บทที่ 142 จิตสังหารล้นทะลัก

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

บทที่ 142 จิตสังหารล้นทะลัก

เวลาดุจสายน้ำไหล ทะลักโหมบ่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ซากสัตว์ดุจใบไม้ร่วง ร่วงโรยไปทุกใบ

พริบตาเดียวก็ผ่านไปยี่สิบกว่าวัน

สวี่ชิงไม่อยู่ที่อ่าวที่เคยอยู่แล้ว เขาเปลี่ยนเกาะร้างมาห้าเกาะแล้ว

ตอนนี้อยู่ที่เกาะร้างเกาะที่หก นั่งอยู่ในอ่าวที่เขาบุกเบิกเองง่ายๆ

ยี่สิบกว่าวันนี้เขานอกจากเปลี่ยนสถานที่แล้วก็จมอยู่ในการทะลวงช่องเวท ทำให้ในที่สุดช่องเวทของตัวเองเปิดได้สิบช่องแล้ว

บรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่ในเหล็กแหลมสีดำในครึ่งเดือนนี้ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่รู้กี่ครั้งตั้งนานแล้ว จนมาตอนหลังมีความรู้สึกเหมือนฝันรางๆ เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนเข้ามาในโลกตำราโบราณ…

การเปิดช่องเวทธรรมดาทั่วไปยิ่งทะลวงต่อไปก็ยิ่งต้องการพลังวิญญาณมาก การเปิดก็จะยิ่งยากลำบาก เขาเปิดช่องที่สิบใช้เวลาไปแปดปี

แต่สวี่ชิงใช้เวลายี่สิบกว่าวัน… ดฮณ๊ฯดฯฌซ

ความเร็วนี้ทำให้บรรพจารย์สำนักวัชระในใจตื่นตะลึงบ้าคลั่ง และเขารู้ว่าผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานของสำนักเจ็ดเนตรโลหิต โดยปกติแล้วหากคิดจะเปิดช่องเวทสิบช่อง ส่วนมากล้วนต้องใช้เวลาประมาณสองปีกันทั้งนั้น

นอกเสียจากจะมีการต่อสู้ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังสังหารเข่นฆ่าในนั้นไม่หยุดแล้วรอดชีวิตมาได้ เช่นนี้แล้วถึงจะมีความเร็วถึงระดับสวี่ชิง

เพียงแต่สำนักเจ็ดเนตรโลหิตไม่มีสงครามครั้งใหญ่มานานหลายปีแล้ว โดยปกติแล้วเรื่องกระทบกระทั่งเล็กๆ ล้วนถูกควบคุมขนาดให้อยู่ในระดับหนึ่ง ส่วนอสูรทะเล แม้ทะเลต้องห้ามจะกว้างใหญ่ สติปัญญาของอสูรทะเลจะต่ำ แต่ก็ยากที่จะสังหารเป็นกลุ่มเป็นฝูง

มีเพียงใช้ยาพิษ ค่ายกล หรือไม่ก็วิธีพิเศษอื่นๆ ถึงจะยกระดับได้รวดเร็วเหมือนสวี่ชิง

ทว่าคนแบบนี้มีไม่มาก

นี่ไม่ใช่แค่ต้องอาศัยแรงภายนอกและพลังของตัวเองที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น แต่ยิ่งต้องป้องกันอสูรทะเลที่ไม่สามารถต่อกรได้ปรากฏขึ้น ขีดจำกัดมีมากมาย

ตัวสวี่ชิงเองก็รู้ดีว่าตัวเขาไม่สามารถทำแบบนี้ในระยะยาวได้

อันดับแรก แมงดาพรายปรารถนาพบเห็นได้น้อย สองตัวนั้นของเขาเคยหลอมยาไปแล้วตัวหนึ่ง เลือดที่เหลือตอนนี้ก็หมดแล้ว ขณะเดียวกันหอยโบราณก็มีเหลือไม่มาก

นอกจากนั้น หลายวันนี้สวี่ชิงก็มีความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอย่างหนึ่ง เป็นเพราะซากอสูรในอ่าวทุกแห่งมีจำนวนไม่น้อยเลย ต่อให้สวี่ชิงเปลี่ยนที่บ่อยก็ยังดึงดูดความสนใจของตัวตนที่น่ากลัวในทะเลบางตัวอยู่ดี

