132 ส่งมอบยาน

11 – 14 นาที เล่ม 4

มันเป็นสามวันตั้งแต่เราทำการล่าโจรสลัด เราไม่ได้ทำการล่าโจรสัดอีกหลังจากหนึ่งครั้งนั้นแล้วแค่ใช้เวลาอาศัยอยู่กันในกฤษณะ

เอ๋? เราจะไม่เป็นไรที่ไม่ทำงานกันหรือ คุณถาม? มันไม่เหมือนว่าเราอยู่โดยไม่มีรายได้ไม่ได้ตอนนี้ แล้วเมื่อยานแม่ถูกส่ง เราจะทำการออกงานร่วมกันกับกฤษณะ จากนั้นกลับไปสู่การล่าโจรสลัดต่อ กฤษณะพร้อมลุยแล้ว ตัดสินจากผลงานของมันกับการออกศึกครั้งก่อน

อืม ยังไงมันก็ไม่เหมือนว่าเราแค่ใช้เวลาทั้งหมดของเราอยู่ในยานอยู่ดี ผมไปช้อปปิ้งกับมีมิ เที่ยวบาร์ดวอร์ฟกับเอลม่า แล้วไปค่ายทหารของกองทัพอิมพีเรียลกับเมย์เพื่อจะรับรางวัลค่าหัวจากโจรสลัดผู้เราเพิ่งกวาดลาง

รางวัลสำหรับพวกโจรและกำไรจากการขายลูทที่เก็บมารวมกัน 135,000 อีเนล รางวัลค่าหัวคือ112,000 อีเนล และกำไรจากลูทคือ 23,000

เงินเดือนของมีมิเพิ่มจาก 0.5% สู่ 1% ดังนั้นส่วนแบ่งของเธอจากเงินรวมคือ 1,350 อีเนล ส่วนแบ่งของเอลม่ายังคง 3% ดังนั้นส่วนแบ่งเธอคือ 4,050 อีเนล หลังจากหักลบส่วนแบ่งของพวกเธอ ส่วนแบ่งของผมมมีจำนวน 129,000 อีเนล

มันดูเหมือนผมได้รับส่วนแบ่งรายได้แบบสิงโตตัวผู้ แต่นั่นไม่ใช่แบบนั้นจริง

ยานเป็นของผม 100% และผมก็ทำหน้าที่เป็นนักบินหลัก

ผมก็รับภาระภาระสำหรับอาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัยสำหรับพวกเธอสองคน แล้วผมก็จำเป็นต้องมอบผลประโยชน์คนร่วมงานด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจริงๆแล้วเป็นภาระผมเยอะ พิจารณานั่น ส่วนแบ่งของผมจะไม่ได้ดูเหมือนไม่มีเหตุผลเลยสักนิด กิลด์ทหารรับจ้างคือหนึ่งผู้ตั้งรายได้ลูกจ้างสแตนดาร์ด ดังนั้นผมไม่คิดว่ามันโกงฝ่ายไหน

ถ้ายานเป็นเจ้าของร่วมกัน เปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งจะค่อนข้างต่างออกไป คนหนึ่งมีส่วนร่วมมากเท่าไรกับการซื้อยานหลักนั้นดูเหมือนเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการตัดสินใจของการคำนวนส่วนแบ่งรางวัล

“ในที่สุดเราจะได้รับยานแม่แล้ว!”

มีมิพูดเสียงแหลมในความตื่นเต้นระหว่างเราอยู่บนทางไปสู่ท่าส่วนตัวที่ยานแม่ใหม่เอี่ยมถูกจอด

“ใช่ มันรู้สึกเหมือนน๊านนาน พูดถึงแล้ว เธอตัดสินใจชื่อยานใหม่ยัง ฮิโระ?”

“ชื่อหือ…… ใช่ เราควรตัดสินใจชื่อ ฉันค่อนข้างลืม”

อะไรจะดี ผมสงสัย ผมไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับชื่อยานกลับไปเมื่อผมเล่นเกมแล้วจริงๆแล้วใช้ชื่อที่ตั้งมาแต่ต้น

“สกิซบราซูนิลไม่ผ่านเหรอ?”

