท้าลงเข้าไปในประเทศอื่นง่ายๆ จะไม่ทำให้พระองค์ ราชา พึงพอใจ นายจะให้เวลาชั้นช่วงเวลาหนึ่งได้มั้ย?」

「นั่นจะไม่เป็นปัญหา ถ้าอย่างนั้น โปรดให้ชั้นรู้ว่าเมื่อไหร่ ที่มันเป็นไปได้สำหรับคุณ」

เจ้านี่สนทนากับผม ระหว่างที่อ้างอิงกระดาษของเขาอย่างสิ้นหวังด้วย

「พูดถึงแล้ว……ชั้นได้ยินมา เกี่ยวกับเนื้อที่อร่อยสุดขีด ที่คุณมาลิ้มรสได้ในราเฟนด้วย」

「……เซบาสเตียน เตรียมงานเลี้ยง」

「ตามปรารถนา」

「โออ้! ชั้นซาบซึ้งใจ! เพื่อตอบแทน ชั้นจะนำเหล้าที่ดีที่สุดของดินแดนแม่ ที่มันเป็นหนึ่งในเหล้า ที่เหมาะสมที่สุดเมื่อทานคู่ไปกับเนื้อ」

เจ้านี่ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะประชดประชัน และไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นคนไม่ดีเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ได้ดูเหมือนคนที่มีอำนาจ ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย ผมสงสัยมากขึ้น ว่าเขาเป็นมาร์เควสจริงหรือไม่ แต่มันควรจะไม่เป็นอะไรหรอก ที่จะให้เขาได้มีความสุขกับอาหาร

ผมรอคอยเหล้าที่เขาจะนำมานิดหน่อยด้วย

ในท้ายที่สุด มันถูกตัดสินใจ ในที่เราสนทนากันว่าผมจะไปแวะเมืองหลวงของพวกเขา เบียโด้ เพื่อยืนยันการไม่รุกรานกัน กับอาณาจักรมอลต์ และพูดเกี่ยวกับการซื้อขาย และสนธิสัญญาสันติในอนาคต

หลังจากนั้น มาร์เควสกินและดื่มจนอิ่ม ก่อนที่จะกลับไปอย่างมีความสุข ผมถามนนน่าว่านี่เป็นที่ขุนนางเจรจากันมั้ย แต่ตัดสินจากสีหน้าที่ซับซ้อนของเธอ มันไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่มันไม่น่าเสียดายนะ เพราะผมแลกเนื้อสัตว์ดำ กับเหล้าที่เขาจะนำมาได้ เหล้าจากดวอร์ฟก็อร่อยจริง แต่มันแรงมมากจนมันจะทำให้คุณสลบไป ถ้ามากเกินไปได้ถูกบริโภค

「ยังไงซะ มันโชคดีที่ไม่มีอะไรมากเกิดขึ้น」

ซีเลียและนนน่าพึมพำ รู้สึกโล่งใจอย่างไรก็ไม่รู้ มันไม่เหมือนว่า อะไรบางอย่างจะเกิดขึ้นหรอกนะ แค่จากการได้เจอกับแขก แค่เพราะลีโอโพลต์และอดอล์ฟไม่อยู่ที่นี่ มันไม่ได้เหมือนว่าผมทำอะไรไม่ได้เลยด้วย

มากกว่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว เขาใกล้กับความเป็นผู้ส่งสาส์นมากกว่า นิสัยของเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนแย่ด้วยเหมือนกัน ดังนัน มันทั้งหมดเกี่ยวกับการให้เขามีความสุข อย่างน้อยๆ ผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาคุยเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ที่บางคนที่มะระดับชั้นของมาร์เควสจะมาคุย

「พี่จะให้ลีโอโพลต์และอดอล์ฟคิดเกี่ยวกับมันด้วย……และพี่ก็ต้องรายงานเมืองหลวงด้วย」

「แน่นอน ถ้าพี่ไปชาติอื่นอย่างลับๆ พระองค์จะเชื่อว่าพี่จะทรยศเค้า」

ผมลูบหัวนนน่า และเล่นนมของเธอ หลังจากที่เธอได้แนะนำผมอย่างดิบดี

「เห้อ! พี่ทำแบบนี้ในห้องนั่งเล่นไม่ได้นะ」

อาา นมผมหนีไป

「แต่ ถ้านี่เป็นห้องนอนนะ พี่เล่นมัน หรือดูดมันมากได้เท่าที่พี่ต้องการเลย」

แม่บ้านที่ดูแลอยู่หลังนนน่าเปลี่ยนเป็นแดง ช่างเป็นสาวที่ไร้เดียงสา

「นั่นทำให้พี่นึกได้ พี่ไม่ได้เห็นแม่บ้านคนนั้นจากที่ไหนเลย คนที่มาจากแรกเริ่มน่ะ……」

สาวคนนั้นที่อยู่ในหมู่คนที่อพยพมาที่ราเฟน คนที่มอบความบริสุทธิ์ให้ผม และถูกจ้างเป็นแม่บ้านในคฤหาสน์ ผู้ที่ทำงานหนัก ข้างผมและข้างเมียผม

