ตอนที่ 144 การต่อสู้แย่งชิงอำนาจ

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

144 การต่อสู้แย่งชิงอำนาจ

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】

เมืองหลวง: โกลโดเนีย ห้องราชา

ห้องส่วนตัวของอเล็กซานโดร ตั้งอยู่ในส่วนลึกของวัง ปรกติแล้ว มันเป็นที่ที่มีแค่คนรับใช้ของราชา และคนเหล่านั้นที่ได้เก็บรวบรวมความดีงามจากราชา เท่านั้นที่จะเข้ามาได้

อย่างไรก็ตาม มีสองคนอยู่ในห้องตอนนี้ — หนึ่งนั้นคือราชา และเจ้าของของห้อง ที่นั่งอย่างสบายๆอยู่ที่โซฟา และอีกคน คืออัศวินกิตติมศักดิ์ รีเบคก้า เบลซ ผู้ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขาบนพื้น แต่งตัวไกลจากเสื้อผ้าที่เป็นทางการ

「เข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นมีเหมืองเหล็ก อยู่ในดินแดนของคนป่าเถื่อน」

「ค่ะ มากกว่านั้น เนื้อนั้นของมอนสเตอร์พิเศษ ที่ปรากฏระหว่างทางที่ไปเหมืองด้วยค่ะ」

「ถ้าเช่นนั้น นั่นคือที่เหล็กและเนื้อเกิดขึ้นมาหรือ? ไม่มีการแลกเปลี่ยนลับใชjไหม?」

「ถูกต้องค่ะ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ไม่ได้หลบเลี่ยงกฎหมาย」

ราชาพึมพำ ‘เช่นนั้นหรือ?’ เบาๆ และปิดตาของเขา

「ตั้งแต่ทีแรก ชั้นล่ะสัยว่าคนแบบนั้นจะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้」

แม้อย่างนั้น มันช่วยไม่ได้ ทที่หนึ่งคนจะมีความสงสัย เนื่องจากของหลายอย่าง ได้เข้ามาไหลเวียนอยู่ในตลาดกระทันหัน เพิ่มเติมจากนั้น เจ้าหน้าที่พลพลเรือน ได้เอะอะกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น ดังนั้น การสืบสวนนี้จำเป็น ที่จะต้องเอาใจพวกเขา

เจ้าหน้าที่พลเรือนในเมืองหลวง คิดกันอย่างต่อเนื่อง ว่าขุนนางลอร์ดศักดินา พยายามที่จะหลอกลวงพวกเขา เมื่อมันมาถึงเรื่องภาษี ระหว่างที่ลอร์ดศักดินา ทำกับเจ้าหน้าที่พลเรือน ว่าพวกเขานั้นเป็นนกกาที่น่ารำคาญ และละเลยพวกเขา

「ไม่ว่าจะแบบใด ถ้าเขานั้นไม่ได้ละเมิดกฎหมายใด้ ฉันจะสนใจในเหมืองมากกว่า เจ้ามีข้อมูลใดๆอื่นเกี่ยวกับมันไหม?」

「มันมีรายการอยู่ที่นี่ค่ะ」

รีเบคก้าเสนอชุดเอกสาร ที่มีข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา อดอล์ฟก็มีส่วนช่วย ในการรวบรวมชุดเอกสารนั้นด้วย ดังนั้น ข้อมูลมีรายละเอียดสุดขีด อย่างไรก็ตาม มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ในเรื่องของส่วนที่สำคัญที่สุด

「เจ้าดูเหมือนจะมากความสามารถกว่าผู้อื่น หลายคนได้ไปที่ลอร์ดศักดินาคนอื่น และไม่สามารถที่จะได้ข้อมูลมามากนัก เมื่อพวกเขากลับมา และแม้แต่มีบางคนที่ถูกลดไปเป็นศพด้วยเช่นกัน」

เจ้าหน้าที่ข้อมูล มีตำแหน่งเป็นขุนนางกิตติมศักดิ์ และถูกมอบใบรับรองจากราชา แต่นอกจากจะสามารถที่จะสืบสวนดินแดนของขุนนางลอร์ดศักดินาได้อย่างลับๆ มันเป็นไปได้ ที่พวกเขาจะถูกคร่าชีวา ถ้าพวกเขาไม่ระวัง มันพูดได้ ว่าพวกเขานั้นถูกฆ่าโดยบังเอิญ และเหล่าโจร ได้เอาเขาไปทิ้งในที่รกร้างและจะไม่มีอะไร ที่จะทำเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ นอกจากการที่จะปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในดินแดน โดยไม่ปฏิเสธ ลอร์ดศักดินา ไม่มีหน้าที่ ที่จะปกป้องพวกเขา

「ขอบคุณสำหรับคำพูดแห่งการชื่นชม」

รีเบคก้า เหงื่อออก ขณะที่เธอพูด เธอรู้ ว่าการไม่ถูกเปลี่ยนเป็นศพไปด้วยตัวเธอเองนั้น มันเป็นเพียงโชค

「เจ้าหน้าที่ข้อมูล ยังคลำหาไปทั่ว ดังนั้นแทนที่จะไปดูที่ ฉันอยากจะให้เจ้า รับหน้าที่บริหารผู้อื่น โดยนามแห่งราชวงศ์ของฉัน เจ้าจะได้รับตำแหน่ง เป็นบารอนกิตติมศักดิ์ ถ้าเจ้าเคลื่อนไหวคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลงาน เจ้า ในท้ายที่สุดแล้ว จะได้รับเกียรติกว่านี้ ยิ่งๆขึ้นไป」

การได้ถูกเลื่อนตำแหน่งไปสองขั้นนั้นเหลือเชื่อ แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เมื่อมันเป็นเรื่องของตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ไม่ว่ากรณีไหน การเลื่อนขั้นนั้น มันทำเพื่อที่จะมอบผู้นำให้เจ้าหน้าที่ข้อมูลคนอื่น เพื่อจะให้มั่นใจว่าดำเนินงานได้อย่างราบลื่น แทนที่จะเป็นรางวัลที่มีข้อจำกัดเรื่องผู้สืบทอด พูดอีกอย่าง ตำแหน่ง “กิตติมศักดิ์” จะยากต่อการถอดถอนไปตลอดไป

「ดี เช่นนั้น ทำการเตรียมการทันที และเหมือนเช่นเคย เสนอรายงานให้เพียงฉันแต่เพียงผู้เดียว มันโดยไม่ต้องพูด สำหรับขุนนางอื่นในสภาราชวงศ์ แต่อย่าพูดสิ่งใด กับเคนเนธหรืออีริช โดยที่ฉันไม่อนุฉญาตด้วย」

「หนูจะเก็บเรื่องนั้นไว้ในใจค่ะ พระองค์」

「ถ้าเช่นนั้น เจ้าไปได้」

รีเบคก้าเดินถอยหลัง เพื่อให้มั่นใจ ว่าเธอยังหันหน้าให้กับราชา และออกจากห้องไปเงียบๆ

ข้อมูลคืออาวุธ และมันอาจจะแบ่งปันกับรัฐมนตรีเพื่อคำแนะนำหรือการปรึกษาได้ แต่การตัดสินใจนั้น สุดท้ายแล้วจะถูกสร้างโดยราชา มันไม่สามารถถูกปล่อยให้เล็ดรอดออกไปอย่างช้าๆ หรือไปรู้โดยคนอื่น ที่ราชาไม่รู้จักได้ นั้นก็เหมือนกันกับคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด และได้มอบอำนาจให้ด้วย เคนเนธ และอีริช ก็ด้วย

เคนเนธอธิบดีกิจการรัฐบาล และรัฐมนตรีการเงิน ถูกเรียกมาที่บัลลังก์อย่างรวดเร็ว ราชานำชุดเอกสารที่เขาได้มาจากรีเบคก้า ให้ทั้งสองคนดู เหตุผลที่รัฐมนตรีการเงิน ถูกเรียกมาด้วยกันกับเคนเนธ ที่มีตำแหน่งสูงกว่ ก็เพื่อที่จะใช้คำปรึกษาของพวกเขา เป็นแหล่งอ้างอิง

「……ดังนั้นนั่นเป็นที่มันเป็นอยู่ เหมืองเหล็ก ได้ถูกค้นพบภายใจดินแดนของลอร์ดฮาร์ดเลตต มันปรากฏว่า คุณภาพของผลิตภัณฑ์นั้นก็ค่อนข้างที่จะดีด้วยเช่นกัน」

ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญในสนามนั้นได้บอกมาว่า เขาไม่เคยเห็นเหล็กคุณภาพที่สูงขนาดนั้นมาก่อนเลย และเขาโอ้อวด เกี่ยวกับคุณภาพของวัตถุดิบ แต่ความเป็นจริง นั้นถูกบิดเบือนเล็กน้อยโดยการนำเสนอที่ย่ำแย่ของราชา

「ภายในหมู่การดิ้นรนทางเศรษกิจแบบนี้ มันจะน่าอับอาย ที่จะทิ้งแแหล่งกำเนิดของรายได้แบบนี้ ในมือของลอร์ดศักดินาพื้นที่ เพิ่มเติมจากภาษีการแลกเปลี่ยนให้เมืองหลวง มันจำเป็นต้องมีภาษีพิเศษ สำหรับตัวเหมืองเอง……ไม่ ตัวเหมืองเอง ควรจะถูกทำให้เป็นสมบัติของชาติ ไม่เห็นด้วยเหรอครับ?」

รัฐมนตรีการเงิน หลักๆแล้วคิดถึงประโยชน์ของประเทศเมื่อเขาพูดอย่างนั้น นั่นคือหน้าที่ของเขา

「นั่นจะมีปัญหานะ」

คนที่เสนอการคัดค้าน คืออธิบดีกิจการรัฐบาล และคนที่เป็นตัวแทนรัฐมนตรีพลเรือน เคนเนธ

「จากที่ผมเห็นได้ในรายงาน เหมืองนี้ ลึกเข้าไปในดินแดนคนป่าเถื่อน ที่มีแค่ถนนเส้นเดียวสู่บริเวณนั้น ไม่ต้องพูดถึง มอนสเตอร์ที่น่ารำคาญ ก็ปรากฏขึ้นที่ถนนนั่นด้วย มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปแอบเปลี่ยนมันเป็นสมบัติของชาติ และขนเหล็กมาเป็นระยะไกลขนาดนั้น」

「มันถูกเขียนว่าโรงหล่อบริสุทธิ์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ไม่ใช่เหรอ?」

「แม้ว่าจะมีโรงหล่อ มันไม่เหมือนว่าสินค้าจะถูกขนส่งโดยใช้เวทมนตร์ บวกกันกับคุณต้องการถ่าน และอาหารและน้ำ สำหรับคนงานด้วย อย่าบอกนะว่าคุณน่ะอยาจะขนทั้งหมดนั้น จากดินแดนของราชาไปที่เหมือง เพิ่มเติมจากนั้น ผมมั่นใจ ว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์ จะไม่ให้ความร่วมมือ ถ้าเหมืองที่เค้าดิ้นรนเพื่อที่จะพัฒนา ถูกเอาไปจากเค้า」

มันเป็นไปได้ที่จะบังคับให้เขาร่วมมือ ในนามของราชา แต่ถ้าคนนั้นเอง ไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะทำมัน คนคุ้มกัน อาจจะอู้งาน และการส่งเสบียงจะล่าช้า ในความเป็นจริง มันใช้กำไรและความต้องการ เพื่อที่จะให้ผู้คนทำอะไร ไม่ใช่กฎ และระเบียบ

「มันเหมือนกันในเรื่องของทอง แต่ที่สำคัญที่สุด โกลโดเนีย ขาดเหล็ก เพิ่มเติมจากการเสริมความแข็งแกร่งของทัพ การนำเข้าจากมากราโดได้หยุดลง ดังนั้นการใช้เพียงแต่ของภายในประเทศ จะทำให้เรานั้นแห้งเหือด」

ราคาของเหล็กโกลโดเนีย ได้กระโดดขึ้นไป เกือบจะสองเท่าตั้งแต่่ก่อนสงคราม ในทางกลับกัน ราคาของเหล็กในมากราโด เหลือครึ่งราคาจากที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ ที่มันเสียเป้าหมายส่งออไป ทำให้พ่อค้าและลอร์ดศักดินาที่มีเหมืองได้รับความสูญเสียใหญ่ แต่มันดูเหมือน ทั้งสองชาตได้ใช้ความต่างนี้ และเริ่มทำการแลกเปลี่ยนกันอย่างลับๆนะ

「……อย่างที่คาด การเสริมอำนาจกองทัพ ได้สร้างภาระทางการเงินให้กับเรามหาศาล ดังนั้นชั่วคราว เราควรจะ-」「อ่ะแฮ่ม!」

เคนเนธบังคับให้รัฐมนตรีการเงินหยุด จากการพูดความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาของเขา การเสริมอำนาจกองทัพ เป็นบางอย่างที่ราชาตัดสินใจที่จะทำเอง และรัฐมนตรีการเงิน จะไม่ถูกยกโทษให้ ถ้าเขาได้พูดต่อต้านราชา

「ผมเชื่อว่ามันดีที่สุด ที่จะปล่อยเหมืองไว้ให้กับลอร์ดฮาร์ดเลตต และให้เขาเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์เหล็กมากขึ้น และจากนั้น จัดเก็บภาษีอะไรบางอย่างไปบนนั้น」

มันดูเหมือนว่า ข้อสรุป ได้ถูกไปถึงโดยสรุปกับที่ทั้งราชาและเคนเนธเห็นพ้องต้องกัน

「ถ้าอย่างนั้น มาปรับอัตราการเก็บภาษี หลังจากที่ได้รับส่วนแรกของภาษีแล้ว เค้า้จะต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์เหล็ก และยกระดับกำไร ถ้าเขาอยากจะไปทดแทนส่วนภาษีที่เสียไป」

「นั่นจะเป็นหลังจากสงครามด้วยเหมือนกัน เพราะเขารู้ ว่าการหยุดโจมตีกับมากราโด จะมาถึงจุดจบ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำให้เขาโกรธ กับแค่ภาษีเล็กน้อย บอกเขาแค่ให้เพิ่มการผลิตเหล็กสำหรับตอนนี้ เพื่อช่วยอาณาจักร」

มีแผนที่ของบริเวณที่ล้อมรอบ ในชุดเอกสารรายงาน แต่ค่อนข้างที่จะไม่แม่นยำ บ่งบอกว่าเหมือง อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนชาติภูเขา มากกว่าที่จริงๆแล้วมันเป็น มากกว่านั้น มีรายงานว่ามีการซุ่มโจมตี ของชาติภูเขาสู่คนพวกนั้นที่เดินทางบนถนน แต่ ไม่มีสิ่งใดได้ถูกยืนยัน และถูกปฏิบัติเป็นอะไรที่ไม่มากไปกว่าการรายงานผิดพลาด และอุบัติเหตุจากการฝึก

เคนเนธไปที่หัวเรื่องต่อไป หลังจากคำนับลึกๆ รัฐมนตรีการเงิน ออกจากห้องไป หลังจากที่หน้าที่ของเขาเสร็จสมบูรณ์

「งั้น มีข้อมูลอื่นเหรอครับ?」

「อุมุ ประเทศทางใต้……มันเรียกว่าอะไรแล้วนะ?」

ราชาชำเลืองมองชุดเอกสารในมือ

「ใช่ อาณาจักรมอลต์ รายงานได้มา พูดว่าประเทศนั้นได้รับประสบการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง……แต่ เจ้าคิดเช่นไร?」

「ท่านต้องคุยกับลอร์ดฮาร์ดเลตต์ เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน และสันติของประเทศ ไม่ใช่เหรอครับ?」

「นั่นใช่แล้ว มันเป็นประเทศ ที่มิได้คุ้มค่าที่จะแม้แต่ยึดครอง ดังนั้น ฉันบอกเขาไปว่าให้ทำตามใจ」

ประเทศที่มีประชากร 1 ล้านคน ก็มีอยู่ในทางใต้ แต่ประเทศทำนาอย่างมอลต์์ ไม่ได้มีอุตสาหกรรมพิเศษอะไรโดยเฉพาะ มันไม่ใช่ประเทศที่มีค่าเป็นพิเศษ

「ผมไม่คิดว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์ จะนำตัวเอง เข้าไปวุ่นวายกับความขัดแย้งทางการเมืองกับประเทศนั้น……มีอุบัติเหตุกับเทรียในอดีตด้วย」

 「ฟุมุ พี่ชายของราชินีเยาว์วัย ได้เริ่มก่อกบฏ และราชินีและราชาคนเก่า เห็นว่าลงจากบัลลังก์」   

เมื่อเคนเนธได้ยินคำนั้น ความเหนื่อยล้าในสีหน้าของเขาได้หายไป พี่น้องได้เริ่มกบฏ และพยายามทที่จะชิงบัลลังก์ เมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับขั้นตอนการสืบท้อด — หัวเรื่องที่ไม่ได้แม้แต่จะน่าสนใจพอ ที่จะใส่ไปในหนังสือเรื่องราวทั่วไป

 「ฉันคิดว่ามันน่าขันด้วย แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องกังวล กับบางอย่างที่ขนาดแค่นี้ หรือไม่เช่นนั้นเราจะอยู่ในความตื่นตกใจอย่างต่อเนื่อง จากเรื่องที่เกิดขึ้นรายวัน」   

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตตได้พูดอะไรมั้ยครับ?」   

 「ไม่ เค้าไม่ได้พูดถึงอะไรเป็นพิเศษ เกี่ยวกับความขัดแย้ง」   

 「ถ้าแบบนั้น เราปล่อยเค้าได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา เกี่ยวกับอาณาจักรมอลต์ มันจะง่าย ที่จะขยี้พวกเขา」   

 「นั่นจริงแท้ เราจะทิ้งเรื่องนี้ไว้ให้เขา ให้เค้า ให้เขาทำตามที่เขาประสงค์」   

 「ครับ พระองค์!」   

 「ปัญหาต่่อไป เกี่ยวกับสถาบันศึกษาแห่งราชวงศ์」   

สถาบันการศึกษา ถูกค้นพบ เพื่อที่จะเฟ้นหาผู้บัญชาการ ชื่ออย่างเป็นทางการนั้นคือสถาบันศึกษาแห่งราชวงศ์ อีริชและเคนเนธ ปะทะกันเกี่ยวกับแผนการบริหารจัดการสถานที่นั้น

อย่างเป็นธรรมชาติ อีริช ถูกเรียกมาที่ห้องบัลลังก์

 「พระองค์ ผมหวังถึงสุขภาพที่ดีของท่าน……」    

อีริชคำนับหัวของเขา ขณะที่จ้องเคนเนธอย่างเงียบๆ ศึกที่ไร้ดาบ กำลังจะเริ่มขึ้น

—————————————————————   

【–มุมมอง มอลต์–】   

อาณาจักรมอลต์ เมืองหลวง: เบียโด วังหลวง

 「ฮิลาริโออยู่ไหน?」   

เสียงตะโกนที่ดังและโกรธเคือง ก้องอยู่ในวัง ทำให้คนรับใช้ หันไปสู่ต้นกำเนิดของเสียง

 「แก! ข้าถามว่าฮิลาริโออยู่ไหน!」   

 「หนูไม่เห็นเจ้าชายเบลเซ่ที่-……โอ๊ะะ!」   

พาโบลผลักแม่บ้านไป และไปขนกับกำแพง ซึ่งทำให้หัวของเธอกระแทก จากนั้นล้มลงสู่พื้นที่เข่าของเธอ

 「พวกมึงแต่ละตัวและทุกตัวไร้ประโยชน์ชิบหายเลย!」   

พาโบลที่ตะโกน เตะประตูเปิด ในหนึ่งในห้อง เขาสามารถที่จะเจอคนที่เขาหา

 「ฮิลาริโอ! ถ้ามึงอยู่นี่ งั้นทำไมมึงไม่ตอบกูวะ!?」   

 「กูคิดว่าหมาจรจัดกัดกันในห้องโถงหรือบางอย่างน่ะ」   

 「พูดดอะไรวะ?!! มันเพราะมึงซ่อนตัวเอง!」   

 「ทำไมกูต้องบอกมึงว่ากูอยู่ไหนตลอดเวลาด้วยวะ?」   

ทั้งสองจ้องกัน แต่เมื่อเห็นว่า ไม่มีอะไรจะถูกแก้ในแบบนี้ ฮิลาริโอ กลืนคำพูดของเขาอย่างไม่เต็มใจ

 「งั้น มึงจะเอาอะไร? พูดที่มึงต้องพูด แล้วไปไกลๆได้แล้ว」   

 「จึ มันเกี่ยวกับภาษีโว้ย! รายงานภาษี สำหรับการเก็บเกี่ยวของดินแดนหลวง มันไปถึงแค่มึง นั่นหมายถึงอะไรวะ?!」   

 「แน่นอนดิวะ เพราะมึงเป็นคนของสนามรบ ใช่มั้ย? มึงพูดเอง ดังนั้นปล่อยเรื่องอื่นทั้งหมดไว้ให้กู」   

พาโบลหมดคำพูดชั่วครู่ สิ่งที่ฮิลาริโอพูดมา นั้นเป็นความจริง พวกเขาพูดกันในเรื่องนี้ในการคุยที่ไม่เป็นทางการในอดีต อย่างเป็นธรรมชาติ เขาก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกิจการกองทัพด้วย

 「ถ้าให้เริ่มพูด มึงน่ะมันน้อง ดังนั้นมันมีเหตุผลสำหรับมึง ที่จะฟังทุกอย่างที่กูพูด」   

 「ไร้สาระชิบหาย! ไม่ใช่บรูตัสบอกเราเหรอว่า เราจุดยืนเท่ากัน?!」   

ตอนนี้ ไม่มีราชาในอาณาจักรมอลต์ หลังจากที่เซเลสติน่าหนีไป ฮิลาริโอและพาโบล เป็นผู้ปกครองร่วมกันชั่วคราว ไม่มีทั้งฮิลาริโอ หรือพาโบล ที่ทำตามแผน หลังจากที่กบฏ และไม่มีทั้งสองพี่น้อง ที่จะอนุญาติให้อีกคน เป็นราชา

 「ไอ้นั่นมันยังอยู่ในเตียงอยู่เลย นอกจากนี้ รางวงศ์แบบไหนวะ ที่รอลูกน้องให้บอกพวกแม่งว่าต้องทำอะไร? มึงไม่มีหัวสมองคิดเองหรอไงวะ?」   

 「ฮ่าา! อย่ามาทำให้กูขำเลย!! มึงทำอะไรบ้าง นอกจากปากดีใส่คนอื่น!? บอกกูถึงสิ่งที่มึงทำเองซักอย่าง หลังจากอีเด็กนั้นถูกไล่ไปดิ้!」   

 「……มันไร้จุดหมาย ที่จะพูดอะไรกับคนไม่มีอารยธรรม」   

ในความเป็นจริง เขาไม่ได้ทำอะไรสำเร็จซักอย่าง ตั้งแต่ทีแรก เขาแค่ได้ยินเกี่ยวกับแผนการกบฏ ก่อนที่แผนนั้นจะถูกทำ และได้เข้าร่วมด้วย เพราะมันสะดวกสำหรับเขา เขาจะไม่มีแผน หลังจากที่ได้เก้าอี้ของอำนาจ

บรูตัสได้พูด ว่าการเตรียมการทั้งหมดได้ถูกทำแล้ว เขาเลยรู้สึกสบายใจ แต่เขาได้ป่วยอยู่ในไข้ ตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างที่เซเลสติน่าหนีไป และไม่อยู่ในสภาพ ที่เพียงพอที่จะเคลื่อนไหวไปรอบๆ

พาโบลพยายามจะพาเขายืนครั้งหนึ่ง แต่ถูกหยุดอย่างกระสับกระส่ายโดยหมอ ซึ่งทำให้เขายอมแพ้ เมื่อคิดว่ามมันมีโอกาสเล็กๆ ที่บรูตัสจจะไม่รอด และจะทำให้เขาทำอะไรไม่ได้

 「แต่มึงก็แค่ดูอยู่ข้างหลังเหมือนพวกขี้ขลาดระหว่างสู้ ดังนั้น แม่ว่าจะเป็นคนโต จุดยืนเราไม่ควรเท่ากัน」   

 「แน่นอนโว้ย มึงกล้าพอที่จะก้าวเข้าไปในการเชือด แต่มึงแค่ดูบรูตัสถูกกระทืบหน้ามึง และทหารก็บอกกูด้วย ว่ามึงน่ะเปิดทางให้ไอฮาร์ดเลตต์อย่างเชื่อฟังเมื่อเค้าบอกให้มึงทำ」   

 「น-นั่นเพราะ กูต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบาก ที่จะต้องถอยหนี เมื่อคิดว่าประเทศจะไม่รอด ถ้ากูได้บาดเจ็บ กูชนะไปแล้วถากูเอาจริง!」   

ทั้งสองจ้องตาแข่งกันต่อไป ระหว่างที่อัศวินข้างเขาถอนหายใจ พวกเขาสองคนจะตะโกนใส่กัน และด่ากันทุกวี่วัน และไม่มีอะไรจะก้าวไปข้างหน้า

พวกเขาทั้งสองคน มีแผนที่จะลอบสังหารกันเองอย่างลับๆ แน่ไม่มีใครเลย ในหมู่ลูกน้องจำนวนน้อยนิดของพวกเขา สำเร็จงานได้อย่างดี ผู้คนที่มีความสามารถนั้น ตามบรูตัสไป และจะไม่ทำอะไร ยกเว้นว่าพวกเขาจะได้รับคำสั่งตรงมาจากบรูตัส

การเมืองในอาณาจักรมอลต์ได้มาถึงการหยุดอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากแผลของบรูตัส

—————————————————————   

【–มุมมอง เอเกอร์–】   

ราเฟน

 「ท่านชอบเด็กมั้ย?」   

 

 「อ๋า?」      

เรือนร่างที่ดูเยาว์วัย นอนอยู่ตรงหน้าผม ขาของเรือนร่างนั้นเปิดเล็กน้อย เปิดเผยร่องที่บางและไร้ขนโดยสิ้งเชิง

ผมคิดว่าผมมองตัวที่เปลือยของเซเลสติน่าวินาทีหน่ง แต่กลิ่นผู้หญิงที่ลอยมา ค่อนข้างที่จะหนา

ผมแวะมาที่บริษัทฟลิตช์ คิดว่าจะมาหาแคลร์ ขณะที่ผมดูไปทั่วราเฟน แต่เธอออกไปทำการตรวจสอบที่เหมือง มันดูเหมือนเธอจะกลับมาในเย็นวันนี้ แต่ผมจะไม่รอเธอหลายชั่วโมง แค่เมื่อผมกำลังจะจากและมาใหม่อีกครั้งลอรี่ ผู้หญิงเด็กสาวที่เป็นผู้ช่วยแคลร์ เรียกผม เป็นครั้งแรก ที่เธอทำอะไรด้วยตัวเอง อยู่ในราเฟน เพื่อรับมือกับธุระบางอย่าง

ผมชวนเธอไปดื่มเพื่อฆ่าเวลาไปกับผม แต่เธอนำผมไปที่ห้องนอน ลอรี่ไต่ขึ้นบนเตียง และถอดเสื้อผ้าของเธอทีละชิ้นทีละชิ้น ดั่งพยายามจะแสดงออก ในที่สุด ก็นอนอยู่บนเตียง หลังจากที่ได้เปลือยแล้ว

 「โว่ว นี่หมายความว่าอะไร?」   

 「หนูทำให้ท่านลอร์ดศักดินาซามะผิดหวังไม่ได้ เมื่อเจ้านายไม่อยู่ ได้โปรดมีความสุขกับตัวเองกับหนู」   

 「เด็กไม่ใช่ที่ชั้นชอบ」   

 「ได้โปรดอย่าพูดอย่างนั้น และเริ่มชิมก่อน หนูจะพยายามเต็มที่ แม้ว่าจะเป็นแค่เด็ก」   

มองร่างกายที่เปลือยของเธออีกครั้ง มันไม่ได้ปรากฏว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่อายุ 16 และผมจะไม่สงสัยเธอเลย ถ้าเธอบอกผมว่าจริงๆแล้ว 12 หรือ 13 เธอมีหน้าที่เด็ก และตัวที่เล็ก แขนขาของเธอบาง และหน้าอกแบนเป็นพิเศษ ทำให้มันดูเหมือนหัวนมของเธอพักอยู่บนกระดานแบนๆ เธอไม่มีเอวมากมาย ร่างกายเธอไม่โค้งเว้า และตูดก็เล็กจริงๆ

แต่หว่างขาที่เปิดเล็กน้อยของเธอ และดอกกุหลาบที่ไร้ขนที่กระตุก เชิญชวนผมเข้าไป ระหว่างที่ทำการใส่นิ้วเข้าไปในปากของเธอ และบิดตัวของเธอ มันดูเหมือน เธอสบายใจเมื่ออยู่รอบผู้ชาย

 「อ้า ท่านมีอารมณ์เหรอ?」   

เมื่อเห็นการปูดขึ้นมาในหน้ากางเกงของผม สาวยิ้ม แต่นี่เป็นการตอบสนองแค่เล็กน้อยนะ และกางเกงผมจะขาดไป ถ้าเอ็นของผมได้แข็งจริงจัง

แต่เมื่อมีผู้หญิง ที่มาพร้อมหว่างขาที่เปียกอยู่บนเตียง ตรงหน้าของผมเลย ขอให้ผมโอบกอดเธอ การลังเลตรงนี้ จะหยาบคายกับเธอ จะเป็นอย่างนั้น แม้ว่าอีกคนเป็นเด็กสาว ระหว่างที่หน้าตาของเธอ เหมือนเด็กน้อย จริงๆแล้วเธออายุ 16  และเป็นอายุที่เย่อได้พอดีแบบเกือบๆ

 「ได้เลย มาทำมันเถอะ」   

ผมขึ้นเตียงและยืนลอรี่ขึ้น กอดเธอไว้ใกล้ ขณะที่เธอนำหน้าของเธอ ไปสู่ท้องของผมและอกของผม

 「อาา ช่างเป็นร่างกายที่สมชาย หนูจะแก้ผ้าพี่ น๊ะ?」   

สาวถอดเสื้อผ้าของผมทีละชิ้น หยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอาชิ้นสุดท้ายออกไป

 「ตอนนี้……หนูจะดูอุปกรณ์ของพี่……」   

เธอลดชิ้นสุดท้ายของเสื้อผ้าของผมอย่างราบลื่น และเอ็นของผมเด้งขึ้น ฟาดหน้าผากสาว

 「อะ-!」   

มันแข็งกว่าที่ผมคิดมันน่าจะเพราะเธอนำหัวนมมาถูหลังละขาผม ก่อนจะนำเสื้อผ้าของผมออก

 「พี่แคลร์ซามะได้บอกหนูเกี่ยวกับเจ้านี่……แต่พอมาคิด ว่าเอ็นแบบนี้จะมีตัวตน……」   

 「เฮ้ เฮ้ มันยังแข็งครึ่งเดียวอยู่」   

 「พี่ล้อเล่น ใช่มั้ย? ถ้ามันใหญ่กว่านี้ มันจะไม่เป็น……」   

ผมพนันว่าเธอจะพูดว่าผมจะไม่เป็นมนุษย์อีกแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นอย่างนี้แล้ว ผมจำเป็นต้องให้เธอรับผิดชอบ ผมแทงไปตรงหน้าเธอ ดั่งจะพูดว่าให้เธอดูดมัน

 「หนูเป็นแค่เด็ก และอาจจะไม่เหมาะสม แต่ให้หนูรู้ ถ้าพี่ไม่สบายตัว」   

เธอนำปลายของเอ็นของผมเข้าปากของเธอ หลังจากที่พูดอย่างนั้น

 「ออุ-! เด็กมะเหงกเหอะ」   

ลอรี่ยิ้ม และลิ้นของเธอคืบคลานรอบปลาย ทันทีที่มันเข้าไปในปากของเธอ และดูดอย่างเข้มข้น ทักษะการโม๊กเอ็นของเธอ เพียงพอ ที่จะใช้ชีวิตอยู่เป็นโสเภณี แต่สายตาที่มองขึ้นมาหาผม เหมือนเด็กๆ ที่เรียกร้องว่าอยากเอาถูกเอาใจด้วยขนม

ผมมั่นใจ ว่าเธอทำผู้ชายร่วงมาพอตัวแบบนี้ ผมมั่นใจเลย ว่าอังเดรจะขายร้านและไล่ตามเธอ

 「กุ่อ้า!」   

ลิ้นเล็กๆของเธอ รุกรานรูฉี่ของผม และมอบความเสียวสุดขีดให้กับผม เมื่อเธอปล่อยเสียงที่เหมือนเด็กๆ ที่เหมือนโดนอุดจมูก เมือผมปิดตา มันรู้สึกเหมือนผมถูกบริการอยู่ด้วยโสเภณีที่มีประสบการณ์ แต่เมื่อผมเปิดตา ผมได้ความรู้สึกของเด็กน้อยซนกับผมอยู่ และผมอาจจะไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของลอรี่ แต่เอ็นของผม ดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์จริงๆตอนนี้

 「นืออ นืออ! นืนนนน!? หนึ……หนึโบ่ะ!」  

ขณะที่เอ็นของผมบวมต่อไปในปากของเธอ ลอรี่ ถูกบังคับให้คายมันออกมา และมองดูมันอีกครั้ง ตาของเธอเบิกกว้าง ขณะที่เธอปิดปาก ในความตกอกตกใจ

 「มันเป็นเอ็นที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์」   

 「การพูดเกินจริงอะไรกันนั่น?」   

 「แต่มันไม่ดีเลย ตอนนี้จริงๆแล้วหนูไม่ได้ นืนโหม่ะ……」   

เธอพยายามเปิดปากของเธอให้สุด มากเท่าที่มันจะสุดได้ เพื่อที่ว่าเธอจะรับเอ็นผมเข้าไปได้อีกครั้ง แตรูเปิดเล็กๆ จะไม่พอดีกับอุปกรณ์ของผม เธอน่าจะบังคับมันได้ แต่เธอดูเหมือนจะระวัง ไม่ให้ฟันขูดกับผม

 「หนูดูดไม่ได้」   

 「มันไม่เป็นไรหรอก หนูให้พี่น้ำแตกได้โดยการบีบมันระหว่างต้นขา หรือถูด้วยมือก็ได้」   

ผมได้มีโอกาส ที่จะได้ชิมปรากฏการณ์ที่หายาก ของเด็กสาว ที่เชี่ยวชาญในฝีมือการเย่อแล้ว

 「ยังไงซซะ ถ้าหนูใช้ปากไม่ได้ งั้นหนูจะใช้นี่ ที่นี่」   

ลอรี่ผลักผมลงบนเตียง ผมเลยนอนหงายหลัง จากนั้นเธอจับไม้ของผม และไต่ขึ้นไปบนผม

 「ไม่น่า นั่นเป็นไปไม่ได้」   

มันจะไม่พอดี ไม่ว่าผมจะคิดมันยังไง ผมคิดว่าขนาดของครอลล์ จะพอดีอย่างสมบุรณ์แบบ กับรูที่เธอมี แต่สาว ป้ายน้ำมันบนทางเข้า และไม้เนื้อของผม และให้ตัวเธอเองพร้อม

 「หนูเอาล่ะนะ」   

โดยไม่ฟังคำพูดของผม เธอลดน้ำหนักของตัวเธอลงใส่ผม เธอทิ้งสะโพกของเธอ ลงบนสมาชิกของผม แต่ไม่มีแม้แต่น้อยนิดของปลาย ที่เข้าไป

 「เอออ้!」   

เธอเด้งใส่ผมอีกครั้ง และผลเหมือนกัน

 「ฟฟฟฟู่น!」   

ครั้งนี่ เธอเล็งสะโพกของเธอ และกระโดดใส่เอ็นของผม

 「โอ้ย-!!」   

แต่แม้แต่นั่น มีแค่ปลายที่น้อยนิด ที่แทงเข้าไปในเธอ

 「เห็นยังว่าพี่ว่าไง มันเป็นไปไม่ได้หรอก ดังนั้นหยุดเถอะ」   

 「หนูก็เป็นผู้หญิงนะ และหนูมีศักดิ์ศรี」   

เธอนั่งงอตัวครึ่งหนึ่งบนเอ็นของผมแและวางทั่งสองมือ เพื่อกดสะพกของเธอ

 「ใช้ความแข็งแรงที่พี่ภาคภูมใจนักหนาา และยัดมันใส่เข้าไปเลย」   

 「เอ่อ นิดหน่อยนะที่นั่นมัน-」   

ผมกลัว ว่าจะทำลายรูของเธอพังอย่างสิ้นเชิง

 「มันไม่เป็นไร หนูจะไม่เป็นผีมาหลอกพี่ แม้ว่าพี่จะแทงหนูตาย」   

ถ้าเธอพูดซะขนาดนั้น งั้นผมจะพยายามนิดนึงละกัน

 「งั้น เอาล่ะนะ……โซซร่าา-」   

 「อึกก………………」   

ผมกอดเอวบางๆของสาวเข้ามาชิดกายผม และแทงสะโพกของผมขึ้้นไป เนื้อของเธอแหกออก และท้องบางๆของเธอเริ่มบวมพูด มันไม่ได้มากมาย จนผมรู้สึกถึงทรงเอ็นของผมได้จากการแตะนั้น แต่ผมบอกได้อย่างแน่นอน ว่าทรงของไม้เนื้อของผม ได้หาตำแหน่งของมันในท้องของเธอ และขยายมันอย่างชัดเจน

เธอไม่ได้วีดว้าย ผมเลยเอาโอกาส ยัดตัวผมเองไปถึงข้างหลัง แม้อย่างนั้น เอ็นไม่ได้ถึงแม้แต่ครึ่ง เข้าไปข้างใน

 「นี่มันเหลือเชื่อ เป็นอะไรมั้ย? โอ้ เฮ้」   

ขณะที่ผมดันไปถึงสุดทาง หน้าของลอรี่ ล้มมาที่ท้องของผม เมื่อผมตรวจดูในความเร่งรีบ ผมเห็นว่าเธอสลบไปและตาเธอเหลือกกลับไป เวล ผมก็ซะผ่อนคลลายเลย เมื่อเธอไม่วีดว้าย

 「เฮ้ เฮ้ ตอบพี่」   

ผมพยายามจะเรียกเธอ แต่ไม่มีการตอบสนอง ผมคิดจริงจังว่าผมฆ่าเธอด้วยเอ็นของผม แต่เสียงนุ่มๆครวญออกมา เมื่อผมเขย่าไหล่ของเธอ

 「……อื้นนน หนูอะไรอยู……」   

ลอรี่ยังอยู่ในสภาพล่องลอยซักพัก แต่กลับมาอย่างรวดเร็ว กลับมามีสติ และกดมดลูกของนาง

 「หนูขอโทษ! มันเป็นเอ็นที่ใหญ่ขนาดนี้ จนสติหนูบินเลย!」   

 「ไม่เป็นไรหนู ต่อได้มั้ย?」   

 「ค่ะ แรกกดดันมันหายใจไม่ออก แต่หนูไหว」   

ผมไม่คิดว่าเธอไหวเลยซักนิด แต่ผมเดาว่าเธอพยายามจะแตกให้เร็วๆ

ผมโยกสะโพกของผมอย่างอ่อนโยน และสร้างความรักกับลอรี่ ที่ขี่อยู่บนผม เราพยายามทำกันท่าสุนัขด้วยเหมือนกัน แต่เธอสติบินหลังจากที่ผมแทงเธอไปทีเดียว จากนั้นเรากลับไปที่ตำแหน่งอื่นในความรีบ

เหมือนนักกายกรรมเล่นกัน ผมก็พยายามจะยกสาวตัวเล็กๆขึ้น ด้วยเอ็นของผมแค่อย่างเดียว ขณะที่ผมเย่อเธอ อย่างที่คาด มันดูเหมือนมันทำให้เธอกลัวเล็กน้อย ลอรี่เลยจับไหล่ของผม และยิ้ม

 「อ่ะฮ่า พี่ทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหมือนกัน! มันจะหะ-…….ไม่ ไม่มีทางที่อะไรหนาขนาดนี้จะหัก」      

เธอยังมีสีหน้าที่เจ็บปวดบนหน้าของเธอ แต่มันดูเหมือนเธอรู้สึกชินกับมันอย่างช้าๆ ผมเลยเล่นไปทั่วกับเธอ ทำให้มั่นใจ ว่าสองเรามีความสุขกับมัน และด้วยนั่น ผมเริ่มที่จะรู้สึกเหมือนการน้ำแตกในไม่นาน

 「มันจะถึงแล้ว」   

 「ได้โปรดยิงมันข้างใน เค๊?」   

 「ใช่ พี่จะไม่ฟังนะ ถ้าหนูมาบอกให้พี่หยุด」   

ขณะที่ผมกอดลอรี่ ระหว่างที่เธอหันหน้าหาผม ผมผลักเธอเข้าใส่กำแพง ขาทั้งสองของเธออยู่ในอากาศ แต่รัดเอวผมอย่างแน่น

 「ได้โปรดอย่ายั้งมือ แม้ว่าหนูจะสลบ」   

 「สบายใจแล้วแตกซะนะ! โซร่าาา!」   

ผมดันเอ็นของผมลึกเข้าไปในร่างน้อยๆของเธอ อุปกรณ์ที่ใหญ่อย่างขนาดที่ไม่เหมาะสมกัน เข้าและออกร่างน้อยๆของสาวน้อย ทำให้ปลายมันถูกับข้างในที่นุ่มและเนื้อแน่น เรือนร่างของเธอดิ้นไปทั่วอย่างน่าขันขณะที่เล็บของมือ จิกขูดไหล่ผม จะจิกกดเข้าไปในหลังของผม

 「น๊าาาาาาา! ใหญญญ่ มาาาาาาก–!! หนูจะแหก จิ๊ลอรี่จะแหก!」   

เธอน่าจะจงใจทำ เพื่อที่จะให้ผมตื่นเต้นไปมากกว่าเดิม ส่ายหัวของเธอซ้ายขวาและกรีดร้อง มันอาจจะสายเกินไปที่จะพูดอย่างนี้แล้ว แต่เสียงของเธอก็เหมือนเด็กด้วย

 「แม้ว่าลอรี่จะยังเป็นเด็กน้อย…….เอ็นที่ใหญ่และดำของพี่เคานต์ซามะเข้ามาในหนู! น้ำม่ายดีที่เหนียวๆ จะยิงเข้ามาในลอรี่เหรอ? พี่เคานต์ซามะรู้สึกเสียว จากรูของเด็กน้อยไม่มีขนมั้ย?」   

เด็กคนนี้เปลี่ยนน้ำเสียงของเธออย่างราบลื่น โดยไม่พูดติดขัดเลย ตะโกนคำที่หวานในความรู้สึกดี ผมไม่ควรจะเข้าไปในเด็กแบบนั้น แต่เอ็นของผม ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

 「หนูมันเด็กซนที่เล็ดน้ำเงี่ยนตัวเมียออกมามากแบบนี้ พี่จะลงโทษหนู」   

 「ม่ายย! หนูจะโดนลงโทษษษษ~ หนูจะโดนลงโทษอย่างซุกซนจากกุจ๊าว~」   

เธอสนุกมากกกว่าที่ผมคาดหวังไว้

 「พี่เคานต์ซามะขา! หนูชอบพี่! หนูรักพี่! รักพี่ รักพี่นะจ๊ะพี่จ๋าาา!」   

เธอเพิ่งบอกผมว่าเธอขอบผม ผมมั่นใจว่ามันเป็นการแสดงในส่วนของเธอ แต่ไม้เนื้อของผม บวมต่อไป สาวก็ค่อนข้างที่จะมีความรู้ว่าจะทำให้ผู้ชายมีอารมณ์ยังไง

แม้อย่างนั้น ลอรี่เริ่มพัง เมื่อผมเริ่มขยับสะโพกของผมอย่างแรง

 「ใช้รูเล็กๆของลอรี่……เพื่อที่-!? อื้นนนน! อ๊า อ๊า อ๊า!! โอ่ววววววว-!!」   

การแสดงที่เหมือนเด็กของเธอพังทลาย เธอแลบลิ้นออกามาจากปาก และหยุดพูดอะไรที่มันฟังรู้เรื่อง

 「เป็นเด็กเสร็จรึยัง?」   

 「น-นั่น-! น๊าาา! ม-ไม่ไหวแล้ว……มากขนาดนี้เส-……จะแตกแล้ว!!」   

เธอร้องอย่างดังเป็นพิเศษขณะที่เธอโดนจับด้วยผม ระหว่างที่ตัวของเธอเกร็งขึ้น รูสวาทของเธอ รัดผมแน่นอย่างน่ารัก ก่อนที่มันจะหมดกำลัง ขณะทีผมดูดคอซีดๆของเธอ ระหว่างที่ผมพรั่งพรู

 「โอออ้!」   

พร้อมด้วยเสียงน้ำเต้นเป็นจังหวะ ท้องของสาวขยาย ระหว่าที่เรือนร่างของเธอกระตุกอย่างไร้สติ

 「อาา……นั่นดีนะ」   

หลังจากที่ดึงเอ็นของผมมาจากลอรี่ ผมม้วนเธบนเตียง และกอดเธอระหว่างที่นอนข้างเธอ ในที่สุด ผมก็นอนกับเด็ก

