ตอนที่ 97

Silver Overlord

97 – ประกาศผลการสอบ

พระอาทิตย์กำลังตกดินในไม่ช้า แต่ด้านนอกของสถาบันศิลปะการต่อสู้ของมณฑลชิงไห่ยังคงมีผู้คนพลุกพล่าน ผู้คนนับไม่ถ้วนยังคงรออยู่นอกสถาบันการศึกษา

ในบรรดาคนเหล่านี้ที่รอคอยมีทั้งพ่อแม่พี่น้องของผู้เข้าสอบศิลปะการต่อสู้ตลอดจนคนรับใช้พ่อบ้านและเพื่อนในวัยเดียวกัน

สำหรับพลเมืองของมณฑลชิงไห่การสอบศิลปะป้องกันตัวประจำปีนั้นคล้ายกับงานเทศกาลที่สำคัญมากที่สุดในมณฑล

ในวันปกติตราบใดที่ครอบครัวใดก็ตามที่มีลูกชายที่มีอายุเหมาะสมคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือคำถามที่ว่า ‘ลูกของเจ้าพร้อมที่จะเข้าร่วมการสอบศิลปะการต่อสู้ในปีนี้หรือไม่’

‘ช่วงนี้ความแข็งแกร่งของเขาเป็นอย่างไรบ้าง? ‘ หรือ ‘เขาได้รับเลือกให้เข้าศึกษาที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ของแคว้นผิงซีหรือยัง?’

สถานการณ์แบบนี้เหมือนกับการสอบเข้าวิทยาลัยในชีวิตที่ผ่านมาของเอี้ยนลี่เฉียง การสอบเข้าวิทยาลัยทุกครั้งจะส่งผลกระทบต่อหัวใจของทุกครอบครัว

ท่ามกลางการรอคอยผู้คนที่กระสับกระส่ายที่รวมตัวกันนอกสถาบันศิลปะการต่อสู้ยังมีผู้หญิงอีกสองสามคน

พวกนางโดดเด่นเหมือนดอกไม้สีแดงท่ามกลางพุ่มไม้สีเขียว พวกนางเป็นแม่สื่อในมณฑลที่มีอายุพอสมควรแล้ว แต่ยังคงแต่งตัวด้วยสีสันสดใส แม่สื่อเหล่านี้ตาคมและกะล่อนจริงๆ พวกนางมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารและข้อมูลในมือของกลุ่มคนที่ทำอาชีพเดียวกัน

เจตนาของพวกนางก็ชัดเจนอยู่แล้วคือต้องการเฟ้นหาเด็กหนุ่มที่มีศักยภาพ เพื่อที่พวกนางจะได้ติดต่อพวกเขาให้แต่งเข้าตระกูลใหญ่บางตระกูล

เป็นที่น่าสังเกตว่าแม่สื่อเหล่านี้จะยุ่งมากที่สุดในช่วงการสอบศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลหรือประจำแคว้น

นอกจากแม่สื่อเหล่านี้แล้วยังมีผู้ส่งสารอีกสองสามคนในชุดสีแดงพร้อมกับม้าของพวกเขาที่มีฆ้องห้อยลงมาจากอาน

พวกเขายืนห่างจากฝูงชนในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูจากข้างสนาม ผู้ส่งสารเหล่านี้มักจะรับงานในการเผยแพร่ข้อมูลหรือส่งจดหมายถึงผู้อื่นและจะรวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันตือเพื่อหารายได้อย่างรวดเร็ว

หากพวกเขาเร็วพอและโชคดีพอพวกเขาอาจฉวยโอกาสเผยแพร่ข่าวดีเกี่ยวกับสามอันดับแรก รางวัลที่พวกเขาจะได้รับจากการแบ่งปันข่าวอาจเทียบเท่ากับการทำงานหนักหนึ่งสัปดาห์

หากผู้ที่ติด 3 อันดับแรกมาจากตระกูลใหญ่แล้วพวกเขาสามารถแจ้งข่าวได้ทัน บางทีรางวัลที่พวกเขาได้อาจจะมากมายกว่ารายได้ประจำเดือนของพวกเขาซะอีก

โดยไม่รู้ตัวว่าฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่รอบๆทางเข้าหลักของสถาบันศิลปะการต่อสู้ก็เกิดความโกลาหลขึ้น

“นี่มัน! ผลการสอบศิลปะการต่อสู้ปีนี้ออกมาแล้ว … !” มีคนตะโกน

เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องผู้คนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาทั้งโดยรู้ตัวพวกเขาบุกเข้าสู่ทางเข้าของสถาบันศิลปะการต่อสู้ราวกับคลื่นยักษ์

กลุ่มเจ้าหน้าที่สถาบันวิชาศิลปะการต่อสู้เดินออกมาจากทางเข้าหลักและรวมตัวกันเป็นวงกลมเพื่อปิดกั้นฝูงชนที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา

พวกเขาผลักดันสูงชนออกไปพร้อมกับตะโกน

“หลีกทางทุกคนหลีกทางหากพวกเจ้ายังบุกเข้ามาแบบนี้ทุกอย่างจะยิ่งช้าลง! เมื่อพวกเราติดประกาศพวกเจ้าจะได้เห็นเอง!”

ฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงโห่ร้องและในที่สุดฝูงชนก็ถูกผลักดันออกสู่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลชิงไห่ก็สามารถติดป้ายประกาศที่ด้านหน้า เจ้าหน้าที่อีกหลายคนยังป้องกันพื้นที่ไม่ให้ฝูงชนบุกเข้ามาได้

พวกเขาติดแผ่นป้ายขนาดใหญ่สีแดงซึ่งอยู่สูงจากพื้นประมาณ หนึ่งวาทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ทันทีที่พวกเขาวางประกาศเสร็จผู้คนที่อยู่โดยรอบก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไปและแห่กันเข้ามาในทันทีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทันได้ออกไปด้วยซ้ำ

กลุ่มเจ้าหน้าที่รีบถอยห่างจากที่ว่างตรงหน้าประกาศเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับฝูงชนที่รออยู่ ทุกคนจ้องมองไปที่ด้านบนสุดของม้วนเกียรติยศนั้นทันที

“จักรวรรดิฮั่นอันยิ่งใหญ่ปีที่ 12 แห่งการครองราชย์หยวนผิงเขตโจวแคว้นผิงซีมณฑลชิงไห่ การสอบเกียรติยศแห่งศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑล”

สามอันดับแรกในการสอบศิลปะการต่อสู้ ที่หนึ่ง: เมืองหลิวเหอ เอี้ยนลี่เฉียง ที่สอง: เมืองชิงไห่ เสิ่นเติ้ง ที่สาม: เมืองหลานกู่ สือต้าเฟิง

ในรายชื่อการจัดอันดับสามชื่อแรกมีขนาดใหญ่และเด่นชัดที่สุด ถัดจากชื่อสือต้าเฟิงเป็นชื่อของคนอื่นๆอีกเจ็ดคนที่ติดอันดับหนึ่งในสิบ

ชื่อของพวกเขาเล็กกว่าชื่อของพวกเอี้ยนลี่เฉียงเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันพวกเขาไม่ได้รับการจัดอันดับ แต่ชื่อของพวกเขาถูกจัดเรียงตามลำดับอักษรแทน

หลังจากสิบชื่อแรกจะตามด้วยชื่อผู้สมัครสอบอีกสี่สิบคนและสถานที่กำเนิด

เมื่อเห็นรายชื่อนี้บางคนก็ดีใจบางคนผิดหวังบางคนก็ตื่นเต้นดีใจบางคนถอนหายใจและส่ายหัว

แต่โดยธรรมชาติแล้วคำถามเกิดขึ้นในใจของทุกคน เอี้ยนลี่เฉียง เอี้ยนลี่เฉียงคือใคร? เมืองหลิวเหอมีเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด? ‘

การสนทนาเกิดขึ้นท่ามกลางฝูงชนโดยเฉพาะเหล่าแม่สื่อหลายคน ทันทีที่พวกเขาเห็นชื่อสามอันดับแรกในรายชื่อพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มขอข้อมูลเกี่ยวกับเอี้ยนลี่เฉียง เสิ่นเติ้ง และสือต้าเฟิง

“หือ? ข้าคิดว่าข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเอี้ยนลี่เฉียงคนนี้มาก่อน”

ชายวัยกลางคนในฝูงชนดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ทันทีเมื่อเขาเห็นชื่อของเอี้ยนลี่เฉียง

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาผู้คนจำนวนมากจากรอบข้างก็แห่กันเข้ามาทันที “ ทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับวิธีการช่วยชีวิตเหยื่อจมน้ำที่มาจากมณฑลหวงหลงหรือไม่?”

“เจ้ากำลังพูดถึงวิธีที่ใช้แท่งอ้ายเย่ลนที่ใต้สะดือใช่ไหม! ไม่กี่วันที่ผ่านมาเด็กสี่คนจมน้ำตายในหมู่บ้านของข้า เราใช้วิธีนั้นในตอนท้ายและสามารถช่วยเด็กสองคนที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังไปแล้วให้ฟื้นกลับมา!”มีใครบางคนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“ถูกต้องนั่นเป็นวิธีที่ข้ากำลังพูดถึงเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่ข้าไปที่เมืองมณฑลหวงหลงเพื่อซื้อของ ข้าได้ยินใครบางคนพูดถึงเรื่องนี้ที่ร้านอาหาร

เขาคนนั้นพูดว่าเด็กคนหนึ่งดูเหมือนว่าชื่อเอี้ยนลี่เฉียงจะเป็นคนถ่ายทอดวิธีนี้ออกมา ว่ากันว่าเขาได้รับพิธีการนี้มาจากเทพที่เข้าฝันของเขา … “

” โอ้ ? มีเรื่องเช่นนี้…?”

“แซ่เอี้ยนในเขตของเราจะมีกี่คนกัน? เดิมทีแซ่นี้ก็น่าจะเป็นคนจากที่อื่นย้ายเข้ามาอยู่แล้วย่อมไม่สามารถกลายเป็นคนอื่นไปได้ “

“จริง จริงแท้คงเป็นคนเดียวกัน …

อีกคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ข้าจำได้แล้วว่าลูกชายของช่างตีเหล็กเมืองหลิวเหอก็มีชื่อว่าเอี้ยนลี่เฉียง ในปีนี้เขาก็เข้าสอบเช่นเดียวกัน. “

ฝูงชนที่อยู่รอบๆก็อยู่ในความโกลาหล

ผู้ส่งสารมากมายหลังจากทราบข่าวพวกเขาก็รีบขี่ม้าออกไปที่เมืองหลิวเหอ หลานกู่ รวมทั้งเมืองมณฑลอย่างรวดเร็ว