「แม่บ้านคนนั้น ถูกริต้าซังไล่ออกแล้ว」

「ทำไมล่ะ? แต่เธอทำหน้าที่ดีอยู่นะ」

ไล่เธอออกนั้นโหดร้ายไปป

「……เธอทำคุ้มค่าจ้างอย่างถูกต้อง พี่ไม่มีความคิดเลยเหรือว่าทำไม?」

「พี่จำซักครั้งไม่ได้เลย ที่พี่บอกว่าให้ไล่เธอออกนะ」

นนน่าจ้องผมด้วยสายตาที่เคืองค้อน

「สาวคนนั้นท้อง! ท้องเธอเริ่มที่จะใหญ่ขึ้น เราเลยส่งเธอกลับไปที่เมือง! พีจำออะไรไม่ได้เลยจริงๆเหรอ!?」

「อาา เข้าใจแล้ว」

นั่นเป็นไปได้สุดขีด เพราะทั้งหมด ผมได้ผลักแม่บ้านลงหลายครั้งหลายครา หลังจากที่ผมมีความใคร่ขึ้นมา เพราะมันกระทันหันตลอด บ่ออยครั้งที่เราสมสู่กัน โดยไม่ได้เตรียมยาคุม

「สาวคนนั้น ไม่ยอมเปิดเผยออกมาว่าเมล็ดพันธิ์เป็นของใคร แต่หนูไม่คิดว่ามันจะเป็นใครไปได้เลย นอกจากพี่ฮาร์ดเลตต์ซามะ เธอเลยถูกปฏิบัติเป็นพิเศษ」

「อย่างนั้นเหรอ ขอบคุณนะ ถ้าอย่างนั้น」

「บบบุ……」

นนน่าพองแก้มของนาง และพักหัวลงบนตังของผม โอ๋ โอ๋ พี่จะมมอบเวลาหนึ่งต่อหนึ่ง ที่น้องไม่ค่อยจะได้คืนนี้นะน้องนะ พี่จะเอาเหล้าให้เคซี่ นี่เวลาอาหารค่ำ เพราะนางนั้นชอบแอบมอง ถ้าผมเอาเหล้าให้ผี เธอจะไม่ตื่นขึ้น จนกว่าจะเที่ยงอีกวัน

「「「「……」」」」

「พวกหนูจะต้องรอวันอื่นกันนะ」

เมลิสซ่าและสาวๆคนอื่น แอบดูครึ่งทาง เฮ้เลอาห์อย่าแค่ดึงเจ้าหนูของพี่แบบนั้น

—————————————————————

ไม่กี่วันถัดมา

「「ท่านไปสัญญาอะไรอะไรไม่จำเป็นอีกแล้ว」」

สิ่งแรกที่อดอล์ฟและลีโอโพลต์พูดกับผม เมื่อพวกเขากลับมากับเหล่าทหาร คือคำนี้ พวกเขาเป็นกลุ่มทีน่าเบื่อจริง

「มันไม่เป็นไร นอกจากนี้ ตอนนี้เราไม่ได้มีแผนอะไรจริงๆนี่」

「ถ้าอย่างนั้นในการแลกเปลี่ยน ท่านรู้ว่าของพิเศษของประเทศคืออะไรมั้ย และอะไรที่พวกเค้าต้องการ? รู้ความต่างในราคามั้ย? ท่านรู้ว่า มันมีภาษีใดๆมั้ย? ถนนปลอดภัยมั้ย?」

「เราทำทั้งหมดได้ทีหลังน่า」

「และใครที่จะทำเรื่องนั้น?」

ไม่มีใครอื่นนอกจากนาย แม้ว่านายจะมาถามฉัน ฉันจะไม่เข้าใจมันหรอก

「ถ้าจำเป็น เรามีแผนที่จะโจมตีอาณาจักรมอลต์ด้วย แต่การตรวจสอบ เกี่ยวกับเรื่องนั้นจะใช้เวลา」

ต่อไปคือลีโอโพลต์

「แน่นอนว่าเรื่องนั้นจริง แต่ทหารของเราได้รับความสูญเสียในครั้งนี้ การหยุดโจมตีระหว่างมากราโดร จะจบเมื่อผ่านฤดูใบไม้ร่วงไปเล็กน้อย เราควรจะไม่วางแผนอะไรไว้ในครั้งนี้」

「ครับ ครับ ผมผิดเองครับ พูดหรือทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการกับผมเลยครับ」

ทริสตันพูดค่อนข้างจะหยาบ มันปรากฏว่าเขาขี่รถเกวียน เพราะเขาขี้่ม้าไม่เป็น และเขาก็ไม่มีความอดทนที่จะเดินเท้าด้วยเหมือนกัน เขาถูกบังคับนำตัวมา เขาจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดีนิดหน่อย

「ความสำคัญอันดับแรกของเรา คือเสริมความแข็งแกร่งกำลังของกองทัพ ดังนั้น การมาปิดตัวเลือกเราและรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวง ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก」

