บทที่ 109 เสียโฉม

ลี่จุนถิงเอนกายบนโซฟาหนัง ในวันนี้แทนที่เขาจะไปทำงานที่บริษัท กลับเลือกที่จะทำงานที่บ้าน

เขาคุยโทรศัพท์กับสมิทธ์ในเวลานี้

“คุณชายลี่ ผู้จัดการเจียงเป็นคนมีความสามารถจริงๆ วิธีการบริหารของเธอมีประสิทธิภาพสูงมาก ดูได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมมีความสุขมากจริงๆ ผมไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว” สมิทธ์หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

“ฮ่าฮ่า ถ้ามิสเตอร์สมิทธ์พอใจแน่นอนว่าผมก็พอใจด้วย ผมบอกแล้วไงครับผู้หญิงเท่านั้นที่จะเข้าใจความต้องการของผู้หญิงได้ดี ก็เพราะเหตุนี้ผมจึงปล่อยให้เจียงหยุนเอ๋อเป็นฝ่ายดำเนินธุรกิจเอง” เมื่อได้ยินคนยกย่องผู้หญิงของตน เขารู้สึกตัวลอยไปด้วย

“ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณเจียงและคุณชายลี่พวกเราถึงรับผลกำไรมากมายเช่นนี้”

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของซีรี่ย์บิวตี้นั้นต่ำมาก แต่การประชาสัมพันธ์นั้นที่เหมาะสมและอัตรากำไรนั้นเยอะมากจนน่าตกตะลึง

สมิทธ์รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถดูเงินเข้ากระเป๋าได้เพียงแค่นั่งอยู่ที่บ้าน

“ใช่ที่ไหนล่ะนี่เป็นการมีส่วนร่วมของเราทุกฝ่ายต่างหาก” ลี่จุนถิงถ่อมตัวได้อย่างทันเวลา

“ถ้าคุณชายลี่ยังคงทำได้ดีแบบนี้ อาจจะมีกำไรเกิน 1 หมื่นล้านหยวนก็ได้”

“ธรรมดาครับ”

จากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านอื่น ๆ

เจียงหยุนเอ๋อ ไปที่บริษัทตั้งแต่ตอนเช้าและหลังจากจบการประชุม ก็ไปตรวจสอบร้านแฟรนไชส์หลายแห่งในเมือง

แม้ว่าตอนนี้ยอดขายจะพุ่งสูงขึ้น แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำยอดขายต่อไป

ด้วยเหตุนี้เธอจึงกำหนดให้เครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ และร้านแฟรนไชส์ปรับปรุงตามข้อกำหนด มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้แขวนโลโก้ของบริษัท

เนื่องจากสถานการณ์การขายในปัจจุบันดีมากมีหลายบริษัทสนใจร่วมลงทุนกับบริษัทของตน ดังนั้นจึงสามารถใช้ประโยชน์จากความรุ่งโรจน์ของบริษัทพวกเขาได้ เจียงหยุนเอ๋อจึงมีโชคมาแบบฟลุ๊คๆด้วยเหตุนี้

เนื่องจากร้านแฟรนไชส์มีจำนวนค่อนข้างมาก ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อใช้เวลาทั้งช่วงเช้าก็ไม่สามารถตรวจสอบได้หมด

ในช่วงบ่ายเจียงหยุนเอ๋อ ไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เพื่อตรวจสอบเป็นที่สุดท้าย

แต่ห้างสรรพสินค้าในเวลานี้

มีแขกผู้หญิงสองคนอยู่ในร้านท่าทางลับๆ ล่อๆ

“ฉันได้ยินมาว่าไม่นานมานี้ที่นี่มีซีรีย์เครื่องสำอางที่ขายดี” สาวร่างสูงเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถาม

“ค่ะ“ พนักงานยังคงยิ้มอย่างมืออาชีพ

“งั้นคุณพาฉันไปดูหน่อย แล้วก็เอาของดีๆ ในร้านให้ฉันดูด้วย” สาวร่างสูงพูดแล้วเดินไปด้านข้าง แล้วตรงไปที่เคาน์เตอร์ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพื่อดูเครื่องสำอาง “เดี๋ยวก่อน คุณช่วยเอาครีมซีรีย์บิวตี้มาให้ฉันลองหน่อย แล้วพาเธอไปดูผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย”

พนักงานหยิบครีมออกมาและส่งให้สาวร่างเล็กจากนั้นก็พาสาวร่างสูงไปอีกด้านของร้าน

สาวร่างเล็กเปิดครีมแล้วบอกว่าอยากลองครีมตัวนี้

สาวร่างเล็กเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองพนักงานที่กำลังแนะนำเครื่องสำอางด้วยอย่างตั้งใจ เธอจึงหยิบผงสมุนไพรที่อยู่ในฝ่ามือออกมาและใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในครีมแล้วคนให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว ผงนั้นผสมเข้ากับครีมเป็นเนื้อเดียว แล้วกวนอย่างรวดเร็ว

และทั้งหมดหลบสายตาจากกล้องวงจรปิด

พวกเขาคอยสังเกตการณ์ร้านนี้มาตั้งแต่แรกก่อนที่เข้ามาแล้ว

แต่ในเวลานี้เจียงหนิงเอ๋อ กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟชั้นสามโดยนั่งอยู่ข้างร้านกาแฟและก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดรวมทั้งเคาน์เตอร์ร้านได้พอดี