“ไม่ค่อยอ่ะ แต่ รู้ป่ะ…… ฉันอยากได้หนึ่งซึ่งมีคำน้อยกว่า”

คำหือ แต่สกิซบราซูนิลฟังดูค่อนข้างเรียบๆ และเมื่อมาคิดดูแล้ว สกิซบราซูนิลคือชื่ออันมาจากตำนานปรัมปราของนอร์สระหว่างกฤษณะคือชื่อของผู้กล้าคนหนึ่งในตำนานอินเดียผมเชื่อว่าท่านคือหนึ่งของการจุติพระวิษณุ มันยากในการจะคิดชื่อที่อยู่ในทำนองเดียวกันกับทั้งสอง

เพราะทั้งหมดพวกท่านนั้นมาจากตำนานต่างกัน

และผมสามารถจะรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดกฤษณะเมื่อผมค้นหาในอินเตอร์เน็ตบนความอยากกลับไปเมื่อผมได้ยานตอนแรก ถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น ผมจะไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับมันเลยสักนิด

หืมม ให้ผมลองคิดๆบางอย่างขึ้นมาจากความรู้ของอินเตอร์เน็ตซึ่งผมจำแทบไม่ได้ โอ้ ผมคิดว่าผมได้หนึ่งแล้ว

“ถ้าครุฑล่ะดีมั้ย?”

“ครุฑ?”

“มันคือชื่อของนกศักดิ์สิทธิ์ผู้ทำหน้าที่เป็นพาหนะของเทพเจ้าน่ะ กฤษณะคือชื่อของการจุติใหม่ของเทพเจ้าตั้งแต่แรก และพระวิษณุ บุคลิกลักษณะของท่านในฐานะพระเข้า ขี่ครุฑ; นกศักดิ์สิทธิ์ผู้ส่องแสงสว่างเท่าแสงไฟอันงดงาม”

จริงๆแล้วผมไม่รู้จริงว่าพระวิษณุขี่ครุฑจริงไหมตั้งแต่แรกเพราะผมไม่ได้ค้นหาในอินเตอร์เน็ตกลับไปตอนนั้น แต่ยังไงก็ใครสนล่ะ

“นกหือ…… อืม แต่ยานไม่ได้ดูพริ้วเหมือนนกนะ”

“……หืม เธอพูดถูก”

สกิซบราซูนิลค่อนข้างดูเป็นยานถึกๆแล้วมีรูปลักษณ์ซึ่งไกลจากความสง่างามและพริ้วไหวอันเกี่ยวข้องกับนก แน่นอนว่าไม่เหมาะ

“หืม ถ้าบัวล่ะดีมั้ยถ้าอย่างนั้น?”

“บัว? นั่นชื่อของต้นไม้นี่ ถูกมั้ย? หรือมันดอกไม้แล้วนะ?”

“ช่าย มันชื่อทั้งต้นทั้งดอกที่มันออก ในบ้านเกิดของฉันเทพเจ้าถูกมองว่านั่งอยู่บนดอกบัวบ่อย”

ผมพูดถึงเกี่ยวกับท่านั่งดอกบัวอันล่ำลือกัน พระเจ้าและพระพุทธเจ้าถูกเขียนอยู่บ่อยครั้งว่านั่งหรือยืนอยู่บนพวกมันในจิตกรรมฝาผนังกับรูปปั้น เพราะมันคือที่นั่งซึ่งถูกใช้โดยเทพเจ้า ไม่ใช่มันเหมาะพอดีเลยหรือ? ยังไงก็มีสัมพันธ์ใกล้กันระหว่างศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธอยู่ดี

“แต่ดอกบัวมีสีขาวถึงชมพูอ่อนนี่ ถูกมั้ย? ยานแม่ของเราสีหลักคือสีดำ ดังนั้นมันยังไม่เหมาะเลยอ่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นเราแค่เรียกมันว่าบัวดำ มันค่อนข้างชื่อฟังดูยิ่งใหญ่ แล้วแพงด้วย”

“ยิ่งใหญ่แล้ว…… แพง……?”

“ช่างมันเถอะ”

มีมิเอียงหัวในความสับสนหลังจากได้ยินผมพูด มันคือชื่อที่เพิ่มเสน่ห์ขึ้นหรืออะไรก็ตามอย่างน้อยสามแต้ม นั่นเป็นพิเศษสำหรับคนบ้ารถของจริง

<วายุ: บัวดำคือ รถสปอร์ตสองที่นั่งรุ่น โลตัส อีลิสที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ปี 1994 แล้ววางขายในปี 1996 โดยโลตัสคาร์>

“ยังไงซะ อย่างน้อยบัวดำฟังดูเหมาะกว่าครุฑมาก”

“ใช่ นั่นถูกแล้ว ตั้งชื่อมันตามดอกไม้ค่อนข้างน่ารักด้วย”

“โอเคถ้าอย่างนั้น เธอโอเคกับชื่อด้วยมั้ย เมย์”

“ค่ะ”

เมย์ผู้กำลังตามหลังเราพยักหน้าเงียบๆ  ผมและดวงตาเมย์สีดำ เครื่องแบบเมดของเธอผสมกันระหว่าขาวและดำ เธอขับยานชื่อว่าบัวดำมันตรงใจอย่างน่าตกใจ

“เรากำลังรอพวกคุณทั้งหมดอยู่เลย”

เมื่อเรามาถึงท่าส่วนตัวแล้ว เราพบซาร่ากำลังรอเราที่นั่น  มีคนอื่นๆมากับเธอ แต่ผมรู้จักแค่ซาร่า อืม ดวอร์ฟชายผู้ยืนใกล้ซาร่าค่อนข้างคุ้น ผมว่า เขาอาจเป็นหนึ่งในหัวหน้าของบริษัทผู้มาหาเรากับเธอไม่กี่วันก่อน พูดจากใจ ดวอร์ฟชายทั้งหมดมีหนวดหนาๆ มันเลยค่อนข้างยากที่จะแยกพวกเขา

“เฮ้ ในที่สุดมันก็ได้เวลาหือ”

หลังจากทักทายพวกเธอ ผมมองขึ้นไปยานแม่ใหม่แกะกล่อง; สกิซบราซูนิล – บัวดำ มันใหญ่กว่ากฤษณะหลายเท่า

กฤษณะค่อนข้างใหญ่แล้วแม้ว่าจะถูกกำหนดหมวดหมู่มาว่าเป็นยานเล็ก แต่แม้แต่มันสองลำก็ยังเทียบไม่ได้กับขนาดยานหน้าผม

รุปแบบโดยรวมเรียบง่ายมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะดูใหญ่

จริงแล้วมันมีส่วนโค้งเยอะ และเกือบไม่มีส่วนไหนของตัวถังเรียบโดยสิ้นเชิงเลย นี่จงใจหรือ? มันเป็นบางอย่างเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครสร้างหรือบางอย่างอย่างนั้นหรือ?

จากด้านข้าง ภาพรวมไกลๆมันค่อนข้างคล้ายกับไรเฟิลเลเซอร์ หัวยาน ซึ่งยื่นออกมาอย่างน่าชม มีรูปทรงเหมือนเสาสี่เหลี่ยมพร้อมมุมเป็นโค้ง ปืนหลายกระบอกติดตั้งซ่อนอยู่ภายใต้เซกชันเกราะเคลื่อนที่ ซึ่งจะสไลด์ออกเมื่อระบบอาวุธถูกใช้งาน

อีเอ็มแอลแคลิเบอร์ใหญ่ ตั้งอยู่บนส่วนบนของตัวยาน และมันก็ถูกซ่อนอย่างฉลาดด้วยเกราะเคลื่อนที่ได้ชิ้นใหญ่ ที่เมื่อใช้งานเราะจะสไลด์ไปด้านข้างแล้วเปิดเผยมันเหมือนป้อมปืนลับ

“มืม ยอดเยี่ยม มันดูเท่จริงๆ”

พวก ยานใหม่นี่ทำให้หัวใจผู้ชายเต้นด้วยความยินดี บัวดำ ซึ่งติดอาวุธถึงซอกมุมด้วยคำสั่งของเมย์ ทางเทคนิคแล้วเหนือกว่ากฤษณะในแง่ของอำนาจการยิงโดยรวม

อีเอ็มแอลยากต่อการใช้ มันเทียบได้กับปืนหลักของแบ็ตเทิลชิปกองทัพอำนาจการทำลายล้างเพียวๆ แม้แต่กฤษณะยังจะไม่ไหวถ้ารับการโจมตีตรงๆจากบางอย่างแบบนั้น ขณะสำหรับพวกโจรสลัด พวกมันจะกลายเป็นเศษขยะอวกาศในพริบตา

ในแง่ของสเปก มันเป็นคู่แข่งได้กับคลาสครูซเซอร์ของยานรบอิมพีเรียล อย่างไรก็ตาม ยานลำเดียวยังไม่สามารถจะจัดการทั้งกองยานอิมพีเรียลได้ สเปกของมันไม่สำคัญ กองทัพอิมพีเรียลมียานเป็นพันๆอันเทียบเท่าหรือดีกว่าบัวดำ ดังนั้นแน่นอนว่าเราจะแพ้ถ้าเราไปหาเรื่องกับกองกำลังแบบนั้น

กฤษณะแค่สามารถรับมือกับกองยานสหพันธรัฐเวเรเวเรมกลับไปบนระบบดาวเทอร์เมนเนื่องจากใช้งานทริคหายากเท่านั้น ถ้าเรารับกองยานนั้นซึ่งๆหน้า เราจะถูกเป่าเป็นจุณ

ถ้าอย่างนั้นศัตรูจะยิงบัวดำร่วงได้อย่างไรหรือ? มันดูเหมือนตัวถังด้านล่างเป็นจุดบอด ถ้าพวกเขาโฟกัสการโจมตีไปที่นั่น มันเป็นไปได้ที่จะทำมันร่วงได้ เพราะทั้งหมดมันจะอันตรายที่จะใช้มันในการต่อสู้ตรงๆ

“ตาของฮิโระซามะดูเหมือนมีประกายอยู่บนพวกมันเลย”

“พวกผู้ชายส่วนใหญ่ทำตัวเหมือนเด็กน้อยหน้ายานใหม่น่ะ มีมิ”

“……นายท่านน่ารักมาก”

ผมตกใจโดยคำพูดเมย์แล้วหันสายตาไปตั้งใจมองเธอ ตาของมีมิกับเอลม่าก็เปิดกว้างในความตกใจแล้วทำแบบเดียวกันตามมาด้วย

“มีอะไรเหรอ?”

“ม-ไม่ ไม่มีอะไร”

ผมแค่ตกใจโดยคำพูดคาดไม่ถึงของเธอ พอมาคิดว่าเธออธิบายถึงผมว่าน่ารัก

ตอนนี้ผมค่อนข้างอายที่นี่แล้ว

“หนูดีใจนะคะที่พวกคุณทั้งหมดดูเหมือนจะชอบมัน”

ซาร่าก็มีรอยยิ้มอ่อนโยนบนริมฝีปากด้วยขณะเธอเฝ้าสังเกตผมตื่นเต้นกับยานแม่ใหม่ อึ่ก ช่างพลาด

“โอเคถ้าอย่างนั้น ไปทัวร์ข้างในดีมั้ย?”

“ได้ โอเค”

เราขึ้นทางลาดที่ถูกนำลงมาโดยซาร่าแล้วขึ้นยาน ส่วนหนึ่งของภายในถูกตกแต่งใหม่สู่พื้นที่อยู่อาศัยอันเทียบเท่าได้กับกฤษณะ แต่ทางเดินที่เราเดินกันอยู่ตอนนี้ดูค่อนข้างพื้นฐาน แม้อย่างนั้น พวกมันแสดงความเชี่ยวชาญของผู้ผลิตยานโดยทำให้มั่นใจว่าทางเดินกว้างอย่างมีเหตุผลแล้วไม่มีอะไรยื่นซึ่งไม่จำเป็นที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุถ้าหนึ่งคนไม่ระมัดระวัง มันรู้สึกค่อนข้างประณีต และมันดูเหมือนคุณจะไม่บาดเจ็บแม้ว่าคุณไปชนเข้ากับกำแพงโดยอุบัติเหตุ

“มันดูเหมือนกำแพงดานในยานถูกปิดไว้ด้วยวัสดุกันกระแทก”

เอลม่าชี้ออกมาในความทึ่งขณะเธอจับกำแพงสีขาว ผมก็ลองจับมันด้วยเหมือนกัน มันเป็นวัสดุอันน่าหลงใหล มันไม่มีความเงาและรู้สึกเหมือนพลาสติด แต่ถ้าคุณออกแรงกดบนมัน วัสดุจะจมผมอธิบายมันอย่างไรดี? เอ่อ พลาสติกเหลว? ผมไม่คุ้นเคยกับวัสดุประเภทนี้เลยสักนิด

บางทีน่าจะเป็นวัสดุไฮเทคมีอยู่แค่ในมิตินี้้เท่านั้น

“ค่ะ นี่จะทำให้มันเป็นไปได้น้อยลงว่าจะได้รับการบาดเจ็บเมื่อหนึ่งคนถูกกระแทกเข้ากับกำแพงเนื่องจากการกระแทกภายนอกหรือการเคลื่อนที่กระทันหัน แล้วมันก็ยังเป็นฉนวนกันความร้อนซึ่งเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้พลังงานโดยรวมของยานด้วยค่ะ”

“เข้าใจแล้ว มันจะลดพลังงานซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานระบบเครื่องปรับอากาศหือ”

“ถูกต้องค่ะ”

หลังจากตรวจสอบผิวสัมผัสลึกลับของกำแพง เราทำการไปสู่โรงจอด ซึ่งเบิ้ลเป็นห้องคาร์โก้

“โอ้ ในที่สุดคุณก็มานะบอส”

“สวัสดีนะ ทุกคน”

ทีน่าและวิสเกอร์ ทั้งสองผู้อยู่ในชุดเอี๊ยมทำงานกำลังรอเราอยู่ข้างในแล้ว

เห็นได้ชัดว่า พวกเธอยุ่งอยู่กับการเช็กอุปกรณ์และซัพพลายสำหรับบำรุงรักษาและซ่อมแซม

“เราจะอยู่ในการดูแลการดูแลของคุณเริ่มจากวันนี้ไป ได้โปรดเบาๆกับเราหน่อยนะ บอส”

“เรารอคอยที่จะได้ทำงานกับพวกพี่ทั้งหมดนะ”

ทีน่ายกหนึ่งมือในการทักทายและวิสเกอร์ทำการคำนับเล็กน้อย

“ใช่ เหมือนกัน ยังไงซะเทียบกับการอยู่บนกฤษณะ การอยู่บนยานลำนี้จะ–”

ผมมีแผนจะใช้นี่เป็นเหยื่อล่อโจรสลัด ดังนั้นมันค่อนข้างเสี่ยงในการจะอยู่ที่นี่ มันมีโล่ทนทานกับเกราะหนา ผมเลยคิดว่ามันจะไม่เป็นไร มันจะไม่ร่วงง่ายขนาดนั้น

“–น่าจะปลอดภัย แต่จำเส้นทางอพยพและที่ตั้งพอดหลบหนีเผื่อไว้ก่อน”

“คุณเพิ่งหยุดแบบแปลกๆนะบอส!? แน่ใจนะว่ามันจะโอเค?”

“มันโอเค ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”

ผมบอกพวกเธอไม่ได้จริงๆว่าผมมีแผนจะใช้ยานเป็นเหยื่อล่อโจรสลัดหือ น่า ผมจะแค่บอกพวกเธอภายหลัง ฮ่าฮ่าฮ่า

ผมเมินทีน่าผู้แสดงถึงสีหน้าสงสัยแล้วเช็กโรงจอดกับห้องคาร์โก้ มันใหญ่และกว้างขวางมาก ห้องคาร์โก้ของกฤษะแม้แต่เริ่มมาเทียบกันยังไม่ได้ ในที่สุดเราก็จะสามารถรับคำร้องขนส่งกับเด็กคนนี้ได้แล้ว เราจะสามารถจะทำการแลกเปลี่ยนได้ด้วยเหมือนกัน ทางเลือกทำเงินของเราเพิ่งทวีคูณไปหลายเท่า

“มามุ่งหน้าไปที่ห้องนักบินต่อไปทุกคน แต่ก่อนหน้านั้น มาหยุดที่โถงพักผ่อนกับโถงทานอาหารระหว่างทางเถอะค่ะ”

“โอเค เราจะเจอกันทีหลังนะพวกเธอ”

“โอ๊ะเค่โด๊ะเค่บอส”

“จ้ะ”

เราปล่อยพี่น้องไว้กับงานของพวกเธอแล้วเริ่มตามหลังซาร่าอีกครั้ง พวก ยานนี้ใหญ่จริงๆ อย่างคาดกับยานแม่

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl