หลังจากที่ทั้งสี่คนอันประกอบไปด้วยนากา โมโกะ รีซาน่า และอีฟได้ใช้ช่วงเวลายามบ่ายและยามเย็นไปกับการวางแผนลอบเข้าไปข้างในหมู่บ้านเพื่อที่รีซาน่าจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านของเธอที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ในเขตหวงห้ามกันแล้วพวกเขาก็ได้เริ่มต้นปฏิบัติตามแผนกันในช่วงเวลาหัวค่ำที่พระอาทิตย์อับแสงลงไป

 

แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาทั้งสี่คนที่ลักลอบเข้าไปในหมู่บ้านตามแนวทางเดินเลียบหน้าผาที่อยู่ติดกับป่าต้องห้ามก็กลับไม่พบกับยามเฝ้าหมู่บ้านหรือว่าการเฝ้ายามใดๆ แบบที่รีซาน่าจำได้ว่าเธอเคยเห็นในวัยเด็กเลยแม้แต่น้อย จะมีก็เพียงแค่แนวคบเพลิงให้ความสว่างที่บ่งบอกถึงอาณาเขตของหมู่บ้านเพียงเท่านั้นจนทำให้โมโกะต้องกระซิบพูดถามเจ้าตัวขึ้นมา

 

“ไม่มีการเฝ้ายามเลยแบบนี้นี่หมู่บ้านของเธอรอดมาจนถึงวันนี้ได้ยังไงกันเนี่ยรีซาน่า…?”

 

“แต่เท่าที่ฉันจำได้นี่ หน้าที่เฝ้ายามมันจะผลัดหมุนเวียนกันไปในหมู่ชาวบ้านนะคะ… แต่พวกเขาอาจจะคิดว่าไหนๆ หมู่บ้านมันก็อยู่ในป่าลึกซะขนาดนี้แถมยังไม่เป็นที่รู้จักก็เลยยกเลิกการเฝ้ายามไปแล้วก็ได้ล่ะมั้งคะ”

 

“แต่เห็นคุณเบรนสันบอกว่าถ้าเขาเจอพวกเราแอบลอบเข้ามาเขาก็ต้องไล่พวกเราออกไปไม่ใช่หรอ? ไม่แน่ว่าที่วันนี้ไม่มีการเฝ้ายามเลยมันอาจจะเป็นฝีมือของเขาก็ได้นะ… อ่ะ— ใจเย็นก่อนสิอีฟ…”

 

คำตอบของรีซาน่านั้นได้ทำให้นากาที่เดินนำหน้าอยู่ต้องหยุดเท้าของเขาเพื่อหันกลับมาพูดตอบเธอกลับไปก่อนที่เขาจะต้องพูดเตือนอีฟที่กำลังหันตรงเข้าไปในส่วนลึกของป่าให้เด็กสาวหยุดเท้าลงก่อน ซึ่งท่าทีของอีฟที่ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจในป่าต้องห้ามเป็นพิเศษนั้นก็ได้ให้โมโกะต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัยกับท่าทีของเด็กสาวในการดูแลของเธอ

 

“จะว่าไป เหมือนว่าอีฟจะทำตัวแปลกๆ มาตั้งแต่ตอนที่มาถึงหมู่บ้านแล้วนะ ท่าทางอย่างกับว่าเจออะไรน่าสนใจอยู่ข้างในป่าหวงห้ามของเธออย่างงั้นแหละรีซาน่า”

 

“ถ้าเป็นข้างในป่านั้นล่ะก็ นอกจากถ้ำที่ฉันเคยไปเจอมาแล้วมันก็—”

 

“เข้ามาข้างในเขตป่าต้องห้ามแบบนี้มันจะดีจริงๆ หรอครับท่านหัวหน้าหมู่บ้าน… คือถึงท่านจะเป็นคนพาผมเข้ามาเองก็เถอะ แต่ว่ามันก็…”

 

แต่แล้วในขณะที่รีซาน่ากำลังพูดตอบโมโกะกลับไปอยู่นั้นเอง อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงของเบรนสันดังแว่วๆ ขึ้นมาให้พวกเขาทั้งกลุ่มได้ยินจากทางเบื้องหน้า ซึ่งนั่นก็ทำให้ทุกคนต้องหันไปมองหน้ากันเองก่อนที่พวกเขาจะรีบหลบเข้าไปซ่อนในเงาไม้กันในทันที

 

และนั่นก็ทำให้พวกเขาได้พบเข้ากับเบรนสันที่กำลังยืนคุยอยู่กับชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านอยู่ที่หน้าบ้านร้างผุๆ พังๆ หลังหนึ่ง โดยที่ใกล้ๆ กันนั้นก็มีหญิงสาวผู้มีที่เขาสัตว์สีขาวที่มีตำแหน่งเป็นเดรคกำลังยืนกอดอกสะพายดาบยักษ์ประจำตัวยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล

 

ซึ่งชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าเบรนสันนั้นก็กำลังมองตรงไปยังป้ายหลุมศพเก่าๆ ที่ถูกตั้งเอาไว้ข้างตัวบ้านด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนที่เขาจะละสายตาออกมาจากมันเพื่อพูดตอบคำถามของเบรนสันขึ้นมา

 

“ฉันให้เดรคไปขออนุญาตท่านเทพมังกรมาแล้ว แถมแต่เดิมบ้านของยัยนี่ก็ไม่ใช่เขตหวงห้ามอยู่แล้ว เพราะงั้นแกไม่ต้องกลัวไปหรอกหน่า…”

 

“งั้นหรอครับ… ว่าแต่ทำไมท่านผู้ใหญ่บ้านถึงพาผมเข้ามาข้างในนี้กันล่ะครับ…?”

 

เบรนสันพูดตอบชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะหันไปมามองซ้ายมองขวาด้วยความกังวลใจ เพราะตัวเขาเองก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าพวกเด็กๆ จากเมืองหลวงน่าจะแอบลอบเข้ามาที่นี่ในเร็วๆ นี้ และการที่มีหัวหน้าหมู่บ้านและผู้ที่มีตำแหน่งเดรคอย่างหญิงสาวที่มีเส้นผมและเขาสัตว์สีขาวอยู่ที่นี่ด้วยมันจะเป็นเรื่องอันตรายสำหรับพวกเด็กๆ อย่างแน่นอน

 

ซึ่งในขณะที่เบรนสันกำลังรู้สึกกังวลใจอยู่นั้น ทางด้านชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านก็ได้เหลือบตาไปมองท่าทีกังวลใจของเบรนสันเล็กน้อยด้วยสีหน้าพึงพอใจที่อีกฝ่ายดูเหมือนจะยังมีความหวาดกลัวในตัวตนของเทพมังกรประจำหมู่บ้านอยู่ก่อนที่เขาจะพูดตอบกลับไป

 

“มันก็อย่างที่ฉันบอกไปว่าจะเรียกแกมาคุยเกี่ยวกับเรื่องที่แกคิดจะทำนั่นล่ะ…”

 

“ห–หมายถึงเรื่องที่พวกผมคิดจะเปิดเส้นทางเรียบภูเขานั่นน่ะหรอครับ?”

 

“ก็นั่นล่ะ… ถ้าฟังดูจากที่แกพูดเอาไว้เมื่อตอนนั้น มันไม่ได้มีแกแค่คนเดียวสินะที่คิดจะเปิดเส้นทางนั่นอีกครั้งน่ะ… แกพอจะบอกฉันได้หรือเปล่าล่ะว่ามีใครสนับสนุนความคิดนั่นบ้างน่ะ?”

 

“แต่ถ้าจะคุยเรื่องนั้นก็ไม่เห็นจะต้องพาผมเข้ามาถึงข้างในนี้เลยไม่ใช่หรอครับท่านผู้ใหญ่บ้าน…?”

 

เบรนสันที่ได้ยินคำถามของหัวหน้าหมู่บ้านได้แต่ต้องพูดถามกลับไปด้วยความสงสัย เพราะถ้าเกิดว่าพวกเขาจะคุยเรื่องนี้กันล่ะก็พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาถึงบ้านเก่าของรีซาน่าที่ถูกประกาศเอาไว้ว่าเป็นเขตหวงห้ามเลยแม้แต่น้อย

 

ซึ่งคำถามของเบรนสันนั้นก็ได้ทำให้คิ้วของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านขมวดเข้าหากันเหมือนกับว่าเขากำลังรู้สึกไม่พอใจที่ถูกยอกย้อนจนทำให้เบรนสันต้องรีบพูดตอบเขากลับไปในทันที เพราะไม่ว่ายังไงนี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้โน้มน้าวให้หัวหน้าหมู่บ้านเห็นด้วยกับการเปิดเส้นทางอีกครั้งหนึ่ง

 

“พวกคนที่เห็นด้วยส่วนมากก็พวกคนที่เคยทำหน้าที่ค้าขายแบบผมมาก่อนกับพวกเด็กๆ ที่ในอนาคตจะต้องทำหน้าที่นี้นั่นแหล่ะครับ”

 

“ที่แท้ก็เป็นพวกนอกรีตที่กระสันอยากจะติดต่อกับพวกเมืองหลวงอย่างพวกแกเองสินะ…”

 

