บทที่ 107 ลงมือทำร้าย

บทที่ 107 ลงมือทำร้าย

“มันแย่ตรงไหนกัน! สามี ท่านบอกว่ากู้เสี่ยวหวานซื้อข้าวและแป้งคราวนี้หลายร้อยอีแปะ และนางซื้อมันหลายครั้งติดต่อกัน ซึ่งหมายความว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้มีเงินเพียงเล็กน้อย!” หลังจากที่ซุนซื่อพูดจบในชั่วอึดใจหนึ่ง นางจึงพูดช้าลงหากแต่พูดอย่างไม่อดทนว่า “ถ้ามีเงินเพียงเล็กน้อย ในฐานะป้า ข้าไม่สนเรื่องเงินของนางเลย แต่ถ้านางมีเงินเยอะเล่า ถ้าเราแบ่งหนึ่งในสามมา ก็สามารถใช้ให้เหวินเอ๋อร์ของเราใช้ไปสำนึกศึกษาได้สักสองสามเดือน!”

ซุนซื่อคิดเรื่องเหวินเอ๋อร์จะต้องไปศึกษาเล่าเรียน ดังนั้นกู้ฉวนลู่จึงลังเลใจ แต่ในเวลานี้เขาเริ่มหนักแน่นมากขึ้น “เจ้าแน่ใจว่าต้องการไปจริง ๆ ใช่หรือไม่?”

“แน่นอน! ” ซุนซื่อกล่าวอย่างพึงพอใจ “เราไปขอคนเดียวคงไม่ดีแน่ เช่นนั้นเราจะไม่ออกหน้า และปล่อยให้เฉาซื่อขอแทน! ถ้าเงินของกู้เสี่ยวหวานไม่ใช่เงินที่พ่อเฒ่าเหลือไว้ ถ้าเราไม่ปรากฏตัว เราก็จะไม่ถูกนินทา!”

“ตกลง!” เมื่อกู้ฉวนลู่เห็นว่าซุนซื่อได้อธิบายวิธีการขอเงินทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่ต้องออกหน้าและไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงจินตนาการว่า เงินที่พ่อเฒ่ากู้เหลือไว้ให้กู้เสี่ยวหวานใช้แบบนี้โดยไม่ต้องกะพริบตา

กู้เสี่ยวหวานได้เห็นใบหน้าที่โลภมากของกู้ฉวนลู่และซุนซื่อในขณะนี้ ก็เข้าใจในทันทีว่ากู้ฉวนลู่และซุนซื่อหมายถึงอะไร

“สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าบอกว่าไม่ได้ขโมยเงิน อย่างนั้นก็บอกข้ามาว่าเอาเงินมาจากไหน?” ซุนซื่อถามน้ำเสียงเคร่งขรึม

“กู้เสี่ยวหวาน ห้ามขโมยแบบนี้เด็ดขาด ถ้าถูกจับได้เจ้าจะโดนตีจนตาย” กู้ซินเถาพูดอย่างชั่วร้าย “ไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นขโมยหรือไม่ แต่อย่าทำให้ครอบครัวของเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย!”

“เจ้าจะถูกตีจนตาย!” กู้หนิงผิงเห็นกู้ซินเถาแสดงท่าทางชั่วร้ายและสาปแช่งพี่สาวของเขาก็ไม่สามารถระงับโทสะในใจเขาได้ เขาจึงด่ากลับ!

เมื่อเห็นว่ากู้หนิงผิงกล้าที่จะด่าตนเอง ใบหน้าของกู้ซินเถาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำด้วยความโกรธ “เจ้าคนไร้ยางอาย ถูกตีให้ตายดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียหน้าครอบครัวของเรา!”

กู้ซินเถาไม่ได้อ่านหนังสือมากมาย ดังนั้น จึงดุด่าแต่คำเดิม ซึ่งทำให้กู้เสี่ยวหวานเบื่อมากและยิ้มอย่างเย็นชาในใจ ดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากเด็กสาวชาวเขาชาวดงที่ถูกพ่อแม่ตามใจจนเสียคนแม้แต่น้อย

“พี่ซินเถา ท่านว่าใครไร้ยางอาย?” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างเย็นชา มองดูผู้คนจากครอบครัวลุงใหญ่และครอบครัวของอาสามที่อยู่ตรงข้ามกัน โดยไม่แสดงความอ่อนแอออกมา

“ว่าพวกเจ้านั่นแหละ!” กู้ซินเถาไม่เข้าใจคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน เลยตอบรับการสนทนาและตำหนิกู้เสี่ยวหวานทันที

“ซินเถา!” เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตนถูกกู้เสี่ยวหวานหลอก ซุนซื่อก็ตัวสั่นและดึงกู้ซินเถาซึ่งกำลังโกรธจัด

จากนั้นกู้ซินเถาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง นิ้วของนางสั่นระริกและชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวาน เรียกเจ้า…เจ้า…มาครึ่งวันแล้ว แต่ก็ด่าไม่ออก

เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาถูกหลอก กู้เสี่ยวหวานก็พ่นลมไปทางกู้ซินเถาอย่างเย็นชา เมื่อกู้ซินเถาได้รับความคับข้องใจเช่นนี้ และมองเห็นแววตาดูถูกของกู้เสี่ยวหวาน ลำไส้ของกู้ซินเถาก็กำลังจะแตก

กู้ฉวนลู่มองไปที่กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาเย็นชา เขาขยิบตาให้กู้ซินเถาและบอกให้นางหลีกทาง

แม้กู้ซินเถาจะไม่เต็มใจนัก แต่นางก็ไม่สามารถด่ากู้เสี่ยวหวานได้ นางทำได้เพียงจ้องที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุเดือดราวกับจะเผาหลุมในร่างกายของกู้เสี่ยวหวาน นางชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างโกรธเคือง “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ารอข้าก่อนเถอะ!”