ลีโอโพลต์เมินการพูดที่หยาบคายของทริสตัน และพูดต่อ

 「แคลร์ก็ได้พูดถึงว่าที่เหมืองเหล็กดำเนินการไปอย่างราบรื่นด้วย ดังนั้นสิ่งต่างๆ มันควรจะไม่เป็นไร! ที่สำคัญกว่านั้น ชั้นอยากจะรู้ผลของการลาดตระเวน ดังนั้นสรุปมันมาคร่าวๆ」   

ซีเลียแทรกเข้ามาข้างผม

ทั้งสองถอนหายใจ และเลิกแถวทหาร เดินวุ่นวายไปทั่ว ระหว่างที่นำวัตถุดิบออกมา ทริสตันหมกตัวอยู่หลังรถเกวียน เหมือนอะไรๆก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา ผมจะให้อิริจิน่าลากเขาออกมาทีหลัง หนึ่งในห้องสำหรับอาคาร จะทำเป็นที่อาศัยของเขา เพราะแน่นอนว่าเขาจะหมกตัวเองในห้อง ถ้าถูกมอบที่ที่แยกออกไปจากคนอื่น

หลังจากนั้น อิริจิน่าหยิบทริสตันขึ้น ที่คอเสื้อของจริง และลากเขาเข้าไป ในอะไรที่ดูเหมือนการประชุมรายงาน

 「มันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 21 ที่ผมได้รับประสบการณ์ ว่าทาสรู้สึกเป็นยังไงเมื่อพวกเค้าถูกขาย……」   

 「นายจะได้ห้องตัวนายเองในคฤหาสน์ ดังนั้นนายจะมาพูดเรื่องทาสอะไรกันล่ะ?」   

ไมล่าโต้แย้งการบ่นของทริสตัน ผมเลือกห้องที่คอนข้างใหญ่สำหรับเขา แต่เราใส่หนังสือทั้งหมดที่เขานำมาจากบ้านไม่ได้ ดังนั้น ห้องเก็บหนังสือถูกขยาย ปรกติแล้วซีเลียจะเป็นคนแรกที่เห่าใส่เขา แต่มันปรากฏว่าเหตุผล ที่เธอทำตัวเชื่อฟังดีมันเพราะหนังสือ

 「เรามาคุยกันเล่นๆได้ทีหลัง ก่อนอื่น ลีโอโพลต์ กองกำลังกองทัพของเราดูเป็นยังไง เมื่อมองไปถึงฤดูใบไม้ร่วง?」   

 「ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการเงิน ทหารผ่านศึกจากสงครามก่อนหน้า จะถูกให้ความสำคัญมากกว่าในการเรียกตัวกลับมา และทหารทักษะสูง 3000 คน มารวมกันได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามากกว่านั้นพวกเขาจะต้องถูกฝึก ซึ่งจะทวีคูณจำนวน และค่าใช้จ่ายที่ตองการขึ้นไปอีกหลายเท่า」   

ฟุมุ ถ้าเรามีทหารทั่วไป 3000 คน รวมกันมันจะรวมได้ 5 หรือ 6000 รวมถึงทหารม้าธนู เนื่องจากเวลาที่เราปะทะกับมากราโดก่อนหน้า เราใช้ทหารของอาณาจักร ดังนั้น ผมไม่คิดว่าเราจะรวมได้มากกว่านี้มาก ในระยะเวลาสั้นๆ

 「ถ้าอย่างนั้น โปรดรวม 3000 ที่คาดไว้ทันที และจากนั้น……ไม่มีความเร่งรีบ แต่ทำให้เป้าหมายเราเป็นประมาณ 10,000 เถอะ」   

แม้ว่ารวมกัน 10,000 คนทันที เราจะไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพวกเขาได้ ดังนั้น มันจะถูกตีคู่ไปกับการพัฒนาเมือง

 「ถ้าอย่างนั้น มาทำอย่างนี้ ให้ผู้สมัครสองเงินทุกเดือน และให้พวกเค้าทำการฝึกทุกอาทิตย์ พวกเขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจที่วันอื่น แต่เราจะเรียกพวกเค้ากลับมา เมื่อมันถึงเวลาสงคราม」   

 「เข้าใจแล้ว นั่นจะทำให้กองทัพ ไม่นำจำนวนประชากรไปโดยไม่จำเป็นด้วย」   

อดอล์ฟไม่ได้ดูเหมือนจะคัดค้านด้วย

เดือนละสองเงิน อาจจะไม่เพียงพอ ที่จะสนับสนุนพวกเขาไปทั้งเดือน แต่ถ้าคุณคิดเกี่ยวกับมัน ว่าเป็นการจ่าย สำหรับงานอาทิตย์นึง มันเป็นโอกาสดีที่จะได้เงินเสริมมมาบ้าง ถ้าพวกเขาฝึกอย่างบ่อยครั้ง มันจะสร้างความต่าง ในเวลาและความพยายามที่ใช้ เมื่อเทียบกับเวลาและความพยายามมากเท่าไหร่ ที่จะต้องฝึกมือสมัครเล่นอย่างสมบูรณ์ ถ้าเหล่าชายรวมกันในหมู่บ้านใกล้กับราเฟน มันเป็นไปได้ที่จะทำให้กลุ่มของศาลเตี้ยแกร่งขึ้นด้วยเหมือนกัน