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับท่านผู้ใหญ่บ้าน การติดต่อกับพวกเมืองหลวงมันเป็นเรื่องที่จำเป็นนะครับ เพราะปัญหาของหมู่บ้านเราก็คือการที่พวกเราไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือกับอุปกรณ์ดีๆ ใช้งานนั่นแหล่ะครับ… พวกผมก็แค่อยากให้ทุกคนได้มีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นเท่านั้นเอง”

 

ถึงแม้ว่าเบรนสันจะโดนหัวหน้าหมู่บ้านเรียกว่าคนนอกรีตแต่ว่าเขาก็กลับไม่ได้มีท่าทีว่าจะขุ่นเคืองอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าตัวเขาเองก็ค่อนข้างจะเข้าใจในความคิดที่อยากจะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าๆ ของหัวหน้าหมู่บ้านและพวกผู้อาวุโสของหมู่บ้านอยู่บ้าง

 

ซึ่งคำพูดอธิบายของเบรนสันนั้นก็ได้หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองป้ายหลุมศพที่น่าจะเป็นของคุณแม่ของรีซาน่าอีกครั้งแล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

“ฮึ่ม… ก็ถ้าเกิดว่ามันจะมีปัญหามากนักก็คงจะต้องรีบๆ จัดการจริงๆ นั่นล่ะ…”

 

“ท่านผู้ใหญ่บ้านก็คงจะเห็นด้วยเหมือนกัน—”

 

“จัดการได้เลย เดรค…”

 

“เอ๋ะ—?”

 

ในขณะที่เบรนสันกำลังพยายามที่จะพูดเกลี้ยกล่อมหัวหน้าหมู่บ้านอยู่นั้นเอง อยู่ๆ หัวหน้าหมู่บ้านก็ได้พูดสั่งหญิงสาวที่มีตำแหน่งเดรคขึ้นมาสั้นๆ จนทำให้เบรนสันต้องชะงักไป

 

ซึ่งเมื่อเบรนสันได้หันไปมองตรงจุดที่หญิงสาวผู้ที่มีเขาสัตว์สีขาวยืนอยู่เมื่อสักครู่นี้ เขาก็ได้พบว่าหญิงสาวที่เขารู้จักดีคนนั้นได้หายไปจากจุดเดิมแล้ว และเธอก็กำลังง้างดาบขนาดใหญ่ในมือของเธอขึ้นสูงอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาอยู่นั่นเอง

 

“เหวอ—!?”

 

ฟวับ—โคร๊ม!!

 

“—!?”

 

“เสียงอะไรน่ะ!?”

 

เสียงของอะไรบางอย่างที่ถูกหวดลงกระแทกพื้นเสียงดังลั่นนั้นได้ทำให้พวกนากาที่แอบฟังอยู่ใกล้ๆ กันสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนที่รีซาน่าที่ดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกับเสียงที่ว่ามากที่สุดเนื่องจากมันฟังดูเหมือนกับเสียงเวลาที่เธอเหวี่ยงขวานศึกพลาดไปโดนหน้าดินอย่างไม่เพี้ยนจะรีบพูดขึ้นมา

 

“เสียงอะไรก็ไม่รู้แต่ฟังดูแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่ๆ แหล่ะค่ะ! พวกเรารีบเข้าไปช่วยคุณเบรนสันเขากันก่อนเถอะค่ะ!!”

 

“เข้าใจแล้ว! ถ้างั้นก็— เดี๋ยวสิอีฟ นั่นเธอจะไปไหนน่ะ!?”

 

แต่แล้วในขณะที่นากาปล่อยมือออกจากอีฟเพื่อใช้ความสามารถของเขาเปลี่ยนกำไลโลหะสีขาวให้กลายเป็นดาบเปื้อนเลือด เฟเบิ้ล ดรีมเมอร์นั้นเอง อยู่ๆ เด็กสาวที่ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจกับอะไรบางอย่างที่อยู่ในเขตของป่าหวงห้ามมาได้สักพักใหญ่แล้วก็ได้สบโอกาสนี้วิ่งตรงหายเข้าไปในป่าในทันทีจนทำให้นากาต้องร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ทำให้โมโกะตัดสินใจที่จะพูดขึ้นมา

 

“นายรีบตามอีฟไปเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันกับรีซาน่าจัดเองการ…!”

 

“ต–แต่ว่าแผลของเธอ—”

 

“ก็แล้วแผลนี่มันทำให้ฉันเหมาะจะไปวิ่งในป่ามั้ยเล่า!? รีบๆ ตามไปได้แล้วก่อนที่อีฟเขาจะเข้าไปลึกจนหาไม่เจอน่ะ!!”