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ได้รับคำสั่งจากเจียงหนิงเอ๋อ ผู้หญิงสองคนนั้นทำไปทั้งหมดก็เพราะเงิน เธอต้องการให้ผู้หญิงสองคนนี้แอบใส่ของลงในผลิตภัณฑ์แล้วสร้างปัญหาตามมา

ทั้งสองคนลังเลในตอนแรก แต่เจียงหนิงเอ๋อบอกว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลใดๆต่อใบหน้า ทั้งสองคนจึงตกลง

ในขณะนี้สาวร่างสูงก็ลองเครื่องสำอางพอสมควรแล้ว ก็กลับไปที่เคาน์เตอร์

“ขอโทษนะคะ คุณต้องการให้ฉันช่วยไหมคะ” ขณะเดียวกันพนักงานก็เดินไปข้างหน้าของหญิงสาวร่างเล็ก

“ ดีเลยค่ะ” หญิงสาวร่างเล็กยิ้มหวาน

“ครีมนี้มีเนื้อละเอียดอ่อนมากและให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก” พนักงานแนะนำครีมสำหรับหญิงสาวร่างเล็ก

หลังจากทาทั่วหน้าแล้วพนักงานก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ดูสิคะสวยขึ้นมาเชียวค่ะ”

“ก็สวยดีนะ” หญิงสาวร่างเล็กหยิบกระจกมาส่อง แล้วหันไปถามผู้หญิงอีกคน “เซิงลี่ เธอว่าเป็นยังไงบ้าง”

สาวร่างสูงพยักหน้า “ชาชา มันดูดีมาก”

เมื่อพนักงานรู้สึกกำลังจะปิดการขายได้นั้น ก็คาดไม่ถึงว่าจู่ๆ สาวร่างเล็กคนนั้นก็เริ่มเกาหน้าอย่าง “ทำไมฉันถึงรู้สึกคันมากหลังจากใช้ของสิ่งนี้”

หลังจากนั้นใบหน้าของหญิงสาวร่างเล็กก็แดงระเรื่อไปทั่วใบหน้าของเธอ

“ไหนบรรยายสรรพคุณว่าของพวกนี้เป็นออร์แกนิคไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ดูหน้าฉันสิ” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี สาวร่างเล็กแทบกระโดดขึ้นมา คว้ามือพนักงานมาถามว่า “บอกมาสิ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น”

พนักงานตกตะลึง เธอเผชิญกับลูกค้ามากมาย ทั้งลูกค้าผิวบอบบางแพ้ง่าย สินค้ารุ่นนี้ไม่เคยส่งผลแบบนี้กับลูกค้าคนไหนๆ

จะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยตั้งแต่เปิดร้านมา เธอไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไร

แต่ในเวลาเดียวกันก็มีลูกค้ามาจำนวนมากเข้ามา และตกใจมากเมื่อเห็นที่เกิดเหตุดังกล่าว

รู้ดีว่าพวกเขามาเพราะเลื่อมใสในชื่อเสียงทั้งนั้น ส่วนใหญ่ได้รับการแนะนำจากเพื่อนๆ ว่าซีรีย์บิ้วตี้ใช้ดีมาก

แต่มาเจอเรื่องแบบนี้ขึ้นก็เริ่มสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ที่นี่ดีจริงอย่างที่บอกหรือเปล่า

เมื่อพนักงานเห็นลูกค้าเดินออกไปด้วยความตกใจเช่นนี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

“รีบพูดมาสิ จะทำยังไงกับหน้าของฉัน ดูสิฉันเสียโฉมหมดแล้ว” สาวร่างเล็กโวยวายมากขึ้นและเสื้อผ้าของพนักงานก็ถูกดึงทึ้งไปมาด้วยน้ำมือของเธอ

หญิงสาวตัวสูงยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าเธอพูดเสียงดังว่า “ร้านของคุณไม่ได้มาตรฐานเลย ต้องขายของปลอมแน่ๆ แม้แต่คุณภาพของสินค้าก็ไม่สามารถรับประกันได้ ฉันจะไปฟ้องร้องที่สำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ใบหน้าของเพื่อนฉันถูกคุณทำพังหมดแล้ว”

“ใช่รายงานไปที่สำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์” หญิงสาวร่างเล็กพูดซ้ำ

“เร็ว ไปล้างหน้าก่อนไม่งั้นจะพังจริงๆ แน่” สาวร่างสูงพาสาวร่างเล็กไปล้างหน้า

แต่พอล้างหน้าก็ยังเห็นผื่นแดงเล็ก ๆ หนาแน่นอยู่

เมื่อเห็นว่าเธอหน้าตาตอนนี้เป็นเช่นไรหญิงสาวคนนั้นก็ร้องไห้อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้และยังคงกล่าวหาว่าร้านค้าไร้ยางอาย

ขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันในร้านแล้ว และทุกคนต่างก็ชี้ไปที่สินค้าและซุบซิบเป็นภาพที่โกลาหลวุ่นวายมากและยากที่จะควบคุมอยู่พักหนึ่ง

จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อ ก็มาที่ร้านเห็นเช่นนี้ก็ร้องอุทานขึ้นมา “มีอะไรเหรอ”