 「ได้เลย ทำอย่างนั้นเถอะ」   

 「ถ้าอย่างนั้น ผมจะนำทุนจำนวนที่เหมาะสมไป」   

 「มันช่วยไม่ได้」   

นี่มันเป็นแผนที่ค่อนข้างน่าสนใจ

 「และเกี่ยวกับท่อเหล็กนั่น……」

 「คุณหมายถึงปืนใหญ่」      

 「การผลิตปืนใหญ่มันเป็นยังไงบ้าง」   

 「พวกมันจำนวนหนึ่งได้ถูกสร้าง แต่มี ผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลว ที่ระเบิดเมื่อเราทดลองอยู่มาก ดังนั้น ตอนนี้ มีแค่ 4 กระบอกที่สามารถใช้งานได้ เพิ่มเติมจากนั้น ระยะและความแม่นยำ ของปืนใหญ่ของเรา ต่ำกว่าปืนใหญ่ที่ถูกส่งมาให้เราก่อนหน้า จากสหพันธรัฐ」   

ผมเดาว่า มันจะไม่ง่ายขนาดนั้น

 「แต่มันมีความหมายในการผลิตต่อไป จุดอ่อนที่สุดของเราตอนนี้ คือการขาดความสามารถในการตีเมือง นี่จะพิสูจน์ออกมาว่ามีประโยชน์ ถ้ามันอนุญาตให้เราปราบปรามคนอื่นได้」   

 「เดาว่างั้น ถ้างั้นได้โปรดผลิตมันต่อ」   

การพูดเกี่ยวกับกองทัพตอนนี้ได้จบลงแลว ทริสตันถามซีเลียวว่า ‘ปืนใหญ่’ คืออะไรอยู่ข้างๆ เมื่อซีเลียอธิบายมัน ด้วยการทำไมทำมือ เขาพยักหน้า และกลับไปจ้องบางอย่างด้วยความว่างเปล่า

 「ได้โปรดรอเดี๋ยว!」   

ผมคิดว่าการคุยเกี่ยวกับกองทัพจบแล้ว แต่ไมล่าขึ้นเสียงของเธอกระทันหัน

 「จำนวนประชากรของราเฟน เพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่ว่า มันถูกเรียกได้แล้วว่าเป็นเมืองขนาดกลางอย่างถูกกฎหมาย แต่พร้อมกับเรื่องนั้น ศีลธรรมของสาธารณะเสื่อมลงไปที่นั่นที่นี่」   

 「อย่างนั้นเหรอ? แต่มันค่อนข้างที่จะสงบที่นี่นะ」   

 「……มันอาจจะไม่สร้างความต่างมากผิวเผิน แต่มีรายงานเกี่ยวกับการค้าทาสผิดกฎหมายใต้ดิน และองค์กรอาชญากร」   

อดอล์ฟเพิ่มเข้ามาในการสนทนา เข้าใจแล้ว อาชญากรรมแผลงฤทธิ์มากขึ้น ขณะที่เมืองใหญ่ขึ้น ความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเมืองหลวงของโกลโดเนีย ก็ไม่ได้แย่ด้วยเหมือนกัน แต่มีพวกวายร้ายที่โผลมา บางครั้งบางคราวว เหมื่อคราวที่แแล้ว

 「มันจะใช้เวลามากกว่ามาก ที่พวกตัวร้ายพวกนั้น มันจะฝังรากลึกในเมือง ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีองค์กร ที่จัดการกับเรื่องนั้น ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น」   

 「เรามียามเมืองแล้ว พี่คิดว่าพวกเขาก็ทำได้ดี」   

 「หน้าที่ยามเมือง คือปกป้องเมืองหลวงจากโจรและมอนสเตอร์ และสงบเหตุวุ่นวายภายในเมือง พวกเค้า ไม่ได้ไล่ล่าคนพวกนั้น ที่ซ่อนอยู่ตามใต้ดินจริง…… แล้วก็ พวกตัวร้ายที่ฉลาด จะไม่ต่อต้านยาม แต่ทำให้พวกเขาเป็นพวกตัวเอง」   

 「ติดสินบน งั้นเหรอ?」   

แน่นอน ถ้ามีองค์กรไหน ที่โง่พอที่จะต่อต้านยานหรือตัวผมเอง มันจะถูกลบล้างในทัน

ที ดังนั้น ทำไมมันธรรมชาติที่พวกตัวร้าย จะพยายามที่จะเอาชนะเขาเข้าไปเป็นพวก

 「การกระทำของยามเมือง ขึ้นอยู่กับกัปตันที่นำพวกเค้า ดังนั้นพวกเค้าไม่ใช่อะไร นอกจากกลุ่มศาลเตี้ยที่น่าประทับใจ และการกระทำของพวกเขา ไม่ได้ถูกจับตามมองอยู่ตลอดเวลาด้วยเหมือนกัน……ดังนั้น ถ้ากัปตันถูกซื้อ พวกตัวร้ายจะสามารถทำอะไรได้ตามใจ」   