 

โมโกะขึ้นเสียงพูดตอบนากากลับไปก่อนที่เธอจะหยิบเอาเม็ดยาที่มีอาบอกไว้ว่าให้เธอกินมันเมื่อสถานการณ์ดูอันตรายขึ้นมาโยนใส่ปาก และนั่นก็ทำให้นากาได้แต่พยักหน้ากลับไปให้เธอก่อนที่เขาจะวิ่งตามหลังอีฟหายเข้าไปในป่าด้วยอีกคนหนึ่ง

 

และเมื่อนากาออกวิ่งไล่หลังอีฟไปแล้ว ทางด้านโมโกะและรีซาน่าก็ได้หันมาพยักหน้าให้กันก่อนที่พวกเธอจะออกจากที่ซ่อนและวิ่งตรงไปทางที่พวกเธอได้ยินเสียงร้องของเบรนสันในทันที

 

และนั่นก็ทำให้พวกเธอได้เห็นภาพของเบรนสันที่ล้มอยู่กับพื้นและกำลังกุมแขนของเขาที่มีบาดแผลเป็นทางยาวกำลังมองไปตรงยังหญิงสาวที่มีเขาสีขาวที่กำลังยืนง้างดาบขนาดยักษ์ของเธออยู่เบื้องหน้าเขาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ

 

“หยุดนะ!!”

 

ฟวับ—เคล๊ง!!

 

“….!”

 

แต่แล้วในขณะที่หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคจะกำลังจะฟาดดาบของเธอลงมาใส่เบรนสันอยู่นั้นเอง รีซาน่าที่ออกพุ่งตัวได้เร็วกว่าก็ได้พุ่งเข้าไปใช้ขวานศึกของเธอขวางดาบยักษ์ของหญิงสาวได้อย่างทันท่วงที ในขณะที่ทางด้านโมโกะนั้นก็ได้ใช้ยูนิตเชสเชียร์พุ่งเข้าไปดึงตัวเบรนสันที่กำลังตื่นตกใจอยู่ออกมาแทน

 

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ทำให้ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านต้องขมวดคิ้วมองเด็กสาวทั้งสองคนอยู่ชั่วขณะก่อนที่เขาจะเค้นเสียงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

 

“ก็ว่าอยู่ว่าเป็นเสียงของหนูโสโครกที่ไหน… ที่แท้ก็เป็นยัยเด็กต้องสาปกับพวกนอกรีตจากเมืองหลวงนี่เอง… นี่พวกแกกล้าดียังไงถึงได้กล้าบุกรุกเข้ามาในผืนป่าศักดิ์สิทธิ์ของท่านเทพมังกรกันหะ!!?”

 

“นั่นมันเป็นคำถามของฉันต่างหากล่ะคะว่าคุณกล้าดียังไงถึงได้กล้ามายืนอยู่ที่หน้าบ้านของฉันแบบนี้อีกครั้งน่ะ!!”

 

เสียงร้องตวาดของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นได้ทำให้รีซาน่าขึ้นเสียงเถียงกลับไปแบบไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ส่วนทางด้านโมโกะที่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเองก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกคนด้วยเช่นกัน

 

“ถ้าจากที่พวกฉันได้ยินนี่คุณเบรนสันเขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาที่นี่ด้วยตัวเองแต่ว่าถูกคุณพามาที่นี่ไม่ใช่หรอ…? แบบนั้นคงจะอ้างว่าคุณเบรนสันเขาบุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้ามก็เลยถูกลงโทษไม่ได้หรอกนะ…”

 

“นั่นสิครับท่านผู้ใหญ่บ้าน! แล้วไหนท่านก็บอกว่าท่านเทพมังกรอนุญาตแล้วด้วยไม่ใช่หรอครับ!?”

 

เบรนสันที่ได้ยินคำพูดของโมโกะเองก็ได้ร้องถามหัวหน้าหมู่บ้านของเขาขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกันในขณะที่ทางด้านโมโกะก็ได้ขมวดคิ้วจ้องหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านด้วยแววตาไม่พอใจเช่นเดียวกัน

 

แต่ถึงอย่างงั้นทางด้านชายแก่ผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็กลับทำเพียงแค่แสยะยิ้มออกมาโดยไม่มีท่าทีกังวลใจอะไรเลยแม้แต่น้อยก่อนที่เขาจะพูดตอบทั้งสองคนกลับไป

 

“หึ… เด็กต้องสาปกับคนนอกอย่างพวกแกจะไปเข้าใจอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นนี่มันคือบทลงโทษที่ท่านเทพมังกรมอบให้กับคนนอกรีตอย่างเจ้าเบรนสันยังไงล่ะ!!”

