หุบไร้ก้นบึ้ง

ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ต่งฮุยจะคิดแบบนี้

ในสำนักจันทร์จรัสแสงนั้น นอกจากตัวตนในขอบเขตเซียนที่มีอยู่ไม่กี่คนแล้ว น้อยคนนักที่จะต้านทานยันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวได้

และมีเพียงป๋ายลี่หง ที่มีฐานะเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเท่านั้น ที่อาจมีหนทางได้รับยันต์เต๋าระดับนั้นมาครอบครอง

“นายน้อยต้วนเรื่องนี้ล้วนเป็นความผิดของตระกูลโอวหยางเรา…ข้าเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าโอวหยางชานจะหาญกล้ามุ่งร้ายต่อนายน้อยต้วนเช่นนี้ กระทั่งถึงขั้นคิดสังหารท่านชิงทรัพย์…”

โอวหยางป้ามองต้วนหลิงเทียน พร้อมกล่าวขอขมา

กล่าวจบประโยคต้น มันก็แสร้งทำเป็นรู้สึกยินดี “ยังนับว่าโชคดีนักที่นายน้อยต้วนแคล้วคลาดปลอดภัย ส่วนคนร้ายอย่างโอวหยางชานก็ตกตายชดใช้ความผิด นับว่าเรื่องราวจบลงได้ด้วยดีทุกคนมีความสุข”

“ทุกคนมีความสุข?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวเย้ยออกมา มองจี้โอวหยางป้าด้วยสายตาล้ำลึก ทำให้โอวหยางป้ารู้สึกผิดท่าขึ้นมาทันใด

“อย่างไรก็ตามโอวหยางชานก็ยังเป็นอาวุโสรองของตระกูลโอวหยางเรา ถึงแม้มันจะตกตายไปแล้วแต่ตระกูลโอวหยางเราก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าตระกูลโอวหยางเรามิอาจหายันต์เต๋าระดับ 3 ดาวมาใช้คืนท่านได้…แต่พวกเรายังยินดีมอบสิ่งอื่นเป็นของชดเชย”

“นอกจากนี้พวกเรายังยินดีสรรหาสิ่งของที่นายน้อยต้วนปรารถนา และหากอยู่ในกำลังของตระกูลโอวหยาง พวกเราจะหามาให้ท่านให้จงได้”

ในฐานะผู้นำตระกูลโอวหยาง แน่นอนว่าโอวหยางป้าย่อมมีวิจารณญาณที่สูงพอ และสามารถกล่าวหาทางลงได้

เมื่อมันเห็นว่าบุตรชายของมันยังอยู่รอดปลอดภัยแบบนี้ ไหนเลยจะไม่เข้าใจเจตนาของต้วนหลิงเทียนกับต่งฮุย

ไม่มีอะไรนอกจากคิดรีดไถตระกูลโอวหยาง สูบกลืนความมั่งคั่งของพวกมัน!

เช่นนั้นก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะกล่าวออกมา มันก็ชิงเป็นฝ่ายเสนอออกมาเองแบบนี้

สำหรับโอวหยางชิง มันก็คร้านจะกล่าววาจาใดเพื่อช่วยเหลืออีกฝ่ายสืบต่อ เพราะรู้ดีว่าไม่จำเป็น

“ผู้นำตระกูลโอวหยางนับเป็นคนจริงใจนัก! ในเมื่อผู้นำตระกูลโอวหยางจริงใจแบบนี้ข้าเองก็ไม่อาจจิตใจคับแคบอะไรได้…ท่านพาตัวโอวหยางชิงกลับไปเถอะ ข้าจะรอดูความจริงใจของท่านและหวังว่ามันจะเหมาะสม หาไม่แล้วเรื่องราวอาจยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้…”

ถึงแม้จะแปลกใจเล็กน้อยกับความนกรู้ของโอวหยางป้า แต่ต้วนหลิงเทียนก็พึงพอใจไม่น้อย เขาไม่คิดคัดค้านอะไร เพราะนี่ก็เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่วายจะทิ้งท้ายวาจาเพื่อบีบคั้นโอวหยางป้า

ความหมายนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่า กันไม่ให้โอวหยางป้าจัดการเรื่องราวอย่างขอไปที!