 「พี่จะไม่อยากจิตนาการเรื่องนั้นนะ แต่ หนูจะทำอะไร เมื่อคิดว่าเรื่องนั้นเป็นปัญหา」   

ไมล่าพองอก การขยับนั้นทำให้หน้าอกเด้งเล็กน้อย จริงๆแล้วพวกมันค่อนข้างจะใหญ่

 「ให้หนูควบคุมกลุ่มของทหาร ในฐานะกองกำลังสำหรับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แยกกันจากยามเมือง พวกเค้าจะไม่รับมือกับความปลอดภัยรายวัน หรือการกวาดล้างมอนสเตอร์ แต่จะรับมือ กับการค้นหาและฆ่าคนและองค์กรที่เป็นตัวร้ายให้หมดสิ้น และกวาดล้างพวกคนโง่ใดๆ ที่กล้าละเมิดกฎหมาย」   

เธอพูดอะไรแบบนี้ มาก่อนหน้านี้ด้วยเหมือนกัน

 「แต่การเข้มงวดเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ดีนะ」   

เมืองที่ไม่มีเหล้า หรือเสน่ห์ทางเพศนั้นน่าเบื่อ

 「ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่ราเฟน ก็จะได้ประสบการณ์อะไรอย่างการลักพาตัว โดยเฉพาะเด็กๆ!!」      

ผมอ่อนแอกับการโต้แย้งแบบนี้ แต่ผมเดาว่า ไมล่าไม่ใช่คนที่รับสินบนด้วยเหมือนกัน และถ้ามันทำเกินไป ผมจัดการกับมันได้ตลอดด้วย

 「ได้เลย พี่จะให้หนูรับมือมัน แต่หนูต้อง แยกแยะ ระหว่างขยะและคนที่ไม่ค่อยรักษากฎหมาย พี่จะนำหนูออกจากตำแหน่ง ถ้าหนูทำมันเกินไป」   

 「ค่ะท่าน! ปล่อยมันให้หนูได้เลย!」   

และนั่นเป็นสัญญาน การเริ่มก่อตั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน กลุ่มจะมี 50 คน และจะทำอะไรอย่างอิสระแยกกับยามเมือง รับมือกับกิจกรรมผิดกฎหมายภายในเมืองเพียงเท่านั้น พวกเขา ไม่ได้ใส่อุปกรณ์เหมือนกองทัพ แต่ไม่เหมือนเกราะหนัง ดาบและหอกที่ยามเมืองมี พวกเขาใส่เกราะเหล็กและโล่ ปืนธนู และแม้แต่ทหารม้าเบา ซึ่งควรจะทำให้พวกวายร้ายที่คลานๆกันอยู่ในเมือง ไม่สามารถที่จะสู้ได้

 「มันจะไม่เป็นไรใช่มั้ย? มันจะเงียบจริง ถ้าคนพวกนั้นไม่ไปทั่วและส่งเสียง」   

ทริสตันดูเหมือนจะคิดเกี่ยวกับบางอย่างอยู่

 「ยังไงซะ ชั้นจะหวังพึ่งนาย ในหลายๆอย่างนะ อดอล์ฟ」   

 「ได้โปรดอย่าพูดอย่างนัน มันอาจจะมีเจ้าหน้าที่พลเรือน แต่ผมเป็นคนที่ทำงานก้อนใหญ่」   

ดูเหมือนการบ่นของทริสตันมันไปติดคนอื่นได้

 「เออ่ อย่างแรก เริ่มด้วยเรื่องพื้นฐานก่อน จำนวนประชากรรวมของดินแดนใหม่ นั้นคือ 140,000 และ 15,000 ไม่นับทหาร ใช้ชีวิตอยู่ในราเฟน เราไม่ได้วนไปหมู่บ้านทั้งหมด ในดินแดนใหม่ ดังนั้น มันอาจจะมีมากกว่าหรือน้อยกว่าในอนาคต แต่นี่คือภาพสถานการณ์คร่าวๆตอนนี้」   

 「140,000? …… นั่นค่อนข้างเยอะ」   

 「มันไม่ใช่แค่ฝั่งตะวันออกของภูมิภาคชนบทแลก แต่เป็นดินแดน ที่ครอบคลุมได้ว่าเป็นส่วนกลางแล้วตอนนี้ ปัญหา คือความต่างระหว่างสภาพแวดล้อม ในดินแดนใหม่และที่รายล้อมราเฟน ผู้ว่าจะถูกเปลี่ยน แต่ตั้งแต่ราเฟนตกอยู่ภายใต้การเน้นพัฒนา มันเริ่มที่จะใช้ชีวิตง่ายเป็นพิเศษ นั่นทำไมการเคลื่อนไหวของผู้คนภายในดินแดน……」   

 「อาา นายทำอะไรที่นายคิดเลยเกี่ยวกับเรื่องนั้น ละรับมือกับมันอย่างที่เห็นสมควรยังไงก็ได้」   

 「……ยังไงซะ นั่นไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้น ภาษีรายหัวและรายได้จากการยึดทรัพย์ผิดกฎหมาย ในที่สุดก็ได้รวมกันแล้ว」   

