บทที่ 8 ตอนที่ 4

 

ณ ตอนนั้นนั่นคือภาพที่โนโซมุได้เห็นขณะหลับ

 

ไอเย็นและไอร้อนโหมกระหน่ำสภาพอากาศที่ขัดแย้งกันไปทั่วทุกดินแดน เกิดการฆ่าฟัน ปล้น มีเพียงไม่กี่คนที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญ

 

เมล็ดที่ปลูกเติบโตได้เพียงวันเดียวและเหี่ยวเฉาได้ภายในวันเดียวเช่นกัน

 

นอกจากนี้การโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรผู้หิวโหยยังส่งผู้คนไปสู่นรก

 

ไม่มีทั้งความหวัง มีเพียงแต่ความหิวโหยและการตายที่พรากชีวิต

 

เขาที่กำลังดูฉากข้างหน้าจากด้านบน

 

 

 

“อะไรกัน……”

 

 

 

นั่นเป็นความคิดแรกของเทียแมต ที่ได้เห็นฉากนั้น

 

ในสภาพแวดล้อมที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ ทั้งหมดก็มลายหายไปเรื่อยๆ

 

โดนคนรักรังเกียจ สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายจนยากที่จะรับมือ

 

ปกติจะคร่ำครวญถึงความไร้พลังของตัวเองและยอมจำนนต่อความตายที่มาถึง

 

แต่ว่า ตัวเธอที่มีพลังแล้วนั้น แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องแบบเธอแต่ก็เป็นสมาชิกของเผ่ามังกร ความแข็งแกร่งของเธอนั้นมีมากกว่ามนุษย์

 

เธอจึงยื่นมือออกไปด้านหน้าเพียงเล็กน้อย

 

ด้วยการใช้พลังของตัวเธอเอง เปลี่ยนพลังของธรรมชาติที่กำลังบ้าคลั่ง

 

ทั่วทั้งพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดและพลังแห่งความตายได้กลืนกินไปทั่วทุกพื้นที่ พลังงานที่ปลดปล่อยออกไปขึ้นไปข้างบนปกคลุมท้องฟ้ายามกลางวันให้กลายเป็นกลางคืน

 

ผลก็คือ ดอกไม้บานที่เหี่ยวเฉากลับมาสดใสมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

เธอสร้างป่าด้วยการใช้พลังงานในขั้วตรงข้ามกับที่เธอมี และต้องขอบคุณทุกคนที่อยู่ที่นั่นทำให้เธอรอดมาได้

 

สำหรับเธอนี่เป็นความจริงใจเล็กๆน้อยๆจะมอบให้

 

อย่างไรก็ตามคำพูดของผู้คนที่เฝ้ามองเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจของเธอมาตลอดแต่มาวันนี้

 

 

 

“ขอบคุณนะ”

 

 

 

คำพูดแรกในชีวิตของเธอที่มอบให้กับมนุษย์ตัวน้อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

ความพอใจ สุขใจ ความมุ่งมั่น และความสำเร็จ

 

จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็เริ่มจะมอบพลังของเธอให้กับเหล่ามนุษย์

 

ทำให้อากาศอบอุ่น แสงแดดที่ดี และ แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์

 

ในฐานะมังกรดำ สิ่งที่เธอทำได้นั้นมีจำกัด แต่มนุษย์ธรรมดาก็แสดงความเคารพต่อเธอ

 

และสำหรับเธอมนุษย์เหล่านั้นก็ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้

 

สัตว์ร้ายผู้หิวโหยได้กลายเป็นตัวตนที่คอยดูแลมนุษย์ และเริ่มอาศัยอยู่ร่วมกัน

 

ในที่สุดเพื่อนๆของเธอก็ได้มาเข้าร่วมและแผ่นดินได้เติบโตเป็นประเทศใหญ่

 

อันฮารันต์ ดินแดนยูโทเปียที่เหล่าวิญญาณ สัตว์ และมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

ตอนนี้การฝึกของเขาระหว่างซอนเน่ถูกพักชั่วคราว โนโซมุก็พบกับไอริสที่หน้าทางเข้าประตูหลักและมุ่งไปยังคฤหาสน์ของเธอ

 

ทั้งสองออกจากประตูหลักและมุ่งหน้าไปยังเขตขุนนางที่พวกเธอตั้งอยู่

 

คำพูดของซอนเน่เมื่อวันก่อนยังคงวนเวียนอยู่ในใจโนโซมุ

 

 

 

「โนโซมุ คิดอะไรอยู่เหรอคะ?」

 

 

 

「เอ๊ะ เอ่อ คือ……」

 

 

 

「ดิฉันได้ยินมาว่าการฝึกกับท่านซอนเน่ถูกพักชั่วคราว ก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ดูจากสีหน้าคุณแล้วคงมีบางอย่างเกิดขึ้นใช่ไหมคะ」

 

 

 

「……อืมม แค่มองหน้าผมก็รู้เลยเหรอเนี่ย」

 

 

 

โนโซมุเดินไปข้างหน้าช้าๆและเล่าเรื่องจากซอนเน่ให้ฟัง

 

อดีตของเทียแมต เมื่อเห็นจุดเริ่มต้นของอัลฮารันต์แล้ว ก็รู้สึกคุ้นเคย

 

ซอนเน่บอกเขาว่าอย่ากังวลหากได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอัลฮารันต์

 

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ความรู้สึกขมขื่นก็ยังคงกัดกินจิตใจ

 

 

 

「ดังที่ตาแก่พูดอย่าได้ใส่ใจนักเลย」

 

 

 

โนโซมุพยักหน้าขณะเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า

 

พระอาทิตย์ทิศตะวันตกยังอยู่สูง แต่แสงแดดหน้าหนาวยังคงแผ่วเบา

 

สำหรับโนโซมุ ฉากนั้นดูเหมือนจะซ้อนทับกับตัวตนปัจจุบันของเขา

 

 

 

「แน่นอนว่าไม่ลืมจุดประสงค์ของตัวเอง เพื่อควบคุมพลังของเทียแมต」

 

 

 

「บางทีอาจจะเจอเรื่องน่าเศร้าเหรอคะ? ไม่คิดเลยนะคะว่าเทียแมตที่ดุร้ายขนาดนั้นจะมีอารมณ์แบบนั้นด้วย」

 

 

 

「เศร้างั้นเหรอครับ ผมเนี่ยนะ?」

 

 

 

「ใช่แล้วค่ะ ตามที่ได้ยินมาเมืองอัลฮารันต์ ล่มสลายไปแล้วใช่ไหม? และสาเหตุเหล่านั้นก็คือมนุษย์และมังกร……」

 

 

 

โนโซมุเห็นด้วยกับคำพูดของไอริส

 

ยังไม่ทราบสาเหตุของการล่มสลายของอัลฮารันต์ อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้มากกว่าใครๆเกี่ยวกับ ความอาฆาตของเทียแมตและความเกลียดชังต่อมนุษย์และมังกร

 

หากเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามนุษย์และมังกรมีส่วนในการทำลายล้างของประเทศนั้น

 

 

 

「มันอาจจะเป็นความฝันของเธอ โลกที่มนุษย์และมังกรอาศัยอยู่ร่วมกัน……。

 

แต่คนที่ทำลายมันกลับเป็นคนที่เธออยากอาศัยอยู่ร่วมกันมากที่สุด」

 

 

 

「ฝันงั้นเหรอ……」

 

 

 

「นั่นสินะคะ เธอเอง…มังกรดำคนนั้นก็มีความฝันเหมือนกัน」

 

 

 

โนโซมุมั่นใจในคำพูดของเธอโดยธรรมชาติ

 

 

 

“ฝัน”

 

 

 

สำหรับอนาคตของตัวเอง โนโซมุยังไม่เคยพบเจอเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนเลย

 

การควบคุมพลังของเทียแมตคือเป้าหมายของโนโซมุแต่มันไม่ใช่ความฝัน

 

สำหรับโนโซมุในตอนนี้ การมีอยู่ของ “ความฝัน” นั้นช่างเจิดจ้าราวกับดวงดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

 

 

「อึก!」

 

 

 

แค่คิดแบบนั้นโนโซมุก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา

 

เทียแมตเองก็คงไม่ต่างจากเขา

 

เช่นเดียวกับตัวเขาที่พูดถึงความฝันของเพื่อนสมัยเด็ก เทียแมตอาจจะได้หัวเราะกับเพื่อนสมัยเด็กเช่นเดียวกับตัวเขา และความฝันเหล่านั้นก็พังทลายลงแทบจะในลักษณะเดียวกัน

 

ความคิดดังกล่าวแล่นเข้ามาในใจของโนโซมุ

 

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาหลุดพ้นจากความสิ้นหวังนั้นก็คือตัวตนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเธอนั้น พลังของเธอ ความฝันของเธอ มันยิ่งใหญ่เกินไป เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่ายิ่งคาดหวังมากเท่าไรยิ่งผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น」

 

 

 

ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือธรรมชาติอันแท้จริงระหว่างโนโซมุกับเทียแมต

 

นั่นเป็นเหตุผลที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากเขา

 

 

 

「ถ้างั้นควรจะทำยังไงดีล่ะครับ……」

 

 

 

「ไม่เห็นจะต้องกังวลไปเลยนี่ค่ะ?」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

โนโซมุอดไม่ได้ที่จะสงสัยกับคำพูดของไอริส

 

 

 

「ดังที่ท่านซอนเน่กล่าว อดีตของเทียแมตก็คือของเธอ มันไม่เกี่ยงข้องกับโนโซมุเลย และไม่ใช่สิ่งที่โนโซมุต้องไปยึดติดด้วย

 

เป็นเพียงความทะนงตัวเท่านั้นแหละค่ะที่คุณคิดจะแบกรับภาระเหล่านั้นเอาไว้

 

เมื่อมันจบลงแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะโนโซมุไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ทั้งฉันและเธอ」

 

 

 

「นั่นสินะครับ……」

 

 

 

ไอริสพูดบางอย่างที่ตรงไปตรงมา แต่คำพูดของเธอนั้นถูกต้องที่สุด

 

เดิมทีโนโซมุรู้สึกถึงความเกลียดชังและความระมัดระวังในตัวของเทียแมต

 

เหตุผลที่จู่ๆเขาพูดสิ่งที่ทำให้เขาสนใจเทียแมต ก็เพราะว่าอดีตที่เธอคนนั้นพยายามทำให้เขาเห็น

 

ในแง่หนึ่งสิ่งนี้อาจจะเรียกได้ว่าภาพหลอนหรือความทรงจำในอดีตที่คอยหลอกหลอนตัวเทียแมต

 

 

 

「ในกรณีนั้น แค่เป็นตัวของตัวเองและเผชิญหน้ากับเทียแมตก็พอค่ะ」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

「สิ่งที่เรียกว่า “การเผชิญหน้า”กับ”การแบกรับ”มันต่างกันนะคะ จนถึงตอนนี้ โนโซมุพยายาม “แบก”อดีตของเทียแมตด้วยอารมณ์ชั่วครู่ นั่นคือสิ่งที่เธอควรรับผิดชอบและไม่ใช่สิ่งที่โนโซมุควรเข้าไปก้าวก่าย

 

 สิ่งที่โนโซมุควรทำคือเผชิญหน้ากับเธอต่อไปโดยยังคงรักษาเจตจำนงของตัวเองเอาไว้ ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่คอยเชื่อมทั้งสองเข้าหากัน」

 

 

 

ทุกสิ่งที่เราทำในโลกนี้ถือว่าเป็นการเผชิญหน้ากับบางสิ่งบางอย่างอยู่เสมอ

 

การฝึกที่โนโซมุและซอนเน่กำลังร่วมมือกันทำคือการเผชิญหน้ากับเทียแมตและควบคุมพลังของเธอ

 

การฝึกดาบและการศึกษาในประจำวันเผชิญหน้ากับการขาดประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง การสนทนากับผู้อื่น การะทะเลาะวิวาท และการโต้แย้งล้วนเป็นการเผชิญหน้าบางสิ่งบางอย่าง

 

ในกรณีนั้นไอริสกล่าวว่าสิ่งที่โนโซมุควรทำต่อเทียแมตคือ “การเผชิญหน้า”เทียแมตโดยที่คงความเป็นตัวเอง

 

แม้ว่าเส้นทางเหล่านั้นจะยากลำบากยิ่งกว่าการปล่อยวางซึ่งทุกสิ่ง ท้ายที่สุดแล้วคู่ต่อสู้ของเขาก็คือมังกรดำที่โดนความเกลียดชังและความสิ้นหวังกลืนกินมากว่าห้าพันปี

 

หากยังอยากควบคุมพลังนั้น ก็ไม่สามารถที่จะเลี่ยงการเผชิญหน้ากับวิญญาณของเทียแมตได้

 

 

 

「เสียใจก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ เสียใจได้เห็นใจได้ ไม่เป็นไรที่จะรู้สึกสงสารหรือโกรธแม้แต่นิดเดียวค่ะ

 

 แต่ว่าจงเก็บงำความรู้สึกเหล่านั้นไว้ใกล้หัวใจของตัวเองและหันหน้าเข้าหามันแทนที่จะแบกรับมันเอาไว้ ถ้าเป็นแบบนั้นท่านซอนเน่ก็คงจะพูดแบบเดียวกัน?」

 

 

 

「ขณะที่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้……」

 

 

 

เพื่อที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าจึงต้องสร้างทางขึ้นมาด้วยตัวเอง

 

ในเวลานั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประเด็นคือ “ความรู้สึกอันรุนแรง”และ”อารมณ์ที่ร้อนรุ่ม”ภายในตัวเอง มันไม่ใช่แค่ความเห็นอกเห็นใจ

 

 

 

「อ่า ใช่แล้วล่ะ นั่นคือความพิเศษของเธอใช่ไหม? เช่นเดียวกับที่เธอทำ เหมือนที่สร้างความสัมพันธ์ใหม่กับลิซ่า……」

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น โนโซมุเบิกตากว้าง

 

เมื่อเห็นเขาทำสีหน้าเช่นนั้น ไอริสก็ยิ้ม

 

 

 

「ฉันมีความสุขมากเลยค่ะ การที่โนโซมุกล้าเผชิญหน้ากับฉันโดยตรงไม่ต้องหลีกหนีเหมือนที่ฉันพยายามเผชิญหน้ากับเธอ ดิฉันหวังว่าโนโซมุจะอยู่เคียงข้างฉันตลอดไปนะคะ……」

 

 

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

 

「ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ เอาล่ะ รีบไปที่คฤหาสน์กันเถอะค่ะใกล้จะหมดเวลาซ้อม」

 

 

 

ด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอ เธอหันหน้าและเริ่มเดิน

 

ผมสีขาวยาวสลวยของเธอปลิวไสวไปตามสายลมขณะอาบแสงแดดยามบ่าย

 

โนโวมุหลงใหลในรูปลักษณ์อันสง่างามของเธอ

 

 

 

「ไอริส……」

 

 

 

「คะ?」

 

 

 

「ขอบคุณนะครับ」

 

 

 

「ฮุฮุ ยินดีค่ะ……」

 

 

 

ไอริสเดินหน้าต่อไปและโนโซมุก็ไล่ตามเธอไป

 

ขณะที่มองดูแผ่นหลังของเธอขณะที่เธอเดินอยู่ข้างหน้าเขาโนโซมุก็นึกถึงคำพูดที่เธอบอกก่อนหน้านี้

 

จริงอยู่ที่ตอนนี้ผมไม่มี “ความฝัน” เลย แต่ผมมี “ความรู้สึก”

 

เพื่อนปัจจุบันของผม ผมต้องการปกป้องคนที่ยอมรับตัวผม ผมจึงต้องการเอาชนะคำสาปอันทรงพลังนี่

 

ด้วยความรู้สึกอันแรงกล้าในใจ โนโซมุจึงไล่ตามเธอไป

 

แต่ในเวลานี้เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่า

 

อัญมณีที่เรียกว่า “ความฝัน” ที่โนโซมุต้องการในตอนนี้ การแสดงออกของสิ่งนั้นก็คือ “ความแข็งแกร่งของตัวเขา”

 

 

ป.ล. หายไปหลายวันสองสัปดาห์ เนื่องจากช่วงสงกรานต์ไปไหว้หลุมศพพ่อช่วงปีใหม่ไทยทุกปี หลุมศพตายายที่เพิ่งเสียงไปเมื่อปีที่แล้ว 

ร่วมงานปีใหม่กับทางบ้าน ทำให้มาไม่ได้ถึงสองสัปดาห์ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ช่วงนี้วันหยุดผมมีน้อยมาก

ยังกลับมาแปลเพื่อจะจบเรื่องนี้อยู่เน้อ

 

ใครสนใจจะช่วยค่าข้าวน้องหมาแมวช่วยผู้แปลได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/True Wallet