ดังนั้นใจสวี่ชิงจึงมีความคิดที่จะจากไปแล้ว ตอนนี้หลังจากที่เขาดึงวิญญาณของอสูรคอยาวบรรพกาลตัวหนึ่งที่มาเยือน ทะลวงช่องเวทช่องที่สิบเอ็ดในร่างพลางลุกขึ้นยืน เตรียมจากไป

แต่ในตอนที่ช่องเวทที่สิบเอ็ดเกิดรอยแยกมากขึ้น แต่ยังไม่เปิดออก ดวงตาสวี่ชิงก็พลันจ้องเพ่ง ทอดสายตามองไปยังมหาสมุทรไกลโพ้น ในดวงตาค่อยๆ ฉายประกายวาววับออกมา

“กลิ่นอายนี้…”

ตอนที่เขากำลังมองอยู่นั้น จู่ๆ ผิวน้ำก็ระเบิดขึ้น อสูรทะเลตัวประมาณร้อยจั้ง ทั้งตัวมีเกราะที่มีความเป็นโลหะ ปากมหึมาเหี้ยมเกรียมตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำ

ร่างของมันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ มองสวี่ชิงที่อยู่ในอ่าวไกลๆ

“ปลาเกราะเหล็กระดับสร้างฐาน!” สวี่ชิงหรี่ตา นี่ไม่ใช่อสูรทะเลระดับสร้างฐานตัวแรกที่เขาได้เจอในยี่สิบกว่าวันนี้ เมื่อเจ็ดวันก่อนเขาก็เจอตัวหนึ่งเหมือนกัน อีกฝ่ายคือฉลามฟันเลื่อย

ขนาดที่น่ากลัว กลิ่นอายน่าครั่นคร้าม และยังมีความรู้สึกที่เหมือนในกายมีเตาไฟลุกไหม้ ทำให้สวี่ชิงตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายมีสภาวะแสงนภา เขาไม่กล้าหยุดนิ่ง รีบขึ้นฝั่งทันที ในใจระมัดระวังถึงขีดสูงสุด เรือเวทก็เปิดคุณสมบัติเวทเต็มที่

ส่วนอีกฝ่ายตอนนั้นก็เหมือนไม่ได้สนใจเขาเท่าไร หลังจากมองแวบหนึ่งก็จากไป

แต่ความระมัดระวังของสวี่ชิงมากกว่า ตอนนี้เขาจ้องปลาเกราะเหล็กที่อยู่ข้างหน้า ในใจประเมินความแข็งแกร่งอ่อนแอของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และเห็นได้ชัดว่าปลาเกราะเหล็กตัวนี้มีสติปัญญา ไม่ได้เข้ามาใกล้ แต่หลังจากที่มองอยู่ไกลๆ ก็ทิ้งตัวลงผิวน้ำ ว่ายวนเวียนรอบๆ อย่างรวดเร็วเหมือนกำลังประเมินอยู่เช่นกัน

เกราะบนตัวของมันสั่นสะเทือนไม่หยุด ส่งเสียงกระทบเคร้งๆ ออกมา นี่คือเสียงอันเป็นลักษณะเฉพาะของปลาเกราะเหล็ก และหลังจากที่มั่นว่ายวนเวียนอยู่หนึ่งก้านธูป ความเร็วของมันก็ปะทุขึ้น พุ่งมายังอ่าวที่สวี่ชิงอยู่อย่างเร็วรี่

และในขณะที่พุ่งมาร่างของมันก็กระโดดขึ้นอีกครั้ง ส่งเสียงคำรามมาหาสวี่ชิง เสียงนี้กลายเป็นคลื่นเสียงหอบม้วนไปยังผิวน้ำที่อยู่ข้างล่าง เกิดเป็นคลื่นถล่มภูเขาทลายสมุทร ซัดมาหาสวี่ชิง

ดวงตาสวี่ชิงฉายประกายวาววับ ใต้เรือเวทส่งเสียงวิ้งขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกับที่หลอมรวมคุณสมบัติเทพ มือขวาของเขาก็ยกมือคว้าไปกลางอากาศ ทันใดนั้นอสูรคอยาวบรรพกาลของเขาก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะโจมตีไปยังปลาเกราะเหล็ก

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังทั่วฟ้า ปลาเกราะเหล็กถอยไปข้างหลัง เหมือนจะรู้ว่าสวี่ชิงหาเรื่องไม่ได้ง่ายๆ จึงล้มเลิก ทิ้งตัวไปในทะเลอย่างไม่ลังเล คิดจะหนีไป