เขาดึงชุดเอกสารบางอย่างออกมา เจ้าคนนี้ สร้างเอกสารอย่างตั้งใจ และเก็บมันไว้อย่างปลอดภัยตลอดไป แต่ผมคิดว่ามันดีกว่า ที่จะโยนมันเข้าไปในเตาผิง เมื่อเขาอ่านเสร็จแล้วนะ

ภาษีรายหัว

จำนวนประชากรในเมือง: 30,000 1 ทองต่อหัว — รวมกัน 30,000 ทอง

จำนวนประชากรพื้นที่ชนบท: 110,000 (ที่ซึ่ง 30,000 ในหมู่บ้านบุกเบิกถูกยกเว้น)

2 เงินต่อหัว — รวม 16,000 ทอง

เงินที่ยืดได้: 14,000 ทอง (รวมหลังจากที่ได้คืนส่วนหนึ่งไปให้ชาวบ้านแล้ว)

โดยรวมทั้งหมด: 60,000 ทอง

เหตุผลที่ภาษี สำหรับพื้นที่ชนบทน้อยกว่า เมื่อเทียบกับในเมือง ที่ภาษีถูกเก็บหลังจากที่ถูกใช้ คือกำแพงเมืองและยามเมือง ที่ต้องการเพื่อเก็บชาวเมืองให้ปลอดภัย ชาวนาในบริเวณชนบท ได้ก่อตั้งกลุ่มศาลเตี้ย เพื่อเตรียมสำหรับโจรหรือมอนสเตอร์

 「60,000 นั่นเป็นจำนวนที่เหลือเชื่อนะ」   

นั่นทำให้ผมนึกได้ ผมไม่เคยที่จะได้มีปัญหาเรื่องเงินเลย ไกลเท่าที่ผมจำได้ บางที ผมถูกรักโดยเทพเจ้าเรื่องเงินอย่างคาดไม่ถึง

 「และนี่คือค่าใช้จ่าย」   

บริจาคให้กับอาณาจักร 5,000 ทอง

ค่าใช้จ่ายหลายสิ่งอย่าง: 15,000 ทอง

 「「เดี๋ยวก่อน!!」」   

ไมล่าและซีเลีย ขึ้นเสียงของพวกเธอ

 「นั่นอะไรน่ะ!? ไม่มีทาง ที่นั่นจะถูกมองข้าม!!」   

แน่นอนว่ามันค่อนข้างที่จะแย่ ระหว่างที่ผมไม่คิด ว่าอดอล์ฟคือบางคนที่ยักยอกทรัพย์ แต่มันไม่ใช่บางอย่าง ที่ลอร์ดศักดินาจะดีใจเกี่ยวกับมัน อดอล์ฟถอนหายใจ

 「ผมคิดอย่างนั้นแล้ว ผมรู้ว่าฮาร์ดเลตต์ซามะจะไม่ชอบเรื่องนี้ ผมเลยหยุด……แต่ผมสงสัย ว่านี่จะเป็นไรมั้ย」   

สัญญานถูกส่งให้คนรับใช้ และรถเข็นล้อเดียว ที่เต็มไปด้วยชุดเอกสาร ถูกนำมาข้างหน้า

 「นั่นพอแล้ว ชั้นเข้าใจแล้ว」   

ผมหันตาหนีอย่างเร็ว แต่ซีเลียรับมันเข้าตัวเองเพื่อสืบ โดยพื้นฐานแล้วเกาะติดกับกระดาษเหล่านั้น แต่ผมคิดว่ามันเป็นความพยายามที่เสียเปล่านะ

ค่าใช้จ่ายนั้น รวมไปถึงสิ่งต่างๆเหมือนค้าจ้างคนเก็บภาษีและยามเมือง การดูแลรักษาถนนโดยละเอียด ซ่อมคฤหาสน์ และสิ่งอื่นๆหลายสิ่ง จากใจ มีหลายสิ่งที่ผมยืนยันไม่ได้ แต่ผมเป็นคนที่บอกอดอล์ฟ ว่าแค่อย่าทำเงินติดลบ ดังนั้น ผมไม่ควรจะไปสงสัยเขา สำหรับเรื่องเล็กๆซะทุกอย่างไป ถ้าอะไรซักอย่าง ความรับผิดชอบน่ะ เป็นของผม

 「มุ-! นี่อะไรกัน!?」   

มันปรากฏว่าซีเลีย ที่เพ่งสายตา จดจ้องตรวจสอบชุดเองสารเหล่านั้น ค้นพบบางอย่าง มันถูกเขียนไว้ว่า การจ่ายให้กับบริษัทฟลิตช์……ให้กับแคร์ได้ถูกจ่าย ไม่ อย่าไปโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องนั้น

 「400 ทอง……นี่มันไม่ใช่ปรกติแล้ว! ท่านเอเกอร์ซามะ ไม่ได้มอบอำนาจอะไรแบบนั้น! นี่มัน ไม่ใช่การยักยอกทรัพย์เหรอไงกัน!?」   

 「ชั้นจะยินดีบอกเธอเกี่ยวกับมัน」   

 「ชั้นไม่อยากได้ยินมัน」   

ผมเบือนหน้าหนี แต่อดอล์ฟเริ่มพูด ด้วยหน้าตาที่จริงจังไม่ว่ายังไง ซีเลีย……หนูไปชี้บางอย่างที่ไม่จำเป็น