กู้เสี่ยวหวานมีชีวิตอยู่มามากกว่าสามสิบปีในชีวิตก่อนหน้านี้ นางจะกลัวเด็กสาวชนบทอายุสิบขวบคนนี้ได้อย่างไร เมื่อมองไปที่แววตาที่ดุร้ายของกู้ซินเถา กู้เสี่ยวหวานก็จ้องกลับไป การดูถูกเหยียดหยามนั้นทำให้กู้ซินเถามีใจที่ต้องการฆ่า

ศีรษะของกู้ซินเถาเริ่มร้อนขึ้น นางจึงรีบไปรุดขึ้นหน้าและโบกมือไล่กู้เสี่ยวหวาน นางคาดไว้แล้วว่ากู้ซินเถาจะไม่สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ และจะต้องพบกับความจริงอย่างแน่นอน นางได้เตรียมการไว้แล้วว่ากู้ซินเถาจะรีบเร่งเอาชนะนาง เมื่อเห็นกู้ซินเถารีบเร่ง นางก็พร้อมแล้ว กู้ซินเถาโบกแขนของนางและกำลังจะฟาดฝ่ามืออย่างแรงไปทางกู้เสี่ยวหวาน

ร่างกายของกู้ซินเถาสูงใหญ่เป็นเพราะกินดี ผิวพรรณจึงแดงระเรื่อ แม้ว่านางจะดูบอบบาง แต่ก็มีพละกำลังมาก นอกจากนี้กู้เสี่ยวหวานยังทำให้นางขุ่นเคืองและกู้ซินเถาก็เกลียดชังนางด้วย นางจึงพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะทุบตีกู้เสี่ยวหวาน

กู้หนิงอัน กู้หนิงผิง และกู้เสี่ยวอี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นว่ากู้ซินเถาวิ่งตรงไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความเร็วจนหยุดไม่ได้ ทุกคนตื่นตระหนกและเป็นกังวล “ท่านพี่…”

“ท่านพี่ วิ่ง!” กู้หนิงผิงตอบสนองทันที และกำลังจะกระโจนเข้าหากู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อเห็นแขนของกู้ซินเถาโบกมา กู้เสี่ยวหวานก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าว แขนของกู้ซินเถาจึงไม่ถึงตัวกู้เสี่ยวหวาน นางเหวี่ยงมันไปข้างหน้าอีกครั้งแล้วเหวี่ยงเป็นวงกลมด้วยแรงมหาศาล กู้ซินเถาไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะหลบได้ เมื่อฝ่ามือเหวี่ยงลง กู้ซินเถาไม่มีที่จะรองรับและแรงเหวี่ยงนั้นก็มากเกินไป ทำให้แรงโน้มถ่วงดึงกู้ซินเถาไปข้างหน้าจนเซไปสองสามก้าว และล้มลงทันที

ที่นี่เป็นหลุมฝังศพอยู่บนภูเขา มีเนินเขาโค้งเล็กน้อย และมีพุ่มไม้เล็ก ๆ อยู่รอบ ๆ กู้ซินเถาที่ตีไม่โดนกู้เสี่ยวหวานจึงล้มลง และแรงเหวี่ยงนั้นก็ทำให้กู้ซินเถากลิ้งลงจากเนินเขาหลายตลบจนกระทั่งหยุดเพราะหลังของนางกระแทกเข้ากับต้นไม้เล็ก ๆ

ทุกคนต่างตกตะลึง และก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว พวกเขาก็เห็นกู้ซินเถากำลังร้องไห้อยู่บนเนินเขา

ซุนซื่อไม่ได้หยุดกู้ซินเถาในตอนแรก เพราะต้องการให้ลูกสาวของตนสอนบทเรียนดี ๆ ให้กับกู้เสี่ยวหวาน หากต้องการทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของกู้เสี่ยวหวาน ก็ต้องทำให้พวกเขารู้ว่าครอบครัวใหญ่นั้นทรงพลังเพียงใด ดังนั้น ในใจของซุนซื่อจึงเห็นด้วยกับกู้ซินเถาเพื่อเอาชนะกู้เสี่ยวหวาน

เดิมทีเมื่อมองไปที่ท่าทางของกู้ซินเถา ฝ่ามือนี้คงจะทำให้กู้เสี่ยวหวานนอนร้องไห้อยู่บนพื้นและร้องหาแม่ของนาง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของทั้งสองกลับเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดฝัน

กู้ซินเถากลิ้งลงมาจากเนินเขาราวลูกหนัง ก่อนนอนอยู่บนพื้นและร้องไห้หาพ่อแม่ แต่กู้เสี่ยวหวานซึ่งควรจะเป็นแบบนี้ยังคงมีท่าทางปกติและมองไปยังกู้ซินเถาที่บาดเจ็บด้วยสีหน้าสบาย ๆ ซุนซื่อไม่สนใจที่จะสอนบทเรียนให้กู้เสี่ยวหวานแล้ว นางร้องไห้อย่างบีบคั้นหัวใจและคลานไปด้านข้างของกู้ซินเถา เพราะภาพลักษณ์ของกู้ซินเถาในขณะนี้นับว่าน่าอายมาก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สมน้ำหน้า อยากทำร้ายเขา เจอเขาพลิกแพลงกลับจนเจ็บตัวเอง เป็นไงล่ะ

ไหหม่า(海馬)