“ไม่มีสภาวะแสงนภา!” สวี่ชิงตาเป็นประกายวาววาบ อสูรทะเลระดับสร้างฐานที่ไม่มีสภาวะแสงนภาประเภทนี้เป็นสิ่งที่เขาเฝ้าปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้จะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร

ดังนั้นแล้วร่างของเขาจึงพลันพุ่งออกไป เร็วจนแปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้งยาว ระหว่างสะบัดมือ ดาบสวรรค์ที่อยู่เหนือศีรษะก็กะพริบวูบวาบ ฟันผิวน้ำข้างล่างเต็มกำลัง 艾琳小說

มหาสมุทรระเบิดดังครืนครัน แยกออกเป็นรอยแยกขนาดร้อยจั้งทางหนึ่ง เผยให้เห็นปลาเกราะเหล็กที่อยู่ข้างล่าง เกราะเหล็กบนร่างของมันน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก หลังจากที่ปะทะกับดาบสวรรค์แล้วก็ไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย กลับมีความดุร้ายแผ่อวล หมุนตัวพุ่งมาหาสวี่ชิง

แต่ในตอนนี้เอง เหล็กแหลมดำก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกับที่บนนั้นแผ่ประกายเย็นออกมาก็มีแสงสีน้ำเงินกลุ่มหนึ่งด้วย นั่นคือพิษ

นี่เป็นพิษที่บรรพจารย์สำนักวัชระเป็นฝ่ายร้องขอให้สวี่ชิงเคลือบไว้

ตอนนี้พุ่งประชิดเข้าไปใกล้ปลาเกราะเหล็กอย่างรวดเร็ว เป้าหมายเหมือนจะอยู่ที่เกราะเหล็กบนตัวมัน แต่ความจริงแล้วในเสี้ยวขณะที่เข้าไปใกล้ ทิศทางของมันก็เบนเปลี่ยนอย่างแปลกประหลาด แล้วแทงไปที่ตาของปลาเกราะเหล็กอย่างโหดเหี้ยม

ปลาเกราะเหล็กคำราม ร่างสั่นสะท้านไปเล็กน้อย รอบๆ ตัวมันมีเงาเกล็ดจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ทุกเกล็ดล้วนแฝงด้วยพลังเวทระดับสร้างฐาน หากผู้บำเพ็ญระดับรวมปราณมาเจอเข้าเพียงแค่เกล็ดเดียวก็จะต้องดับดิ้นอย่างแน่นอน

ตอนนี้จำนวนมีมากถึงหลายร้อย หอบม้วนไปทั่วทุกทิศทาง แต่ร่างของสวี่ชิงประชิดมาแล้ว

เพลิงดำในร่างของเขาแผ่ออกมา ขณะที่เปลวเพลิงนอกร่างพวยพุ่ง มือขวาก็หลอมรวมเปลวไฟก่อนจะแปรเปลี่ยนมันเป็นกริชเล่มหนึ่ง

นี่คือวิชาเวทที่เข้าคู่กับคัมภีร์เพลิงพิฆาตกลืนวิญญาณหลังจากที่ช่องเวทเปิดสิบช่อง ชื่อว่าคมพิฆาต

สามารถเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้บำเพ็ญ ตอนนี้สวี่ชิงแค่สะบัดมือก็ใช้ได้ทันที มันพุ่งอย่างรวดเร็วแทงเข้าไปในร่างของปลาเกราะเหล็ก เจาะเกราะของมัน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงลามเลียไปทั่วตัวมัน

ยังไม่จบ เงาใต้เท้าสวี่ชิงก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน มันประชิดเข้าไปปกคลุมอย่างรวดเร็ว ทำให้ในดวงตาของปลาเกราะเหล็กตัวนี้ฉายประกายความตื่นกลัวออกมา ทั้งร่างไหววูบ ทันใดนั้นเกราะเหล็กนอกร่างของมันก็พลันแตกสลาย หลังจากสลายไฟเผาไหม้ร่าง ก็แปลงเป็นลมพายุโลหะหอบม้วนมาหาสวี่ชิง

ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ มันก็สะบัดหาง ทันใดนั้นบนผิวน้ำก็มีกำแพงวารีด้านหนึ่งลอยขึ้นมากลางอากาศ ขณะเดียวกับที่ขวางกั้นสวี่ชิง ปลาเกราะเหล็กก็หันไปจ้องสวี่ชิงเขม็งแล้วพลันอ้าปากพ่นมุกสีดำขนาดหนึ่งจั้งกว่าๆ ออกมาเม็ดหนึ่ง

ในมุกเม็ดนี้มีซากศพเน่าเต็มไปหมด มีมนุษย์ มีสัตว์ แต่ละร่างตอนนี้ล้วนพลันลืมตาขึ้นมา ส่งเสียงโหยหวน ยื่นแขนขาออกมาจากมุกเหมือนจะคลานออกมา

ภาพนี้ทำให้มุกเม็ดนี้ดูแล้วเหมือนมีหนามนุ่มๆ เต็มไปหมด มันพุ่งโจมตีมาหาสวี่ชิงเสียงดังครืนครัน

ในดวงตาสวี่ชิงฉายประกายเย็นเยือกออกมา ร่างกายตอนนี้เปลวไฟยิ่งพวยพุ่ง เงาป๋าข้างหลังปรากฏขึ้นคำรามไปข้างหน้า อสูรคอยาวบรรพกาลทะเลต้องห้ามพุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำกลืนมุกสีดำเม็ดนั้นลงไปในคำเดียว

เสียงกึกก้องดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วฟ้าดิน อสูรคอยาวบรรพกาลกลืนมุกลงไป ทำให้ในร่างของมันเหมือนจะระเบิด ทว่าอสูรคอยาวบรรพกาลกลับควบคุมมันเอาไว้อย่างอยู่หมัด

แต่ถึงอย่างไรมันก็แปลงมาจากวิชาเวท เหมือนจะคงอยู่ได้ไม่นาน

สวี่ชิงก็พุ่งออกมาจากพายุโลหะของปลาเกราะเหล็กได้ในเสี้ยวขณะนี้เอง การป้องกันทั่วร่างเปิดขึ้น ประชิดไปหาปลาเกราะเหล็กที่ทิ้งตัวไปในทะเล เปลวไฟในมือแปรเปลี่ยนเป็นกริชเล่มใหม่ แทงไปยังดวงตาของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม

ปลาเกราะเหล็กคำราม ร่างดิ้นรนจะดำไปในทะเลลึก แต่เงาร่างสวี่ชิงตอนนี้แบ่งออกเป็นสองทาง ทางหนึ่งเชื่อมกับเกาะในอ่าว อีกทางหนึ่งพันรัดอยู่บนตัวปลาเกราะเหล็ก

ทำให้ปลาเกราะเหล็กเหมือนถูกมัดในขณะที่มันดิ้นรน มือขวาสวี่ชิงเงื้อกริชแทงเข้าไปในตามัน ขณะเดียวกันมือซ้ายก็ยกขึ้น เปลวไฟในช่องเวทสิบช่องในร่างปะทุขึ้นหลอมอยู่ในมือข้างนั้น แล้วแตะไปบนตัวปลาเกราะเหล็กทันที เปลวไฟแผ่ลามไปทั่วทุกส่วน เริ่มเผาไหม้

ในขณะที่เปลวไฟนี้เผาไหม้ พลังวิญญาณทุกกลุ่มผสานเข้ามาในร่างสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนี้เอง ความรู้สึกอันตรายอย่างหนึ่งก็ปะทุขึ้นในใจเขา

เขาพลันเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าตอนนี้บนท้องฟ้ามีกระบี่สัมฤทธิ์เล่มใหญ่หลายสิบเล่ม มาพร้อมพลังทำลายล้างที่น่าครั่นคร้ามพุ่งไปหาปลาเกราะเหล็กอย่างรวดเร็ว

ขอบเขตของมันกว้างมาก เมินเฉยว่าสวี่ชิงยังอยู่ตรงนี้ไปโดยสิ้นเชิง ในตอนที่ประชิดเข้ามาน้ำทะเลรอบๆ ยังเกิดเป็นคลื่นวนลูกหนึ่งขึ้น ทำให้สวี่ชิงทำได้แค่ปล่อยมือ ประสานปางมือ ไฟดำในร่างแปรเปลี่ยนเป็นโล่เหนือศีรษะเขา ป้องกันสุดกำลัง

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระบี่สัมฤทธิ์เล่มใหญ่หลายสิบเล่มก็พุ่งลงมา แทงทะลุปลาเกราะเหล็กที่ได้รับบาดเจ็บตัวนั้น ชำแหละมันที่ไม่มีเกราะเหล็กแล้วเป็นชิ้นๆ ส่วนสวี่ชิงก็ต้องถอยไปข้างหลังจากการโจมตีนี้