“แน่นอน! แน่นอน!!”

ได้ยินคำที่ต้วนหลิงเทียนกล่าว โอวหยางป้าก็หวาดกลัวจับจิต เหงื่อเย็นหลั่งไหลออกมาทั่วกาย ตอนแรกมันหวังว่าจะจ่ายราคาออกไปพอประมาณเพื่อซื้อชีวิตบุตรชายไม่เอาไหนของมันกลับมาเท่านั้น

ทว่าตอนนี้ท่าทางจะเป็นไปไม่ได้แล้ว!

ต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่มันไม่อาจตอแยด้วยได้ หากอีกฝ่ายไม่พอใจขึ้นมา เกรงว่าคงไม่อาจรักษาตระกูลโอวหยางที่อยู่เบื้องหลังเอาไว้!

“เช่นนั้นหลังจาก 3 วันข้าจะไปเยือนตระกูลโอวหยางพร้อมศิษย์พี่ฮุย…ข้าหวังว่าความจริงใจของผู้นำโอวหยางจะทำให้ข้าพอใจ…และข้าก็ชมชอบพวกวัตถุดิบแปลกๆ ที่ผู้คนไม่รู้ว่าสามารถเอาไปทำอะไรได้เป็นพิเศษ…”

ต้วนหลิงเทียนมองโอวหยางป้าเขม็งพร้อมกล่าว

วาจาท้ายประโยคของเขานั้นจงใจกล่าวเพื่อเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ เพราะบางทีวัตถุดิบที่แม้แต่ตระกูลโอวหยางก็ยังไม่รู้จักนั้น มันอาจเป็นสิ่งของที่ใช้ซ่อมแซมเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้

ถึงแม้ตอนนี้เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติจะฟื้นฟูชั้น 3 เสร็จสิ้นแล้ว แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่พอใจ

เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติย่อมมีทั้งสิ้น 7 ชั้น กล่าวไปแม้ชั้นที่ 3 จะซ่อมแซมฟื้นฟูแล้ว แต่มันก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนชั้นที่มีด้วยซ้ำ

“ขอนายน้อยต้วนโปรดมั่นใจ ข้าต้องทำให้ท่านพึงพอใจได้แน่”

ถึงแม้ใจจะชุ่มโชกไปด้วยเลือด แต่โอวหยางป้าก็ยังยิ้มตอบต้วนหลิงเทียน สุดท้ายมันก็กล่าวลาต้วนหลิงเทียนกับต่งฮุยแล้วกลับไปพร้อมโอวหยางชิง

หลังทั้งคู่จากมา ด้านโอวหยางชิงที่สามารถรอดพ้นหายนะตายตกมาได้สีหน้าแววตามันก็เต็มไปด้วยความยินดีนัก แต่มันก็เลือกที่จะติดตามโอวหยางป้าไปเงียบๆไม่กล่าวอะไรเลย

เพราะสุดท้ายแล้วเรื่องราวครั้งนี้ก็มีมันเป็นตัวการ มันจึงรู้สึกผิดไม่น้อย

“ท่านพ่อ หากท่านอยากดุด่าว่าข้า ท่านก็ดุด่าข้าเถอะ…”

หลังจากที่ออกห่างมาจากสำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตรได้สักพัก โอวหยางชิงที่เห็นบิดาไม่กล่าววาจาอะไร มันก็ใจคอไม่ดีขึ้นมา

“ข้าอยากรู้ความจริง”

โอวหยางป้ากล่าว มิคาดมันกลับไม่ดุด่าหรือตะคอกใส่โอวหยางชิง เพียงกล่าวถามออกมาเสียงเรียบ

โอวหยางชิงได้ฟัง ก็ไม่กล้าปกปิดเรื่องราวอะไร เพียงเล่าออกมาตามความจริง

เมื่อกล่าวถึงจุดที่โอวหยางชานถูกฆ่าตาย มันก็สังเกตเห็นว่าร่างบิดาของมันเริ่มสั่นขึ้นมา จึงเร่งกล่าวเสริม “ข้ามันไม่ดี ข้าทำให้ท่านปู่ชานต้องตาย! ข้าสำนึกแล้วท่านพ่อ…ข้ารู้ผิดแล้ว!”

“ในเมื่อเจ้ายังรู้ผิดมีสำนึก ก็นับว่าเจ้ายังไม่เกินเยียวยา…ท่านอาวุโสรองต้องมาตายเพราะเจ้าแบบนี้ ใจข้ารู้สึกผิดต่อท่านยิ่งนัก!”

โอวหยางป้ากล่าวออกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“ใช่ ข้ารู้สึกผิดต่อท่านปู่ชานนัก!”

โอวหยางชิงเร่งพยักหน้าเห็นด้วย ไม่กล้าปฏิเสธ

“หลังจากกลับไปคราวนี้ ข้าตั้งใจจะส่งเจ้าไปยังหุบไร้ก้นบึ้ง”

ลูกตาโอวหยางป้าเผยประกายวับวาวออกมา ความลังเลเล็กๆในตอนแรก พลันมลายหายหลังได้ยินวาจาโอวหยางชิง คงเหลือแต่เพียงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว

“หุบไร้ก้นบึ้ง?”

ได้ยินวาจานี้ของโอวหยางป้า สีหน้าโอวหยางชิงเปลี่ยนไปทันใด ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่น้อย มันเร่งกล่าวออกมาเสียงดังลั่นปานจะตะโกน “ไม่นะท่านพ่อ! ข้าไม่ไปหุบไร้ก้นบึ้งนะ! ท่านทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้ ข้าเป็นลูกชายคนเดียวของท่านนะ! ท่านพ่อ!!”

ได้ยินวาจาโอดครวญของโอวหยางชิง โอวหยางป้าไม่แยแสใดๆ

ลูกชายคนเดียว?

ก่อนหน้านี้อาจจะใช่

ทว่าไม่นานมานี้ภรรยาน้อยของมันที่ไปพบรักและแอบมีสัมพันธ์ด้วยนอกตระกูลได้ตั้งครรภ์ สุดท้ายนางก็คลอดบุตรชายให้มัน

เรื่องนี้ในตระกูลโอวหยางนอกจากมันแล้วก็มีคนสนิทแค่ไม่กี่คนล่วงรู้

และเหตุผลที่มันไม่กล่าวบอกเรื่องนี้ออกมากับใคร เพราะมันกลัวโอวหยางชิงจะคิดร้ายกับบุตรชายคนเล็กของมัน อีกทั้งหากโอวหยางชิงยังอยู่ ทางตระกูลย่อมปฏิเสธบุตรชายนอกสมรสคนนี้ของมัน!

เช่นนั้นแล้วหลังจากที่บุตรชายนอกสมรสคนนี้คลอดออกมา ถึงแม้มันจะมีความสุขความยินดีนัก แต่มันก็ไม่กล้าพาลูกกับภรรยาน้อยมาอยู่ตระกูลโอวหยาง

เดิมดีตระกูลโอวหยางนี้มันก็คิดส่งมอบให้โอสหยางชิงรับช่วงต่อ

อย่างไรก็ตามการกระทำของโอวหยางชิงครั้งนี้ทำให้มันผิดหวังมาก จนมันตัดสินใจเลือกที่จะส่งโอวหยางชิงไปยังหุบไร้ก้นบึ้งแทน

หากโอวหยางชิงไม่อาจรอดชีวิตกลับมาได้ ก็ต้องโทษโชคชะตาของมันที่ไร้วาสนา

ถึงตอนนั้นมันจะพาลูกชายกับภรรยาน้อยคนนั้นเข้าตระกูลมาอย่างผ่าเผย และอบรมสั่งสอนด้วยตัวเองเพื่อให้เป็นทายาทของมัน

“ท่านพ่อ ข้าตายแน่! ตั้งแต่สมัยโบราณไม่มีใครในตระกูลโอวหยางของเรารอดกลับมาจากหุบไร้ก้นบึ้งได้เลย ไม่มีใครรอดชีวิตกลับมาได้!”

โอวหยางชิงร่ำร้องโวยวายออกมาไม่หยุด เพราะมันไม่อยากไปหุบไร้ก้นบึ้ง!

“เจ้าผิดแล้ว ตระกูลโอวหยางของเราเคยมีผู้ที่รอดกลับมาจากหุบไร้ก้นบึ้ง”

โอวหยางป้ากล่าวเสียงเรียบ

“แต่นั่นมันก็ตั้งหมื่นปีมาแล้วนะท่านพ่อ! คนผู้นั้นนับเป็นข้อยกเว้นพิเศษของตระกูลโอวหยางเรา! หลังจากนั้นมานับหมื่นปี ในตระกูลโอวหยางหากไม่ถึงหมื่นก็ต้องมีอย่างน้อยแปดพันคน ที่ไปหุบไร้ก้นบึ้งแล้วมิเคยได้หวนกลับมา!”

ใบหน้าโอวหยางชิงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มันหวาดกลัวไปถึงก้นบึ้งของใจ ขณะที่มันกล่าวร่ำร้องตามันก็มองท่าทีโอวหยางป้าเขม็ง พอเห็นว่าโอวหยางป้าไม่คิดเปลี่ยนใจ มันก็คิดหลบหนีทันที

แต่ไหนเลยมันจะรอดเงื้อมมือโอวหยางป้าได้

โอ้วหยางป้าพุ่งไปหยุดโอวหยางชิงได้อย่างง่ายดาย “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจดีแล้ว! เจ้าอย่าได้มองโลกในแง่ร้ายนัก คนของตระกูลโอวหยางที่รอดจากหุบไร้ก้นบึ้งมาได้เมื่อหมื่นปีที่แล้ว ก็มีสายเลือดผู้นำตระกูลโอวหยางเช่นเดียวกันกับเจ้า..”

“เช่นนั้นเจ้าก็ยังมีความหวังที่จะรอดกลับมาได้สูงนัก…เพราะกล่าวไปหุบไร้ก้นบึ้งก็มีความเกี่ยวพันกับผู้นำตระกูลโอวหยางเราในอดีต…บางทีวิญญาณบรรพชนอาจคอยดูแลปกปักษ์เจ้าเป็นพิเศษ!”

โอวหยางป้ากล่าว

“ยิ่งไปกว่านั้นหากเจ้าสามารถรอดออกมาจากหุบไร้ก้นบึ้งได้ ต้วนหลิงเทียนยังจะนับเป็นอะไร…ให้เป็นสำนักจันทร์จรัสแสง หรือ 9 พันธมิตร ก็มิอยู่ในสายตาของเจ้าอีกต่อไป! บรรพชนท่านนั้นของสกุลโอวหยางเรา ยามนั้นกระทั่งยอดฝีมือของขุมพลังชั้น 6 ยังมิอาจต้านทาน!”

“หากมิใช่เพราะท่านไปล่วงเกินยอดฝีมือของขุมพลังชั้น 5 ท่านคงมิด่วนจากไปเช่นนั้น! คนตระกูลโอวหยางจนบัดนี้ยังมิมีผู้ใดประสบความสำเร็จถึงขั้นนั้นอีกเลย!!”

ตอนแรกขณะกล่าวโอวหยางป้าก็ยังตื่นเต้นอยู่บ้าง ทว่าท้ายประโยคก็ลอบทอดถอนใจ

“ชิงเอ๋อ พ่อคิดว่าเจ้าจักประสบผลสำเร็จเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของตระกูลโอวหยางเรา”

โอวหยางป้ากล่าวบอกโอวหยางชิง

“ท่านพ่อท่านอย่าได้คิดว่าข้าไม่รู้ คนในตระกูลโอวหยางส่วนใหญ่ที่ไปยังหุบไร้ก้นบึ้งส่วนมากแล้วก็มีสายเลือดผู้นำตระกูลทั้งสิ้น..แต่ท่านดูเถอะว่าเกิดอันใดขึ้นกับพวกมัน! กระทั่งหลังจากพวกมันเข้าไปได้เพียง 3 เดือน ไข่มุกวิญญาณของพวกมันก็แตกสลายแล้ว!!”

โอวหยางชิงกล่าวออกด้วยความหวาดกลัว มันยังดิ้นรนไม่หยุดหมายจะรอดพ้นจากการจับกุมของโอวหยางป้าให้ได้

สุดท้ายโอวหยางป้าก็ได้แต่ฟาดให้มันสิ้นสติ

“ชิงเอ๋อเจ้าอย่าได้ถือโทษโกรธพ่อเลย ครั้งนี้เป็นเจ้าก่อเรื่องใหญ่หลวงแล้วจริงๆ! ไม่เพียงแต่ข้ายังไม่อาจเชื่อวาจาที่เจ้ากล่าวในสำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร ทั้งตระกูลเกรงว่ายังไม่มีใครเชื่อเจ้า!”

โอวหยางป้ากล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

ถึงแม้ว่ามันอาจจะปล่อยโอวหยางชิงไป แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวันหนึ่งที่มันลงจากตำแหน่ง เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลต้องรวมตัวกันขับไล่โอวหยางชิงออกจากตระกูลเป็นแน่

อีกทั้งตระกูลโอวหยางยังมีกฏเกณฑ์อันเข้มงวดนัก หากผู้นำตระกูลกระทำผิดร้ายแรง สายเลือดของผู้นำนั้นจะถูกริดรอนสิทธิ์ในการขึ้นเป็นผู้นำตลอดไป

ในตระกูลโอวหยางมีผู้อาวุโสมากมายที่ไม่ได้มาจากสายเดียวกันกับมัน อาวุโสเหล่านั้นล้วนเฝ้ารอให้มันกระทำผิดพลาดมาโดยตลอด เพราะมีเพียงมันผิดพลาดจนสายเลือดถูกริดรอนสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้นำ ถึงจะเปิดโอกาสให้สายเลือดอื่นในตระกูลโอวหยางก้าวขึ้นเป็นผู้นำแทน

เพื่อรักษาสิทธิ์สำหรับสายเลือดมันแล้ว โอวหยางชิงจำต้องใจแข็งและตัดสินใจแบบนี้

เพราะทางเลือกนี้ไม่เพียงแต่จะไม่มีอาวุโสคนใดกล่าวแย้งได้ กระทั่งพวกมันยังต้องเฝ้ารอโอวหยางชิงด้วยความหวัง

ถึงแม้ว่าความยังจะเล็กน้อย…จนถึงจุดที่กระทั่งตัวมันเองก็คิดว่าโอวหยางชิงไม่มีวันรอดมาได้

แต่อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าปล่อยให้อีกฝ่ายตกตายในสำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร

“หุบไร้ก้นบึ้ง…”

เมื่อนึกถึงเขตหวงห้ามอันตรายที่บรรพบุรุษของตระกูลโอวหยางทิ้งไว้ในกาลก่อน ใจมันอดไม่ได้ที่จะสั่นไหวไปพักหนึ่ง

มีข่าวลือกันว่าหุบไร้ก้นบึ้งนั้นเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษตระกูลโอวหยางของพวกมันอย่างมาก

เป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ที่ตำนานเรื่องหุบไร้ก้นบึ้งถูกส่งต่อมายังลูกหลานของตระกูลโอวหยาง…ว่าหากมีผู้ใดรอดมาจากหุบไร้ก้นบึ้งได้ จะกลายเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนที่แกร่งกล้าสามารถ

ในตอนแรกด้วยไม่มีลูกหลานของตระกูลโอวหยางคนใดรอดออกมาได้เลย ทำให้ตำนานดังกล่าวค่อยๆกลายเป็นเรื่องเหลวไหล และไร้ผู้ใดเชื่อถือสืบไป…

จนกระทั่งเมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว กลับมีคนของตระกูลโอวหยางรอดกลับมาจากสถานที่แห่งนั้นได้จริงๆ และคนผู้นั้นก็กลับกลายเป็นสุดยอดฝีมือที่สะท้านสะเทือนได้กระทั่งขุมพลังชั้น 6! นั่นจึงพิสูจน์ว่าตำนานดังกล่าว มิใช่แค่เรื่องเหลวไหล…