ผมจะทำให้มั่นใจ ว่าสร้างความรักกับเด็กคนนี้ให้มากมาย ก่อนที่เธอจะได้สติกลับมา สำหรับที่ให้ผมได้มีความสุขกับตัวเอง ผมจับหน้าอกของเธอ ซึ่งมันยังไม่โต และดูต้นคอของคอของเธอ แต่ผิวของเธอนั้นสวยจริงๆนะ ผมควรจะไปดู ว่าเด็กทั้งหมด มีผิวที่สวยแบบนี้มั้ย

—————————————————————   

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/แคลร์–】

หลายชั่วโมงต่อมา 

 「ลอรี่ เสร็จงานที่พี่ฝากหนะ-……เออออ๋!?」   

แคลร์กลับมาบ้าน สู่กลิ่นน้ำกามลอยอยู่ในห้อง และส่งเสียงตะโกนออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเธอเห็นลอรี่ นอนอยู่บนเตียง

 「ยินดีต้อนรับกลับมา……หนูขอโทษจริงๆ หนูยืนไม่ไหวตอนนี้ ดังนั้นได้โปรดยกโทษให้หนูที่เป็นแบบนี้ด้วย」   

 「เกิดอะไรขึ้น!? พี่เคานต์ซามะเหรอ?」   

มีแค่คนเดียวที่เข้ามาในใจ ที่ลดผู้หญิงให้กลายเป็นสภาพนี้ได้

 「โง่จริง เค้าไม่ใช่บางคนที่รับมือกับร่างกายของน้องได้นะ เค้าไม่ทำน้องพังเหรอ?」      

 「เกือบน่ะ……โอวว」   

มันอาจจะแหกไปนิดหน่อย แต่มันน่าจะกลับมาเป็นปรกติ หลังจากเวลาซักพัก

 「ยังไงซะ พี่เดาว่าไม่เป็นไร ถ้าเค้าพอใจ……」   

มันมีความหมายมากกว่าหลายเท่า ที่จะเอาอกเอาใจลอร์ดศักดินา มากว่าการทำงานที่ละเอียดที่เธอฝากไว้

 「งั้น มันเป็นยังไงบ้าง?」   

 「พี่เคานต์ซามะเป็นคนจริงๆเหรอ? หนูน่ะได้ถูกแหย่และได้ให้ความเสียวกับชายที่มีเอ็นใหญ่มาก่อนในอดีด แต่ไม่ใช่ระดับนั้น……ถ้าให้หนูยกตัวอย่าง」   

「「ออร์ค」」

ทั้งสองคนพูดที่เวลาเดียวกัน ทำให้หัวเราะกันเอง

 「และพี่เค้าไม่ได้มีแค่ขนาดด้วย เค้ามีทักษะที่เหลือเชื่อ……จิ๊หนูยังเสียวๆอยู่เลย」   

 「นั่นใช่แล้ว แม้ว่าชั้นยังวีดว้ายและถูกทำให้ฉี่แตกด้วยหลังจากทั้งหด」   

 「การผสมผสานแบบนั้น มันฆ่าผู้หญิงได้จริงๆ ไม่ใช่เหรอ มันทำให้หัวใจของผู้หญิงคนใดๆก็ได้ในเมืองหวั่นไหวก็ได้ ถ้าพวกเธอโดนข่มขืน」   

 「น้องตกหลุมรัก?」   

 「ค่ะ หนูอยากจะเป็นคนรักของพี่เค้า」   

พวกเธอหัวเราะ เมื่อพวกเธอมองกัน พวกเธอรู้ ว่าทั้งสองล้อเล่นกันไปทั่ว พวกเธอทั้งสอง ยังมีอะไรที่ต้องทำ หลังจากทั้งหมด

 「หนูควรจะไปครั้งหน้า และไปขอเค้า」   

 「นั่นจะไม่เป็นไรเหรอ?」   

 「เคานต์น่ะ ใจดีสุดขีด กับสาวที่เค้านอนด้วย เค้าควรจะฟังที่เธอขอ แม้ว่าพวกมันจะเยอะไปนิดหน่อย ช่างที่ดูแลเรื่องเสบียง สร้างเครื่องตกแต่งที่มากเกินไป มันไม่เป็นไร ทีจะใช้พวกมัน」   

 「งั้นหนูจะทำอย่างนั้น แต่ในแบบนี้ หนูจะเป็นนักโทษ ของเอ็นบะลั่กคั่กนั้น และเข้าฮาเร็มเค้าเลยนะ」   

 「อย่าโง่น่า แต่มันอาจจะดี ที่จะท้อง น้องจะขยับไม่ได้ไปครึ่งปี แค่เค้าน่าจะฟังส่วนใหญ่ที่น้องขอ」   

 「ลูกเป็นเรื่องรองเหรอ? ช่างเป็นผู้หญิงที่ร้ายน่ะพี่น่ะ」   

 「เหมือนเธอจะพูดได้แหน่ะ นอกจากนี้ ไม่มีทางเลย ที่การมีลูกของลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นเรื่องแย่ และคนนั้น จะช่วยน้องแน่ๆ……ถ้าพี่อยากจะเริ่มมีชีวิตใหม่ พี่ก็ไปแทนหนูได้ด้วย」   

มุขตลก ได้ถูกโยนไปทั่ว แต่แสงในตาของพวกเธอ ยังคงเข้มแข็ง สองหญิง ยังคงมีเป้าหมาย ที่สูงกว่านี้

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 146,000 เมืองศูนย์กลาง ราเฟน: 16,000

กองทัพที่บัญชาการ: 4000 , 400 ในกองกำลังสำรอง

สินทรัพย์: 45,200 ทอง (ตกแต่งคฤหาสน์ -500) (รับสมัครกองกำลังสำรอง -200) หนี้: 20 000 ทอง

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกดวอร์ฟ,  ดาบเหล็กกล้ามือเดียวชั้นสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย),เมล (ภรรยาน้อย), คู (คนรัก), รู (คนรัก), มิเรล (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสกาม), เคซี่ (ผี). มิทตี้ (คู่หมั้น), อัลม่า, ครอลล์ (ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คู่หมั้น), ริต้า (คนรักเอ็นใหญ่), แคทเธอรีน (คู่หมั้น), โยกุริ (หมกตัวอยู่แต่บ้านยุคใหม่), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก อยู่ในเมืองหลวง), เซเลสติน่า (ราชินีลี้ภัย), โมนิก้า (นางกำนัล)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่าและคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่เพื่อสันติสุข), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), กิโด้ (คนคุ้มกัน), ทริสตัน (ผู้ติดตาม), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดาราหญิง)

คู่นอน: 130, เด็กที่เกิดแล้ว: 31

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 9/66

ค่าเน็ต 100/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม ได้โปรดสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ ซื้อตอน จองตอน แจ้งได้ทาง Facebook ครับ