 「นี่คือรายละเอียด: แหวนทับทิม เครื่องประดับไข่มุก โต๊ะกลม ที่ทำจากไม้ ที่มีแค่ในสหพันธรัฐ……พวกนี้ทั้งหมดซึ่งไม่สามารถหาได้จากในเมือง ถูกสั่งไปให้คุณแคลร์ซัง เพื่อนำมันมาที่นี่」   

 「「……」」

   

 「ทำไมท่านไม่ถามเธอ เพื่อที่จะให้เธอยืนยันมันกับท่านล่ะ? แต่เธอก็อาจจะบอกท่านด้วยได้ว่า พวกของเหล่านั้นมันอยู่ที่ไหนกันตอนนี้」

 「……ไม่ล่ะขอบคุณ ชั้นขอโทษ」   

 「ผมจะบอกท่านไหนๆก็ไหนๆ ตั้งแต่ทีแรก……」   

อดอล์ฟบ่นต่อไปอย่างไม่จบไม่สิ้น แม้ว่าซีเลียกำลังจะวิ่งหนีไปที่ไหนซักแห่งระหว่างมัน

 「หนูจะไปเตือนนนน่า ถ้าอย่างนั้น」   

ช่างเป็นข้ออ้างดีที่นางคิดได้

 「ทำสำคัญกว่านั้น เราควรจะคุยเกี่ยวกับปัญหาในอนาคต เราไม่มีผู้ว่าพอ ถูกต้องมั้ย?」   

 「ใช่ ผมพยายามหาแล้ว แต่ความสามารถอย่างเดียว มันจะไม่เพียงพอ ที่จะกำหนดความเหมาะสม เพราะเราหาบุคลากรที่เชื่อฟังอยู่」   

ผู้ว่าจะทำงาน ในที่ที่มันยากต่อการจับตามองพวกเขา ดังนั้น พวกเขาสามารถก่อความอยุติธรรม มากเท่าไหร่ที่พวกเขาต้องการก็ได้ เราไม่สามารถที่จะลาดตระเวนซ้ำๆซากๆ ดังนั้นมันจะดีกว่า ที่จะหาคนที่เชื่อฟังผม แทนที่จะเป็นคนที่แค่สามารถจะทำงานได้ เพราะทั้งหมดผู้ว่าที่เราไล่ออกในเวลานี้ ทั้งหมดไม่ใช่พวกไร้ความสามารถ

 「ชั้นมีความคิดเกี่ยวกับการหาผู้ว่า ได้โปรดดูนี่」   

การตอบการโต้ตอบ ที่ถูกส่งมาที่อาณาจักร แพร่ไปตรงหน้าผม แม้ว่ามันจะไม่ใช่เอกสารที่เป็นทางการ และถูกส่งไปให้อีริชและเคนเนธ

จดหมายของเคนเนธ มีรายละเอียดเรื่องของผมและอาณาจักรมอลต์

“โกลโดนเนีย ไม่ได้คิดมาก เกี่ยวกับความสำคัญ ของความสัมพันธ์ของการทูต ระหว่างชาติเล็กๆเช่นอาณาจักรมอลดต์ ทำตามที่ปรารถนา — ยอมรับสนธิสัญญาสันติภาพ ทำให้บุคลากร เยี่ยมเยือนในฐานะลอร์ดศักดินะ — ฉันจะไม่แทรกแซง เพราะอาณาจักร (โกลโดเนีย) ก็เคลื่่อนไหวด้วยตัวมันเองเมื่อถึงกำหนดการ ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้น นั่นทั้งหมด”

-คือที่ถูกเขียน

และจดหมายจากอีริช สำคัญมากที่สุดในครั้งนี้

 「โฮฮฮ่……นี่คือ……」   

วัตถุประสงค์หลัก สำหรับสถานที่ศึกษาที่บริหารโดยรัฐ สร้างมมาเพื่อฝึกกองทัพและผู้บัญชาการเพื่อเลี้ยงดูทหาร แต่มันดูเหมือนพวกเขาจะมีสองกิจการภายใน เพื่อที่จะกระตุ้นหมู่ขุนนางดั้งเดิม ที่อยู่ในตำแห่ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลและบริวารพลเรือน

อย่างไรก็ตาม คนที่ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง จะไม่ยอมรับผู้เข้าสมัครไม่ได้อย่างง่ายๆ และไม่เหมือนเหล่าทหาร บริวารพลเรือน ไม่ตายจนกว่าพวกเขาจะอายุแก่เฒ่า ดังนั้น มันหายากที่จะขาดบุคลากร ช่องว่างที่เปิดออกใดๆ จะถูกเติมเต็มโดยการมอบตำแหน่ง ให้คนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข หรือบริวารของพวกเขาเอง ดังนั้น แม้ว่าผู้สมัครเข้าใหม่จะได้รับการศึกษามา จะไม่มีที่ให้พวกเขาทำงาน

