ตอนที่ 148 คนเย็นชาแต่มีน้ำใจ

โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง

ฮั่วเทียนหลันมองหมิหยาฮุ่ยเหมือนมีความหมายอะไรลึกซึ้ง ในใจก็คิดว่าควรที่จะไปคุยกับหมิหงเหวินไหม

หรือว่าจะให้ไอ้เด็กคนนั้นหลอกอันหรัน เพราะผู้หญิงคนนี้ก็ทำอะไรไว้ก็หลายต่อหลายเรื่อง

หมิหยาฮุ่ยมองพวกเขาสักพักก็เดินจากไป ในใจก็รู้สึกโล่งอกก็เลยถอนหายใจเฮือกใหญ่

ดีที่เมื่อกี้มีไหวพริบ คงต้องรอพี่อันหรันสนิทสนมกับเรากว่านี้อีกหน่อย พวกเราก็คงจะได้มาพูดคุยกันอีกบ่อยๆ

แล้วเงาของอันหรัน ก็หายไปอย่างรวดเร็วจากฝูงคนจำนวนมาก

หมิหยาฮุ่ยรู้สึกจิตตกเล็กน้อย เขาก้มหัวลง แล้วก็พบว่าหวังเฉียนกำลังจ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่โกรธเคือง

หมิหยาฮุ่ยยิ้มแบบละอายใจ แล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างงั้น……หวังเฉียน เราสองคนมาตกลงกันเถอะ ฉันจะปล่อยเธอไป แต่เธอก็ต้องไม่เอะอะโวยวาย”

หวังเฉียนส่ายหัวด้วยความเด็ดขาด ทั้งชีวิตของเธอ ไม่ยอมใครคาบของของเธอไปกินง่ายๆ ดังนั้น การที่หมิหยาฮุ่ยจะมาบอกให้เธอทำอย่างงั้นอย่างงี้จะเป็นไปได้อย่างไร

หมิหยาฮุ่ยขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “งั้นฉันก็ไม่ปล่อยแล้ว!”

หวังเฉียนจ้องมอง พร้อมทำเสียงแงๆ แงๆ

หวังเฉียนเป็นดาวของโรงเรียน คนที่คลั่งไคล้เธอมีอยู่ไม่น้อย ส่วนหมิหยาฮุ่ยนั้นก็ไม่แพ้กัน หล่อขั้นเทพ

พวกเขาสองคน ชอบเรียกร้องความสนใจจากผู้คน

เมื่อหวังเฉียนมองหมิหยาฮุ่ยด้วยแววตาโกรธเคือง เขาก็ได้แต่พยักหน้า

หมิหยาฮุ่ยขอให้เกาเกอะกับหวงเหมาช่วยบังเขาไว้ หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยหวังเฉียน แล้วรีบวิ่งไป

หวังเฉียนก็หันหลังตะโกนไปว่า “หมิหยาฮุ่ย รอฉันก่อน! ”

อันหรันไปกับหัวหมู่ ด้วยความระมัดระวัง สายตาก็จ้องมองไปยังฮั่วเทียนหลันอยู่บ่อยครั้ง สีหน้าของเขาเคร่งขรึม ซึ่งมันทำให้ใจของเธอสั่นระรัว

จริงๆแล้วเธอมาต้องการไปลานจอดรถกับหัวหมู่ แต่ว่าเมื่อเดินไปถึงทางแยก ฮั่วเทียนหลันก็หยุดนิ่ง มองไปยังอันหรัน แล้วพูดว่า “แม่ครับ แม่กับน้องกลับไปก่อน ผมยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับอันหรันครับ”

อันหรันเนื้อตัวสั่นเทา รู้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ

หลี่รูยามองดูก็สงสัยว่าทั้งสองมีท่าทีแปลกๆ จึงพูดกำชับ “โอเค,เทียนหลัน,แต่ห้ามแกล้งหรือทำอะไรอันหรัน เข้าใจไหม”

ฮั่วเทียนหลันตอบรับ ส่วนอันหรันก็ได้แต่มองหัวหมู่ กับหัวเสี่ยวน่า เดินออกไป

มือของเธอก็ถูกลาก โดยที่ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว แล้วก็ไปหยุดตรงรถที่อยู่ริมถนน

เปิดประตูรถ แล้วจับอันหรันดันเข้าไป ทำเฉกเช่นเธอเหมือนกับสัมภาระชิ้นหนึ่งเท่านั้น

อันหรันย่อตัวลดลง เพื่อไม่ให้ฮั่วเทียนหลันแตะเนื้อต้องตัว

เธอไม่เข้าใจว่าฮั่วเทียนหลันโกรธอะไรเธอ แต่ว่าขณะที่เขาโกรธ เธอจำเป็นต้องระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงที่จะให้เขาระบายความโกรธกับเธอ

ฮั่วเทียนหลันมองดูอันหรันที่กลัวหัวหด ก็รู้สึกว่าความโกรธภายในนั้น บางครั้งมันก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว เขาพูดด้วยเสียงเข้ม “กลับบ้าน!”

คนขับรถงงว่า เมื่อสักครู่จะกลับบริษัทไม่ใช่เหรอ

แต่อย่างไรก็ตามเขาก็มองสีหน้าที่เคร่งขรึมของฮั่วเทียนหลันแม้จะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นแต่ก็ไม่ควรที่จะพูดออกมา ได้แต่กลับรถเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน

เมื่อถึงบ้าน ป้าDingก็กำลังทำอาหารกลางวันอยู่พอดี

ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ป้าDingมักจะทานข้าวคนเดียวมาโดยตลอด

ดังนั้นอาหารกลางวันของป้าDingก็จะง่ายๆ มีบะหมี่พะโล้ และผักเคียงเท่านั้น

ป้าDingนั่งโต๊ะทานข้าวสักพัก ก็ได้ยินเสียงกริ่ง

เวลานี้ ใครมากันะ

ป้าDingเปิดประตูด้วยความสงสัย มองในตาแมวของประตูก็เห็นใบหน้าของฮั่วเทียนหลัน

ป้าDingรีบเปิดประตู ก็พบว่าอันหรันอยู่ด้านหลังของฮั่วเทียนหลันป้าDingจึงถามไปว่า “เทียนหลัน ทำไมกลับมาเวลานี้หล่ะคะ?”

ฮั่วเทียนหลันเมื่อเห็นป้าDing ก็เปลี่ยนสีหน้าจากที่บูดบึ้ง เป็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วพูดขึ้นว่า “วันนี้ที่บริษัทงานไม่เยอะครับ ก็เลยให้อันหรันกลับมาพร้อมกัน จะได้ช่วยคุณป้าด้วยครับ”

“ป้าเป็นคนรับใช้ ป้าก็ต้องทำเองสิคะ พวกคุณนั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าไปเตรียมอาหารกลางวันให้ค่ะ” ป้าDingรู้สึกเกรงใจ เธอเห็นฮั่วเทียนหลันตั้งแต่เด็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นคนที่ภายนอกดูเหมือนเย็นชา แต่จิตใจลึกๆนั้นเป็นคนที่มีน้ำใจ ซึ่งนั่นมันทำให้ป้าDingรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

ป้าDingจัดเตรียมอาหารกลางวัน ส่วนอันหรันเมื่อเห็นโอกาสที่จะหนีไปจากตรงนี้ เธอจึงรวบรวมความกล้า พูดออกมาอย่างรวดเร็ว “คุณฮั่ว ฉันขอตัวไปช่วยคุณป้านะคะ”

ฮั่วเทียนหลันไม่พูดอะไร ก็แสดงว่าเขาอนุญาต

ในครัว อันหรันเป็นคนจัดการทำอาหารด้วยฝีมือตนเอง ส่วนป้าDingตบมือให้กำลังใจเธอก็เพียงพอแล้ว

ป้าDingเห็นอันหรันทำอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจ จึงถามขึ้นว่า“คุณคะ คุณกับเทียนหลัน มีปัญหากันอีกแล้วหรือคะ?

หัวใจอันหรันเต้น ไม่คิดว่าป้าDingจะรู้สึกได้

“ฉันก็ไม่ได้ไปยั่วยุทำให้เขาโมโหค่ะ เขาแค่เพียงเห็นหน้าฉันก็คงรู้สึกไม่ดีแล้วค่ะ ”อันหรันระมัดระวังในคำพูด

ป้าDingถอนหายใจ แล้วพูดว่า“นิสัยของคุณเทียนหลัน,ตั้งแต่เด็กก็เป็นแบบนี้ค่ะ ภายนอกดูเป็นคนเย็นชา แต่จริงๆแล้วจิตใจดี มีน้ำใจ คุณผู้หญิงให้อภัยคุณเขาเถอะนะคะ!”

เมื่อป้าDingพูดมาแบบนี้ ทำให้อันหรันรู้สึกไม่ดี จริงๆเธอก็ไม่รู้ ว่าเธอทำอะไรไม่ดี ที่ทำให้ฮั่วเทียนหลันโกรธ

“บางทีฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำอะไรไม่ดี ป้าDing แต่ฉันก็ชินเสียแล้ว เขาเป็นคนดีนะคะ”

ฮั่วเทียนหลันเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ห้องรับแขก ,ในหัวก็นึกถึงภาพที่อันหรันกับหมิหยาฮุ่ยคุยกันอยู่ตลอด ซึ่งเขาก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ในครัว มีคนได้รับมอบการ์ดคนดีให้กับตัวเอง

อันหรันทำอาหารได้รวดเร็ว ไม่นานอาหารก็จัดเสิร์ฟจนครบ

ป้าDingเรียกฮั่วเทียนหลันมาทานข้าว เขาเดินมาได้สองสามก้าว โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกก็ดังขึ้น

ฮั่วเทียนหลันรับโทรศัพท์ ฟังอยู่สักพักคิ้วก็ขมวด

“ตอนนี้ฉันยังปลีกตัวออกไปไม่ได้ บอกเขาว่าฉันไม่มีเวลา ถ้าเขาจะมาไปหา ก็ให้เขาไปฉันรับมือเอง。”ฮั่วเทียนหลันกล่าว

อันหรันออกมาจากครัวพอดี ได้ยินที่ฮั่วเทียนหลันพูด ก็รู้สึกตื่นเต้น จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกไหมนะ

ฮั่วเทียนหลันวางมือถือลง เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าอันหรันกำลังมองเขาอยู่

จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้มีสีหน้าเย็นชา แต่ปีศาจในตัวเขามันทำให้ไม่เห็นความเป็นเทพเจ้าอยู่เลย ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มมุมปาก

อันหรันตกใจ คิดว่าตาฝาด ฮั่วเทียนหลันกำลังยิ้มให้เธอจริงเหรอ

เธอในช่วงเวลานั้นพูดกระอึกกระอัก“คุณฮัว,คุณฮัวคะ,ทานข้าวค่ะ!”

ฮั่วเทียนหลันก้าวไปข้างหน้าเงียบๆ เขารู้สึกว่าเขาโกรธอันหรันจนหน้ามืดไป จริงๆแล้วก็รู้อยู่ว่าเธอทำอะไรผิดมา แต่เมื่อกี้ก็ยังจะยิ้มให้เธออีก

บนโต๊ะอาหาร อันหรันทำอาหารเพิ่มมาอีก 5อย่าง ควบคุมรสชาติอาหารโดย ป้าDing ซึ่งอาหารทั้งหมดเป็นอาหารที่ฮั่วเทียนหลันชอบทาน

เมื่อมองไปยังอาหารที่มีหน้าตาที่ดี กลิ่นที่หอมน่าทาน ฮั่วเทียนหลันก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

“ “เทียนหลัน,อันนี้เป็นอาหารที่คุณผู้หญิงทำ คุณลองชิมสิคะ!”ป้าDingพูดไปยิ้มไป,พลางให้เครดิตกับอันหรัน。

ฮั่วเทียนหลันแอบเหลือบมองอันหรัน อันหรันใบหน้ามีสีแดงจางๆ เธอพูดกระซิบว่า “ไม่ใช่นะคะ,ป้าDingจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ฉันแค่นำมาอุ่นค่ะ……”

ฮั่วเทียนหลันนำตะเกียบมาคีบอาหารใส่ปาก

ตาของเขาเป็นประกาย รับรู้ถึงรสชาติของความอร่อย

เขาชิมอาหารทุกจาน ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าจริงๆแล้วอะไรเป็นอะไร

ฮั่วเทียนหลันเงยหน้ามองอันหรัน แล้วเอ่ยถาม “เธอทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”

อันหรันรู้สึกว่าโดนดูถูก การทำอาหารก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เธอใช้ชีวิตโดยพึ่งพาอาศัยตัวเองมาโดยตลอด ฮั่วเทียนหลันพูดแบบนี้ น่าจะต้องการทำให้เธออับอายหรือเปล่า

อันหรันพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “ก็ทำได้นิดหน่อย”

ฮั่วเทียนหลันนำอาหารคีบเข้าปาก ,หลังจากกลืนอาหารแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “อาหารที่เมื่อก่อนเธอเอาไปส่ง เธอเป็นคนทำใช่ไหม”