 

“ต–แต่ผมไม่เคยทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่นท่านเทพมังกรแม้แต่สักครั้งเดียวเลยนะครับท่านผู้ใหญ่บ้าน!!”

 

“แล้วการที่แกกับพรรคพวกตั้งใจจะไปพังก้อนหินที่ท่านเทพมังกรอุตส่าห์ดลบันดาลมาให้เพื่อปกป้องพวกเราจากภัยอันตรายจากภายนอกแบบนี้นอกจากจะเรียกว่าเป็นการดูหมิ่นแล้วมันจะเรียกว่าอะไรได้อีกกันหะ!!?”

 

ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านพูดขึ้นเสียงสวนเบรนสันกลับไปด้วยความเกรี้ยวกราดก่อนที่เขาจะกระแทกไม้เท้าของเขาลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังก้องกังวานแล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ

 

แกร๊ก!!

 

“เพราะแบบนั้นในฐานะของหัวหน้าหมู่บ้าน ฉัน เดรโค่ เวิร์มฮาร์ท คงจะปล่อยให้คนที่ดูหมิ่นท่านเทพมังกรอย่างพวกแกมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้อีกเป็นอันขาด!!”

 

คำประกาศของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านนั้นได้ทำให้เบรนสันได้แต่จ้องมองเขาแบบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองด้วยความตกตะลึง ก่อนที่ทันใดนั้นเองเขาจะคิดขึ้นมาได้ว่าชายแก่เบื้องหน้าของเขาเพิ่งจะพูดถามเกี่ยวกับผู้ที่สนับสนุนการเปิดทางเข้าหมู่บ้านขึ้นมา

 

“ถ…ถ้างั้นที่ท่านผู้ใหญ่บ้านถามผมว่ามีใครที่คิดแบบเดียวกันด้วยนั่นก็…”

 

“อ่า… ก็ถ้าเกิดว่าเจ้าพวกนั้นยังไม่เปลี่ยนใจหลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแกหลังจากนี้แล้วพวกมันก็จะได้เป็นรายต่อไปยังไงล่ะ… จัดการซะ เดรค”

 

เคร๊ง!!

 

ทันทีที่หญิงสาวผู้มีเขาสีขาวได้ยินคำสั่งของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอก็ได้ใช้ดาบยักษ์ของเธอกระแทกรีซาน่าที่กำลังยันอาวุธกับเธออยู่ออกไปและพุ่งตัวไปทางโมโกะกับเบรนสันอย่างรวดเร็วจนทำให้รีซาน่าต้องรีบตามไปเหวี่ยงขวานเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยเช่นเดียวกัน

 

“ไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอกค่ะ!!”

 

เคร๊ง!!

 

“โมโกะจังพาคุณเบรนสันไปหลบก่อนค่ะ เดี๋ยวที่นี่ฉันจัดการเอง!!”

 

“ข—เข้าใจแล้ว! คุณเบรนสันรีบตามหนูมาเลยค่ะ!”

 

“อ—อื้ม!!”

 

ถึงแม้ว่าเบรนสันจะยังคงไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาได้ยิน แต่เรื่องที่ว่าหญิงสาวผู้มีตำแหน่งเป็นผู้พิทักษ์ของหมู่บ้านอย่างเดรคได้รับคำสั่งให้มากำจัดเขานั้นมันก็เป็นเรื่องจริง และนั่นก็ทำให้เขาไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งตามหลังโมโกะเข้าไปด้านในป่าในทันทีจนทำให้หัวหน้าหมู่บ้านที่จับตามองอยู่พ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

“ฮึ่ม… ไอ้พวกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม…”

 

ครืนนนนน—

 

ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน ด้ามไม้เท้าของเขาที่ถูกประดับเอาไว้ด้วยก้อนคริสตัลวิซสีเหลืองก็ได้ส่องแสงสว่างออกมาก่อนที่ทันใดนั้นเองโมโกะที่มีความสามารถในการสัมผัสได้ถึงวิซในธรรมชาติ จะสัมผัสได้ถึงพลังวิซที่ถูกส่งตรงแทรกมาตามผืนดินเหมือนกับที่เธอเคยสัมผัสได้ในการสอบของเธอกับพิเน๊ะ เธอจึงไม่รอช้าที่จะออกแรงผลักเบรนสันที่วิ่งอยู่ข้างๆ กันออกไปก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวหลบไปอีกทางหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน

 

“หลบไปค่ะคุณเบรนสัน!!”

 

ผลัก!

 

“—!?”

 

ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—

 

ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงของโมโกะดี พื้นดินบริเวณรอบๆ ตัวของทั้งสองคนก็ได้ดันตัวเองขึ้นมาเป็นหนามแหลมคมพุ่งตรงไปยังจุดที่ทั้งสองคนเคยยืนอยู่เมื่อสักครู่จนทำให้เบรนสันถึงกับหน้าซีด เพราะถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้เด็กสาวข้างกายผลักจนกระเด็นออกมาจากจุดเดิมล่ะก็ ตัวเขาก็คงจะโดนหนามแหลมพวกนี้แทงทะลุร่างกายไปอย่างแน่นอน

 

ส่วนทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นเจ้าของการโจมตีเมื่อสักครู่นั้นก็ได้เดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดเอาไว้

 

“ชิ… หลบได้งั้นหรอ…”

 

“คุณเบรนสันรีบกลับไปบอกให้พวกเพื่อนๆ ของคุณระวังตัวกันก่อนเถอะค่ะ!”

 

“อ–อื้ม! เข้าใจแล้ว!”

 

เบรนสันที่ได้ยินคำสั่งของโมโกะนั้นไม่รอช้าที่จะรีบออกวิ่งไปแจ้งพวกเพื่อนๆ ของเขาที่สนับสนุนการเปิดทางเข้าหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับการกระทำของหัวหน้าหมู่บ้านในทันที และนั่นก็ทำให้ผู้ใหญ่บ้านที่เห็นแบบนั้นได้หลุดเสียงตวาดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด

 

“แล้วคิดว่าฉันจะยอมปล่อยให้แกกลับออกไปได้ง่ายๆ งั้นหรอ เจ้าคนนอกรีต!!”

 

ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—

 

เสียงตวาดของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านนั้นได้ทำให้พื้นดินที่เป็นเส้นตรงระหว่างตัวเขากับเบรนสันที่กำลังวิ่งหนีไปเกิดหนามแหลมผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ โดยจุดที่พื้นดินถูกดันขึ้นมาเป็นหนามแหลมนั้นก็ได้ขยับเข้าไปใกล้เบรนสันมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้โมโกะที่เห็นแบบนั้นตัดสินใจที่จะหันปืนกลเบาทั้งสองกระบอกของยูนิตเชสเชียร์เข้าใส่ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านและลั่นกระสุนออกไปเพื่อขัดขวางการโจมตีในทันที

 

ปังปังปังปัง!!

 

“—!?”

 

ในทันทีที่มีเสียงปืนกลเบาของโมโกะดังลั่นขึ้นมานั้นเอง หนามแหลมที่กำลังผุดขึ้นมาจากพื้นดินและเข้าใกล้ร่างของเบรนสันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้หยุดชะงักไปก่อนที่แสงสีเหลืองบนคริสตัลวิซบนหัวไม้เท้าของผู้ใหญ่บ้านจะวูบดับไปชั่วขณะแล้วจึงส่องแสงสีเหลืองสว่างจ้าออกมาปกคลุมร่างของเขาเอาไว้

 

ปึกปึกปึกปึก

 

ซึ่งเมื่อกระสุนวิซจากปืนกลเบาของโมโกะกระทบเข้ากับสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นม่านพลังวิซบางๆ ที่ปกคลุมร่างกายของหัวหน้าหมู่บ้านเอาไว้ กระสุนวิซสีเหลืองของเธอก็ได้แตกสลายหายไปในทันทีโดยไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายได้เลย

 

“ไม่ได้ผลเลยงั้นหรอ… แต่ถ้าโจมตีไปป้องกันตัวไปไม่ได้แบบนี้ก็เสร็จฉันสิ…”

 

โมโกะที่สามารถสัมผัสได้ว่าชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านจำเป็นที่จะต้องหยุดการโจมตีเพื่อหันมาป้องกันตัวเองจากกระสุนพลังงานวิซของเธอได้เอ่ยปากพูดพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหันปืนกลเบากระบอกหนึ่งของยูนิตเชสเซียร์ไปทางด้านหญิงสาวที่มีเขาสีขาวและลั่นไกส่งกระสุนออกไปยิงสนับสนุนทางด้านรีซาน่าไปพร้อมๆ กับที่เธอได้ลั่นกระสุนวิซอีกจำนวนหนึ่งเข้าใส่หัวหน้าหมู่บ้านเพื่อกดดันเขาต่อไป

 

ปังปังปังปังปัง!!

 

“….”

 

เคล๊งเคล๊งเคล๊ง—

 

ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคจะพัวพันอยู่กับการต่อสู้กับรีซาน่าอยู่ก็ตามที แต่ว่าเธอก็กลับสามารถสะบัดดาบของเธอลงไปปักเอาไว้กับพื้นก่อนจะเอียงตัวเองไปซ่อนอยู่ด้านหลังมันเพื่อป้องกันตัวเองจากฝนกระสุนของโมโกะได้อย่างไม่ยากลำบากอะไรมากนัก

 

ซึ่งการกระทำของหญิงสาวผู้มีเขาสีขาวนั้นก็ได้ทำให้รีซาน่าที่เป็นคู่ต่อสู้ของเธอไม่รอช้าที่จะเหวี่ยงขวานศึกในมือเข้าใส่อีกฝ่ายที่เปิดช่องว่างให้เห็นจะๆ ด้วยตนเองเต็มแรงในทันที

 

“ย๊ากกกก!!”

 

“ช้าน่า…”

 

เป๊ง!! ครืดดดด—

 

“—!?”

 

ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคจะเหลือบตากลับไปมองขวานของรีซาน่าที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาใส่ด้วยความเร็วที่จัดว่าเชื่องช้าสำหรับเธอด้วยสายตาดูถูกและสามารถที่จะดึงดาบยักษ์ของเธอขึ้นมาจากพื้นเพื่อป้องกันตัวได้อย่างสบายๆ ก็ตามที แต่ทว่าแรงกระแทกที่เกิดขึ้นนั้นก็ถึงกับทำให้ร่างของเธอกระเด็นลอยขึ้นจากพื้นจนปลิวกระเด็นไปเกือบจะถึงจุดที่หัวหน้าหมู่บ้านยืนปักหลักอยู่ และนั่นก็ทำให้ชายแก่ที่เห็นแบบนั้นต้องพ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

“ยังจัดการไม่เสร็จอีกหรือยังไงกัน ‘เดรค’ ?”

 

“ขอโทษค่ะ…”

 

“เหอะ… แต่ยังไงยัยเด็กต้องสาปนั่นก็เป็นถึงลูกสาวของยัยนั่นล่ะนะ… แถมแกเองก็ยังไม่สำเร็จวิชาของท่านเทพมังกรด้วย ถ้างั้นก็เอาแบบนี้ก็แล้วกัน…”

 

ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านพูดพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะสะบัดไม้เท้าในมือไปทางหญิงสาวผู้มีเขาสีขาวจนทำให้ร่างกายของเธอส่องแสงสีเหลืองจางๆ แบบเดียวกับที่ปกคลุมร่างของเขาอยู่ขึ้นมา

 

“มันอาจจะทำให้เธอใช้วิซออกมาได้ไม่ถนัดอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ‘เดรค’ ”

 

“ค่ะ… ขอบคุณค่ะท่านผู้ใหญ่บ้าน”

 

คำพูดของผู้ใหญ่บ้านที่ดูเหมือนว่าจะเน้นย้ำที่ชื่อตำแหน่งของหญิงสาวมากเป็นพิเศษนั้นได้ทำให้สีหน้าของหญิงสาวดูดำทะมึนลงไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

ส่วนทางด้านรีซาน่าที่เห็นว่าในขณะนี้ร่างกายของคู่ต่อสู้ของเธอทั้งสองคนกำลังเรืองแสงสีเหลืองอ่อนๆ ออกมาอยู่ก็ได้เอ่ยปากพูดถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

 

“นั่นมันเกราะวิซหรืออะไรประมาณนั้นหรือเปล่าน่ะคะ?”

 

“ก็น่าจะใช่ล่ะมั้ง… เพราะเมื่อกี้นี้พอฉันยิงเข้าใส่ตาแก่นั่นกระสุนของฉันก็สลายไปเฉยๆ เลย”

 

“อื้ม…ถ้าเกิดว่าโมโกะจังยิงไม่เข้าแบบนั้นรีบตามไปช่วยคุณเบรนสันเขาดีกว่ามั้งคะนั่น… ส่วนตรงนี้เดี๋ยวปล่อยให้ฉันจัดการเองก็ได้ค่ะ ฉันจะได้ถือโอกาสนี้จัดการปัญหาเก่ากับคุณผู้ใหญ่บ้านเขาไปด้วยเลย”

 

รีซาน่าที่ได้ยินว่ากระสุนวิซของโมโกะที่มีดีที่ความต่อเนื่องสามารถถูกป้องกันได้อย่างง่ายๆ นั้นได้พูดเสนอแผนการที่เธอคิดว่าเหมาะสมออกมา ซึ่งคำพูดของรีซาน่านั้นก็ได้ทำให้โมโกะชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดเถียงกลับไป

 

“นี่เธอคิดจะรับมือกับสองคนนั้นด้วยตัวคนเดียวจริงๆ หรือไง…?”

 

“ก็โมโกะจังบาดเจ็บอยู่แบบนี้แถมฝั่งนั้นยังป้องกันกระสุนของโมโกะจังได้ง่ายๆ แบบนั้นจะให้ทำยังไงได้ล่ะคะ เอาเป็นว่าโมโกะจังรีบหนีไปก่อนเถอะค่ะเดี๋ยวที่นี่ฉันจัดการเอง!”

 

หลังจากที่รีซาน่าพูดออกมาจนจบแล้วเธอก็ควงขวานศึกในมือของเธอเล็กน้อยก่อนจะออกตัวพุ่งเข้าใส่ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านและหญิงสาวผู้มีตำแหน่งเดรคที่ยืนอยู่เบื้องหน้าในทันทีเพื่อปกป้องเพื่อนของเธอที่ต้องมาตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากตัวเธอเองที่เป็นคนดึงดันอยากจะกลับมายังสถานที่แห่งนี้

 

แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านโมโกะก็กลับยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่อสิ่งที่รีซาน่าพูดขึ้นมาก่อนจะพุ่งตัวออกไปมันได้ทำให้มีภาพและเสียงของเหตุการณ์ในอดีตของเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่มีคนพยายามจะปกป้องเธอจากอันตรายแบบนี้ได้ผุดกลับขึ้นมาข้างในหัวของเธอ

 

ลูกจะเข้ามาข้างในนี้ทำไม! มันอันตรายนะรู้มั้ย!! รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!!

โมโกะ!? พอเถอะลูก! รีบหนีไปก่อนเร็วเข้า!!

อาจารย์อลิซ… ผมฝากโมโกะด้วยนะครับ…

โมโกะ…พ่อรักลูกนะ…

 

“ม…ไม่…”

 

แกร๊ก—ปึ๊ก!

 

“โอ๊ย—!?”

 

ในขณะที่โมโกะกำลังยืนหอบหายใจอย่างหนักหน่วงกับภาพเหตุการณ์ที่ซ้อนทับกับเรื่องที่ผ่านมาอยู่นั้นเอง อยู่ๆ ปืนกลเบาที่ติดอยู่กับส่วนแขนกลของยูนิตเชสเชียร์ก็ได้ขยับอย่างกะทันหันและฟาดเข้าที่ศีรษะของเธออย่างจัง ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นเพราะว่าในขณะที่เธอกำลังจะสติหลุดไปนั้นเธอได้คิดที่จะเอามือทั้งสองข้างขึ้นมากุมหัวตัวเองเอาไว้แต่ว่ากลับเผลอทำให้วิซที่ไหลไปตามแขนกลทำหน้าที่นั้นแทนจนมันขยับมากระแทกที่หัวของเธอนั่นเอง

 

แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น มันก็กลับทำให้โมโกะได้สติและคิดได้ว่าในตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่อ่อนแอและไร้ซึ่งพลังแบบในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว และในขณะนี้เธอก็มีอาวุธที่สามารถควบคุมได้ดั่งใจนึกอยู่ถึงสองกระบอก มีทั้งยูนิตเชสเชียร์ที่อลิซให้ยืมมา และยาเผื่อในกรณีฉุกเฉินของมีอาที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันมีประโชน์อะไรกันแน่ อีกทั้งตัวเธอในตอนนี้ก็ยังมีพลังวิซเต็มเปี่ยมไม่เหมือนกับเมื่อตอนนั้นที่เธอต้องเผาผลาญพลังวิซไปกับการขับรถยนต์จนหมดสิ้นเรี่ยวแรงอีกด้วย

 

และเมื่อโมโกะคิดได้แบบนั้นเธอจึงไม่รอช้าที่จะหันปืนกลเบาทั้งสองกระบองตรงไปทางชายแก่และหญิงสาวผู้มีเขาสีขาวและลั่นปืนกลเบาทั้งสองกระบอกส่งห่าฝนกระสุนจำนวนมากเข้าใส่พวกเขาในทันที

 

ปังปังปังปังปัง!!

 

“โมโกะจัง!? ทำไมยังไม่รีบหนีไปอีกล่ะคะ!?”

 

“เงียบน่า!! ฉันจะไม่ยอมนั่งเฉยๆ โดยไม่ยอมทำอะไรอีกต่อไปแล้ว!! ไม่ว่าเธอจะเป็นเด็กต้องสาปหรือว่าจะเป็นศัตรูของหมู่บ้านจริงๆ หรือเปล่าก็เถอะ แต่ถ้าเกิดว่าเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันก็จะร่วมสู้ไปกับเธอด้วยเหมือนกัน!!”

 

“พ…เพื่อนงั้นหรอคะ…”

 

“ก็ใช่น่ะสิ!! ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร ไม่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ถ้าเกิดว่าร่างกายของฉันยังขยับได้อยู่ ฉันจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบเมื่อตอนนั้นขึ้นอีกครั้งแน่ๆ!!”