 「เค้าขอให้คนเรียนจบถูกส่งมาที่นี่เหรอ」   

 「แทนที่จะมั่วไปทั่ว พวกเค้าจะคิดอยากได้ศักดิ์ศรี และเราทั้งหมด ในท้ายที่สุดจะอยู่ภายใต้ธงเดียวกันในสายตาเมืองหลวง ดังนั้นพวกเค้าจะไม่ทำอะไรที่เสื่อมเสียเกียรติที่นี่ และไม่ต้องพูดถึงเลย ว่าพวกเค้ามาจากตระกูลขุนนาง พวกเขาจะไม่มีภาระอะไรผูกพัน」   

 「เข้าใจแล้ว……นี่เป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ท่านใช้ความคิดกับเรื่องนี้บ้างจะดี ฮาร์ดเลตต์ซามะ」   

ถ้าอดอล์ฟไม่ได้ทำงานกับผม เขาจะไปอยู่ในคุกใต้ดินแน่นอน

ผมได้ยินมาจากอีริช ว่าพวกเขาไม่มีที่ไหนให้ทำงาน

 「ยังมีเวลาอยู่บ้าง ก่อนคนเรียนจบชุดแรกจะมาถึง นายบริหารไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งไปก่อนจนว่าจะถึงตอนนั้น」   

 「ถ้ามันจำกัดอยู่ที่หมู่บ้านและบ้านผม ผมทำหน้าที่เป็นผู้ว่าได้」   

หุบปากเลยทริสตัน นายจะไม่ออกไปจากกราเฟน

การประชุมจบลง หลังจากที่ผมมบอกเรื่องงานที่เหลือกับอดอล์ฟ ยังไงซะ ผมได้ความคิดคร่าวๆแล้วว่าอะไรมันเป็นยังไง อาณาจักรก็ได้อนุญาติแล้วด้วย ดังนั้นทำไมไม่ไปที่อาณาจักรมอลต์กันล่ะ

ผมสงสัยเกี่ยวกับพระนางเซเลสติน่าด้วย จากชื่ออย่างเดียว ผมจินตนาการได้ว่าเธอเป็นราชินีที่สวยแต่หยิ่ง เหล้านั้นอร่อยด้วย ดังนั้น ผมสงสัยว่าเธอจะชวนผมไปที่ห้องนอนมั้ย

 「……พี่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ทำไมหว่างขาพี่ปูดออกมา?」      

เสียงที่เย็นชาของไมล่า นำผมกลับมาที่ความเป็นจริง ผมได้รู้ว่าที่นั่น ไม่มีใครอื่นแล้วนอกจากเธอ พวกเขา น่าจะออกไปเพื่อไปทำงานที่มีกันให้เสร็จ ถ้าผมตั้งใจฟัง ผมได้ยินเสียงซีเลียและนนน่าเถียงกัน ผมจะแค่ไปติดร่างแห ถ้าผมออกไปตอนนี้ ดังนั้น ผมจะอยู่ในนี้ชั่วครู่

 「ไมล่า」   

ผมลดหน้ากางเกง และนำเอ็นแข็งออกมา

 「ได้โปรดอย่าเอามันออกมากระทันหันนักสิ!」   

 「พี่อยากจะลิ้มรสหนู」   

 「……แม้ว่าหนูไม่เต็มใจ พี่จะไม่สามารถออกจากห้อง ด้วยของแข็งแบบนี้ และจะสร้างความเข้าใจผิด」   

ไมล่าถอดกางเกงใน ออกจากกระโปรงยาวของนาง ขณะที่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ สองเราครางเล็กน้อย ขณะที่ไม้เนื้อของผมสุดสิ้นเข้าไปในเธอ เธอต้องได้ค่อนข้างที่จะเปียกแล้ว เมื่อเห็นว่าสมาชิกของผม มันลื่นไหลเข้าไปข้างในได้ง่ายเพียงไร ผมจะฉีดน้ำรักให้เหลือเฟือเข้าไปในนาง

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ผลิ

สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 140,000 เมืองศูนย์กลาง ราเฟน: 15,000 (ประชากรใหม่)

กองทัพที่บัญชาการ: 2300

สินทรัพย์: 50,700 ทอง (รายได้จากภาษี +40,000) (รางวัล & การมอบให้ผู้สูญเสียของกองทัพ -3000) (แรงงาน -100) หนี้: 20 000 ทอง

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกดวอร์ฟ,  ดาบเหล็กกล้ามือเดียวชั้นสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย),เมล (ภรรยาน้อย), คู (คนรัก), รู (คนรัก), มิเรล (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสกาม), เคซี่ (ผี). มิทตี้ (คนรัก), อัลม่า, ครอลล์ (ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คนรัก), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), แคทเธอรีน (คนรัก), โยกุริ (ปรับปรุงนิสัย), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก อยู่ในเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่าและคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่เพื่อสันติสุข), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), กิโด้ (คนคุ้มกัน), ทริสตัน (ผู้ติดตามชั่วคราว), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดารา)

คู่นอน: 120, เด็กที่เกิดแล้ว: 11

—————————————————————   

เป้าหมายเดือน 9/66

ค่าเน็ต 0/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook