บทที่ 110 นางเอกของงานแถลงข่าว
บทที่ 110 นางเอกของงานแถลงข่าว
ไม่นานจากนั้น เฉินซีซีก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับมายังเมืองไท่
อีกด้านซูโย่วอี๋ที่มีเวลาว่าง เธอจึงได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยฮิลเบิร์ตทางอินเทอร์เน็ต แต่ก็มีข้อมูลที่น้อยมาก
ครั้งหนึ่งมีโพสต์ที่วิเคราะห์ว่าทำไมฮิลเบิร์ตในฐานะมหาวิทยาลัยสอนดนตรีชั้นนำ ถึงไม่มีชื่อเสียงมากนัก และแม้แต่หาข้อมูลที่เป็นประโยชน์บนอินเทอร์เน็ตก็ไม่พบ
แต่คงมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น นักเรียนยังน้อยเกินไป
ฮิลเบิร์ตรับนักเรียนประมาณสี่ร้อยคนต่อปีจากทั่วโลก และในหนึ่งประเทศมีเพียงสองหรือสามคน คนส่วนใหญ่ที่สามารถไปฮิลเบิร์ตได้นั้นหมกมุ่นอยู่กับงานศิลปะ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาโพสต์อะไรบนอินเทอร์เน็ต
ท้ายที่สุดแล้ว เฉพาะผู้ที่มีจดหมายรับรองเท่านั้นที่สามารถมีส่วนร่วมในการสอบคัดเลือกได้
เมื่อเวลาผ่านไป ฮิลเบิร์ตกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในวงการเพลง!
ซูโย่วอี๋ได้ปรึกษากับซูหยิน และซูหยินก็สนับสนุนเธอในเรื่องนี้ แต่เธอไม่ต้องการให้เพื่อนละทิ้งโอกาสที่จะได้เป็นศิลปินในสังกัดเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ด้วยเช่นกัน
“ฉันคิดว่าประธานลู่ชอบเธอมาก ทำไมเธอไม่คุยกับเขาและไปมหาวิทยาลัยในฐานะศิลปินที่มีต้นสังกัดล่ะ”
ไม่ใช่ว่าซูโย่วอี๋ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่เว็บไซต์ทางการของฮิลเบิร์ตเขียนไว้ชัดเจนว่านี่เป็นการเรียนเต็มเวลาสามปี เนื่องจากเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน เธอคงไม่มีเวลาไปทำงาน และคงไม่มีบริษัทใดที่จะยอมทำธุรกิจที่ขาดทุนแบบนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ อาจารย์ใหญ่ของฮิลเบิร์ตดูเหมือนจะรังเกียจนักดนตรีที่แสวงหาชื่อเสียง เธอไม่ต้องการทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีไว้กับอาจารย์ใหญ่ก่อนการสัมภาษณ์
“ที่รัก เธอคิดถึงตัวเองน้อยเกินไป ฉันรับรองได้ว่าตราบใดที่เธออยากทำ บริษัทบันเทิงในประเทศจะแย่งตัวเธอแน่ แล้วอย่างนี้เธอยังอยากจะไปเทียนฉีไหม”
“ใช่ ฉันอยากทำ”
“งั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง ฉันจะเป็นผู้จัดการให้เธอชั่วคราว ฟังดูน่าสนใจไหม?”
“ที่รัก ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเอง”
ซูโย่วอี๋ไม่รู้ว่าซูหยินกำลังจะทำอะไร แต่เธอก็เชื่อมั่นในตัวเพื่อนคนนี้อย่างเต็มที่
หลังอาหารค่ำ กลุ่มวีแชตของเธอก็ส่งเสียงแจ้งเตือน เธอคลิกดูและพบว่าข้อความเหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับเธอ
มันเป็นลิงก์ข่าว [100 อันดับแรกของผู้หญิงที่มีใบหน้าที่สวยที่สุดในโลก ปี 2021!]
สมาชิกของกลุ่มวีแชตรู้สึกตื่นเต้น
[ว้าว ดูสิ ลีดเดอร์ของเราถูกเลือกแล้ว!]
[อันดับ 1! สุดยอดไปเลย!]
[เราโหวตให้เธอก่อนที่จะมีรายชื่อนี้อีก ลีดเดอร์ของเราชนะอันดับหนึ่ง เย่ ๆ]
[ว้าว รูปพวกนี้สวยจัง]
[สวยอะไรขนาดนี้กัน ไม่อยากจะเชื่อเลย เมื่อก่อนฉันสนิทกับลีดเดอร์มากขนาดนี้]
[ครั้งหนึ่ง มีเทพธิดาอยู่ตรงหน้าฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้ทำอะไร ถ้าพระเจ้าให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉันจะบอกว่าลีดเดอร์ คุณสวยจริง ๆ!]
ซูโย่วอี๋ส่งข้อความ [พอแล้ว พวกเธออย่าพูดเกินจริงไปหน่อยเลย]
สมาชิกในทีมชื่นชมเธออย่างจริงจัง และความคิดของพวกเธอคือ เธอไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของตนเอง
แต่มันเป็นเพียงการจัดอันดับทั่วไปซึ่งเธอก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก
เช้าตรู่ของวันที่สอง เมื่อซูหยินโทรไปหาเพื่อนสาว ก็พบว่าซูโย่วอี๋ยังคงหลับอยู่
[ฮัลโหล มีอะไรหรือเปล่า?]
[ที่รัก เรียบร้อยแล้ว ฉันได้ทำข้อตกลงแล้ว เธออยากฟังมันไหม?]
[ว่ายังไงบ้าง?]
[เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ได้ตกลงเซ็นสัญญาระยะสั้นเป็นเวลาครึ่งปี เมื่อฮิลเบิร์ตรับสมัครในเดือนมีนาคมปีหน้า เธอสามารถเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ได้อย่างเต็มที่เลย แต่ว่าพวกเขายังเสนออื่นอีกด้วย คือเธอสามารถบอกเลิกสัญญาได้ตลอดเวลาโดยไม่มีค่าปรับ!]
ข้อตกลงดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมกับบริษัท
ซึ่งทำให้ซูโย่วอี๋รู้สึกประหลาดใจที่คนฉลาดหลักแหลมอย่างลู่เฉินจะเห็นด้วยกับสัญญานี้ แต่มันก็เป็นผลดีสำหรับเธอ
[แล้วเธอคิดยังไง? ซูหยิน]
[เราจะเซ็นสัญญานานเท่าไหร่ก็ได้ ที่เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ทำอย่างนี้ก็เพราะเขาอยากได้เธอมาเป็นศิลปินในสังกัดมากยังไงล่ะ]
[การเซ็นสัญญานั้นดีต่อภาพลักษณ์และการพัฒนาของเธอ เพราะเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวงการบันเทิงมากนัก การสู้คนเดียวมันเหนื่อยนะ]
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูโย่วอี๋ก็พูดว่า [ตกลง อย่างที่เธอพูด แล้วฉันควรทำยังไง หรือควรติดต่อใครดี?]
[จะมีคนจากเทียนฉีติดต่อเธอไปเอง อ้อ แล้วอีกอย่างเธอต้องติดต่ออาจารย์จงลี่ให้เร็วที่สุดนะ เพื่อรับจดหมายรับรองจากฮิลเบิร์ต]
……
เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์มารับซูโย่วอี๋เร็วมาก พวกเขาส่งรถมารับเธอไปที่บริษัทในวันนั้นเลย
สำนักงานของเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์มีอยู่ด้วยกันสามตึก อาคาร 66 ชั้นที่อยู่ตรงกลางตั้งอยู่ในย่านการค้าที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดของเมืองปักกิ่ง และเป็นหนึ่งในตึกที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง
รถที่มารับนอกจากคนขับแล้วยังมีหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปีที่มารับซูโย่วอี๋ด้วย เธอยังดูเด็กแต่กลับเป็นมืออาชีพมาก
หลังจากแนะนำตัวว่าเธอชื่อเหอชิ่นแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เมื่อซูโย่วอี๋เหลือบมองเธอ เธอก็เข้าใจสิ่งที่ตนหมายถึงได้ในทันที และยื่นทิชชูกับน้ำให้หญิงสาว
เมื่อลิฟต์มาถึงชั้น 21 ก็มีผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบปีรออยู่ที่ประตู เหอชิ่นทักทายเธอด้วยความเคารพ “สวัสดีค่ะ พี่เว่ย”
เว่ยเจี๋ยอยู่ในชุดสูทดูดีและรองเท้าส้นเข็มสีดำของเธอก็ดูสะอาดสะอ้าน
เธอเป็นผู้หญิงที่เท่มาก
ดวงตาของเธอนั้นเฉียบคม เธอมองซูโย่วอี๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมขมวดคิ้ว “เชิญที่ห้องประชุมค่ะ คุณกู่กำลังรอคุณอยู่”
ซูโย่วอี๋ติดตามพวกเธอไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเธอเห็นกู่อวี๋เฉิง เธอพูดทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณกู่อวี๋เฉิง”
ถ้าตอนนั้นกู่อวี๋เฉิงไม่ปรากฏตัวทันเวลาและไล่อันธพาลที่รังควานซูหยินออกไป คงจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นแน่
ส่วนกู่อวี๋เฉิงมองเธอสักสองสามวินาทีแล้วพูดว่า “คุณเปลี่ยนไปมาก”
“นั่งก่อนสิ ผมคุยกับซูหยินแล้ว ประธานลู่ตกลงตามเงื่อนไขของคุณ ดูสัญญานี่ก่อน”
ทนายความนั่งถัดจากเธอและพูดว่า “คุณซู ฉันได้อ่านสัญญาอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร”
ซูโย่วอี๋ตกตะลึงทันที เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ยังให้บริการทนายความฟรีอีกเหรอ?
แม้แต่เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
กู่อวี๋เฉิงกล่าวว่า “นี่คือทนายความที่ซูหยินจ้างมาเพื่อคุณคนเดียว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูโย่วอี๋ก็รู้สึกขอบคุณซูหยินอยู่ในใจ ซูหยินจัดแจงทุกอย่างอย่างดีเพื่อเธอ
แต่เมื่อเธอกำลังจะเซ็นสัญญา กู่อวี๋เฉิงกลับหยุดเธอไว้
“คุณซู กรุณารอสักครู่ครับ สัญญาจะมีผลบังคับใช้ในทันทีที่คุณเซ็น คุณควรอ่านมันก่อน อย่าเพิ่งเซ็นในตอนนี้”
“เราจะจัดงานแถลงข่าวในวันศุกร์นี้ เพื่อจัดพิธีเซ็นสัญญาสำหรับผู้ชนะสามคนของรายการ 22 วันปั้นดาว ในขณะเดียวกัน เราจะแยกเซ็นสัญญาสำหรับการเผยแพร่เพลงมิตรภาพสูงสุดกับคุณด้วย ซึ่งผู้จัดการน้ำหอม Dora ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็จะมาร่วมด้วย และเซ็นสัญญาพรีเซนเตอร์กับคุณอีกครั้ง”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มีการเซ็นสัญญาสามฉบับในเวลาเดียวกัน!
ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลมจะเห็นว่าที่งานแถลงข่าวในวันศุกร์นี้ ซูโย่วอี๋จะเป็นนางเอกหลัก ส่วนอวี๋ชิงจ้าวและเฉียวเซิงจะเป็นเพียงตัวประกอบ
กล่าวได้อีกนัยหนึ่งก็คือ เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ต้องการดันเธอ!
“ตกลง” ซูโย่วอี๋พูดตอบรับทันที
กู่อวี๋เฉิงชี้ไปยังคนที่นั่งข้างเธอแล้วพูดว่า “นี่คือผู้จัดการของคุณ สุ่ยเวย และผู้ช่วยของคุณ เหอชิ่น หากมีปัญหาอะไร คุณสามารถปรึกษาพวกเขาได้”
จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องประชุมไป