แม้ว่าผู้เล่นจะระดมโจมตีเออร์กัต(ในนามของความยุติธรรม) แต่ความหนังเหนียวของเขาก็เกินความคาดหมายของผู้เล่น แม้ว่าผู้เล่นกลุ่มอื่นจะเอาชนะบิชอปชุดดำได้สำเร็จและรีบเข้ามาช่วย พวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะเออร์กัตได้ง่าย ๆ

นี่เป็นเรื่องปกติ ท้ายที่สุดแล้วเออร์กัตก็เป็นผู้ศรัทธาระดับสูงสุดภายใต้เทพเจ้ากระดูกเน่า และเป็นอาร์คบิชอปที่มีอำนาจมากที่สุดในลัทธิกระดูกเน่า

อันที่จริงพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเออร์กัตคือการเปลี่ยนซากศพของศัตรูให้กลายเป็นกระดูกเน่า และอันเชิญโครงกระดูกสีดำออกมาต่อสู้เพื่อเขา เขาเคยใช้ความสามารถนี้พลิกกระแสการต่อสู้กับวิหารแห่งความรุ่งโรจน์ และสามารถพาคนในลัทธิจำนวนมากหลบหนีได้สำเร็จ

แต่พลังนี้กลับไม่สามารถใช้ออกมาได้เพราะผู้เล่นไม่ได้ทิ้งศพไว้หลังจากที่พวกเขาตาย…

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อาจใช้ไม้ตายของเขาได้ แต่เขาก็ยังสามารถต่อสู้กับผู้เล่นมากกว่า 20 คนได้โดยที่ตัวเขาเป็นฝ่ายเหนือกว่า นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างแท้จริง

โชคดีที่มาตรวัด HP ของเขากำลังลดลงอย่างช้า ๆ ในอัตราคงที่

“ก็แค่นั้นแหละ…”

หลังจากร่ายกำแพงกระดูกดำเพื่อปัดป้องการโจมตีของผู้เล่น ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ข้าฆ่าชายคนนั้นไปเองกับมือมา 3 ครั้งแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังวิ่งไปมาต่อหน้าข้าเหมือนแมลงสาบ…ดูเหมือนว่าความมั่นใจที่พวกมันมีในการปิดล้อมข้า จะเป็นเพราะความสามารถในการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องของพวกมัน!”

เออร์กัตไม่คิดว่าผู้เล่นจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้จริง ๆ ท้ายที่สุดแล้วเทพแห่งความตายระดับสูงสุดอย่างฮาเดส ก็ไม่ใช่เทพที่เป็นมิตรและรักสนุก หลังจากที่เขาเอาชนะเทพแห่งความตายยุคโบราณ เขาก็มีอิทธิพลเหนือกฎแห่งความตาย และเทพเจ้ากระดูกเน่าที่เออร์กัตศรัทธาก็เป็นลูกกระจ๊อกของราชาแห่งความตายฮาเดส…

ในความคิดของเออร์กัต ผู้เล่นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับอันเดธโครงกระดูกที่ถูกเรียกมาโดยสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จัก แม้ว่าพวกมันจะถูกทำลาย พวกมันก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ด้วยเวทมนตร์ของอันเดธ เช่นเดียวกับโครงกระดูก และสามารถถูกเรียกออกมาใหม่ได้เรื่อย ๆ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือค้นหาผู้ร่ายเวท และสังหารเขาซะ

หากเป็นเช่นนั้น เขาก็แค่ต้องทำให้เจ้าพวกหนอนแมลงเหล่านี้อ่อนแอลงแทนที่จะฆ่าพวกมัน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็ไม่ได้ซ่อนพลังงานอันชั่วร้ายของเขาเอาไว้อีกต่อไป เขายกไม้เท้าขึ้นสูงและกระทุ้งมันลงกับพื้น พลังงานกระดูกเน่าที่ชั่วร้ายไหลลงสู่พื้นเหมือนกับสายน้ำ ลวดลายสีดำกระเพื่อมจากด้านล่างของไม้เท้า ครอบคลุมทุกพื้นที่ของที่ซ่อนลับอย่างรวดเร็ว!

“ดีบัฟ ‘การกัดกร่อนของกระดูกเน่า’ มันคืออะไร๊ HP สูงสุดของข้ากำลังลดลง!”

“ไม่ใช่แค่ HP สูงสุดเท่านั้น สเตตัสทั้งหมดของข้าก็ลดลงด้วย…”

“เชี่ย MP สูงสุดของข้าลดลงจนข้าใช้ทักษะอะไรไม่ได้เลย ข้าจะสู้กับบอสตัวนี้ได้ยังงายยย”

ใบหน้าของผู้เล่นต่างบิดเบี้ยว เมื่อพวกเขาอ่อนแอลง

เออร์กัตยิ้มเมื่อเห็นว่าแผนของเขาได้ผล

“เจ้าพวกนอกรีต เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้ด้วยวิธีการง่อย ๆ เช่นนี้รึ? ไม่! คนที่จะชนะคือข้า เออร์กัต!”

หากการฆ่าหนอนแมลงเหล่านี้จะทำให้ผู้ร่ายเวทเรียกพวกมันออกมาได้อีกครั้ง เขาก็แค่ต้องปล่อยพวกมันไว้ที่นี่ และหาทางฆ่าผู้ร่ายเวท!

ในขณะนั้นก็ได้มีเงาร่าง ๆ หนึ่งปรากฏขึ้นที่ทางเข้าของที่ซ่อนลับ

เป็นเด็กสาวผมสีบลอนด์อ่อนสวมเกราะรบ

แม้ว่าท่อระบายน้ำใต้ดินจะมืดมิด แต่ในช่วงเวลาที่เธอปรากฏตัว แสงอันอบอุ่นก็ดูเหมือนจะส่องทะลุผ่านเมฆและพื้นดินตกกระทบลงมาที่ตัวเธอ ทำให้เธอมีรัศมีแห่งความอบอุ่นและศักดิ์สิทธิ์

หญิงสาวถือธงรบขณะที่เธอก้าวเข้ามาในที่ซ่อนลับ สีหน้าของเธอเคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์

เออร์กัตรู้ว่าเธอเป็นใคร เมื่อเธอปรากฏตัวขึ้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าศัตรูเหล่านี้มาจากไหน และทำไมพวกมันถึงได้โจมตีเขา

“ยาการัน เป็นเจ้า!”

เจ้าหญิงแห่งเทียร์ร่า หมาขี้แพ้ ที่ถูกเขาขับไล่ออกไปจากแลงแคสเตอร์ เธอปรากฏตัวออกมาต่อหน้าเขาในรูปแบบที่เขาไม่คาดคิด!

ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือความจริงที่ว่าแมลงสาบที่เขาไม่สามารถฆ่าได้เหล่านี้ เป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!

มันจะเป็นไปได้ยังไง? เทพเจ้าแห่งเกมเป็นเทพที่อ่อนแอมากจนไม่สามารถปกป้องอาณาจักรของผู้ศรัทธาได้ไม่ใช่รึ?

หลังจากที่เทียร์ร่าถูกทำลาย เทพเจ้าแห่งเกมก็ไม่เคยเคลื่อนไหว และผู้ศรัทธาของเขาก็ได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในท่อระบายน้ำเหมือนเต่าที่ไม่กล้าออกมาเจอแสงสว่าง

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าศาสนจักรของเทพเจ้าแห่งเกมนั้นอ่อนแอ เขาคงไม่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ซ่อนของเขาตั้งแต่แรก

ตอนนี้เออร์กัตได้แต่เสียใจและเกลียดชังศาสนจักรของเทพเจ้าแห่งเกม ถ้าเทพของพวกมันแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมพวกมันถึงได้ปิดซ่อนเรื่องนี้เอาไว้! ถ้าเขารู้ว่าเทพของพวกมันจะเลวร้ายมาก (เติม S เข้าไปอีกหลาย ๆ ตัว) ขนาดนี้ เขาคงจะเลือกที่ซ่อนอื่นเพื่อซ่อนตัวและไม่มาที่นี่เพื่อให้ถูกทุบตีเช่นนี้หรอก…

“โอ้ แนวหน้าของศาสนจักรของเรา! โปรดฟังเจตจำนงของเทพเจ้าของเราและมอบความไว้วางใจให้กับสหายของเจ้า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อตัวเจ้าเท่านั้น แต่เพื่ออนาคตของสหายเราในอนาคต! จงเอาดินแดนที่เคยเป็นของเรากลับคืนมา! ข้า ลีอา•ยาการัน ในนามของเทพเจ้าแห่งเกม ข้าจะเปลี่ยนธงนี้ให้เป็นไลฟ์สโตน จงสร้างป้อมปราการและแนวรบ และนำชัยชนะกลับมา!”

เมื่อเธอพูดเช่นนั้นเธอก็ยกธงที่ถือไว้ในมือขึ้น ขณะที่ธงปลิวสะบัด มันได้เผยให้เห็นตราสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งเกมที่ส่องสว่างบนผืนธง

จากนั้นเธอก็ปักเสาธงลงกับพื้น ทันใดนั้นพลังงานกระดูกเน่าที่กระจายออกไปทั่วพื้นโดยเออร์กัตก็เริ่มถูกขับไล่โดยรัศมีของธงรบที่เต็มไปด้วยพลังงานศักดิ์สิทธิ เมื่อเสาธงเข้าใกล้กับพื้น

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เออร์กัตก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่จะปล่อยให้หญิงสาวปักธงรบของเธอได้สำเร็จ เขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้นี่แหละคือผู้ร่ายเวท เมื่อเขาเห็นผู้เล่นที่ตายฟื้นคืนชีพขึ้นมารอบ ๆ ตัวเธอ เขาโจมตีลีอาทันทีโดยยิงลำแสงสีดำเข้าใส่เธอ

แต่พลังของเขาก็ถูกผู้เล่นใช้ร่างกายของตัวเองเป็นโล่บัง!

ผู้เล่นคนนั้นเพียงมองไปที่เออร์กัตก่อนที่เขาจะสลายกลายเป็นจุดแสง แต่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็สืบทอด ‘เจตจำนง’ ของเขา ผู้เล่นเดินเข้าหาลีอาและกลายเป็นกำแพงที่แข็งแกร่ง

“ทำไม!” เออร์กัตตะโกนด้วยความสับสน “เจ้าเสียสละตัวเองเพื่ออะไร! เทพเจ้าแห่งเกมให้อะไรกับเจ้าบ้าง? ชีวิต? พลัง? ข้าสามารถให้เจ้าได้ 5 …ไม่สิ 10 เท่า!”

พลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในธงนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังงานกระดูกเน่า และภายใต้ความพยายามของลีอา มันก็ได้ทำลายกำแพงที่สร้างขึ้นโดยพลังงานกระดูกเน่าและปักตรึงลงบนพื้นดิน!

วินาทีถัดมาธงรบก็ได้หายไปและมีแท่นบูชาเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาแทนที่

“ชีวิตและพลังที่ชั่วร้ายของเจ้า เจ้าเก็บไว้ใช้เองเถอะ” เอ็ดเวิร์ดกล่าว “ตั้งแต่แรก ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจผิด ชีวิตของเราไม่ใช่สิ่งที่เทพเจ้าของเราจะโยนทิ้งไปง่าย ๆ ตรงกันข้าม สิ่งที่เทพเจ้าของเราประทานให้แก่เราคือชีวิตใหม่!”

ขณะที่ไลฟ์สโตนสีฟ้าลอยขึ้นสู่แท่นบูชา พลังงานกระดูกเน่าที่ฝังอยู่บนพื้นก็ถูกทำลายทันที ดีบัฟของผู้เล่นถูกล้างออกและแทนที่ด้วยบัฟจำนวนมาก!

ตรงกันข้ามกับผู้เล่น เออร์กัตกลับดูอ่อนแอลง เขาเหมือนกลายเป็นคนแก่

“โอ้~เทพเจ้าแห่งเกม โปรดมอบชีวิตใหม่ให้กับเรา!”

ผู้เล่นตะโกนขึ้นพร้อมกันขณะที่พวกเขาบุกเข้าโจมตีเออร์กัตเป็นครั้งสุดท้าย

—————————————————————————————————————————————————————-