บทที่ 112 คุณจะปกป้องเธอไหม

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 112 คุณจะปกป้องเธอไหม

บทที่ 112 คุณจะปกป้องเธอไหม

ขณะที่รถแล่นไปตามท้องถนน เหอชิ่นยังคงพูดกับซูโย่วอี๋เกี่ยวกับข้อควรระวังของศิลปิน ซูโย่วอี๋ มองเธอเป็นครั้งคราวและหันไปทางอื่น

“คุณซู จากนี้ไปคุณควรระวังทุกสิ่งที่คุณพูดต่อหน้าสาธารณะ หากออกไปข้างนอกพยายามสวมหน้ากากอนามัยให้มากที่สุด และควรระวังตัวให้มากเผื่อจะมีปาปารัสซีหรือแฟนคลับแอบติดตาม”

ซูโย่วอี๋พยักหน้าเล็กน้อย

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอส่งข้อความวีแชตถึงซูหยินทันที เพื่อเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้

การถ่ายทำของซูหยินใกล้จะจบลงแล้ว และเธอค่อนข้างว่าง “เหอชิ่นเป็นผู้ช่วยของเธอเหรอ?”

ซูหยินคิดเกี่ยวกับเหอชิ่นอยู่ครู่หนึ่ง แต่ซูหยินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอมากนัก สิ่งเดียวที่ประทับใจคือเหอชิ่นเป็นคนซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน และไม่ค่อยพูด ก่อนที่ซูหยินจะพูดกับซูโย่วอี๋เกี่ยวกับเหอชิ่นว่า เธอเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีบทบาทในบริษัทมากนัก

เนื่องจากเทียนฉีให้สุ่ยเวยเป็นผู้จัดการซูโย่วอี๋จึงมีเหตุผลที่จะไม่จริงจังเกี่ยวกับการเลือกผู้ช่วยให้เธอมากนัก

“ถ้าเธอไม่ชอบ ฉันจะขอให้กู่อวี๋เฉิงเปลี่ยนผู้ช่วยให้ได้นะ”

แต่ซูโย่วอี๋รีบตอบ “ไม่ ๆ ฉันแค่จะบ่นให้เธอฟัง”

เดิมทีเธอไม่ใช่คนจู้จี้จุกจิก แม้ว่าเหอชิ่นจะดูค่อนข้างเย็นชากับเธอ แต่ซูโย่วอี๋ก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจอะไร

ในตอนเช้าซูโย่วอี๋ต้องเข้าไปพูดคุยกับเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ และในตอนบ่ายจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาในวันศุกร์ซึ่งถูกโพสต์บนเว็บไซต์ทางการของบริษัท

ในข่าวมีการเปิดเผยชื่อแขกรับเชิญ ลู่เฉิน ประธานของเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ เฉินเจวี๋ย รองประธานสำนักงานใหญ่ของ Dora และเหลยเช่า ผู้จัดการ Dora ในประเทศจีนจะเข้าร่วมด้วย

และข่าวของซูโย่วอี๋ที่จะเซ็นสัญญากับเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ก็ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็วในเวยป๋อ

[ว้าว ว้าว ว้าว ในที่สุดนางฟ้าของฉันก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเทียนฉี]

[ฉันหวังว่าเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์จะดูแลโย่วโย่วของเราอย่างดี หางานที่เหมาะสม และไม่ทำให้พรสวรรค์ของเธอเสียเปล่า]

[ฉันได้ยินมาว่าผู้จัดการของซูโย่วอี๋คือสุ่ยเวย?]

[ว้าว สุดยอดเลย! หลายปีแล้วนะที่สุ่ยเวยไม่ได้รับดูแลศิลปินใหม่]

[น้องส้มโอผู้กล้าหาญ]

[สนับสนุนทุกทางเลือกของโย่วโย่วเสมอ]

[เทพธิดาของฉัน เทพธิดาของฉัน เทพธิดาของฉัน]

ชั่วขณะหนึ่ง ชื่อของซูโย่วอี๋ก็ปรากฏไปทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต

ด้านเหอมี่มี่ที่เปิดดูข่าวบนโทรศัพท์มือถือเกี่ยวกับซูโย่วอี๋ ดาวรุ่งดวงใหม่ ก็ทำให้หัวใจของเธอก็ปวดร้าวด้วยความโกรธ

ใบหน้าที่สวยที่สุดแห่งยุค?

ความงามและบทเพลงอันไพเราะ?

เทียนฉีดันซูโย่วอี๋?

เหอมี่มี่เปิดคอมพิวเตอร์และดูโฟลเดอร์บนเดสก์ท็อปทันที เธอแอบค้นหาหลักฐานของเฉินเฉิน และซูโย่วอี๋ที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหลายปี และเธอก็พบมันตามที่คาดไว้

เฉินเฉินซ่อนโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของเขาไว้อย่างดีและวางไว้บนชั้นหนังสือในห้องทำงาน

กล่องเก็บของนั้นเปิดอยู่โดยที่ไม่มีฝาปิด แต่เหอมี่มี่พบว่า โทรศัพท์มือถือทั้งสามเครื่องที่อยู่ภายในนั้นยังดูใหม่

แสดงว่าเฉินเฉินเพิ่งใช้มัน

ถ้าไม่มีอะไรต้องปิดบัง ทำไมถึงไม่ทิ้งโทรศัพท์ที่เคยใช้ไปล่ะ?

เหอมี่มี่เปิดโทรศัพท์ของเฉินเฉินและปลดล็อกได้ง่าย ๆ โดยใช้วันเกิดของซูโย่วอี๋

ในบ่ายวันหนึ่ง เธอค้นหาทั้งในอัลบั้มรูปทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือ ทั้ง qq ทั้งข้อความวีแชต ทั้งบันทึกความจำ ทั้งบันทึกการซื้อใน Didi และ Meituan *[1]

เธอตรวจสอบทุกอย่างที่เธอนึกออก

เหมือนกำลังดูหนังเรื่องยาวเรื่องหนึ่ง

เหอมี่มี่ได้เห็นถึงเรื่องราวความรักระหว่างเฉินเฉินและซูโย่วอี๋ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงแต่งงาน

ใจเธอสั่นสะท้าน

ในบันทึกความจำเต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับความชอบของซูโย่วอี๋ แม้กระทั่งของซูหยิน

เฉินเฉินจดจำทุกวันหยุด วันเกิด วันวาเลนไทน์ วันครบรอบ และไม่เคยลังเลที่จะเตรียมของขวัญเพื่อเซอร์ไพรส์หญิงสาวล่วงหน้า

ผู้ชายคนนั้นทั้งเลือกสีของโมเดลและการตกแต่งกับพ่อค้าซ้ำแล้วซ้ำอีก

[หัวหน้า ส่งสินค้ามาเร็ว ๆ นะครับ ผมหวังว่าภรรยาของผมจะได้รับของขวัญในวันนั้น]

ความเอาใจใส่ของเฉินเฉินที่มีต่อซูโย่วอี๋นั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เหอมี่มี่ร้องไห้ด้วยความสับสน

เธอไม่อยากที่จะยอมรับว่าซูโย่วอี๋ในหัวใจของเฉินเฉินนั้นเหนือกว่าเธอเสมอ

เหอมี่มี่มองคนทั้งสองที่กอดกันในอัลบั้มรูปบนโทรศัพท์มือถือของเธอด้วยสายตาแค้นเคือง

เธอเลือกภาพถ่ายหลายภาพที่มีมุมซับซ้อน เช่น ภาพจูบ ภาพบนเตียง ภาพกอด และสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงแรม คาราโอเกะ และบาร์… ภาพทั้งสองที่มีท่าทางสนิทสนมกัน ซึ่งสามารถบอกได้ทันทีว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นลึกซึ้ง

จากนั้นเธอก็ส่งอีเมลถึงเจี่ยงต้าเว่ยบรรณาธิการบริหารของนิตยสารเฟิงหยุน

เฟิงหยุนแมกาซีนเป็นนิตยสารที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมแวดวงการบันเทิง ครั้งหนึ่งเหอมี่มี่เคยไปเที่ยวไนต์คลับ และเคยพูดคุยกับเจี่ยงต้าเว่ยเล็ก ๆ น้อย จึงสนิทกัน

ในไม่ช้าเจี่ยงต้าเว่ยก็โทรกลับมาและพูดว่า [มีjมี่ คุณช่วยเล่าข่าวใหญ่นีhให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ตอนนี้ชื่อเสียงซูโย่วอี๋โด่งดังมาก ข่าวนี้จะทำลายชื่อเสียงของเธออย่างแน่นอน]

น้ำเสียงของเหอมี่มี่เย็นชา [แค่เรื่องหย่าไม่พอเหรอ บรรณาธิการเจี่ยง คุณจะสร้างเรื่องราวขึ้นมายังไงก็ได้]

เจี่ยงต้าเว่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า [มันคงไม่ดีที่จะกุเรื่องขึ้นมา เธอจะสามารถฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทผมได้ ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ซูโย่วอี๋มีเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์หนุนหลัง มันไม่ใช่ที่จะไปหาเรื่องด้วยง่าย ๆ]

[บรรณาธิการเจี่ยง ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะไม่เขียนมันไหม ฉันจะส่งรูปนี้ให้คุณหรือคนอื่นก็ได้ แต่สิทธิ์ของคุณก็หายไปแล้ว ซูโย่วอี๋ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ พอมีข่าวนี้ออกมา ฉันก็ยังสงสัยอยู่ว่าเธอจะได้เซ็นมันหรือเปล่า แล้วบริษัทจะช่วยเธอไหมถ้าทนแรงกดดันไม่ได้]

สิ่งที่เหอมี่มี่ต้องการคือคนที่ไม่รู้จริงมาต่อว่าซูโย่วอี๋ และทำลายชื่อเสียงของเธอ

ด้านเจี่ยงต้าเว่ยลังเล [คุณต้องการให้ผมเขียนมันยังไง?]

[ชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวาย ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ ซูโย่วอี๋นอกใจและหย่าร้าง รูปถ่ายเหล่านั้นควรพิสูจน์สิ่งที่ฉันพูดสิ คุณทำข่าวบันเทิงไม่ใช่เหรอ?]

เจี่ยงต้าเว่ยไม่ต้องการเสียข่าวนี้ไป ดังนั้นเขาจึงตกลง

[ข่าวจะออกหนึ่งชั่วโมงก่อนการเซ็นสัญญาในวันศุกร์ ห้ามเร็วเกินกว่านี้] เหอมี่มี่เตือน

เธอต้องการดูว่าเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์จะปกป้องซูโย่วอี๋หรือเปล่า!

หลังจากวางสายแล้วเหอมี่มี่ก็เปิดเว็บไซต์ทางการของเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ และบันทึกชื่อนักข่าวและสำนักหนังสือพิมพ์ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันที่เซ็นสัญญา แน่นอนเธอจะไม่ใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว

แต่เพื่อป้องกันการรั่วไหล เธอไม่ได้ส่งรูปในทันที แต่วางแผนที่จะรอจนกว่าจะถึงวันแถลงข่าว!

เขตหัวซี

ซูโย่วอี๋ติดต่อจงลี่ทันที และบอกเขาว่าเธอจะไปเรียนที่ฮิลล์เบิร์ต

พอได้ยินอย่างนั้นจงลี่ก็ครุ่นคิด [ฉันคิดว่ามีการประกาศทางอินเทอร์เน็ตว่าคุณจะเซ็นสัญญากับเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ในวันศุกร์]

จากมุมมองของจงลี่ เขาต้องการให้ซูโย่วอี๋พัฒนาทักษะของเธอมากกว่าเข้าวงการบันเทิง

แต่ซูโย่วอี๋แสดงความตั้งใจของเธออย่างเต็มที่และกล่าวว่า [อาจารย์จง จดหมายรับรองจากฮิลล์เบิร์ตมีค่ามาก ถ้าคุณยินดีที่จะให้มันแก่ฉัน ฉันขอบคุณมาก แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าฉันไม่ได้ทำตามข้อกำหนดของคุณ คุณสามารถตัดสินใจได้เลยค่ะ]

[นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง] จงลี่ถอนหายใจ [ฉันจะเขียนจดหมายให้เสร็จทันที คุณรับมันและส่งไปยังที่นั่นด้วยตัวเองได้เลย]

จากนั้น ซูโย่วอี๋ก็ขึ้นแท็กซี่ไปยังห้างสรรพสินค้าและคาเฟ่ที่ได้นัดหมายกับจงลี่ไว้ เขาสวมสูทลำลองสีเข้มและนั่งบนที่นั่งส่วนตัว

แต่ในทางตรงกันข้าม หน้ากากกับหมวกและแว่นกันแดดของซูโย่วอี๋ ทำให้เธอดูน่าดึงดูดอย่างมาก

เธอรีบถอดหน้ากากออกทันทีเมื่อเดินเข้ามา ซึ่งเป็นการแสดงมารยาทและความเคารพเช่นกัน

[1] แอปพลิเคชันสั่งของออนไลน์ของจีน