ตอนที่ 209 เป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย ตอนที่ 210 ได้รับความนิยมแล้ว

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 209 เป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย

ซ่งอิงอยากทำกิจการให้ใหญ่โต แต่นางไม่มีทุนทรัพย์และไม่มีที่พึ่งพิง ยิ่งไปกว่านั้นคือ นางไม่ใช่ผู้มีชื่อเสียงเก่าแก่ มีเพียงเรื่องเดียวที่นางเอาอยู่ นั่นคือวัตถุดิบ!

นางจึงตั้งใจว่า จะอาศัยจังหวะตอนที่ร้านชุ่ยเหยียนไจไม่รู้ตัว หาซื้อวัตถุดิบไว้จำนวนมากๆ แล้วกักตุนเอาไว้ใช้ระหว่างรออู่ห้วนจื่อในเขาเติบโต แต่นางมีมือแค่คู่เดียว ทั้งยังต้องลอบเก็บเอาไว้ จะกักตุนได้มากเท่าไรเชียว

ในเยียนจือและแป้งทาหน้าของเจ้าของกิจการฮวา นอกจากดอกไม้สด ก็มีสมุนไพรด้วยเช่นกัน ดังนั้นโดยเจ้าตัวต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ค้าสมุนไพรที่เชื่อถือได้เป็นแน่

ดังนั้นใช้ช่องทางของนางจะดีกว่า

ลำพังซ่งอิงคนเดียวคงหาเงินได้ไม่มาก หากนางรับผิดเพียงในอำเภอเมืองหลี่ แล้วให้เจ้าของกิจการฮวาไปกอบโกยเงินจากแหล่งอื่น ซ่งอิงก็จะได้รับผลโยชน์มากมายด้วยเช่นกัน

“ความหมายของแม่นางคือ…จะนำตำรับยาสระชิงซือมาบอกข้าหรือ” เจ้าของกิจการฮวาตื่นเต้น

แม้ว่าร้านค้าตั้งอยู่ในอำเภอหลี่ แต่ก็เหมือนที่ซ่งอิงพูด

ใครบ้างไม่มีสหาย?

เมื่อก่อนโรงอี้จวินเป็นที่เลื่องชื่อ ย่อมรู้จักพ่อค้าต่างถิ่นที่ไปมาหาสู่จากเหนือจรดใต้มากมาย แต่หลายปีมานี้ กิจการโรงอี้จวินไม่สู้ดี ทั้งยังไม่มีสินค้าตัวใหม่ ดังนั้นจึงไปมาหาสู่กันน้อยลง

แต่มีมิตรสัมพันธ์ที่บิดานางเชื่อมไว้ในอดีต การจะติดต่อกันอีกครั้งจึงไม่ยากสักนิด!

กว่าร้านชุ่ยเหยียนไจจะคิดค้นตำรับได้ นางก็ก้าวนำไปหนึ่งฝีก้าวโดยการนำสิ่งของไปวางขายในถิ่นอื่น ตราบใดที่ชิงลงมือก่อนก็จะเป็นที่เลื่องชื่อแล้ว!

เมื่อคิดตามที่ซ่งอิงพูดก็เท่ากับว่า หากทำสัญญาให้ตำรับแก่เจ้าของกิจการฮวา จากนี้ไปก็ไม่นับว่าเป็นการฝากขาย แต่เป็นการร่วมหุ้นส่วนกัน ผลกำไรล้วนอยู่ในที่เดียวกัน ยิ่งไม่ต้องกังวลว่าซ่งอิงจะเชิดหนีไป!

ต่างฝ่ายต่างช่วยกันทำเงินให้มากขึ้น?!

เป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย!

“หากแม่นางเชื่อใจกัน วันนี้ก็ตกลงตามนี้ได้เลย โรงอี้จวินของข้าแม้หน้าร้านไม่ค่อยดูดีเท่าไร แต่พื้นเพและความสัมพันธ์กับผู้คนไม่แย่ไปกว่าร้านชุ่ยเหยียนไจแน่นอน! หลังจากนี้ หากแม่นางต้องการสมุนไพรใด ข้าจะให้คนนำไปส่งให้ท่าน คนนอกไม่มีทางรู้เด็ดขาด นอกจากนี้ แม้ข้าจะเป็นผู้ดำเนินกิจการนอกเมือง แต่จะไม่ให้แม่นางซ่งเสียเปรียบด้านส่วนแบ่งเป็นแน่นอน!” เจ้าของกิจการฮวากล่าวทันควัน

เท่ากับซ่งอิงใช้ตำรับเข้าเป็นหุ้นส่วน!

“เจ้าของกิจการฮวาคิดว่า การค้าขายนอกอำเภอหลี่ พอจะแบ่งให้ข้าได้กี่ส่วนหรือเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าว

เจ้าของกิจการฮวาลังเลอยู่ชั่วครู่ การฝากขายกับการร่วมหุ้นส่วนกันเป็นคนละเรื่อง อย่างก่อนหน้านี้ นางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ใช้ร้านวางสินค้าเอาไว้เท่านั้นเอง แต่อย่างหลัง…

ซ่งอิงหยิบยกตำรับออกมาคาดคะเนจำนวนเงิน

ดังนั้น…

“วัตถุดิบสมุนไพร คนงาน การเดินเส้นสายเชื่อมมิตรสัมพันธ์กับผู้คนให้ข้าและโรงอี้จวินเป็นผู้จัดการ ฉะนั้นข้าจะแบ่งกำไรให้แม่นางได้สามส่วน” เจ้าของกิจการฮวาครุ่นคิดแล้วกล่าว

ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย

คนผู้นี้ซื่อสัตย์จริงๆ

สามส่วนฟังดูเหมือนน้อย แต่ต้องรู้ว่า หลังนางยกตำรับให้แล้ว นางก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เพียงแค่คอยนับเงินเป็นพอ สามส่วนของผลกำไรและสามส่วนจากราคาขายมีความแตกต่างกันมาก เมื่อซ่งอิงพินิจพิจารณาครู่หนึ่ง คิดว่าเงินที่ตัวเองได้น่าจะไม่น้อยเกินไป

อย่างไรเสียการติดต่อพ่อค้าต่างถิ่นเพื่อขายอีกทอดหนึ่ง สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นคือ ‘ปริมาณ’

ตอนนางทำสินค้าชุดนี้ผลกำไรสุทธิน่าจะประมาณยี่สิบห้าตำลึงเงิน หากเจ้าของกิจการฮวาเป็นคนทำ ต้นทุนก็จะสูงขึ้นหน่อย เพราะเจ้าของกิจการฮวาคงไม่อาจทำเหมือนนางที่หาเด็ดสมุนไพรได้ทั่วภูเขา แต่ผลกำไรก็คงไม่น้อยเกินไปเช่นกัน

ขายให้พ่อค้าแม่ค้า ต้องกดราคาลงต่ำหน่อย หากราคาขายส่งสูงเกินไป ผู้ขายก็จะขายของออกไปได้ยาก

อีกทั้งพ่อค้าต่างถิ่นไปมาหาสู่กันคราหนึ่งก็ยุ่งยากมาก หากได้กำไรน้อยนิด คนเขาคงไม่ยินดีจะลำบากขนสินค้าเช่นกัน ดังนั้นไม่แน่ว่า ท้ายที่สุด เจ้าของกิจการฮวาอาจต้องแบ่งผลกำไรส่วนใหญ่ให้พ่อค้าต่างถิ่น ยอมให้ตัวเองได้เงินน้อยหน่อย

ต่อให้สินค้าชุดหนึ่ง เจ้าของกิจการฮวาได้เงินเพียงสิบตำลึงเงิน แบ่งให้นางสามส่วน นั่นก็ไม่น้อยแล้ว

ซ่งอิงไม่ใช่คนละโมบโลภมาก

เจ้าของกิจการฮวาต้องลำบากกว่านางหน่อย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควร หากนางจะเอาส่วนแบ่งจำนวนมากที่สุด

ตอนที่ 210 ได้รับความนิยมแล้ว

เจ้าของกิจการฮวากระวนกระวายใจ เกรงว่าซ่งอิงจะไม่พอใจที่ส่วนแบ่งนี้ต่ำเกินไป

แต่นางลองคำนวณดูแล้ว เรื่องที่ตนต้องจัดการมีเยอะแยะเหลือเกิน หากขยับส่วนแบ่งขึ้นไปอีก ด้านนางแทบไม่ต่างกับช่วยงานซ่งอิงโดยไร้ค่าตอบแทน เหนื่อยสายตัวแทบขาดก็ทำเงินได้ไม่เท่าไรเอง…

“ตกลงเจ้าค่ะ ส่วนแบ่งสามส่วนนะเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้า

เจ้าของกิจการฮวาถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที

“ที่ขายในร้านยังคงยึดตามก่อนหน้านี้” เจ้าของกิจการฮวากำชับอีกครั้ง ความหมายก็คือ กิจการทางด้านนี้ ซ่งอิงยังคงได้เป็นส่วนใหญ่ นางขอแค่ค่าดำเนินการฝากขายเท่านั้นก็พอแล้ว

ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย

เจ้าของกิจการฮวาให้สามีดูแลการขาย แล้วรีบทำสัญญาฉบับใหม่กับซ่งอิง หลังลงนามเป็นที่เรียบร้อย ซ่งอิงจึงได้นำตำรับที่ตนเองเขียนไว้ออกมา

“นี่เป็นวิธีการทำที่ง่ายที่สุด นอกจาก ในตำรับ หากจะใส่พวกเครื่องหอมและสมุนไพรเพิ่มอีกนิดตามความต้องการก็ย่อมได้ ตัวอย่างเช่น นี่ว์เจินจื่อ[1] หรือตางกุยของเหล่านี้จะช่วยให้ผมดำเงา ส่วนพวกฉาฟู[2] ไป๋จื่อ หวงโป้[3] ว่านหางจระเข้ หญ้าชังเอ๋อร์[4]และสะระแหน่ จะช่วยป้องกันการเกิดรังแคและอาการคันได้ หญ้าเจินจูโท่วกู่[5]ใช้บำรุงรากผม ส่วนซานไน่[6]และกานซง[7]มีสรรพคุณป้องกันหัวล้าน หากภายภาคหน้าเจ้าของกิจการฮวาแยกสาขาไปยังสถานที่อื่นๆ ได้ จะขายยาสระผมที่มีคุณสมบัติหลากหลายโดยให้กลิ่นแตกต่างกันก็ย่อมได้ คงจะได้ผลตอบรับดีมากเช่นกัน” ซ่งอิงกล่าว

ซ่งอิงพลันรู้สึกว่า การที่ตัวเองมีงานอดิเรกทำหลายอย่างก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

สัดส่วนปริมาณของวัตถุดิบเหล่านี้ ซ่งอิงจดบันทึกเอาไว้อย่างละเอียดแล้ว เมื่อเจ้าของกิจการฮวาเห็นก็เบาใจ

วัตถุดิบหลักไม่มากมาย ต้นทุนจึงอยู่ในขอบเขตที่รับได้

นางมีช่องทางเป็นของนางเอง ไม่ต้องไปซื้อจากร้านยาเป็นการเฉพาะ ดังนั้นต้นทุนจะลดลงไปอีกเล็กน้อย แน่นอนว่า หากขายราคาถูกลงก็ต้องบันทึกลงสมุดบัญชีเอาไว้ เมื่อถึงเวลาซื้อขาย แต่ละฝ่ายล้วนต้องประทับลายนิ้วมือเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร

สินค้านี้ทำไม่ยาก หากนางเร่งเวลาเตรียมสมุนไพรเสียหน่อย ใช้เวลาเพียงสองสามวันก็ผลิตสินค้าออกมาได้หนึ่งชุดแน่นอน

ขอเพียงติดต่อพ่อค้าต่างถิ่นได้ ก็จะทำเงินได้ก้อนหนึ่งแล้ว

“แม้ว่าแม่นางได้รับแค่ส่วนแบ่ง แต่ก็ถือว่าเป็นเถ้าแก่รองของโรงอี้จวินแล้ว จากนี้ก็อย่าได้เกรงใจกันเลย เรียกข้าว่าพี่ฮวาหรือเซียงเหนียงก็แล้วกัน” เจ้าของกิจการฮวายิ้มแล้วเอ่ย

เจ้าของกิจการฮวาผู้นี้นามว่า…

ฮวาเซียง

ซ่งอิงคิดว่า บิดาของเจ้าของกิจการผู้นี้คงเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นกัน

“พี่ฮวา” ซ่งอิงยิ้มกล่าว

“สินค้าชุดนี้ที่เจ้าส่งมาให้คราก่อน ข้าจะคำนวณเงินให้เจ้าทีเดียวเลยแล้วกัน หากเจ้าต้องการสมุนไพรอะไรก็บอกข้า ข้าจะได้หักจากเงินในนี้ได้เลย” เจ้าของกิจการฮวากล่าวต่อ

“ได้เจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าว

สุดท้าย นางต้องการเพียงอู่ห้วนจื่อห้าสิบจินเท่านั้น

จ้าวเจียวบนเขาซิ่งยังเพียงพอให้นางคัดสรรมาใช้อีกพักใหญ่ ไว้เด็ดไม่ถึงแล้วนางค่อยซื้อ

อู่ห้วนจื่อตามท้องตลาดหนึ่งจินราคาสิบแปดอีแปะ แต่ด้านเจ้าของกิจการฮวาราคาเพียงสิบห้าอีแปะ หลังหักลบเรียบร้อย ซ่งอิงจึงได้เงินมายี่สิบเก้าตำลึงเงิน จากนั้นซ่งอิงก็ไปสั่งทำขวดในจำนวนมากขึ้น

แน่นอนว่า นางกับเจ้าของกิจการฮวาเจรจากันไว้แล้วว่า บางคนค่อนข้างประหยัด ขวดที่เหลือ จะทิ้งไปเลยก็ใช่เรื่อง ดังนั้นโรงอี้จวินจะช่วยซ่งอิงรับกลับคืน ขอเพียงขวดไม่แตกเสียหายและล้างสะอาดเอี่ยมแล้ว ก็จะจ่ายเงินให้ตามราคาท้องตลาด ซึ่งเงินเหล่านี้โรงอี้จวินจะเป็นฝ่ายจ่ายก่อน แล้วค่อยหักลบตอนหักลบบัญชีกับซ่งอิง

หลังซ่งอิงกลับไปก็รีบลงมือทันที สองวันต่อมาจึงนำสินค้าชุดที่สองไปส่ง จากนั้นก็เป็นอันได้พักหายใจเสียที

อย่างไรเสีย รอบส่งสินค้าครั้งถัดคือเจ็ดวันข้างหน้า ไม่ถือว่าเหนื่อยเกินไป

ยามนี้ ภายในอำเภอ ยาสระชิงซือได้รับความนิยมอย่างยิ่ง

เมื่อร้านชุ่ยเหยียนไจรู้ตัวก็ตกใจ คิดไม่ถึงเลยว่า โรงอี้จวินที่เคยตกต่ำไปหลายปี จู่ๆ ก็โดดเด่นขึ้นมากะทันหัน!

ผู้ทำการค้าขายสายทางเดียวกันก็ไม่ต่างจากศัตรู จึงเร่งรีบส่งคนไปสืบถามทันที

“ยาสระชิงซือนี้เป็นเพียงของที่ฝากขายหรือ แล้วได้ถามหรือไม่ว่า ผู้ใดเป็นคนทำยาสระผมนี้ พวกเราร้านชุ่ยเหยียนไจเป็นร้านที่มีเยียนจือดีเลิศที่สุดในอำเภอหลี่ ไฉนคนผู้นั้นจึงไม่เลือกพวกเรา แต่กลับเลือกโรงอี้จวินเสียได้ หรือว่า หนึ่งในพวกเจ้าปฏิเสธคนที่นำของมาฝากขายผู้นั้นไปเสียแล้ว” เจ้าของร้านชุ่ยเหยียนไจพอใจอย่างยิ่ง

[1] นี่ว์เจินจื่อ (女贞子) เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณบำรุงหยินของตับและไต ช่วยให้ผมดำ บำรุงสายตา

[2] ฉาฟู (茶麸) เป็นกากที่ได้หลังจากสกัดน้ำมัดเมล็ดชาน้ำมัน (เป็นพืชที่มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Camellia oleifera)

[3] หวงโป้ (黄柏) ชื่อวิทยาศาสตร์: Phellodendron amurense อยู่ในวงศ์ Rutaceae เป็นพืชสำคัญที่เป็นที่มาของยาจีนที่เรียกหวงป้อ เปลือกนอกเหลืองอมน้ำตาล เนื้อในสีเหลืองเข้ม

[4] หญ้าชังเอ๋อร์ (苍耳草) เป็นวัชพืชทั่วไป เมล็ดสามารถสกัดเพื่อทำน้ำมันได้ โดยคุณสมบัติของน้ำมันเอามาใช้ทำสีได้ นอกจากนี้ยังใช้มาเป็นวัตถุดิบในการทำสบู่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ผลของมันก็นำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้เช่นกัน

[5] หญ้าเจินจูโท่วกู่ (珍珠透骨草) เป็นสมุนไพรยืนต้นชนิดหนึ่ง รากสีม่วงเล็กน้อยเมื่ออายุยังน้อย ลำต้นเดี่ยว ตั้งตรง สูงได้ถึง 1 เมตร แตกกิ่งก้าน มักมีหลายกิ่งที่ส่วนบน โดยมีกิ่งก้านยื่นออกไปเฉียงๆ ใบรูปใบหอกยาว 3-8 ซม กว้าง 5-15 มม. มีปลายแหลมสั้น

[6] ซานไน่ (山奈) หรือเรียกว่าเปราะหอม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Kaempferia galanga) เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นเป็นเหง้าใต้ดินมีรากสะสมอาหาร ใบเดี่ยวแทงขึ้นมาจากเหง้า ไม่มีก้านใบ ใบอยู่ใกล้พื้นดิน มักมีเพียง 2 ใบ ท้องใบมีขน ใบกลมแผ่ออกตามแนวข้าง ช่อดอกออกระหว่างใบทั้งสอง ไม่มีก้านช่อดอก ริ้วประดับรูปใบหอก ดอกสีชมพูอ่อนหรือขาว มีจุดสีม่วง

[7] กานซ่ง (甘松) สมุนไพรชนิดหนึ่งมีสรรพคุณช่วยให้ลมปราณไหลเวียนดี แก้ปวด คลายกังวล รสชาติและคุณสมบัติรสเผ็ด หวาน อุ่น