จวบจนถอยออกไปนอกขอบเขตของกระบี่สัมฤทธิ์ ร่างของเขาก็หยุดนิ่ง ปรายตามองซากปลาที่ลอยอยู่บนผิวน้ำด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแวบหนึ่ง แล้วเงยหน้ามองไปยังชายหนุ่มผู้มาเยือนที่เหยียบอยู่บนกระบี่เล่มใหญ่กลางท้องฟ้า

ชุดนักพรตสีแดงสดบนร่างของอีกฝ่ายทำให้คนคนนี้อยู่บนท้องฟ้าก็ดูสะดุดตามาก

“ไม่เสียที่ที่อดนอนโต้รุ่งจนฟ้าสาง แค่แต่งกลอนง่ายๆ ก็มีสมบัติชิ้นใหม่ปรากฏขึ้น”

ชายหนุ่มยอดเขาที่หนึ่งยืนมือไพร่หลังอยู่บนกระบี่เล่มใหญ่ เลือดลมแต่ละกลุ่มๆ ลอยออกมาจากซากปลาเกราะเหล็กที่อยู่บนผิวน้ำถูกเขาดูดซับ จากนั้นก็ก้มหน้ามองสวี่ชิงอย่างเย็นชา ทิ้งประโยคแปลกประหลาดแบบนั้นเอาไว้ แล้วหมุนตัวจากไป

สวี่ชิงไม่พูดอะไร กวาดตามองอสูรคอยาวบรรพกาลทะเลต้องห้ามของตัวเอง มุกในตัวมันเนื่องจากความตายของปลาเกราะเหล็กจึงไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป ถูกดวงชีพอสูรคอยาวบรรพกาลของตัวเองควบคุม กำลังจะดูดซับ

ส่วนพลังวิญญาณในตัวเขา แม้ก่อนหน้านี้จะไม่ทันดูดออกมาจากในตัวปลาเกราะเหล็กทั้งหมด แต่ก็ดูดมาได้สี่ส่วนแล้ว ตอนนี้กำลังทะลวงช่องเวทช่องที่สิบเอ็ด

เสี้ยวขณะต่อมา ช่องเวทที่สิบเอ็ดก็พลันเปิดออก

พลังเวทในร่างสวี่ชิงเพิ่มขึ้นทันที เขาเงยหน้ามองชายหนุ่มยอดเขาที่หนึ่งที่จากไป มองออกว่าอีกฝ่ายยังก่อไฟชีวิตไม่ได้ ดังนั้นแล้วจิตสังหารในดวงตาจึงพวยพุ่งทันที ขณะที่สะบัดมือเรือเวทที่จอดอยู่ในอ่าวก็ส่องประกายแสงสีทองวูบวาบ ระลอกคลื่นพลังคุณสมบัติเทพน่าครั่นคร้ามปะทุขึ้นทันที

ลำแสงสีทองทางหนึ่งมาพร้อมด้วยความศักดิ์สิทธิ์หาสิ่งใดเปรียบ ยิงโจมตีไปยังชายหนุ่มยอดเขาที่หนึ่งที่จากไปไกล

ชายหนุ่มยอดเขาที่หนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก ประสานปางมือกลางฟ้าอย่างรวดเร็ว กระบี่ใหญ่สัมฤทธิ์ใต้เท้าก็ตั้งขึ้นมาสกัดกั้นทันที เสี้ยวพริบตาหลังจากที่ปะทะกับการโจมตีคุณสมบัติเทพ กระบี่ใหญ่ก็แหลกสลายทันที ในขณะที่แตกละเอียดเป็นชิ้นๆ มุมปากของชายหนุ่มยอดเขาที่หนึ่งก็มีเลือดไหลย้อยอออกมา

ร่างของเขาถอยไปข้างหลังติดๆ ร้อยจั้ง จิตสังหารในดวงตาแข็งกร้าว ก้มหน้ามองสวี่ชิง

“อายุเยาว์ทำตัวเด่นชะตาขาดได้ง่ายๆ เสียงระฆังยามห้าบนหอพรากชะตาอาภัพ!”

สวี่ชิงฟังไม่เข้าใจ แต่เขาเกิดจิตสังหารขึ้นแล้ว ตอนนี้ความเร็วปะทุพุ่งไปหาอีกฝ่าย หลังจากที่ประชิดเข้าไปใกล้ในเสี้ยวพริบตา กริชก็ปรากฏขึ้นที่มือขวา ปาดไปยังคอของชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าอย่างโหดเหี้ยม!