“สิ่งแรกที่ฉันอยากจะคุยกับนายคือสิ่งที่อาจทำให้นายหนักใจ”
“ทำให้ผมหนักใจเหรอ?”
ผมเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัยเมื่อเห็นสีหน้ามั่นใจของโอลิเวีย เมื่อเห็นว่าเป็นการพูดคุยที่จริงจัง ผมเลยนั่งตัวตรงด้วยท่าทางสูงส่งและจริงจังขณะที่ดวงตาของผมจับจ้องไปที่เธอ
“อันที่จริง ฉันต้องการก่อตั้งพันธมิตร”
“พันธมิตร?”
“ใช่ พันธมิตรของกลุ่ม ไม่มีใครรู้ว่าการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงสำหรับตำแหน่งจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราเลยจะตั้งทีมกัน ฉันจะให้สิ่งที่นายต้องการมากที่สุด, เงินทุนและในทางกลับกันนายจะต้องให้ฉันยืมนักสู้ของนายบางคนในตอนที่ฉันต้องการ”
หลังจากโอลิเวียพูดจบ เธอก็เอนหลังลงบนเก้าอี้ของเธอด้วยท่าทางมั่นใจและเธอก็มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น แม้ว่าผมจะมีคนที่มีอำนาจ แต่ผมยังขาดการสนับสนุนเหมือนผู้ถือแหวนคนอื่นๆ ที่เหลือ
คนที่เหลือแต่ละคนมีภูมิหลังที่ทรงพลังและแต่ละคนก็มีเงินทุนหรือเป็นเจ้าหญิงของประเทศของตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงมีทรัพยากรมากมายอยู่เบื้องหลังพวกเขา โดยเฉพาะเงิน
แม้ว่าจะมีคะแนนของทางสถาบันอยู่ แต่ยังไงเงินก็ยังสำคัญอยู่ดี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เงินสามารถทำได้ ผมทำเป็นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ให้ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดหาคำตอบ แต่ข้างในกลับหัวเราะอยู่
แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าผมเป็นผู้สืบทอดลำดับที่ 2 ของครอบครัว แต่ผมก็ไม่สามารถเอาเงินมากมายจากครอบครัวมาใช้ได้ อันที่จริงผมรู้ปัญหานี้มานานแล้ว ผมต้องการเงินจำนวนมากเพื่อนำมาใช้เอง เป็นเงินที่ผมไม่ต้องขอใครและตอนนี้ผมมีมันแล้ว
ผมอาจเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแล้วก็ได้และนั่นไม่ใช่เรื่องตลกเพราะอะไรงั้นเหรอ? ต้องขอบคุณระบบทั้งหมดและต้องขอบคุณเมนูข้อมูล เมนูข้อมูลของระบบนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ สำหรับผม แต่มันก็มีข้อจำกัดเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นด้วยคะแนนของผมในตอนนี้ ผมสามารถซื้อตำแหน่งของโลกประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่บางแห่งได้ แต่ผมจะไม่สามารถซื้อข้อมูลเกี่ยวกับวิธีผ่านโลกนั้นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม อีกส่วนหนึ่งผมสามารถซื้อบทกวี, หนังสือและนิทานอื่นๆ อีกมากมายจากระบบได้
แน่นอนว่าผมปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้มันเป็นไปตามมาตรฐานของโลกนี้ จนในที่สุดผมก็เป็นหนึ่งในนักประพันธ์บทกวีและเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก อันที่จริงไม่มีใครรู้ว่า ‘ผมเป็นใคร’ เหมือนกับที่อาจารย์คนโปรดของผมเคยพูดเอาไว้
‘มันไม่ถือว่าโกงถ้าคุณไม่ถูกจับได้’
แน่นอนว่าแม้ว่าผมจะมีทุกสิ่งที่ต้องการ เท่านั้นยังไม่พอการจะประสบความสำเร็จได้นั้นผมต้องการคอนเนคชั่นและเงินเพื่อเริ่มต้น ดังนั้นผมจึงติดต่อพวกแม่มดหรือโบสถ์แห่งราเซลเลีย
ช่ายยย ผมเดินหน้าและเปิดเผยว่าตัวเองเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์ของพวกเขาและมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่อันตรายที่สุดที่ผมเคยเผชิญมาในชีวิต คุณก็รู้ว่าสมาคมแม่มดและโบสถ์แห่งราเซลเลียมีความเชื่อมโยงกัน
ยังไงหน่ะเหรอ? ก็ง่ายๆ ในโลกนี้มีแต่แม่มดผู้หญิงไม่มีผู้ชาย ทำไมงั้นเหรอ? กว่าจะเป็นแม่มดได้นั้นต้องได้รับพรจากเทพีราเซลเลีย ทำให้พวกเธอสามารถควบคุมธาตุทำลายได้เล็กน้อย แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับการควบคุมแบบสมบูรณ์ที่ผมมี พวกเธอแทบจะทำได้ไม่ถึง 2%
การปรุงยาไม่ใช่แค่การผสมมัน ต้องมีองค์ประกอบการทำลายล้างเพื่อสลายอนุภาคและผสมมัน ดังนั้นการจะทำได้นั้นต้องกลายเป็นผู้ศรัทธาของราเซลเลีย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเป็นเทพธิดาองค์เดียวที่ถูกบูชาในทั้งสองอาณาจักร
ดังนั้นจึงไม่มีใครในโลกที่จะกล้าท้าทายโบสถ์แห่งราเซลเลีย เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขากำลังตัดขาดแหล่งเดียวสำหรับยาและของสำคัญอื่นๆ นั่นก็หมายความว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันทั่วทั้งอาณาจักรและพวกเขาก็รวยชิบหายเลยด้วย
ด้วยแรงดึงดูดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ผมจะซ่อนตัวเองทำไมหล่ะ? ผมจึงไปเปิดเผยตัวตนของตัวเองและในตอนนั้นเองที่ผมเข้าใจบางอย่าง ผมเข้าใจว่าตัวเองเป็นที่เก็บตัณหาเดินได้ของแม่มด
ดูเหมือนว่าเพราะคำอวยพรของราเซลเลีย ผมจึงเป็นคนพิเศษถ้าให้พูดแบบง่ายๆ ก็คือผมมีจุดยืนเหมือนกับราเซลเลีย ดังนั้นเมื่อผมพบกับผู้ศรัทธาในเวลาเดียวกันพวกเธอจะความเชื่อของพวกเธอสะท้อนในตัวผมด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเธอจะรู้สึกผูกพันและใกล้ชิดกับผมมาก ยิ่งพวกเธอเชื่อและรักราเซลเลียมากเท่าไหร่ พวกเธอก็จะรู้สึกเช่นเดียวกันนั้นกับผม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมซาร่าถึงทำตัวแปลกๆ ในตอนที่เห็นผม
ผมเกือบหลงทางจนโดนแม่มดข่มขืน โชคดีที่ผมฝึกควบคุมมันได้นิดหน่อย แต่ถ้าผมเจอแม่มดอาวุโส ผมคงทำได้แค่ซ่อนตัว สุดท้ายผมก็สัญญาว่าจะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเธอ แต่ผมจะออกมาหลังจากที่เรียนจบจากสถาบันแล้ว
ด้วยพลังของโบสถ์แห่งราเซลเลียเลยทำให้ธุรกิจของผมเติบโตขึ้น แถมผมยังได้ทำสัญญากับบริษัทสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ผมจะขายอุปกรณ์เวทมนตร์บางอย่างจากระบบให้พวกเขา แน่นอนว่าเฉพาะเครื่องมือที่ไม่ก่อให้เกิดผมกระทบ
เมื่อล็อกความทรงจำของผมไว้ ผมก็หันกลับมามองโอลิเวียด้วยรอยยิ้ม
“ข้อเสนอของเธอน่าสนใจดีนะ ผมจะเก็บไว้พิจารณาดู”
โอลิเวียขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่กระตือรือร้นของผม แต่เธอก็ยักไหล่ เธอรู้ว่าในที่สุดผมจะไปหาเธอ
โอลิเวียนั่งตัวตรงก่อนจะถามคำถามผม
“ว่าแต่นายรู้จักสการ์เล็ตไหม?”
“สการ์เล็ตเหรอ?”
ผมเอียงหัวด้วยความ ‘สับสน’ ในทางเทคนิคแล้วผมต้องไม่รู้ว่าเคนเป็นสการ์เล็ต จนกว่าผมจะได้พบหน้าเธอเพราะผมใช้ชีวิตที่ต้องเดินทางจึงไม่แปลกที่ผมจะไม่รู้จักสการ์เล็ต
“หืมม? นายรู้จักผู้หญิงที่มีผมสีขี้เถ้าไหม?”
“เอ่ออ…เธอหมายถึงเคนเหรอ?”
“เคน?”
เมื่อได้ยินคำตอบของผม โอลิเวียก็ยิ่งสับสนมากขึ้น เธอทิ้งมันไปโดยไม่รู้ตัว
ในเวลเดียวกับที่โอลิเวียกำลังคิดลึกลงไปในความคิดของเธอที่ผมก็พูดขึ้น
“นี่โอลิเวีย เราคุยกันแบบส่วนตัวหน่อยได้ไหม?”
“ส่วนตัวเหรอ?”
“จริงๆ แล้ว มันเกี่ยวกับอุปกรณ์บันทึกเสียงบางอย่างหน่ะ”
“!”
ใบหน้าของโอลิเวียบิดเบี้ยวจากคำพูดของผม แต่ในไม่ช้าเธอก็สงบสติอารมณ์ เธอลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอขณะก่อนที่จะเดินไปยังห้องๆ หนึ่ง ในขณะเดียวกันเธอก็มองไปที่นอร่าพร้อมกับพูดขึ้นมา
“นอร่า เราจะย้ายไปคุยกันส่วนตัว”
“แต่-”
“ไม่ต้องห่วงนะครับพี่ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกครับ เราจะกลับมาในระยะเวลาอันสั้น”
นอร่าอยากจะท้วง แต่เราทั้งคู่บอกเธอว่าไม่เป็นไร โดยโอลิเวียพาผมไปที่ห้องฝึกส่วนตัวของเธอ ซึ่งไม่มีใครนอกจากเธอสามารถเข้าไปได้และทันทีที่เราอยู่กันตามลำพัง รอยยิ้มของเธอก็จางหายไปก่อนจะมีความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นมาแทนบนใบหน้าของเธอ
“คายออกมาได้แล้วว่านายต้องการอะไร?”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต